กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤศจิกายน 23, 2025, 01:29:52 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2552  (อ่าน 4231 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2009, 12:05:08 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ซึมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือของประเทศไทย ประกอบกับ มีลมตะวันออกเฉียงใต้นำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็น กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่และมีฝนตกเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีหมอกในตอนเช้า และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ส่วนลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคกลางและภาคตะวันออก รวมทั้งภาคใต้ ทำให้มีหมอกหนาเกิดขึ้นได้ในหลายพื้นที่ในระยะนี้และมีฝนบางพื้นที่ ในขณะที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้าต่อไปอีก ในช่วงวันที่ 8-10 ก.พ. 52 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมเข้ามาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ประกอบกับจะมีลมตะวันออกพัดปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศา และมีฝนเป็นแห่งๆ

อนึ่ง ในช่วงระหว่างวันที่ 12-14 ก.พ. คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ทำให้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นและอุณหภูมิลดลง


ข้อควรระวัง

ในระยะนี้ขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย



* Forecast2.jpg (37.31 KB, 684x423 - ดู 604 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2009, 12:14:14 AM »

เดลินิวส์


พ่อเมืองสตูลหนุนเที่ยว 'เกาะไข่'
 
   
 
 จัดวิวาห์วันวาเลนไทน์ 25 คู่ สัมผัสสวรรค์แห่งอันดามัน

"ตะรุเตา” เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลลำดับที่สองของประเทศไทย ประกาศเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2517 และได้รับการยกย่องจากองค์การ UNESCO ในปี พ.ศ. 2525 ให้เป็น “มรดกแห่งอาเซียน” อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ตั้งอยู่ในฝั่งทะเลอันดามันใต้สุดของประเทศไทย เขตท้องที่ปกครองหมู่ 7 ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล มีเนื้อที่ 1,490 ตารางกิโลเมตร (931,250 ไร่) ประมาณร้อยละ 85% เป็นพื้นน้ำ มีเกาะใหญ่น้อยจำนวน 51 เกาะ แบ่งเป็นสองหมู่เกาะใหญ่ ๆ คือ หมู่เกาะตะรุเตาและหมู่เกาะอาดังราวี นอกจากนี้ยังมีเกาะที่สวยงาม เช่น เกาะหินงาม เกาะยาง เกาะหลีเป๊ะและเกาะไข่
 
“เกาะไข่” เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ระหว่างเกาะตะรุเตาและเกาะอาดัง ระยะทางจากท่าเรือปากบารา อำเภอละงู จังหวัดสตูล ไปถึงเกาะไข่ประมาณ 45 กิโลเมตร เกาะไข่มีจุดโดดเด่น เป็นซุ้มประตูหินโค้งธรรมชาติทอดตัวยาวลงกลางทะเลบนผิวน้ำธรรมชาติที่บริสุทธิ์เห็นหาดทรายขาวท้องทะเลสีคราม ผืนฟ้าสดใสในยามค่ำคืน เห็นดาวระยิบระยับราวกับไฟประดับงานเฉลิมฉลอง แล้วยังมีป่าปะการังหลากสีอยู่ใต้ผิวน้ำที่ใสมาก ๆ ในบางพื้นที่มีความลึกประมาณ 15 เมตร ใต้ท้องทะเลจนสามารถมองเห็นภาพชีวิตของกุ้ง หอย ปู ปลา ราวกับว่ามองผ่านตู้กระจกใสเปรียบเสมือนอ่างเลี้ยงปลาขนาดใหญ่จากธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่วางไข่ริมหาดทรายของเต่าทะเล จนกลายเป็นสัญลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดสตูลอีกด้วย
 
นายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จังหวัดสตูลมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพทั้งทางบกและทางทะเล สตูลเป็นจังหวัดที่โชคดีประชาชนทุกคนมีความสุข ที่ผ่านมาไม่เคยมีภัยธรรมชาติที่รุนแรงเป็นเหตุทำให้ต้องเสียชีวิตและทรัพย์สิน และเป็นจังหวัดที่มีนักธุรกิจต่างถิ่นให้ความสนใจร่วมลงทุนด้านการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นจังหวัดที่หลบภัยธรรมชาติได้ดีกว่าจังหวัดอื่น ๆ สตูลยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางบกที่มีชื่อเสียงอยู่ในขณะนี้ก็คือ ถ้ำภูผาเพชร น้ำตกวังสายทอง ล่องแก่งเส้นทางสายน้ำถ้ำเจ็ดคตด้วยเรือคยัคแคนู ที่อำเภอมะนัง และอุทยานแห่งชาติทะเลบัน ที่อำเภอควนโดน ส่วนการท่องเที่ยวทางทะเลเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คณะของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศของ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญและสวยงามหลายแห่งโดยเฉพาะ เกาะอาดัง เกาะหินงาม เกาะหลีเป๊ะและเกาะไข่ ณ เกาะไข่แห่งนี้ ซึ่งเป็นสถานที่มีเรื่องราวอันเป็นมงคลในครั้งอดีตและในครั้งนี้ ได้ถูกกำหนดให้มีการ จัดงานวันวิวาห์คู่สมรสที่มีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้าร่วมคู่วิวาห์หมู่ ทั้งหมด 25 คู่ในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 2552 โดยจะมีการนำคู่วิวาห์ลอดซุ้มประตูหินโค้งธรรมชาติพร้อมกับจดทะเบียนสมรสบนเกาะไข่ ซึ่งทางจังหวัดได้จัดเตรียมความพร้อมในการจัดงานครั้งนี้เป็นที่เรียบร้อยเพื่อไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าร่วมกิจกรรมวันแห่งความรักและเพื่อเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยว จึงได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ เลี้ยงฉลองและได้พักฟรีกับโรงแรมหรูบนเกาะหลีเป๊ะ เป็นเวลา 1 คืนให้กับคู่สมรสในวันวิวาห์ 14 กุมภาพันธ์ “วันวาเลนไทน์”


 
นายสยุมพร กล่าวอีกว่า เหตุที่ใช้เกาะไข่สร้างจุดขายพลิกฟื้นภาพการท่องเที่ยวทางทะเลของหมู่เกาะตะรุเตาให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้รู้จักมากขึ้น จึงได้กำหนดในวันแห่งความรัก เนื่องจากเกาะไข่เป็นเกาะที่สวยงาม มีหาดทรายขาวนวลละเอียด น้ำทะเลสีเขียวใสมองเห็นผืนทรายใต้น้ำ ปลายเกาะด้านหนึ่งมีซุ้มประตูหินโค้งเป็นประติมากรรมธรรมชาติ เสมือนสะพานโค้งทอดยื่นลงไปในทะเล และเป็นแหล่งวางไข่ของเต่าทะเลอีกด้วย ในอดีตชาวประมงใช้เป็นสถานที่พักหลบภัยยามมีมรสุมจึงทำให้เกิดความเชื่อต่างๆ นานา จนกลายเป็นตำนานเล่าขานจนถึงปัจจุบัน คือ
 
ความเชื่อที่ว่า ผู้ใดก็ตามที่ได้มาเยือนเกาะไข่และได้ลอดซุ้มประตูหินโค้งแล้วจะต้องกลับมาเยือนเกาะไข่อีกครั้ง เสมือนเต่าทะเลทุกตัวที่ขึ้นมาวางไข่บนเกาะแล้วในปีต่อมาก็จะกลับมาวางไข่ยังสถานที่เดิมอีก ความเชื่อที่ว่า คู่รักหรือคู่สมรสที่เดินทางไปลอดซุ้มประตูหินโค้ง จะอยู่ครองรักกันอย่างมีความสุข มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง เหมือนเต่าทะเลที่ฝ่าฟันอุปสรรค มรสุมว่ายน้ำมายังเกาะดังกล่าวและวางไข่ครั้งละมาก ๆ ความเชื่อที่ว่า ผู้ใดที่ไปเกาะไข่ จะมีความปลอดภัยมั่นคงและสุขสบาย เพราะเกาะไข่เป็นที่หลบภัยธรรมชาติจากมรสุมและพายุ นอกจากนี้ยังมีการจารึกข้อความตำนานเล่าขานของเกาะไข่ไว้ที่ซุ้มประตูหินธรรมชาติเพื่อเป็นสัญลักษณ์ “ซุ้มรักนิรันดร์”     “ประตูหินโค้ง...ตะรุเตา...สตูล จุดเพิ่มพูนตำนานรักหนุ่มสาว” “แดนประเดิมเสริมรักให้ยืนยาว สองเราก้าวสู่ประตูซุ้มรักนิรันดร์”
 
สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมดังกล่าวเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสตูล ถือว่าเป็นการจัดกิจกรรมพิเศษเนื่องในโอกาสที่ พ.ศ. 2552 นี้ ปีแห่งการครบรอบ 170 ปี ของเมืองสตูล จึงขอเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวที่สนใจด้านท่องเที่ยวเกาะ เลาะทะเล ได้ลองสัมผัสท้องทะเลอันดามันทางฝั่งของจังหวัดสตูล.

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2009, 12:31:29 AM »

ผู้จัดการออนไลน์


ภูเก็ตเตรียมลุยเก็บปลาดาวหนาม 3 เกาะ 14 ก.พ.นี้เปิดรับอาสาสมัครร่วมเก็บ
 


  ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตจัดเก็บขยะ-ปลาดาวมงกุฎหนาม บริเวณเขตรักษาพืชพันธ์ เกาะเฮ เกาะแอว เกาะไม้ท่อน เปิดรับอาสาสมัครเข้าร่วมดำเนินการ 14 ก.พ.นี้ คาดจัดเก็บปลาดาวมงกุฏหนามได้ไม่น้อยกว่า 400 ตัว
       
       นายไพทูล แพนชัยภูมิ ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 กล่าวถึงการจัดโครงการ “จัดเก็บขยะ-ปลาดาวมงกุฎหนาม บริเวณเขตรักษาพืชพันธุ์ บริเวณเกาะเฮ เกาะแอว เกาะไม้ท่อน อ.เมือง จ.ภูเก็ต” ว่า หลังจากมีการสำรวจพบว่าบริเวณ เกาะเฮ เกาะแอวและเกาะไม้ท่อน อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีการระบาดของปลาดาวมงกุฎหนาม รวมทั้งจำนวนขยะใต้ทะเลบริเวณดังกล่าวมีจำนวนมาก ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
       
       โดยศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 (จ.ภูเก็ต) สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล แลป่าชายเลน อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรปะการัง ชมรมนักดำน้ำกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กองเรือภาคที่ 3 กองกำกับการตำรวจน้ำภูเก็ตและเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต
       
       จึงได้ร่วมกันจัดโครงการจัดเก็บขยะ-ปลาดาวมงกุฎหนาม บริเวณเขตรักษาพืชพันธ์ขึ้น เพื่อรณรงค์รักษาความสะอาดใต้ท้องทะเลและร่วมกันเก็บขยะที่ปกคลุมบนแนวปะการังใต้ทะเล ซึ่งจะทำให้ปะการังมีโอกาสฟื้นตัวและทำให้ทัศนียภาพใต้ทะเล และบริเวณชายหาดมีความสวยงามเป็นที่ประทับใจแก่นักท่องเที่ยว ช่วยสร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วม ของประชาชนในพื้นที่ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่งให้มากขึ้น รวมทั้งลดจำนวนปลาดาวมงกุฎหนามที่กำลังระบาด และขยะบริเวณแนวปะการังให้น้อยลง
       
       สำหรับโครงการดังกล่าวนั้นจะจัดขึ้นในวันที่ 14 ก.พ.2552 ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรับสมัครอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการโดยรับไม่จำกัดจำนวน และคาดว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะมีอาสาสมัครเข้าร่วมดำน้ำเก็บขยะและปลาดาวมงกุฎหนามไม่น้อยกว่า 100 คน จัดเก็บปลาดาวมงกุฎหนามได้ไม่น้อยกว่า 300-400 ตัว ส่วนจำนวนขยะคาดว่าจะสามารถจัดเก็บได้จำนวนมากเช่นกัน ในพื้นที่ 3 เกาะ คือ เกาะแอว เกาะเฮ และเกาะไม้ท่อน ผู้สนใจจะสมัครเข้าร่วมโครงการติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 หมายเลขโทรศัพท์ 0-7639-3566-7
       
       นายไพทูล กล่าวต่อว่า พื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันมีทรัพยากรแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย วางไข่ และเลี้ยงตัวของสัตว์น้ำวัยอ่อน ของสัตว์น้ำและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่สำคัญทางด้านเศรษฐกิจ เป็นแหล่งประกอบอาชีพประมง นอกจากนี้แนวปะการังยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทำให้เกิดการสร้างงานและทำรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น และประเทศเป็นเงินหลายหมื่นล้านบาท
       
       แต่สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อแนวปะการังอย่างหนึ่งคือ การทิ้งขยะของเสียลงทะเลและบริเวณชายฝั่ง ทั้งจากชุมชน บ้านเรือน จากเรือท่องเที่ยว นักท่องเที่ยว และจากการทำการประมง ขยะเหล่านี้ได้แก่ เศษพลาสติก เศษแก้ว โฟม เศษวัสดุก่อสร้าง เศษอวน เศษเครื่องมือประมง เชือก เอ็นตกปลา ฯลฯ รวมถึงขยะที่อยู่ตามชายฝั่ง เมื่อถูกลมพัดลงสู่ทะเลจะปกคลุมทับถมบนแนวปะการัง ทำให้ปะการังแตกหัก หรือทำให้ปะการังตายในที่สุด และส่งผลต่อทัศนียภาพใต้ท้องทะเล ขาดความสวยงาม ขยะต่างๆ เหล่านี้นับวันจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ถ้าหากไม่มีการบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง ก็จะส่งผลกระทบต่อแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล และกิจกรรมทางด้านการท่องเที่ยว


***************************************************************************************************************************


ภูเก็ตปล่อยปลา 40 ล้านตัวร่วมใจทำความดีเพื่อพ่อของแผ่นดิน
 

 
  ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สมาคมอาสาพัฒนาชุมชนจังหวัดภูเก็ตปล่อยปลา 40 ล้านตัว ตามโครงการรวมใจอาสาพัฒนาชุมชน ครบรอบ 40 ปี “ทำความดีเพื่อพ่อของแผ่นดิน” เพื่อแสดงพลังในการขับเคลื่อนกิจกรรมพัฒนาชุมชน และบำเพ็ญประโยชน์ให้ปรากฏแก่สาธารณชน
       
       วันนี้ (5 ก.พ.) เวลา 16.00 น.ที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายพิสันติ์ ประทานชวโน รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธาน เปิดโครงการรวมใจอาสาพัฒนาชุมชน ครบรอบ 40 ปี “ทำความดีเพื่อพ่อของแผ่นดิน” โดยสมาคมอาสาพัฒนาชุมชนจังหวัดภูเก็ต จัดขึ้น พร้อมร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ 40 ล้านตัว ลงสู่ทะเลที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวนงานจำนวนมาก
       
       นายพิสันติ์ ประทานชวโน รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวถึงการจัดงานครั้งนี้ ว่า เพื่อให้อาสาสมัครพัฒนาชุมชนได้แสดงพลังในการขับเคลื่อนกิจกรรมพัฒนาชุมชน และร่วมกันทำความดี ถวายเป็นราชสักการะ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
       
       “อาสาพัฒนาชุมชนและผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาหมู่บ้าน ตำบล และเป็นกลไกลสำคัญในการผลักดันให้คนในชุมชนสามารถแก้ปัญหาของตนเองภายใต้ภารกิจ 8 ประการ คือ การขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การจัดทำแผนชุมชน การจัดเก็บข้อมูล จปฐ.การจัดการศูนย์เรียนรู้ชุมชน การป้องกันและการแก้ไขปัญหายาเสพติด การส่งเสริมวิถีประชาธิปไตย การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาเด็ก และเนื่องจากปีนี้ครบรอบ 40 ปี โครงการอาสาพัฒนาชุมชน สมาคมอาสาพัฒนาชุมชนจึงได้จัดทำโครงการรวมใจอาสาพัฒนาชุมชน ครบรอบ 40 ปี “ทำความดีเพื่อพ่อของแผ่นดิน” ขึ้น
       
       สำหรับผลที่คาดว่า จะได้รับ นายพิสันติ์ กล่าวว่า อาสาพัฒนาชุมชนและองค์กรเครือข่ายได้ทำความดีถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งสามารถแสดงพลังและบำเพ็ญประโยชน์ให้ปรากฏแก่สาธารณชน และมีทรัพยากรทางทะเลเพิ่มขึ้น


**************************************************************************************************************************


ฮีโร่นักบินโผล่อีก!หนนี้นำเครื่องลงจอดในทะเล-ผู้โดยสารรอดหมด



ซีเอ็นเอ็น - เผยนักบินชาวออสเตรเลีย สามารถนำเครื่องบินบริษัทลงจอดอย่างปลอดภัยในทะเลใกล้ชายฝั่งเมืองดาร์วินในวันศุกร์(6) ปฏิบัติการลงจอดในน้ำเหมือนกับเหตุการณ์เครื่องบินยูเอสแอร์เวย์ส ที่ต้องลงจอดในแม่น้ำในนิวยอร์กเมื่อเดือนที่ผ่านมา
       
       นักบินชาวออสเตรเลียประสบปัญหาขัดข้องไม่นานหลังจากขึ้นบินเช่นเดียวกับกรณีที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินยูเอสแอร์เวย์ส โดยเครื่องบินใบพัดคู่ซึ่งบรรทุกนักบินและผู้โดยสารอีก 5 คน ต้องลงจอดฉุกเฉินไม่กี่อึดใจหลังออกจากสนามบินนานาชาติดาร์วิน เนวิลล์ บลิตช์ เจ้าหน้าที่อาวุโสหน่วยสืบสวนด้านความปลอดภัยการขนส่งจากสำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งออสเตรเลีย(เอทีเอสบี)ระบุ
       
       ทุกคนที่อยู่บนเครื่องบินขนาดเล็กรุ่นไพเพอร์ ชิฟเทน ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและแบกสัมภาระเดินขึ้นสู่ชายฝั่งได้เอง "โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ" บลิตช์บอก พร้อมระบุว่าเอทีเอสบีกำลังสืบสวนเรื่องนี้ แต่เวลานี้ยังไม่ทราบถึงสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าว
       
       สตีฟ บอลเล นักบินค้นหาพื้นที่ใกล้ชายหาดในการลงจอดฉุกเฉิน เหตุการณ์ที่ย้อนให้คิดถึงการลงจอดในแม่น้ำฮัดตันของเครื่องบินแอร์บัสเอ 320 เมื่อเดือนที่ผ่านมา
       
       เครื่องบินจอดสงบนิ่งตรงสันดอนทรายสูงจากระดับน้ำทะเลต่ำสุดราว 2 ฟุต ผู้โดยสารทั้ง 6 คนต้องเดินลุยน้ำระยะทางราว 200 เมตรเพื่อไปยังชายหาด
       
       เจ้าของเครื่องบินลำดังกล่าวคือบริษัทคอมพิวเตอร์ซีเอสจี "เราขอแสดงความยินดีต่อนักบินต่อเหตุการณ์ลงจอดฉุกเฉินและอพยพผู้โดยสาร เขามีความเป็นมืออาชีพอย่างมากสำหรับจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น" แถลงการณ์ของซีเอสจีระบุ
       
       ดาร์วิน เป็นเมืองที่อยู่เหนือสุดของออสเตรเลีย ตั้งประชิดกับทะเลติมอร์และสนามบินของเมืองอยู่ติดทะเล
       
       เส้นโคจรของเครื่องบินอยู่เหนือทะเล ทำให้นักบินมีโอกาสอันจำกัดในการนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินบนพื้นดิน บลิตช์ระบุ พร้อมบอกว่าทะเลคือทางเลือกคือทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าชายหาดสำหรับลงจอด เนื่องจากไม่สามารถทราบได้ว่าทรายมีความมั่นคงแค่ไหน
       
       สื่อมวลชนออสเตรเลียให้ฉายานักบินว่า "ซัลลี ไลท์" เปรียบเทียบเขากับนักบินที่นำเครื่องบินแอร์บัสลงจอดอย่างปลอดภัยในแม่น้ำฮัดสัน โดยนักบิน เชสลีย์ "ซัลลี" ซัลเลนเบอร์เกอร์ ถูกยกย่องว่าเป็น "ฮีโร่" สำหรับการลงจอดอย่างปลอดภัยและตรวจตราให้แน่ใจว่าผู้โดยสารทั้งหมด 115 คนรอดชีวิต

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2009, 12:41:35 AM »

ข่าวสด


รู้จักพื้นที่ชุ่มน้ำโลก ณ ทุ่งสามร้อยยอด


 
2 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก กำเนิดขึ้นภายหลังนานาชาติร่วมยกร่างและลงนามในการรับรอง "อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศโดยเฉพาะเป็นแหล่งที่อยู่ของนกน้ำ"ณ เมืองแรมซาร์ ประเทศอิหร่าน เป็นรู้จักในนามอนุสัญญาแรมซาร์ เมื่อ 2 ก.พ. 2514

ไทย เป็นหนึ่งในภาคี โดยประกาศพื้นที่แรมซาร์ในประเทศหลายแห่ง แต่ที่มีผลชัดเจนในการอนุรักษ์และได้ผลดีอย่างยิ่งคือ พื้นที่ชุ่มน้ำที่เขาสามร้อยยอด

พื้นที่ชุ่มน้ำเขาสามร้อยยอด มีเนื้อที่ประมาณ 43,074 ไร่ หรือ 68.92 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อ.สามร้อยยอด และ อ.กุยบุรี จ.ประจวบ คีรีขันธ์ เป็นระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศไทย และรับการประกาศให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติอนุสัญญาแรมซาร์ เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2551

ถือเป็นลำดับที่ 1,734 ของโลก แห่งที่ 11 ของประเทศไทย
 


พื้นที่ชุ่มน้ำสามร้อยยอด เป็นพื้นที่ราบลุ่มเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีน้ำขังหรือท่วมถึงอยู่อย่างถาวร ทั้งส่วนที่เป็นน้ำจืดและน้ำกร่อย เป็นแหล่งที่มีองค์ประกอบทางชีวภาพ กายภาพ มีความหลากหลายของชนิดพืช สัตว์และธาตุอาหาร เป็นแหล่งอาศัยของพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และเป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภค เป็นแหล่งท่องเที่ยวนันทนาการ และเป็นแหล่งเรียนรู้ รวมทั้งการประกอบอาชีพการประมงที่สำคัญของชุมชนท้องถิ่น

พื้นที่แห่งนี้เปรียบเสมือนคลังอาหารของโลก หรือห้องปฏิบัติการกลางแจ้ง พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ และโรงงานห่วงโซ่อาหารขนาดใหญ่ ที่ได้มาฟรีจากธรรมชาติ

นายสมศักดิ์ มาคล้าย อบต.ไร่เก่า หมู่ที่ 5 แกนนำชาวบ้าน เปิดเผยว่า กระแสแรมซาร์ ทำให้ชาวบ้านที่นี่มีรายได้ จากการพานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ล่องเรือชมธรรมชาติเชิงนิเวศ โดยเก็บค่าบริการเพียงท่านละ 100 บาท เท่านั้น

ด้านนายชาตรี ประชา อายุ 39 ปี อาชีพชาวประมงน้ำจืด กล่าวว่า พื้นที่ทุ่งสามร้อยยอดแห่งนี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นแหล่งเลี้ยงครอบครัวของชาวบ้าน นอกจากจะมีอาชีพหาปลาแล้ว ยังใช้เวลาว่างถอนสายบัวไปขาย เก็บฝักบัวไปขาย หรือพานักท่องเที่ยวไปดูบัวหลวงที่สวยงาม

นายชลอ เจิมวงศ์รัตนชัย กำนันตำบลไร่เก่า อ.สามร้อยยอด เปิดเผยว่า พื้นที่ทุ่งสามร้อยยอด คาบเกี่ยวกับ 3 อำเภอ คือ ปราณบุรี กุยบุรี และ สามร้อยยอด ชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ในอดีตชาวบ้านมีการคัดค้านการประกาศเป็นแรมซาร์ไซต์ จึงร่วมกันแบ่งเขตพื้นที่ให้ชัดเจน ต่อมามีการประกาศเป็นแรมซาร์ไซต์ ทำให้ขณะนี้ชาวบ้านได้รับประโยชน์มาก เช่น สภาพของน้ำที่เคยตื้นเขิน มีการยกระดับน้ำให้สูงขึ้น ทำให้ชาวบ้านจับสัตว์น้ำได้ตลอดปี

นอกจากนี้ พันธุ์พืชที่สูญหายไป ฟื้นคืนกลับมา สัตว์หรือนกธรรมชาติ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทั้งนกอพยพมาจากต่างประเทศและนกในประเทศ จนปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ

สำหรับการจัดงานวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก เมื่อวันที่ 2 ก.พ. นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดงาน โดยมีส่วนราชการ องค์กรภาคเอกชน ประชาชน และนักเรียนนักศึกษาเข้าร่วม

พื้นที่ชุ่มน้ำเขาสามร้อยยอดในวันนี้ ชาวบ้านมีความตระหนักและมีจิตสำนึกร่วมกันในการดูแลรักษาพื้นที่ชุ่มน้ำเป็นอย่างดี มีการใช้ทรัพยากรอย่างชาญฉลาดให้ใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว เพื่อการอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกทางธรรมชาติ ให้ประชาชน และอนุชนรุ่นหลัง ใช้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างยั่งยืนตลอดกาล

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2009, 12:50:12 AM »

ไทยโพสต์


คลายร้อนกับมูลนิธิสืบ

หน้าร้อนปีนี้ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ขอพาสมาชิกไปคลายร้อนรับลมทะเล ดำน้ำดูปะการัง และเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศป่าชายเลน ที่ซึ่งเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำนานาพันธุ์

กิจกรรม "เลียบเลาะ หมู่เกาะใกล้ฝั่ง  ดำน้ำดูปะการังที่ทะเลชุมพร" ระหว่างวันที่ 5-8 มี.ค.2552 ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและวิจัยอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร  จ.ชุมพร  สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียร 693 อาคาร 4 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยศเส ถนนบำรุงเมือง แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100 โทรศัพท์ / โทรสาร 0-2224-7838-9 หรือ www.seub.or.th หรือกนกนุช (ตอง) : 08-9881-0198, สุภาวดี (ฟ้า) : 08-5062-2704

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2009, 12:53:03 AM »

แนวหน้า


รองผู้ว่าฯตราดเต้น! ข่าวล่าโลมาเอาเนื้อขาย จี้ประมงฯร่วมสอดส่อง    
 
 ตราด:นายประทีป จงสืบธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ภายหลังจากมีการนำเสนอข่าวการล่าโลมาเพื่อนำเนื้อโลมาไปขายใน จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา พร้อมจับนักล่าโลมาได้จำนวน 5 คนนั้น ทางจังหวัดได้สั่งการให้นายอำเภอคลองใหญ่ นายอำเภอแหลมงอบตรวจสอบข่าวในเรื่องนี้โดยเฉพาะการบริโภคเนื้อปลาโลมาทั้งในตลาดคลองใหญ่ที่ติดอยู่กับ จ.เกาะกง ว่ามีการขายจริงหรือไม่ ซึ่งพบว่าไม่มีเนื้อโลมาขายในตลาดทั้ง 2 แห่ง ขณะพรานล่าโลมาที่ถูกจับก็ไม่ทราบว่าถูกจับเมื่อใดและถูกดำเนินคดีในสถานีตำรวจที่ไหน ซึ่งการล่าโลมาเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย

 ทั้งนี้ข่าวการล่าโลมาทุกฝ่ายจะต้องเข้ามาดูแลและเข้มงวดในเรื่องนี้ โดยเฉพาะกลุ่มประมงขนาดใหญ่ที่เข้ามารบกวน และขอใช้กลุ่มประมงชายฝั่งเข้ามาร่วมดูแลด้วย

 ด้านนายประดิษฐ์ คุ้มชนม์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)แหลมกลัด เปิดเผยว่า การล่าโลมาในทะเลตราดมีข่าวออกมานาน แล้ว แต่ อบต.แหลมกลัดไม่เคยเห็นมาก่อน ส่วนเรื่องการบริโภคเนื้อโลมานั้น ชาวประมง จ.ตราด ไม่บริโภคอยู่แล้ว และก็ร่วมกันอนุรักษ์ด้วย แต่ใน จ.ตราด มีบ่อเลี้ยงโลมาที่ใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวชมการแสดง แต่ก็ไม่เคยเห็นการบริโภค ส่วนจะเอาโลมาเป็นๆ ไปขายก็อาจจะเป็นไปได้ ส่วนการบริโภคเนื้อโลมาคงจะมีน้อยหรือไม่มีก็ได้ 

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2009, 01:04:30 AM »

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์


กปน. แจ้งน้ำประปาไหลอ่อนถึงไม่ไหลในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของ กทม.



 การประปานครหลวง (กปน.) จะทำการซ่อมท่อประปาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1000 มิลลิเมตร บริเวณถนนมอเตอร์เวย์ ฝั่งขาเข้าเมือง โดยจะดำเนินการในคืนอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 ตั้งแต่เวลา 22.00 น. - 05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ในระหว่างดำเนินการส่งผลให้น้ำประปาไหลอ่อนถึงไม่ไหลในพื้นที่ดังต่อไปนี้ คือ

ในทางคู่ขนานวงแหวนตะวันออก หมู่บ้านนันทวัน - อ่อนนุช, หมู่บ้านมัณฑนา - รามคำแหง, หมู่บ้านมัณฑนา - วงแหวนพระราม 9, หมู่บ้านกฤษณา, ซอยเฉลิมพระเกียรติ 25

ในทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์ โรงเรียนสุเหร่าทับช้าง ชุมชนริมคลองทับช้างบน หมู่บ้านนักกีฬา ถนนกรุงเทพกรีฑ ถนนอ่อนนุช - ลาดกระบัง บริเวณแยกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ถึงถนนสุขาภิบาล 2

จึงขอให้ประชาชนสำรองน้ำประปาไว้ใช้ล่วงหน้าในช่วงวันและเวลาดังกล่าว หากประสบข้อข้ดข้อง กรุณาแจ้ง "ศูนย์บริการประชาชน" โทร. 1125 ตลอด 24 ชั่วโมง

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.023 วินาที กับ 20 คำสั่ง