กระดานข่าว Save Our Sea.net
มิถุนายน 08, 2024, 02:13:20 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วาฬยักษ์บรูด้าโผล่ใกล้หาดบางแสน  (อ่าน 4276 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: กันยายน 23, 2008, 01:43:16 AM »


วาฬยักษ์บรูด้าโผล่ใกล้หาดบางแสน



ฝูงนกนางนวลบินโฉบวาฬยักษ์บรูด้า 4 ตัวมาโผล่ใกล้ชายหาดบางแสน ชลบุรี สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว ขณะที่ ชาวประมงคนพื้นที่ตั้งข้อสังเกต วาฬโผล่เช่นนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนบางอย่างถึงความเปลี่ยนแปลงทางทะเล วานนี้


จาก                              :                      กรุงเทพธุรกิจ    วันที่ 22 กันยายน 2551
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 01, 2008, 12:53:01 AM โดย สายน้ำ » บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 23, 2008, 01:44:56 AM »


4 วาฬยักษ์ โผล่ใกล้หาดบางแสน

นายเต่า ธรรมกิจจานุศร อายุ 50 ปี ชาวประมงท้องถิ่นแหลมแท่น บางแสน จ.ชลบุรี เปิดเผยเมื่อวันที่ 21 กันยายน ว่า ได้พบวาฬยักษ์ 4 ตัว ว่ายน้ำเข้ามาใกล้ชายหาดบางแสน โดยได้ถ่ายภาพของวาฬยักษ์ที่ขึ้นมาบนผิวน้ำได้ ขณะออกไปช้อนแมงกะพรุนอยู่ในทะเล ห่างจากชายหาดบางแสนประมาณ 1.5 กิโลเมตร พบฝูงนกนางนวลฝูงใหญ่ บินโฉบเฉี่ยวเป็นกลุ่มบริเวณแหล่งปะการังเทียม ศาลาอเนกประสงค์เฉลิมพระเกียรติ บางแสน-แหลมแท่น แล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบวาฬขนาดใหญ่ 4 ตัว แต่ละตัวมีความยาวประมาณ 8 เมตร โผล่หัวเหนือผิวน้ำ แล้วพ่นน้ำ ดำผุดดำว่ายอย่างมีความสุข

ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพบวาฬยักษ์เข้าชายหาดบางแสนเลยสักครั้งเดียว จะมีแต่เพียงปลาโลมาเท่านั้นที่พบบ่อยๆ น่าจะเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่าอาจเกิดภัยพิบัติในทะเล เพราะวาฬใหญ่ยังเปลี่ยนวิถีชีวิต ขณะนี้ธรรมชาติแปรปรวนอย่างมาก ทำให้ต้องระมัดระวังกันให้มากกว่าเดิม



จาก                              :                      มติชน    วันที่ 22 กันยายน 2551
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 23, 2008, 01:46:44 AM »


วาฬบรูด้าเข้าหาดบางแสน "ดร.ธรณ์"ชี้ไม่เตือนภัยพิบัติ

จากกรณีที่มีการพบวาฬบรูด้าจำนวน 4 ตัว ความยาวประมาณ 8 เมตร ดำผุดดำว่ายกินปลาห่างจากหาดชายหาดบางแสน จ.ชลบุรี ประมาณ 1.5 กม.นั้น

ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) กล่าวว่า เท่าที่ดูจากรูปถ่ายของวาฬบรูด้าที่กำลังอ้าปากโผล่พ้นผิวน้ำ สันนิษฐานวาฬบรูด้าจะตามฝูงปลาเข้ามาเพราะหากินอยู่ในแถบอ่าวไทย และอยู่ใกล้ชายฝั่งราว 1-3 กม. ซึ่งก่อนหน้านี้จะพบบ่อยที่ที่ทะเลบ่อนอก จ.ประจวบคีรีขันธ์ และกรณีที่เข้ามาแถวหาดบางแสนในจุดที่มีการวางแนวปะการังเทียมก็เป็นเรื่องปกติ เพราะเมื่อมีการวางแนวปะการังก็ทำให้มีฝูงปลามาอาศัยอยู่ วาฬจึงแวะเวียนเข้ามาหากิน และยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับพิบัติภัย หรือมีความผิดปกติของตัววาฬบรูด้าเหมือนกับกรณีการพบวาฬเพชรฆาตเทียมเกยตื้นที่เกาะราชา จ.ภูเก็ต เมื่อเดือนที่ผ่านมา เพราะวาฬบรูด้าชนิดนี้จะไม่ได้อยู่รวมกันเป็นฝูง จึงไม่ต้องอาศัยการนำของจ่าฝูงเหมือนกับวาฬเพชฌฆาตเทียม จนทำให้พลัดหลงกันได้ แต่ที่มาอยู่ 4 ตัวพร้อมๆ เป็นเรื่องบังเอิญที่มาหากินในที่ดังกล่าว



จาก                              :                      มติชน    วันที่ 23 กันยายน 2551
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #3 เมื่อ: กันยายน 23, 2008, 01:48:22 AM »


วอนอย่าตื่นอาเพศ ! พบฝูงวาฬ

นักวิชาการชี้ 4 วาฬยักษ์เข้าใกล้หาดบางแสนแค่หาอาหาร วอนประชาชนอย่าตื่นข่าวสัญญาณเตือนเกิดภัยพิบัติ ระบุอ่าวไทยตอนบนมีความอุดมสมบูรณ์พบเห็นวาฬเป็นปกติ   ได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในขณะนี้ว่าจะเกิดภัยพิบัติทางทะเลขึ้นหรือไม่  เมื่อชาวประมงท้องถิ่นแหลมแท่น  บางแสน จ.ชลบุรี พบวาฬบรูด้าขนาดใหญ่ 4 ตัว ว่ายน้ำเข้ามาใกล้ชายหาดบางแสนประมาณ  1.5  กิโลเมตร ซึ่งที่ผ่านมาแทบไม่มีรายงานการพบวาฬบรูด้าเข้าชายหาดบางแสนมาก่อน  จึงทำให้ชาวบ้านหวั่นวิตกว่าการที่วาฬบรูด้ามาปรากฏตัว  จะเป็นเสมือนสัญญาณบอกเหตุ

ดร.ธรณ์  ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย  สวทช. ชี้แจงว่า  การพบวาฬบรูด้าใกล้ชายฝั่งครั้งนี้เป็นการเข้ามากินอาหารซึ่งก็คือฝูงปลาอกแลเท่านั้น  โดยปกติวาฬบรูด้าจะเข้ามาหาอาหารในอ่าวไทยช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายนเป็นประจำ  และจะพบมากบริเวณตำบลบ่อนอก  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ส่วนสาเหตุที่ครั้งนี้พบเข้ามาใกล้ชายหาดบางแสนมาก  อาจเนื่องจากมีการวางปะการังเทียมค่อนข้างเยอะในบริเวณดังกล่าว  ฝูงปลาจึงว่ายเข้ามาอาศัยอยู่  ส่วนวาฬบรูด้าก็ว่ายตามเข้ามากินลูกปลา ซึ่งนับเป็นเรื่องปกติที่พบได้ในธรรมชาติ จึงไม่อยากให้ประชาชนวิตกมากเกินไปนัก ทั้งนี้ วาฬบรูด้าเป็นวาฬที่พบได้บ่อยในประเทศไทย มีความยาวตั้งแต่ 8-14 เมตร แต่ที่พบในอ่าวไทยส่วนใหญ่มีความยาวประมาณ 8-10 เมตร

นายสมชาย  มั่นอนันต์ทรัพย์ นักวิชาการประมง ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จังหวัดระยอง  กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การพบวาฬบริเวณใกล้บางแสนมีโอกาสเกิดขึ้นได้  เพราะที่ผ่านมามีการสำรวจพบวาฬบรูด้าอาศัยอยู่ในบริเวณอ่าวไทยตอนในอยู่แล้วประมาณ  10 ตัว เนื่องจากเป็นแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก โดยหลักๆ จะพบได้บริเวณบ่อนอก-หินกรูด  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  หรือจังหวัดเพชรบุรี  เป็นต้น  ล่าสุดมีรายงานการพบวาฬบรูด้าแถวบางปะกงเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา  ในเบื้องต้นไม่แน่ใจว่าอาจเป็นวาฬกลุ่มเดียวกันว่ายน้ำตามเข้ามากินฝูงปลา  เพราะหากมองจากสภาพภูมิประเทศแล้วจะพบว่าไม่ได้ห่างกันมากนัก วาฬจึงสามารถว่ายไปมาในเส้นทางนี้ได้

ส่วนที่ประชาชนเกรงว่าจะเป็นลางบอกเหตุร้ายนั้น  คิดว่าไม่น่ากังวล  เพราะเท่าที่สังเกตพบว่า  วาฬไม่ได้มีพฤติกรรมตื่นตระหนก  แต่มีลักษณะกำลังว่ายน้ำ อ้าปากช้อนฝูงปลาและแพลงตอนกินเป็นอาหารตามปกติเท่านั้น  แต่สิ่งที่น่าห่วงคือ การที่วาฬเข้ามาใกล้ชายฝั่งมากเกินไป  อาจเป็นอันตรายต่อวาฬเอง สิ่งที่ควรทำตอนนี้คือการเฝ้าระวังไม่ให้คนเข้าไปทำอันตราย หรือไปรบกวนวิถีชีวิตของพวกมันมากนัก

นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ นักวิชาการประมงสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล  ชายฝั่งทะเล  และป่าชายเลน กล่าวว่า วาฬบรูด้าที่พบเป็นวาฬพันธุ์ที่มีขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเปรียบกับวาฬชนิดอื่นๆ  และวาฬชนิดนี้จะอาศัยอยู่ในบริเวณอ่าวไทยเป็นหลัก  ไม่มีการอพยพย้ายถิ่นเหมือนกับวาฬชนิดอื่นๆ ที่จะมีการอพยพในช่วงหน้าหนาวเข้ามาในเส้นศูนย์สูตรเพื่อออกลูกหรือหาอาหาร  โดยการเข้ามาครั้งนี้เชื่อว่าเข้ามากินอาหาร และการที่วาฬเข้ามาใกล้ชายหาดมากขนาดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนัก เพราะในบางปีแถบชายฝั่งอันดามัน บริเวณเกาะพระทอง   จังหวัดพังงา  ก็พบวาฬเข้ามาหาอาหารใกล้ชายฝั่งมาก จนทำให้ชาวประมงที่ไม่เคยเห็นมาก่อนตกใจในลักษณะเช่นเดียวกันนี้

ดร.สุพรรณี ลีโทชวลิต หัวหน้าฝ่ายสถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา  กล่าวว่า วาฬกลุ่มนี้น่าจะอพยพมาจากสมุทรสาคร  สมุทรสงคราม หรือเพชรบุรี   เพราะเมื่อช่วงปี  2548  มีผู้พบวาฬบริเวณดังกล่าว 3 ตัว แต่ขณะนี้พบเป็น 4 ตัว คาดว่าอาจอาจเป็นกลุ่มพ่อแม่ลูกที่มีลูกเพิ่มอีกตัว  ส่วนที่ประชาชนมีความหวั่นวิตกว่าจะเกิดภัยพิบัติ  ก็ไม่ควรตื่นตระหนกมากเกินไป หรือหากจะเฝ้าระวังเตรียมความพร้อมไว้ก็ไม่เสียหายอะไร ในส่วนของเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างออกติดตามความเคลื่อนไหววาฬกลุ่มนี้

วาฬบรูด้า  มีชื่อสามัญว่า  Bryde's whale จัดอยู่ในวงศ์ Balaenopteridae เป็นวาฬขนาดใหญ่  มีรูปร่างค่อนข้างเพรียว  สีเทาดำ  ส่วนหัวมีแนวสันนูน  3 สัน ครีบเล็กและปลายแหลม  มีร่องใต้คาง  (Throat pleat) 40-70 ร่อง ยาวพ้นแนวสะดือ โตเต็มที่ยาว  14-15.5  เมตร  หนัก  20-25  ตัน กินอาหารโดยการกรอง มีซี่กรองสีเทา 250-370 ซี่ อาหารส่วนใหญ่เป็นแพลงตอน เคย ลูกปลา และหมึก เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 9-13 ปี ตั้งท้องนาน  10-12  เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว ทุก 2 ปี ระยะให้นมน้อยกว่า 12 เดือน สามารถพบได้ในจังหวัดชายทะเลเกือบทุกจังหวัด.



จาก                              :                      X-cite  ไทยโพสต์   วันที่ 23 กันยายน 2551
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
kungkings
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 791



« ตอบ #4 เมื่อ: กันยายน 23, 2008, 01:59:41 AM »

ถ้าเป็นแบบนี้...ค่อยดีหน่อยคะ 
บันทึกการเข้า

ทำวันนี้ และวันหน้าให้ดีที่สุด...
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #5 เมื่อ: กันยายน 24, 2008, 02:02:50 AM »


วาฬมาเที่ยวบางแสน อาหารอุดมสมบูรณ์                               :                    ข้อมูลโดย ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สวทช.



:ฝูงวาฬ 4 ตัวมาเที่ยวหาปลาเล็กปลาน้อยกินถึงถิ่นบางแสน อาจเป็นเพราะปะการังเทียมชักชวนฝูงปลามาชุมนุม

ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สวทช.  กล่าวว่า   การพบวาฬบรูด้าใกล้ชายฝั่งครั้งนี้เป็นการเข้ามากินอาหารซึ่งก็คือฝูงปลาอกแลเท่านั้น

ปกติวาฬบรูด้าจะเข้ามาหาอาหารในอ่าวไทยช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายนเป็นประจำ และจะพบมากบริเวณตำบลบ่อนอก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนสาเหตุที่ครั้งนี้พบเข้ามาใกล้ชายหาดบางแสนมาก   อาจเนื่องจากมีการวางปะการังเทียมค่อนข้างเยอะในบริเวณดังกล่าว ฝูงปลาจึงว่ายเข้ามาอาศัยอยู่ส่วนวาฬบรูด้าก็ว่ายตามเข้ามากินลูกปลา   

ทั้งนี้วาฬบรูด้า เป็นวาฬที่พบได้บ่อยในประเทศไทย   โดยมีความยาวตั้งแต่ 8 -14 เมตร แต่ที่พบในอ่าวไทยส่วนใหญ่มีความยาวประมาณ 8-10 เมตร

นายสมชาย มั่นอนันต์ทรัพย์ นักวิชาการประมง ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จังหวัดระยอง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า   การพบวาฬบริเวณใกล้บางแสนมีโอกาสเกิดขึ้นได้ เพราะที่ผ่านมามีการสำรวจพบวาฬบรูด้าอาศัยอยู่ในบริเวณอ่าวไทยตอนในอยู่แล้วประมาณ 10 ตัว เนื่องจากเป็นแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก โดยหลักๆจะพบได้บริเวณบ่อนอก-หินกรูด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์   หรือจังหวัดเพชรบุรี เป็นต้น

ล่าสุดมีรายงานการพบวาฬบรูด้าแถวบางปะกงเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา   ในเบื้องต้นไม่แน่ใจว่าอาจเป็นวาฬกลุ่มเดียวกันว่ายน้ำตามเข้ามากินฝูงปลา เพราะหากมองจากสภาพภูมิประเทศแล้วจะพบว่าไม่ได้ห่างกันมากนัก วาฬจึงสามารถว่ายไปมาในเส้นทางนี้ได้ กล่าวคือจากแถวปากแม่น้ำบางปะกงเรื่อยลงมาจนถึงเขาสามมุข จังหวัดชลบุรี และตัดเข้าบางแสน ว่ายวนเวียนหาอาหารอยู่แถวนั้นแล้วก็ออกไป เป็นต้น

ขณะนี้ทีมงานกำลังพยายามตรวจสอบด้วยการนำภาพวาฬที่ได้มาเปรียบเทียบดูว่าจะใช่วาฬกลุ่มเดียวกันหรือไม่   ส่วนความเป็นไปได้อีกประการคือช่วงนี้เป็นปลายฝนต้นหนาว สภาพอากาศแปรปรวนมาก จึงทำให้มีลูกปลาเข้ามาอาศัยใกล้บริเวณชายฝั่ง วาฬจึงว่ายน้ำตามเข้ามากินฝูงปลาในบริเวณดังกล่าว

ส่วนที่ประชาชนเกรงว่าจะเป็นลางบอกเหตุร้ายนั้น คิดว่าไม่น่ากังวลเพราะเท่าที่สังเกตพบว่า วาฬ ไม่ได้มีพฤติกรรมตื่นตระหนก แต่มีลักษณะกำลังว่ายน้ำ อ้าปากช้อนฝูงปลาและแพลงตอนกินเป็นอาหารตามปกติเท่านั้น แต่สิ่งที่น่าห่วงคือการที่วาฬเข้ามาใกล้ชายฝั่งมากเกินไป อาจเป็นอันตรายต่อวาฬเอง สิ่งที่ควรทำตอนนี้คือการเฝ้าระวังไม่ให้คนเข้าไปทำอันตรายหรือไปรบกวนวิถีชีวิตของพวกมันมากนัก

นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ นักวิชาการประมงสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน กล่าวว่า   วาฬบรูด้าที่พบเป็นวาฬพันธุ์ที่มีขนาดค่อนข้างจะเล็กเมื่อเปรียบกับวาฬชนิดอื่น ๆ และวาฬชนิดนี้จะจะอาศัยอยู่ในบริเวณอ่าวไทยเป็นหลัก ไม่มีการอพยพย้ายถิ่นเหมือนกับวาฬชนิดอื่นๆที่จะมีการอพยพในช่วงหน้าหนาวเข้ามาในเส้นศูนย์สูตรเพื่อออกลูกหรือหาอาหาร

การเข้ามาครั้งนี้เชื่อว่าเข้ามากินอาหาร เพราะหากสังเกตภาพจะเห็นว่ามีลูกปลาขนาดเล็กและเคยอยู่บริเวณนั้นด้วย ทั้งนี้การที่วาฬเข้ามาใกล้ชายหาดมากขนาดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนัก เพราะในบางปีแถบชายฝั่งอันดามัน บริเวณเกาะพระทอง จังหวัดพังงา ก็พบวาฬเข้ามาหาอาหารใกล้ชายฝั่งมากจนทำให้ชาวประมงที่ไม่เคยเห็นมาก่อนตกใจในลักษณะเช่นเดียวกันนี้



จาก                              :                      กรุงเทพธุรกิจ   วันที่ 23 กันยายน 2551
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #6 เมื่อ: กันยายน 24, 2008, 02:08:48 AM »


นักวิชาการ ชี้วาฬยักษ์เข้าใกล้หาดบางแสน แค่หากินฝูงปลาเป็นอาหาร

นักวิชาการ ชี้วาฬยักษ์เข้าใกล้หาดบางแสน แค่หากินฝูงปลาเป็นอาหาร ระบุเป็นเรื่องปกติที่พบในธรรมชาติ พร้อมเฝ้าระวังไม่ให้คนเข้าไปทำอันตรายวาฬ

ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงกรณีที่ชาวประมงพบวาฬบรูด้าขนาดใหญ่ 4 ตัว ว่ายน้ำเข้ามาใกล้ชายหาดบางแสนประมาณ 1.5 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านเกรงว่าเป็นสัญญาณเตือนภัยให้รู้ว่าจะเกิดภัยพิบัติในทะเล ว่า การพบวาฬบรูด้าครั้งนี้ เป็นการเข้ามากินลูกปลาเป็นอาหารเท่านั้น ซึ่งปกติวาฬบรูด้าจะเข้ามาหาอาหารในอ่าวไทยช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนเป็นประจำ พบมากบริเวณตำบลบ่อนอก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนับเป็นเรื่องปกติที่พบได้ในธรรมชาติ ส่วนสาเหตุที่เข้าใกล้ชายหาดบางแสนมาก เนื่องจากมีการวางปะการังเทียมค่อนข้างเยอะในบริเวณดังกล่าว ฝูงปลาจึงว่ายเข้ามาอาศัยอยู่ ทำให้วาฬเข้ามาหาอาหาร ทั้งนี้ จึงไม่อยากให้ประชาชนวิตกมากนัก

ด้านนายสมชาย มั่นอนันต์ทรัพย์ นักวิชาการประมง ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จังหวัดระยอง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการสำรวจพบว่าวาฬบรูด้าอาศัยอยู่ในบริเวณอ่าวไทยตอนในอยู่แล้วประมาณ 10 ตัว เนื่องจากเป็นแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ล่าสุดมีรายงานการพบวาฬบรูด้าแถวบางปะกงเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นวาฬกลุ่มเดียวกันว่ายน้ำตามเข้ามากินฝูงปลา โดยขณะนี้ทีมงานกำลังตรวจสอบด้วยการนำภาพวาฬที่ได้มาเปรียบเทียบดูว่าจะใช่วาฬกลุ่มเดียวกันหรือไม่ ส่วนที่ประชาชนเกรงว่าจะเป็นลางบอกเหตุร้ายนั้นไม่น่ากังวล เพราะพบว่าวาฬไม่ได้มีพฤติกรรมตื่นตระหนก แต่มีลักษณะกำลังว่ายน้ำ อ้าปากช้อนฝูงปลาเท่านั้น แต่สิ่งที่น่าห่วง คือ การที่วาฬเข้ามาใกล้ชายฝั่งมากเกินไป อาจเป็นอันตรายต่อวาฬเอง ดังนั้น ต้องเฝ้าระวังไม่ให้คนเข้าไปทำอันตรายหรือไปรบกวนวิถีชีวิตมากนัก



จาก                             :                        สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์    วันที่ 23 กันยายน 2551
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #7 เมื่อ: กันยายน 25, 2008, 01:06:42 AM »


วาฬบรูด้า


ห่างจากชายหาดบางแสน จ.ชลบุรี เพียง 1.5 กิโลเมตร

ชาวประมงท้องถิ่นแหลมแท่น ที่ออกช้อนแมงกะพรุนอยู่ในทะเล พบวาฬขนาดใหญ่ 4 ตัว ยาวประมาณ 8 เมตร โผล่พ้นผิวน้ำขึ้นมากินแพลงก์ตอนและฝูงปลาอย่างมีความสุข ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ก.ย.

และต่อมาอีก 2-3 วัน

เป็นวาฬชนิดเดียวกับที่เคยโผล่ขึ้นมากินแพลงก์ตอน ที่ทะเลบ่อ นอก จ.ประจวบฯ เมื่อปลายปี 2544 จนหลายคนบอกว่าวาฬขึ้นมาไล่โรงไฟฟ้า

และจริงดังว่า หลังจากนั้นไม่นานรัฐบาลก็สั่งยกเลิกโครงการไป

"วาฬบรูด้า" เป็นวาฬชนิดเดียวที่พบอาศัยอยู่ในอ่าวไทย และมีขนาดเล็กกว่าที่พบจากแหล่งอื่นๆ ทั่วโลก

ทำให้นักวิทยาศาสตร์ต่างชาติหลายคนระบุว่า วาฬบรูด้าในอ่าวไทยเป็นวาฬชนิดใหม่ของโลก

วาฬเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ทั้งโลกมี 78 ชนิด ในเมืองไทยกรมประมงรายงานว่ามี 22 ชนิดจาก 6 Family แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม

พวกแรกเป็นกลุ่มที่มีซี่กรอง หรือเรียกว่าวาฬซี่กรอง หรือวาฬบาลีน (Baleen-ซี่กรองอาหารในปาก)

ในเมืองไทยพบ 2 ชนิด คือ วาฬบรูด้า และอีกพวกมีทั้งวาฬและโลมาที่มีฟัน (Toothed Whale) เมืองไทยพบวาฬมีฟัน 10 ชนิด

วาฬบรูด้าเป็นวาฬขนาดใหญ่ รูปร่างค่อนข้างเพรียว ลำตัวสีเทาอมน้ำเงิน ท้องสีขาวอมชมพู แพร่กระจายอยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะในเขตร้อนและเขตกึ่งร้อน

ไม่พบการอพยพย้ายถิ่นฐานเป็นระยะทางไกล มักพบครั้งละ 1-2 ตัว

ตั้งท้องนาน 10-12 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว ทุก 2 ปี ลูกวาฬแรกเกิดยาวประมาณ 3-4 เมตร ระยะให้นมน้อยกว่า 12 เดือน

ส่วนหัวมีแนวสันนูน 3 สัน มีร่องใต้คาง (Throat pleat) 40-70 ร่อง ยาวพ้นแนวสะดือ โตเต็มที่ยาว 14-15.5 เมตร หนัก 20-25 ตัน

กินอาหารโดยการกรอง มีซี่กรองสีเทา 250-370 ซี่ กินแพลงก์ตอน ปลา และปลาหมึกเป็นอาหาร เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 9-13 ปี พบได้ในจังหวัดชายทะเล

จากการศึกษาของกรมประมงเมื่อพ.ศ.2536 พบวาฬในฝั่งอ่าวไทย 14 ชนิด และในฝั่งอันดามัน 18 ชนิด

และจากหลักฐานตัวอย่างที่บาดเจ็บและตายเกยตื้นตามชายฝั่ง พบวาฬบรูด้า 16 ตัวใน 9 จังหวัด ทั้งหมดอยู่ในฝั่งอ่าวไทย

ที่พบมากสุดจังหวัดละ 3 ตัว คือ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และนครศรีธรรมราช

และเคยพบอีกเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2547 ที่เกาะราชาใหญ่และเกาะไม้ท่อน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ลำตัวยาวประมาณ 12 เมตร

1-6 ก.ย.2548 ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน พบวาฬบรูด้า 3 ตัว บริเวณรอยต่อ จ.สมุทรสงคราม กับเพชรบุรี ห่างชายฝั่งประมาณ 15 ไมล์ทะเล

จากการจำแนกของ IUCN หรือสหภาพนานาชาติ เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ ระบุว่า วาฬบรูด้าถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่ยังมีข้อมูลไม่พอเพียง

วาฬบรูด้ามีชื่ออยู่ในบัญชี 1 ของไซเตส หรืออนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์

สัตว์ในบัญชี 1 เป็นชนิดที่ "ห้ามค้าอย่างเด็ดขาด" เนื่องจากใกล้สูญพันธุ์ ยกเว้นเพื่อการศึกษาวิจัยและเพาะพันธุ์

นอกจากนี้ในพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.5204 ยังระบุไว้ว่า วาฬบรูด้าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ลำดับที่ 140

และจากการจัดอันดับในการประชุม เพื่อจัดสถานภาพทรัพยากรชีวภาพของประเทศไทย ระหว่างวันที่ 29-30 พ.ค.2539 เพื่อรวบรวมสถานภาพของทรัพยากรชีวภาพในประเทศไทย

ระบุว่าวาฬบรูด้าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่อยู่ในสถาน ภาพใกล้สูญพันธุ์



จาก                             :                        ข่าวสด คอลัมน์ คอลัมน์ที่13   วันที่ 24 กันยายน 2551
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #8 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2008, 12:56:22 AM »


“วาฬยักษ์” ยังวนเวียนหน้าชายหาดบางแสน
 
 
  ศูนย์ข่าวศรีราชา- 2 พรานทะเล ออกทะเลยิงปลากะพง เจอ 4 วาฬยักษ์ไล่งับเหยื่อปลาเล็กเป็นอาหารอย่างเมามัน โผล่หัวหายใจเริงร่ามองไกลๆ นึกว่าเรือจม หัวเรือโผล่เหนือน้ำ เข้าไปดูใกล้ๆ เป็น “วาฬ” พบแหล่งปะการังเทียมเสื่อมโทรม ถูกเรือลากอวนพาล้มระเนระนาดจมทราย ต้องล้อมกรอบไม่เช่นนั้นแหล่งอาศัย แหล่งอาหารจะหมดไปจากชายหาดบางแสน
       
       วันนี้ (29 ก.ย.) เวลา 13.00 น.ผู้สื่อข่าวได้ทราบจาก นายเอกศักดิ์ เสริมศรี อายุ 31 ปี และนายชาญณรงค์ ฉะอ้อนครบุรี อายุ 27 ปี ได้ออกไปยิงปลาที่บริเวณแหล่งปะการังเทียม เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นโครงการทิ้งท่อนปูน เสาปูน เป็นแหล่งปะการังเทียม ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบ ดูแลของเทศบาลเมืองแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ขณะเดินทางออกไปด้วยเรือขนาดเล็ก พบว่า ไม่ห่างจากแหล่งปะการังเทียมมี รูปลักษณะเหมือนเรือจมแต่หัวเรือโผล่ จึงได้เร่งความเร็วเข้าไปดู ปรากฏว่า เป็นวาฬ โผล่ขึ้นมาหายใจ และมีลักษณะเชื่อง เรือเข้าไปใกล้ๆ ก็ไม่ยอมหนีแต่อย่างใด
       
       นายเอกศักดิ์ เสริมศรี พรานทะเล เปิดเผยว่า การดำน้ำลงไปยิงปลามีเวลาเฉพาะหัวน้ำขึ้น และหัวน้ำลงเท่านั้น เพราะน้ำไม่เชี่ยวสามารถว่ายน้ำเลือกยิงปลาที่รุมตอมปะการังเทียมได้ และยังสามารถดำเลือกหาเฉพาะปลาตัวใหญ่ๆ เท่านั้น
       
       ส่วนปลาเล็กระยะนี้ไม่ได้รับความสนใจมากนัก เนื่องจากปลาใหญ่หลายชนิดเข้ามาจำนวนมาก มาเป็นฝูงหนาทึบจนมองไม่เห็นพื้นทรายใต้ทะเล เป็นภาพที่งดงามมาก ปลาเล็กใหญ่เวียนว่ายกันอยู่รอบเสาหินปะการังเทียม จึงได้เลือกยิงเฉพาะปลากะพงขนาดใหญ่เท่านั้น ได้มาเพียง 6 ตัวๆ ละ เกือบ 10 กิโลกรัม เนื่องจากวันนี้ออกไปช้าทำให้ช่วงเวลาของน้ำมีการเปลี่ยนแปลง น้ำเริ่มเชี่ยวกราก เกรงเป็นอันตรายต่อชีวิต จึงได้เลือกยิงได้มาเพียง 6 ตัว น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม
       
       นายเอกศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการที่ดำน้ำยิงปลา พบว่า แหล่งปะการังเทียม ได้เสียหายไปอย่างมาก บางกองมีอวนติดอยู่จำนวนมาก บางกลุ่มจมหายลงไปในพื้นทรายทำให้แหล่งปะการังเทียมเริ่มเสื่อมโทรม มีคนเข้าไปแสวงหาประโยชน์ โดยเฉพาะเรืออวนลากผ่าเข้าไปยังกองแท่งปูนจนล้มระเนระนาด ทั้งหมดมี 8 กลุ่ม แต่ตอนนี้ล้มจมทรายเหลือเพียง 3 กลุ่มเท่านั้น ถ้าขืนล่อยไว้ก็จะทำให้เกิดเรื่องทำนองนี้บ่อย จนทำให้แหล่งปะการังเทียมเสียหาย สัตว์ทะเลไม่เข้ามาพักอาศัย หรือวางไข่อีกต่อไป
       
       นายสวัสดิ์ หอมปลื้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับคำยืนยันจากนักตกปลาแล้วว่า วาฬดังกล่าว ยังวนเวียนอยู่ในย่านหาดบางแสน-แหลมแท่น ใกล้กับแหล่งปะการังเทียมเพื่อหาปลากินง่ายกว่าที่อื่นๆ ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายการท่องเที่ยวใหม่ อีกทั้งนำข้อมูลมาเป็นแนวทาง และความเป็นไปได้ในการพัฒนา เพิ่มเติมด้านการส่งเสริมท่องเที่ยว หากกลุ่มวาฬชุดนี้จะกลับมาอีกครั้ง
       
       ส่วนทางด้านการส่งเสริมอนุรักษ์ แหล่งพันธุ์สัตว์น้ำ ที่ทางเทศบาลเคยนำเอาวัสดุสิ่งเหลือใช้มาทิ้ง หรือที่เรียกว่า ปะการังเทียม ที่บริเวณที่กลุ่มวาฬมานั้น ถือได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากที่ได้มีสัตว์น้ำเข้ามาอาศัยเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ในช่วงของเดือนตุลาคมนี้ และยิ่งกว่า นับว่าเป็นความโชคดีของชาว จังหวัดชลบุรี ที่ วาฬกลุ่มนี้เข้ามาให้ได้พบเห็นแบบใกล้ชิด ซึ่งจังหวัดชลบุรีไม่เคยพบวาฬ ตัวเป็นๆมาแหวกว่ายหาอาหารกินให้เห็นเลยสักครั้งเดียว
       
       ที่สำคัญ จะต้องสอดส่องดูแลเรืออวนลาก เรืออวนล้อมที่มักเข้าไปลากในบริเวณแหล่งปะการังเทียม ทราบว่าตอนนี้มีความเสียหายไปบ้างแล้วจำนวนมาก ต้องส่งเจ้าหน้าที่ดำสำรวจให้แน่ชัดอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นปะการังเทียมจะจมลงพื้นทรายหมด



จาก                               :                              ผู้จัดการออนไลน์      วันที่ 29 กันยายน 2551
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.083 วินาที กับ 21 คำสั่ง