กระดานข่าว Save Our Sea.net
มิถุนายน 18, 2024, 12:06:40 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 6 เมษายน 2552  (อ่าน 2392 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: เมษายน 06, 2009, 12:25:03 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองกระจาย

อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนระลอกใหม่ได้แผ่ปกคลุมลงมาถึงประเทศจีนตอนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ (7 เมย.52) ลักษณะเช่นนี้จะทำให้มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอาจลูกเห็บตกเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในระยะ 1-2 วันนี้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติดังกล่าวไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่  กับลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ  ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 5-6 เม.ย. 52 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมทะเลจีนใต้และประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง เป็นตามลำดับ และมีลมใต้กับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนน้อยลงและอากาศร้อนขึ้น ส่วนภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 7-11 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีน จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมด้านตะวันออกของประเทศไทย ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นทำให้บริเวณดังกล่าวมี พายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 7-11 เม.ย. 52 ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน 



* Forecast2.jpg (39.68 KB, 684x423 - ดู 325 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 06, 2009, 12:36:56 AM »

ผู้จัดการออนไลน์


“ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ” สั่งลุยจับผู้มีอิทธิพลรุกที่ห้ามเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง
 
   
นายประชา เตรัตน์ ผจว.สุราษฎร์ธานี ชี้จุดพื้นที่ที่มีปัญหานายทุน ผู้มีอิทธิพลบุกรุกที่ทางทะเล
 
  สุราษฎร์ธานี - “ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี” สั่งลุยจับกลุ่มผู้มีอิทธิพลบุกรุกพื้นที่ห้ามเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งทะเล หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปล่อยปะละเลย ให้มีการบุกรุกใช้เสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ปักแนวเขตจับจองพื้นที่เกือบ 2 พันไร่ มานานกว่า 3 เดือน พร้อมขู่หากไม่ดำเนินการเตรียมสั่งย้ายนายอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง
       
       นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากการที่ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ สำนักงานขนส่งทางน้ำ และสำนักงานประมงจังหวัด เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันการบุกรุกชายฝั่งทะเล ที่ส่งผลกระทบต่อการทำลายทรัพยากรชายฝั่ง และวงจรชีวิตสัตว์น้ำ โดยตนมีคำสั่งให้ตั้งหน่วยเฉพาะกิจ ลงไปดำเนินการจับกุมผู้บุกรุกชายฝั่งทะเล ในเขตพื้นที่ อ.พุนพิน และ อ.ท่าฉาง เป็นการด่วน เพราะปรากฏว่า มีกลุ่มนายทุนบุกรุกชายฝั่งทะเลเพื่อเลี้ยงหอยแครง ในพื้นที่ห้ามเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยใช้เสาคอนกรีตไฟฟ้าแรงสูง ปักเขตการเลี้ยงในเชิงธุรกิจขนาดใหญ่นอกเขตพื้นที่ ที่กรมประมงกำหนด พร้อมกำชับให้เร่งดำเนินการจับกุมเห็นผลภายใน 7 วัน มิฉะนั้นสั่งย้ายนายอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

       
เสาคอนกรีตไฟฟ้าแรงสูงที่นายทุนนำลงไปปักในทะเลจับจองพื้นที่ โดยที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิกเฉย
       
       พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้ดำเนินการจัดระเบียบการเพาะเลี้ยงชายฝั่งใน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ไชยา อ.ท่าฉาง อ.พุนพิน อ.ดอนสัก และ อ.กาญจนดิษฐ์ ให้อยู่ในเขตพื้นที่ที่มีการกำหนดโดยการใช้เครื่องมือ GPS หากมีการรุกล้ำจะต้องเพิกถอนอาชญาบัตร หรือไม่ต่อใบอนุญาตในการทำประมงชายฝั่ง นอกจากนั้นจะต้องดำเนินการกับผู้บุกรุกอย่างเด็ดขาด ทั้งทางคดีอาญา และคดีแพ่ง
       
       ตลอดจนห้ามมิให้สวมสิทธิ์ชาวประมงพื้นบ้านในรูปแบบตัวแทนหรือนอมินี มาเช่าพื้นที่ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งในเชิงธุรกิจ ทั้งนี้ ในการจัดสรรพื้นที่ชายฝั่งทะเล เพื่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งนั้น จังหวัดจะเน้นจัดสรรให้เฉพาะประชาชนในพื้นที่ตามสิทธิชุมชนรายละไม่เกิน 10 ไร่เท่านั้น.


**************************************************************************************************************************************


เทศกาลกินปู...ดูทะเลกรุงเทพฯ
 
ช่วงฤดูกาลนี้บรรดาปูที่เลี้ยงแถบชายทะเลบางขุนเทียน แหล่งอาหารซีฟู้ดสดๆ ที่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุดนั้น กำลังกินอร่อย ปูเนื้อก็เนื้อแน่น ส่วนปูไข่ก็กำลังมีไข่เต็มท้อง เรียกได้ว่าเนื้อแน่นแทรกมันกินอร่อยทีเดียว
       
       สำหรับคนรักปูแล้วไม่ควรพลาดงาน The World of Crab Festival 2009 : กินปู ดูทะเลกรุงเทพฯ ซึ่งจัดโดย ห้างเซ็นทรัล พระราม 2 ร่วมกับ สำนักงานเขตบางขุนเทียน ททท. ฯลฯ โดยยกทัพอาหารเมนูปูที่ปรุงโดยเชฟจากโรงแรมห้าดาวมาปรุงเมนูปูแปลกใหม่จากปูเนื้อสดๆ ที่คัดสรรคุณภาพดีมาให้คนรักปูได้ลิ้มลองความอร่อยกัน
       
       นอกจากนี้ ยังรวมสุดยอดร้านอาหารและอาหารทะเลสดๆ กว่า 200 ร้านค้า มาให้เลือกซื้อในราคาพิเศษ เหมือนซื้อจากชาวประมงโดยตรง อาทิ ครัวแสวง ครัวลุงแถม ฯลฯ พร้อมด้วยโชว์ไฮไลต์เมนูพิเศษ Alaska King Crab Pine และสาคูไส้ปู จากโรงแรมรามาดา พลาซา รวมทั้ง เมนูสะดุ้งปูม้า ฉู่ฉี่ปูทะเล หลนปูทะเล พร้อมด้วย ไอศกรีมกลิ่นปูและไอศกรีมกลิ่นต้มยำปู
       
       อิ่มอร่อยจากบรรดาอาหารที่รังสรรค์จากปูแล้ว อย่าลืมแวะไปดูซากฟอสซิลปูหายากที่มีอายุ 5,000 ปี และฟอสซิลเปลือกหอยที่หายาก หุ่นยนต์ปูอัจฉริยะ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร
       
       จากนั้นไปร่วมคืนความอุดมสมบูรณ์สู่ป่าชายเลนกับกิจกรรม Workshop เพ้นต์ถุงผ้า โดยรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่าย นำไปซื้อพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ปู เพื่อปล่อยคืนสู่ป่าชายเลนบางขุนเทียน มาร่วมชอป ชิม และชมกิจกรรมอาหารเมนูปูที่จัดตั้งแต่วันนี้-5 เม.ย.นี้ ณ สวนพักผ่อนเซ็นทรัลพาร์ค เซ็นทรัล พลาซา พระราม 2

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 06, 2009, 12:45:18 AM »

แนวหน้า


ตั้งหอตรวจการณ์หาดแม่รำพึง เฝ้าระวังทะเลกลืนชีวิตนักเที่ยว   

 ระยอง:นายสิทธิชัย เสรีส่งแสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด เปิดเผยว่า ชายหาดแม่รำพึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดระยอง เพราะมีชายหาดที่ทอดยาวติดต่อกันกว่า 12 กิโลเมตร ที่ผ่านมามีประชาชนหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมาก แต่ในช่วงเทศกาลและฤดูมรสุมมักจะเกิดเหตุการณ์คนจมน้ำ บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งมีสาเหตุหลายประการ เช่น การดื่มสุรา ว่ายน้ำไม่แข็ง และคลื่นลม แม้เจ้าหน้าที่จะนำธงสีแดง พร้อมป้ายเตือน ปักไว้ตามจุดอันตรายตลอดแนวชายหาดแต่ก็ยังเกิดเหตุคนจมน้ำ

 ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ทางอุทยานฯ จึงประสานขอความร่วมมือจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ระยอง ตั้งหอตรวจการณ์ชายหาดหอตรวจการณ์ เพื่อกระจายข่าวพร้อมสัญญาณไซเรน ซึ่งหอดังกล่าวตั้งไว้ตลอดแนวชายหาดแม่รำพึงรวม 3 จุด ได้แก่ ที่ ลานหินขาว ฝั่งเทศบาลตำบลเพ และฝั่ง อบต.ตะพง แต่ละจุดมีเจ้าหน้าที่ ร่วมกันดูแลรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว


**********************************************************************************************************************


อบต.เกาะหมากกับแผนรับมือ แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ทะเลตราด                          :                           รายงานพิเศษ 
 
 ตำบลเกาะหมาก เป็น 1 ใน 2 ของตำบลใน อ.เกาะกูด ที่มีสภาพเป็นเกาะและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของหมู่เกาะทะเลตราด ซึ่งปัจจุบันเริ่มเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศซึ่งเข้ามาท่องเที่ยวปีละไม่ต่ำกว่า 50,000 คน องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)เกาะหมาก เป็นท้องถิ่นที่มีขนาดเล็กและจัดเก็บรายได้ไม่สูงมาก ทำให้ไม่สามารถนำชลประทานมาสร้างระบบสาธารณูปโภคที่จะรองรับนักท่าเที่ยวที่เดินทางมาได้ในแต่ละปีได้ ซึ่ง นายจักรพรรดิ ตะเวติกุล นายก อบต.เกาะหมาก ที่นั่งดำรงตำแหน่งนี้มา 2 สมัย ได้วางแผนการพัฒนา ไว้ทั้งระยะยาวและระยะสั้น

 นายจักรพรรดิ กล่าวว่า ทุกวันนี้เกาะหมากเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดิน ทางมาท่องเที่ยว ในเกาะหมากในแต่ละปีสูงถึง 50,000 กว่าคน โดยเฉพาะในปี 2551 มีเกิน 60,000 คน ซึ่งการเติบโตมีมา 2-3 ปีแล้ว ขณะเดียวกันก็มีการลงทุนในการสร้างโรงแรมและรีสอร์ทในเกาะหมากเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะรีสอร์ทระดับหรู ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวเติบโตสูงมากขึ้น แต่ที่เกาะหมากก็ยังมีนักท่องเที่ยวมากเหมือนเดิม และคาดหวังว่าปี 2552 จะมีนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 60,000 คนแน่นอน"

 สิ่งที่เห็นชัดเจน คือ จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยลดลง ซึ่งคงเป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ แต่สิ่งที่ อบต.เกาะหมาก กังวลคือการสร้างระบบสาธารณูปโภค รองรับการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งไฟฟ้า,น้ำ หรือระบบขนส่งที่ อบต.เกาะหมาก ยังไม่สามารถดำเนินก่อสร้าง หรือพัฒนาเพื่อให้รองรับกับการเติบโตได้ครบถ้วน โดยเฉพาะปัญหาเรื่อง ขาดแคลนน้ำจืดในช่วงฤดูแล้ง หรือช่วงเดือน เม.ย.ของทุกปี เนื่องจากระบบประปาขาดแคลนน้ำดิบ ซึ่งเรื่องนี้ต้องเร่งแก้ไขเพราะหากจำนวนนักท่องเที่ยว มากขึ้น จะยิ่งมีปัญหามากขึ้น ส่วนเรื่องไฟฟ้าที่ปัจจุบันใช้พลังงานไฟฟ้าจากการปั่นไฟ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อมของเกาะหมากที่องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. ได้วางให้เกาะหมากเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

 "แต่สิ่งที่ทางอบต.เกาะหมากต้องทำ คือ การผลักดันให้เกาะหมากก้าวไปตามวิสัยทัศน์การ พัฒนาของ อพท.ที่วางไว้ ทั้งอบต.เกาะหมากคงไม่ต้องดำเนินการอะไรไปมากกว่านี้ เพราะว่าเกาะหมากเดินตามทางนี้มาตั้งแต่ต้นที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของหมู่เกาะทะเลตราด และทั้งอบต.เกาะหมาก รวมทั้งผู้ประกอบการ เกาะหมาก ก็เห็นด้วยและปกป้องให้เกาะหมากเป็นเช่นนี้และให้เกาะหมากเป็นจุดขายในเรื่องของการอนุรักษ์จริงๆ" นายจักรพรรดิ กล่าว

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 06, 2009, 12:52:43 AM »

สำนักข่าว INN


แผ่นดินไหว 5.4 ริกเตอร์ติมอร์ตะวันออก  

เกิดแผ่นดินไหวที่ติมอร์ตะวันออก โดยวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.4 ริกเตอร์

สำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐระบุว่าเมื่อเวลา 03.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 02.45 น. ที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย ได้เกิดแผ่นดินไหวระดับปานกลางที่ติมอร์ตะวันออก โดยวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.4 ริกเตอร์ ที่ระดับความลึกจากผิวดินในทะเลเพียง 10 กิโลเมตร แต่บริเวณดังกล่าวอยู่ห่างจากกรุงดิลี เมืองหลวงของติมอร์ตะวันออก ราว 179 กิโลเมตร

อย่างไรก็ดีเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ ในเบื้องต้นไม่ได้สร้างความเสียหาย รวมถึงทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด ทั้งนี้ติมอร์ตะวันออกตั้งอยู่บนวงแหวนอัคนีซึ่งมักจะเกิดเหตุแผ่นดินไหวและเกิดการปะทุภูเขาไฟอยู่บ่อยครั้ง 


*************************************************************************************************************************


ไฟไหม้ป่าดอยสุเทพ-ปุยเผาแล้วกว่า7  ไร่   

หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่า จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยเหตุไฟไหม้ป่าดอยสุเทพ-ปุย พื้นที่ป่าเสียหายแล้วกว่า 7 ไร่

นายอิศเรศ สิทธิโรจนกุล หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่า จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงไฟไหม้ป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่ล่าสุดยังดับไม่ได้ ว่าจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณหลังค่ายลูกเสือช่างเคี่ยน ซึ่งเป็นภูเขาลาดชันและหน้าผาสูง โดยไฟยังคงลุกไหม้เป็นแนวยาวกว่า 200 เมตร ขึ้นไปตามสันเขาอย่างต่อเนื่อง และการดับไฟเป็นไปด้วยความลำบาก เพราะการเข้าพื้นที่ต้องเดินเท้าอย่างเดียว ขณะนี้หน่วยเสือไฟกว่า 60 นาย อยู่ระหว่างเข้าพื้นที่เกือบ 2 กิโลเมตร

เบื้องต้นพื้นที่ป่าเสียหายแล้วกว่า 7 ไร่ ส่วนสาเหตุคาดว่าเป็นฝีมือผู้ลักลอบเข้าไปจุดไฟเผาเพื่อล่าไก่และหมูป่า สำหรับปีนี้เกิดไฟไหม้ป่าอุทยานฯ ดอยสุเทพแล้ว 90 ครั้ง พื้นที่เสียหาย 300 ไร่

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.09 วินาที กับ 21 คำสั่ง