สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม 2551

[สายน้ำ]

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า

สำหรับ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัด นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลาระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก ส่วนชาวเรือในอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายจากการเดินเรือไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า  อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 27-28 ธ.ค. 51 คลื่นกระแสลมตะวันตกที่ปกคลุมภาคเหนือจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียง เหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือมีฝนลดลง รวมทั้งอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออกจะมีฝนเล็กน้อย ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลัง ปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ คลื่นลมในอ่าวไทยบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองสูง 2-3 เมตร

สำหรับในช่วงวันที่ 29-30 ธ.ค. 2551 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้อากาศอุ่นขึ้น และมีหมอกในตอนเช้า ส่วนหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนเข้าตอนบนของ ประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังมีฝนกระจาย

ต่อจากนั้นในวันที่ 31 ธ.ค. 2551-2 ม.ค.52 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุม ประเทศไทยตอนบนอีกครั้งหนึ่ง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง กับมีลมแรง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 27-29 ธ.ค. 2551ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่ มีฝนตกและมีหมอกไว้ด้วย รวมทั้งขอให้ชาวเรือในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่สุราษฏร์ธานีลงไป และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองยังคงต้องระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงวันที่ 27-28 ธ.ค. 51 และ 1-2 ม.ค. 52

[สายน้ำ]

เดลินิวส์


 ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน จ.สุราษฎร์ธานี   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(27 ธ.ค.) ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินในเขตอำเภอเมือง ภายหลังเกิดฝนตกหนักยาวต่อเนื่องกว่า 8 ชั่วโมง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังฉับพลัน โดยมีระดับสูงถึง 30-70 เซนติเมตร สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือน ทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ถนนหลายสายไม่สามารถใช้รถสัญจรไปมาได้.


********************************************************************************************************************************


 โกลาหล เหตุดินไหวต่อเนื่อง 3 ครั้งซ้อนที่จีน   

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วันนี้ (27ธ.ค.) เกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นที่ประเทศจีนถึง 3 ครั้ง โดยครั้งแรกเกิดเมื่อเวลา 02.19 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 01.19 น.ตามเวลาในประเทศไทย ที่เขตหยีเหลียน ในเมืองคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนาน วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.3 ริคเตอร์ โดยไม่มีรายงานความเสียหาย

ครั้งต่อมา เกิดขึ้นที่เมืองหรุยลี่ ซึ่งอยู่ติดกับพรมแดนพม่าในมณฑลยูนาน เวลา 04.20 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 03.20 ตามเวลาในประเทศไทย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.9 ริคเตอร์ ความรุนแรงส่งผลให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ 19 ในจำนวนดังกล่าวบาดเจ็บสาหัส 3 ราย โดยทางการต้องอพยพประชาชนกว่า 10,000 คน และคาดว่าจะมีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 50,000 คน

นอกจากนี้ ยังมีอาคารที่ทำการของรัฐ โรงเรียนกว่า 30 แห่งและบ้านเรือนประชาชนกว่า 35,000 พันหลังได้สร้างความเสียหาย

สำหรับครั้งล่าสุด วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.0 ริคเตอร์ เกิดขึ้นที่มณฑลกุ้ยโจว โดยไม่มีรายงานความเสียหาย.

[สายน้ำ]

ผู้จัดการออนไลน์


ดูไบเนรมิตหาดทรายไร้ความร้อน รอต้อนรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าตุง


ภาพกราฟิกโรงแรมหรูที่จะใช้เทคโนโลยีเนรมิตหาดทรายไร้ความร้อนแก่นักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักโดยเฉพาะ 
 
        เดลิเมล์ – หาด ‘แช่เย็น’ แห่งแรกของโลกพร้อมอ้าแขนรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักที่ไม่อยากให้เท้าไหม้พองจากผืนทรายร้อนระอุของดูไบ
       
        หาดที่ว่าซึ่งอยู่ติดกับโรงแรมหรูของดูไบ ปาลาสโซ เวอร์เซส จะมีท่อดูดความร้อนที่ฝังอยู่ใต้ผืนทราย และพัดลมขนาดยักษ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวเย็นสบายแม้ในสภาพอุณหภูมิรอบตัวที่สูงถึง 40-50 องศาเซลเซียส
       
        โรงแรมปาลาสโซที่มีกำหนดเปิดให้บริการปลายปีหน้าหรืออย่างช้าต้นปี 2010 จะติดตั้งระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติที่เชื่อมโยงกับคอมพิวเตอร์ และทำให้น้ำในสระว่ายน้ำเย็นสบาย
       
        โครงการสุดหรูนี้จะเพิ่มเสน่ห์และสีสันให้แก่การท่องเที่ยวระดับไฮโซของดูไบ และทำให้อุตสาหกรรมนี้มีการแข่งขันดุเดือดยิ่งขึ้น โดยหนึ่งในคู่แข่งสำคัญของปาลาสโซคือโรงแรมระดับ 7 ดาวแห่งแรกของโลกคือ เบิร์จ อัล อาหรับ
       
        อย่างไรก็ตาม การขยายเมืองของดูไบทำให้ผู้อยู่อาศัยในเมืองนี้มีระดับการแพร่กระจายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 44 ตันต่อปี
       
        แผนการเหล่านี้จึงถูกวิจารณ์จากกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมว่า อาจส่งผลกระทบมหาศาลต่อภาวะการเปลี่ยนแปลงชั้นบรรยากาศโลก
       
        “ดูไบเหมือนโลกฟองสบู่ที่เพิกเฉยต่อปัญหาต่างๆ ที่ทั่วโลกกำลังกังวล เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้ชีวิตในรูปแบบที่ทำลายสิ่งแวดล้อมกันต่อไป” ราเชล โนเบิล จากทัวริสม์ คอนเซิร์น วิพากษ์
       
        กระนั้น ทางเวอร์เซสยืนยันว่าหาดของโรงแรมจะมีความยั่งยืนทางธรรมชาติ
       
        “เราจะดูดความร้อนออกจากทรายเพื่อให้ทรายเย็นพอสำหรับการนอนเล่น นี่เป็นความหรูหราที่คนมีระดับต้องการ” โซเฮล อะเบอเดียน ประธานปาลาสโซ เวอร์เซส อธิบาย
       
        ทั้งนี้ ไฮเดอร์ คอนซัลติ้งจากอังกฤษ เป็นผู้ควบคุมดูแลโปรเจ็กต์นี้ โดยคาดว่าโรงแรมหรู 10 ชั้นแห่งนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเมืองผู้ดีสู่ดูไบได้ปีละ 800,000 คน
       
        ปัจจุบัน ปาลาสโซ เวอร์เซสมีสาขาเพียงแห่งเดียวอยู่ที่โกลด์โคสต์ในออสเตรเลีย ต้อนรับลูกค้าระดับเศรษฐีและผู้มีชื่อเสียง และมีแผนเปิดโรงแรมเพิ่มอีก 15 แห่งในอนาคต

[สายน้ำ]

มติชน


วิวาห์ใต้สมุทร ตรังวาเลนไทน์นี้ แนวคิด“รักเรา รักษ์โลก”

หอการค้าจังหวัดตรัง ร่วมกับ จังหวัดตรัง เทศบาลนครตรัง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในจังหวัด จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว อีกทั้งร่วมสืบสานประเพณีการแต่งงานแบบไทย ภายใต้ชื่อ "พิธีวิวาห์ใต้สมุทร" ในแนวความคิด “Love & Harmony in Us All “ หรือ “รักเรา รักษ์โลก” โดยจัดขึ้นวันที่ 13-15 กุมภาพันธ์ 2552   ร่วมฉลองเทศกาลวันแห่งความรัก บริเวณชายหาดปากเมง อ. สิเกา จ.ตรัง

พิธีวิวาห์ใต้สมุทร จังหวัดตรัง  เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่คู่รักนักดำน้ำ และชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย  โดยเป็นกิจกรรมที่ได้สร้างตำนานความรักอันยิ่งใหญ่ของโลก ที่รวมเอาคู่รักหนุ่มสาวดำดิ่งลงไปสู่ใต้ทะเลลึก เพื่อประกอบพิธีจดทะเบียนสมรส โดยเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีในช่วงเทศกาลแห่งความรัก สำหรับปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 13 ของกิจกรรมนี้ เพื่อประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดตรังแล้ว ยังได้นำเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ 

จังหวัดตรังให้ความสำคัญเสมอมาเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดงานครั้งนี้ด้วย ภายใต้แนวความคิด“Love & Harmony in Us All “ หรือ “รักเรา รักษ์โลก”โดยคู่บ่าวสาว จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ธรรมชาติ ด้วยกิจกรรม การปล่อย “ถ้วยทะเล”เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์ทางนิเวศวิทยา สามารถเป็นแหล่งอนุบาลของสัตว์เล็กๆในทะเล เช่นกุ้ง และปะการัง  อีกทั้ง การร่วมกันปลูกต้นไม้แห่งความรัก

สำหรับหนุ่มสาวที่ความสนใจพิธีวิวาห์ใต้สมุทรในปีนี้ ร่วมสร้างตำนานรักใต้ทะเลในเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ถามรายละเอียด โทร. 02-8633288  ต่อ 191, 263

[สายชล]

คุณสายน้ำจ๋า....เราจะไปวิวาห์ใต้สมุทรกันอีกสักรอบดีไหมจ๊ะ....คิกๆ....