กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤศจิกายน 28, 2025, 03:09:48 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2551  (อ่าน 2602 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2008, 12:20:28 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และ อ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 28-30 ส.ค. ร่องความกดอากาศต่ำกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วประเทศมีฝนตกหนาแน่น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้

ส่วนในช่วงวันที่ 31 ส.ค. – 3 ก.ย. ร่องความกดอากาศต่ำนี้จะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนหนาแน่นมากกว่าภาคอื่นๆ


ข้อควรระวัง

ในระยะนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน และแพร่ ให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย



* Forecast2.jpg (43.14 KB, 693x430 - ดู 332 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2008, 12:43:20 AM »

กรุงเทพธุรกิจ


แหล่งเรือมันนอก ซากเรือกลไฟสมัย ร.6


ภาพร่างผังเรือเครื่องจักรไอน้ำอายุกว่า 100 ปี พบใต้ทะเล จ.ระยอง:

กรมศิลปากร โดยกลุ่มโบราณคดีใต้น้ำ สำนักโบราณคดี ทำการสำรวจแหล่งโบราณคดีใต้น้ำแห่งใหม่ ใกล้กับเกาะมันนอก จ.ระยอง

ระหว่างวันที่ 18-25 สิงหาคม 2551 การสำรวจเบื้องต้นพบซากเรือเหล็กขนาดกว้าง 6.5 เมตร ยาว 41.2 เมตร บริเวณกลางลำเรือพบเหรียญสมัยรัชกาลที่ 5 และเหรียญสมัยรัชกาลที่ 6 จำนวนหลายร้อยเหรียญ นอกจากนี้ยังพบล็อคเก็ตเงิน ที่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นนาฬิกาบอกทิศของกัปตันเรือ

เอิบเปรม วัชรางกูร หัวหน้ากลุ่มโบราณคดีใต้น้ำ กล่าวว่าเรือเหล็ก 2 ชั้นลำนี้เป็นเรือเครื่องจักรไอน้ำ หรือเรือกลไฟ โดยสภาพเป็นเรือโดยสารหรือเรือสินค้า ประเมินอายุเบื้องต้นจากเหรียญสมัยรัชกาลที่ 6 ได้ว่าเรือลำนี้น่าจะมีอายุประมาณ 90-99 ปี หรือช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

"นี่คือเรือกลไฟเก่าแก่ที่สุดที่เราพบในขณะนี้ เราพบหม้อน้ำที่ท้องเรือ พบอิฐจำนวนมากมีตราประทับที่ยังอ่านไม่ได้อยู่รอบๆ หม้อน้ำ พบท่อนไม้ ถ่าน เศษกระเบื้องที่มีตัวอักษรจีน นอกนั้นก็เป็นเศษวัสดุที่เป็นเครื่องประกอบเรือ เช่น กุญแจ ท่อทองแดง ช่องกระจก หลักเดวิดที่เอาไว้ผูกเรือเล็ก ส่วนโบราณวัตถุที่มีค่าก็คือเหรียญฝรั่งเศส เหรียญสมัย ร.5 กับ ร.6 สตางค์รู พดด้วง แล้วก็ล็อกเก็ตนาฬิกา เพราะจะสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเรือได้อีกมาก ถือว่าเป็นแหล่งโบราณคดีที่ค่อนข้างสมบูรณ์คือยังไม่ถูกรบกวนมากนัก ก็ขอฝากให้ท้องถิ่นจังหวัดระยอง ช่วยกันสอดส่องไม่ให้ใครมาลักลอบงมหาของจากแหล่งนี้ โอกาสหน้าเราจะกลับมาทำการขุดค้นอย่างละเอียดอีกครั้ง"

หัวหน้ากลุ่มโบราณคดีใต้น้ำให้รายละเอียดอีกว่าเหรียญรัชกาลที่ 5 ด้านหนึ่งเป็นพระรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นรูปตราแผ่นดินแบบเดียวกับโล่ของกรมตำรวจ

เหรียญรัชกาลที่ 6 พบ 4 รุ่น ระบุปี พ.ศ.2457,2458,2459 และ 2460 ด้านหน้าเหรียญเป็นพระรูปพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมคำว่า "วชิราวุธ สยามมินทร์" อีกด้านของเหรียญเป็นรูปช้างสามเศียร ขอบบนเป็นปีพุทธศักราช และตัวอักษร "หนึ่งบาท"

ล่าสุด ประกาศให้เป็นแหล่งโบราณคดีใต้น้ำ "แหล่งเรือมันนอก" ตามสถานที่พบ นับเป็นแหล่งเรือจมลำดับที่ 56 ที่มีการสำรวจพบในประเทศไทย ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติโบราณสถานโบราณวัตถุฯ ห้ามผู้ใดลักลอบเคลื่อนย้ายโบราณวัตถุออกจากแหล่ง และ/หรือรบกวนแหล่งโบราณคดีเด็ดขาด

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2008, 12:47:02 AM »

สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น


น้ำแข็งขั้วโลกเหนือทุบสถิติลดน้อยลง  

น้ำแข็งขั้วโลกเหนือ ทุบสถิติมีปริมาณน้อยสุดรอบสอง น้ำแข็งขั้วโลกเหนือทำสถิติละลายมากที่สุดติดต่อเป็นครั้งที่สองแล้ว ด้านนักวิทย์นาซาประเมินขั้วโลกใต้ภายในอีก 5-10 ปี จะมีน้ำแข็งเฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ว่า ศูนย์ข้อมูลน้ำแข็งและหิมะแห่งชาติสหรัฐเปิดเผยว่า น้ำแข็งในขั้วโลกเหนือได้ทำสถิติมีปริมาณน้อยที่สุดเป็นครั้งที่สองในรอบ 30 ปี โดยมีปริมาณครอบคลุมพื้นที่ราว 2.03 ล้านตร.ไมล์ โดยปริมาณต่ำที่สุดครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 1979
มีปริมาณครอบคลุมพื้นที่1.65 ตร.ไมล์ และเมื่อประเมินจากช่วงฤดูร้อนที่ยังเหลือเวลาอีกหลายสัปดาห์ คาดว่าปริมาณน้ำแข็งขั้วโลกเหนืออาจทำลายสถิติก่อนหน้านี้ด้วย

รายงานระบุว่า ปกติแล้วน้ำแข็งขั้วโลกเหนือจะลายในช่วงฤดูร้อนและกลับมาแข็งตัวในช่วงฤดูหนาว แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา น้ำแข็งขั้วโลกเหนือจำนวนมาก ได้ไหลลงสู่ทะเลและไม่กลับมาแข็งอีก ประเมินว่าเพราะทะเลเปิดมีความร้อนสูงกว่าเดิม จึงทำให้การละลายตัวของน้ำแข็งเหนือขยายตัวขึ้น และยังส่งผลให้หลายพื้นที่ของโลกร้อนขึ้นด้วย นอกจากนี้ ภาวะน้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลายยังเป็นอันตรายต่อหมีขั้วโลกด้วย ด้านนายเจย์ ซีวัลลี่ นักวิทยาศาสตร์ด้านน้ำแข็งประจำนาซา ชี้ว่า ประเมินว่าภายใน 5-10 ปี ขั้วโลกใต้จะไร้ซึ่งน้ำแข็งในช่วงฤดูร้อน

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #3 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2008, 12:48:26 AM »

มติชน


"สมิทธ"แนะสร้างเขื่อนกั้นอ่าวไทยรับมือ"สตอมเซิร์จ"

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ  ได้บรรยายเรื่อง โลกร้อน มหันตภัยใกล้ตัว ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ว่า การให้ข้อมูลภัยธรรมชาติเป็นดาบ 2 คม ทำให้เกิดความแตกตื่นแต่ถือเป็นการให้องค์ความรู้สอนให้รู้จักภัยธรรมชาติ ซึ่งการเตือนอาจเกิดปรากฏการณน้ำทะเลยกตัว(Storm Surge) สูง 5 -7 เมตร ช่วงเดือนสิงหาคม – พฤศจิกายน ได้เสนอแนวคิดให้มีการป้องกันโดยมีการทำเขื่อนกั้นทะเลอ่าวไทย จากฝั่ง จ.เพชรบุรี – จ.ชลบุรี เป็นถนนระยะทางประมาณ 100 ก.ม. กั้นเขตน้ำจืดกับน้ำเค็ม โดยรัฐบาลต้องทำเป็นวาระแห่งชาติ และอาจลดงบประมาณทำรถไฟใต้ดิน 4 เส้นทางให้เหลือ 3 เส้น นำเงินไปทำเขื่อนแทน เพราะไม่เช่นนั้นน้ำทะเลหนุนท่วมรถไฟใต้ดินต้องจมอยู่ใต้น้ำ

นายสมิทธ กล่าวว่า เขื่อนดังกล่าวมีผลกระทบในแง่การประมงแหล่งปลาทูวางไข่ และประมงชายฝั่ง แต่สามารถกันน้ำทะเลเข้าท่วมพื้นที่แหล่งน้ำประปากรุงเทพฯที่กระทบต่อประชาชนร่วม 10 ล้านคน และหากน้ำทะเลยกตัวสูงพื้นที่ได้รับผลกระทบเต็มที่อยู่แถบชายฝั่ง จ.สมุทรสาคร สมุทรสงครามและ จ.สมุทรปราการ ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งริมน้ำหลายพันแห่ง ส่วนใหญ่เป็นโรงงานส่งออกต่างประเทศ และมีคนงานร่วม 1 แสนคนต้องถูกน้ำท่วม 

“ โดยที่ผ่านมาเริ่มเห็นภาวะน้ำแข็งขั้วโลกละลายทำให้น้ำทะเลสูงขึ้นที่หาดสมิหลา จ.สงขลา น้ำทะเลหนุนสูงใกล้แท่นรูปปั้นนางเหงือกแล้ว จากที่เคยมีระยะห่างกันมาก ซึ่งเป็นสิ่งบอกเหตุให้เราต้องหาทางป้องกัน ”  นายสมิทธ กล่าว

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.022 วินาที กับ 20 คำสั่ง