สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม 2552

[แมลงปอ]

กรมอุตุนิยมวิทยา

สภาพอากาศประเทศไทย  
 
บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีอุณหภูมิลดลงอีก 1-2 องศา ส่วนภาคใต้มีฝนกระจาย และคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค.นี้ไว้ด้วย สำหรับภาคเหนือ และภาคกลางยังคงมีหมอกหนาเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ขอให้ ผู้ขับขี่ยานพาหนะระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย 

คาดหมาย
     ในช่วงวันที่ 25-26 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน และ ทะเล จีนใต้ ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ภาคตะวันออกมีอุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศา ส่วนภาคใต้มีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้น และคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป มีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศา โดยจะมีหมอกเพิ่มมากขึ้น ส่วนปริมาณฝนในภาคใต้จะลดลง และคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง
     
ข้อควรระวัง
     ในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. ขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย สำหรับในช่วงวันที่ 25-26 ม.ค. ขอให้ชาวเรือในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไประมัดระวังอันตรายจากการเดินเรือ 
 
 

[แมลงปอ]

ข่าวสด

พิษหมอก-เรือชนกลางเจ้าพระยา

ร.ต.ท.จรัญ แสงสงวน พนักงานสอบสวน(สบ1)สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุเรือบรรทุกสินค้าชนกันบริเวณกลางลำน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก ต.บางน้ำผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ไปตรวจสอบพบเรือบรรทุกสินค้าต่างประเทศชื่อโกลเด้น ซีเวย์ (GOLDEN SEAWAY) ไม่ทราบสัญชาติ และเรือบรรทุกสินค้าชื่อ คูหลุง (KUO LUNG) สัญชาติปานามา พุ่งชนกันระหว่างแล่นสวนทางกันตามร่องน้ำกลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหลักกิโลเมตร 027 (มาตรวัดระยะทางการเดินเรือ) ใกล้เคียงกับท่าน้ำของวัดบางน้ำผึ้งนอก ต.บางน้ำผึ้ง อ.พระประแดง จนเรือทั้งสองลำได้รับความเสียหายไปบางส่วน จากนั้นเรือคูหลุงแล่นพุ่งเข้าไปชนกับเรือโป๊ะเหล็กที่บรรทุกแร่ชื่อเรือพรปิยะ 15 ที่แล่นผ่านมา จนจมลงในแม่น้ำเจ้าพระยา

นอกจากนี้ ยังมีเรือพรหฤทัยเจริญทรัพย์ ซึ่งเป็นเรือหัวลากที่วิ่งแล่นมาในช่วงเกิดเหตุถูกชน ได้รับความเสียหายจนตัวเรือขาดจากกันเป็น 2 ท่อน จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า มีผู้ที่โดยสารมากับเรือหัวลากได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน คือ น.ส.ชนิ สระแก้ว อายุ 18 ปี ส่วนอีกรายยังไม่ทราบชื่อ โดยทั้ง 2 ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงธน 2 ยังอยู่ในอาการตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีลูกเรือบางส่วนได้ว่ายน้ำเข้าฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ที่บริเวณท่าเรือวัดบางกอบัว อย่างปลอดภัย

จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ได้ความว่า ขณะเกิดเหตุมีหมอกจัด จนเรือแล่นชนกันเสียงดังลั่นแม่น้ำ ก็ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

[แมลงปอ]

เดลินิวส์

การใช้น้ำอย่างประหยัดและถูกวิธี

 วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีการใช้น้ำอย่างประหยัดและถูกวิธีมาฝาก...

- การอาบน้ำ
การใช้ฝักบัวจะสิ้นเปลืองน้ำน้อยที่สุด รูฝักบัว ยิ่งเล็ก ยิ่งประหยัดน้ำ ปิดฝักบัวในขณะที่ถูสบู่ จะใช้น้ำเพียง 30 ลิตร หากไม่ปิดจะใช้น้ำถึง 90 ลิตร และหากใช้อ่างอาบน้ำจะใช้น้ำถึง 110-200 ลิตร

- การโกนหนวด
โกนหนวดแล้วใช้กระดาษเช็ดก่อน จึงใช้น้ำ จากแก้วมาล้างอีกครั้ง ล้างมีดโกนหนวดโดยการ จุ่มล้างในแก้ว จะประหยัดกว่าล้างโดยตรงจากก๊อก

- การแปรงฟัน
การใช้น้ำบ้วนปากและแปรงฟันโดยใช้แก้ว จะใช้น้ำเพียง 0.5-1 ลิตร การปล่อยให้น้ำไหล จากก๊อกตลอดการแปรงฟัน จะใช้น้ำถึง 20-30 ลิตรต่อครั้ง

- การใช้ชักโครก
การใช้ชักโครกจะใช้น้ำถึง 8-12 ลิตร ต่อครั้ง เพื่อการประหยัด ควรใช้ถุงบรรจุน้ำมาใส่ในโถน้ำ เพื่อลดการใช้น้ำ โถส้วมแบบตักราดจะสิ้นเปลืองน้ำน้อยกว่าแบบชักโครกหลายเท่า หากใช้ชักโครก ควรติดตั้งโถปัสสาวะและโถส้วมแยกจากกัน

- การซักผ้า
ขณะทำการซักผ้าไม่ควรเปิดน้ำทิ้งไว้ตลอดเวลา จะเสียน้ำถึง 9 ลิตร/นาที ควรรวบรวมผ้าให้ได้มากพอต่อการซักแต่ละครั้ง ทั้งการซักด้วยมือและเครื่องซักผ้า

- การล้างถ้วยชามภาชนะ
ใช้กระดาษเช็ดคราบสกปรกออกก่อน แล้วล้างพร้อมกันในอ่างน้ำ จะประหยัดเวลาประหยัดน้ำ และให้ความสะอาดมากกว่าล้างจากก๊อกโดยตรง ซึ่งจะสิ้นเปลืองน้ำ 9 ลิตร/นาที

- การล้างผักผลไม้
ใช้ภาชนะรองน้ำเท่าที่จำเป็น ล้างผัก ผลไม้ ได้สะอาดและประหยัดกว่าเปิดล้างจากก๊อกโดยตรง ถ้าเป็น ภาชนะที่ยกย้ายได้ ยังนำน้ำไปรดต้นไม้ได้ด้วย

- การเช็ดพื้น
ควรใช้ภาชนะรองน้ำและซักล้างอุปกรณ์ใน ภาชนะก่อนที่จะนำไปเช็ดถู จะใช้น้ำน้อยกว่า การใช้สายยางฉีดล้างทำ ความสะอาดพื้นโดยตรง

- การรดน้ำต้นไม้
ควรใช้ฝักบัวรดน้ำต้นไม้แทนการใช้ สายยางต่อจากก๊อกน้ำโดยตรง หากเป็นพื้นที่บริเวณกว้าง ก็ควรใช้ สปริงเกลอร์ หรือใช้น้ำที่เหลือจากกิจกรรมอื่นมารดต้นไม้ ก็จะช่วย ประหยัดน้ำลงได้

- การล้างรถ
ควรรองน้ำใส่ภาชนะ เช่น ถังน้ำ แล้วใช้ผ้าหรือเครื่องมือล้างรถจุ่มน้ำลงในถัง เพื่อเช็ดทำความสะอาดแทนการ ใช้สายยางฉีดน้ำโดยตรง ซึ่งจะเสียน้ำเป็นปริมาณมากถึง 150-200 ลิตร/ครั้ง

รู้อย่างนี้แล้ว ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้น้ำอย่างถูกวิธี เพื่อเป็นการประหยัดทรัพยากรแถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย.