เตือนภัย "แมงกะพรุน" กล่องถึงตาย

[สายชล]

ต้องไปรื้อภาพในกระดานข่าวแรกที่เล่าเกี่ยวกับเรื่อง Box Jellyfish ที่พวกเราได้พบเมื่อ 4 ปีก่อนมาลงกันใหม่น่าจะดีนะคะ...

[นกกินเปี้ยว]

ขอบคุณครับ ถ้ามีอีกก็ขอดูอีกครับ พอดีในกระทู้เก่าภาพหายหมดเสียแล้ว

ขอแนะนำตัวเองไว้นิดหน่อยนะครับ ปกติเป็นสมาชิกของเว็บบอร์ดสยามเอ็นซิส แล้วก็ไปแว๊บดูเว็บทะเลไทยอยู่บ้าง ส่วนเว็บนี้ก็เคยเข้ามาดูบ้าง แต่เพิ่งคิดจะสมัครก็วันนี้เองครับ

[สายชล]

.....ยินดีต้อนรับคุณนกกินเปี้ยว สู่บ้าน SOS ค่ะ....

ดีใจที่เราได้นักวิชาการเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งท่าน เชื่อว่าคุณจะช่วยทำให้บ้าน SOS ของเรามีสีสันและมีคุณค่าเพิ่มมากขึ้นแน่นอนค่ะ....

 

Box Jellyfish ตัวข้างล่างนี้ ถ่ายได้ที่หินแปดไมล์ค่ะ หนวดหายหมดแล้ว  เหลือแต่ตัวซึ่งใหญ่กว่ากำปั้นผู้ใหญ่  เข้าใจว่าคงถูกปลาตอดกินหนวดหมดค่ะ ด้านในลำตัวที่เป็นโพรง มีลูกปลาเล็กๆแอบหลบภัยอยู่หลายตัว และแมงกระพรุนกล่องตัวนี้ยังว่ายไปว่ายมาได้อย่างกระฉับกระเฉง ทั้งที่ไร้หนวด....


อ่านเรื่องเพิ่มเติมได้ที่ http://www.saveoursea.net/boardsmf/index.php?topic=107.40

[นกกินเปี้ยว]

รบกวนขอภาพที่หายไปของกระทู้เก่าๆ นี้หน่อยครับ ไม่ทราบว่ายังเก็บไว้ครบหรือเปล่า พอดีกำลังรวบรวมข้อมูล กะว่าจะเขียนบทความครับ ถ้าเขียนสำเร็จจะได้รบกวนขอภาพใช้ประกอบบทความอีกที พร้อมการอ้างอิงครับ


http://www.saveoursea.net/oldboard/viewtopic.php?t=182&sid=%207aa7b17f5855df041896b767f6901875

[topping]

บรึ๋ย .. อ่านแล้วน่ากลัวจัง คราวหลังลงน้ำ ต้องใส่ไอ้โม่งด้วยท่าจะดี เผื่อมันลอยมาด้านหลัง

[สายชล]

คงต้องใช้เวลาไปขุดจากกระดานข่าวเก่าที่เราปิดไปแล้วค่ะ....

อย่างไรก็ตาม...ภาพที่หายไปส่วนมากก็เป็นภาพที่ไปนำมาจากที่อื่น ลองตาม  link ที่ให้ไว้ อาจได้ภาพและเรื่องมาก็ได้นะคะ 

[นกกินเปี้ยว]

เฉพาะภาพที่ชาว SOS ถ่ายกันเองน่ะครับ จะได้ดูที่เป็นของไทยจริงๆ

[แม่หมูน้ำ]

แม่หมูน้ำได้อ่านกระทู้นี้ตอนอยู่ที่เกาะโอกินาวา ญี่ปุ่นคะ.... สอบถามเพื่อนๆ ชาวญี่ปุ่น พบว่าเค้าก็มีแมงกะพรุนกล่องเหมือนกัน หนวดมันจะยาวเกือบสองเมตรเลยทีเดียว เค้าเคยโดน บอกว่าปวดมากคะ... เพื่อนคนนึงโดนที่ปาก ปากบวมจนน่ากลัว ... (หากขอรูปเค้าได้ จะ post ให้คะ) เค้าต้องไปหาหมอ ฉีดยา ทานยา  เกือบสองอาทิตย์กว่าปากจะหายเจ่อคะ... ตามแหล่งท่องเที่ยวชายทะเล เค้าจะปิดโปสเตอร์ให้ความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลเมื่อถูกสัตว์ทะเลมีพิษชนิดต่างๆ

เสียดายที่บ้านเรา .. พอมีเรื่อง ก็ปิดข่าว เพราะเกรงว่าจะกระทบการท่องเที่ยว.... แต่แม่หมูน้ำไม่เห็นด้วยเลยนะคะ... ที่จริงเราควรต้องรณรงค์ให้ความรู้ว่าฤดูไหน  และที่ไหนที่เค้าจะ bloom รวมทั้งการปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยคะ

[สายชล]

เห็นด้วยกับน้องแม่หมูน้ำค่ะ....

เมื่อพึ่งหน่วยงานรัฐไม่ได้....SOS จึงต้องใช้วิธีเตือนภัยกันเองด้วยเรื่องและภาพอย่างที่เราทำนี่แหล่ะค่ะ 

แต่น่าเสียดายที่ชาวบ้านทั่วไปคงจะไม่มีโอกาสได้รับรู้อย่างเรา...

ยังจำได้ว่าเมื่อเห็นเจ้าแมงกะพรุนอยู่ใต้น้ำหน้าเกาะสาก พอขึ้นมาถึงผิวน้ำ ก็ตะโกนเตือนเด็กขับเรือกล้วย และพวกที่เล่นเจ๊ทสกีอยู่แถวนั้นให้ระมัดระวังอันตรายจากแมงกะพรุนพิษร้าย  แต่ไม่มีใครสนใจ ยังฉวัดเฉวียนเล่นอยู่แถวนั้นเฉยเลย โชคดีที่แมงกะพรุนคงรำคาญเสียงดังของเจ็ทสกี เลยหนีไปไกล

 

[สายน้ำ]

เตือน"แมงกะพรุน"พิฆาต อาละวาดเกาะพีพี

ทช.ทำหนังสือด่วน เตือน"แมงกะพรุนกล่อง"ระบาดหนักหมู่เกาะพีพี นักท่องเที่ยวถูกนำตัวส่งรพ.เพียบ พิษรุนแรงโจมตีหัวใจ ระบบประสาท เซลล์ผิวหนัง

นายวรรณเกียรติ ทับทิมแสง ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ว่า ขณะนี้ทช.ได้ทำหนังสือด่วน เพื่อเตือนเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวไปยังอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพี พี จ.กระบี่ และผู้ว่าราชการ จ.กระบี่ ว่า ขณะนี้มีแมงกะพรุนกล่อง หรือ Box Jellyfish ที่เป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวที่ลงไปดำน้ำเล่น ได้ระบาดเข้าไปในเกาะพีพีแล้ว ล่าสุดพบว่ามีนักท่องเที่ยวโดนพิษต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลกระบี่และสถานี อนามัยเกาะพีพี จำนวนมาก



"เนื่องจากแมงกะพรุนกล่องถือเป็นสัตว์ทะเลที่มีพิษ อันตรายมาก พิษจะเข้าไปโจมตีหัวใจ ระบบประสาท และเซลล์ผิวหนัง ทำให้หัวใจล้มเหลว และสร้างความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เพราะมีเข็มพิษกว่าล้านเซลล์ตามหนวดที่ยืดออกมาได้ไกล 2-3 เมตร และด้วยลักษณะตัวของมันที่ค่อนข้างใส ทำให้มองเห็นยาก จนกว่าจะถูกประชิดตัวแบบจังๆ นอกจากนี้ มันยังมีความพิเศษเพราะมันมีดวงตา และเข้าหาอาหารเองได้ จากปกติแมงกะพรุนชนิดอื่นๆ จะลอยไปตามกระแสน้ำ โดยวงจรชีวิตของมันยังเกี่ยวข้องกับพื้นที่นำกร่อย ป่าชายเลน จึงสามารถเจอแมงกะพรุนกล่องตั้งแต่ขณะที่ยังเป็นตัวอ่อน 3-4 ซม.และตัวเต็มวัยขนาดเท่าฝ่ามือ" นายวรรณเกียรติ กล่าว   

นายวรรณเกียรติ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 เดือน ที่ผ่านมาทช.เคยทำหนังสือเตือนเรื่องแมงกะพรุนตัวนี้ไปแล้ว แต่ในขณะนั้นพบที่ อ่าวน้ำบ่อ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่น้ำกร่อย แมงกะพรุนกล่องที่พบจะเป็นตัวอ่อน ทั้งนี้ปกติแล้วแมงกะพรุนทั่วไปจะเคลื่อนไหวโดยใช้กระแสน้ำ แต่แมงกะพรุนกล่องจะมีลักษณะพิเศษคือ สามารถเคลื่อนไหวเองได้ เพราะมีตา คาดว่าเป็นเพราะบริเวณดังกล่าวมีอาหารอุดมสมบูรณ์ขึ้น จึงเคลื่อนที่ตามแหล่งอาหารและไปเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยที่เกาะพีพี



นายวรรณเกียรติ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยมีรายงานว่ามีแมงกะพรุนชนิดนี้ระบาดมาก่อน แต่ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีการระบาดของแมงกะพรุนกล่องในเขตอันดามันมากขึ้นเรื่อยๆ ยังหาสาเหตุที่ชัดไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไร สถาบันฯภูเก็ตร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขมีโครงการที่จะนำเอาแมงกะพรุนชนิดนี้ มาเพาะเลี้ยง เพื่อศึกษาวงจรชีวิตอย่างละเอียด เพื่อหาวิธีการผลิตยาแก้พิษ เพราะปัจจุบันรักษาพิษกันตามอาการเท่านั้น ส่วนการแก้พิษเบื้องต้น ทำได้โดยการใช้น้ำมันสายชู และน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิตั้งแต่ 40 องศาเซลเซียล ขึ้นไปล้างบริเวณที่โดนพิษ โดยและห้ามใช้น้ำเย็นโดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้พิษแพร่กระจายรวดเร็วขึ้น จากนั้นก็รีบไปพบแพทย์ทันที



จาก                  :                   มติชน   วันที่ 5 พฤศจิกายน 2551

[ดอกปีบ]

วันนี้หนังสือพิมพ์ Bangkok Post ลงข่าวเรื่อง box jellyfish ในหน้าแรกเลยครับ เช่นเดียวกับมติชน เนื้อข่าวหลักๆก็รายงานเช่นเดียวกับมติชนครับเกี่ยวกับการประกาศเตือนนักท่องเที่ยวให้ระวังภัยจากแมงกระพรุนกล่อง หลังจากมีการพบบริเวณเกาะพีพี อ่าวโละซะมะ นักท่องเที่ยวหลายคนโดนพิษของแมงกระพรุนชนิดนี้แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต

เนื้อข่าวยังรายงานอีกว่า แมงกระพรุนกล่อง ไม่ได้เป็นสัตว์ทะเลที่ปกติจะพบเจอในน่านน้ำบ้านเรา และก็ยังแสดงถึงความกังวลในเรื่องผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างที่แม่หมูน้ำว่าอีกด้วย

ข่าวยังรายงานอีกว่า ตั้งแต่อดีต ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากพิษแมงกระพรุน (ข่าวไม่ได้รายงานว่าเป็นชนิดใด) แล้ว 2 ราย รายแรกในพ.ศ. 2545 ที่เกาะพงัน จังหวัดสุราษฎ์ธานี อีกราย ซึ่งเป็นรายล่าสุดก็เมษายนปีนี้ ที่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่

และสำหรับพิษจากแมงกระพรุนกล่อง ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย ไม่ต่ำกว่า 5,667 รายทั่วโลกเท่าที่มีการบันทึกสถิติเอาไว้ตั้งแต่ปีค.ศ. 1954

 

[สายน้ำ]

พวกเรายังโชคดีนะครับ  เราดำน้ำอยู่ใต้น้ำ สามารถเห็นได้ชัดเจน จึงสามารถหลบเลี่ยงได้ อย่างสองสายได้พบที่พัทยามาแล้ว 3 ครั้ง (ที่แหลมทอง เกาะล้าน / ที่หน้าอ่าวด้านเหนือของเกาะสาก / เหนือเรือคราม) และที่จาบังอีก 1 ครั้ง 

พวกนักท่องเที่ยวทั่วๆไป จะเล่นน้ำกันอยู่ที่ผิวน้ำ คงจะสังเกตเห็นยากมาก แต่ยังโชคดีที่โดนพิษของแมงกะพรุนชนิดนี้เข้าไปแล้ว ยังไม่ถึงตาย 

[นกกินเปี้ยว]

เสียดายไม่มีภาพตัวที่เกาะพีพีว่าหน้าตาเป็นแบบใด แต่ที่แน่ๆ ชนิดที่พบที่ภูเก็ต ซึ่งมีหนวดแต่ละมุมประมาณ 5 เเส้น เป็นชนิด Chiropsoides buitendijki (ภาพตั้งแต่ต้นกระทู้) รู้สึกจะยังไม่มีการายงานพบที่ออสเตรเลียอย่างเป็นทางการครับ แต่เป็นชนิดดั้งเดิมของมหาสมุทรอินเดีย พบแล้วตั้งแต่เกาะชวา มาเลเซีย อินเดีย ศรีลังกา และปากีสถาน ดังนั้นในประเทศไทยจึงน่าจะมีพวกนี้อยู่นานแล้ว เพียงแต่อาจจะเพิ่งมาเจอเยอะขึ้นจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปก็เป็นได้ครับ ชนิดนี้ ยังพบตัวอย่างจากเกาะลันตา และสตูลอีกด้วย แต่ตัวอย่างที่มีจากจังหวัดดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นชนิดที่มีหนวดมุมละเส้นเสียมากกว่า

[แม่หมูน้ำ]

หากสถานการยังเป็นแบบนี้ คือเราไม่สามารถคาดเดาว่าที่ไหนจะมีแมงกะพรุนมีพิษหรือไม่

เป็นไปได้ แม่หมูน้ำขอแนะนำว่า    ตามหาดที่นักท่องเที่ยวชอบเล่นน้ำนั้น ผู้ประกอบการน่าจะลงทุนกั้นตาข่ายป้องกันแมงกะพรุนเข้ามาในเขตเล่นน้ำ   พร้อมมีธงหรือสัญลักษณ์สดงการเตือนภัยจากสัตว์ทะเลมีพิษนะคะ