กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤศจิกายน 28, 2025, 05:15:38 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม 2551  (อ่าน 3942 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: ตุลาคม 08, 2008, 11:48:38 PM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องความกดอากาศต่ำยังคงพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ทำให้ทั่วประเทศมีฝนฟ้าคะนองกระจาย โดยมีฝนตกหนัก บางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 33 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในวันที่ 8-11 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ทำให้ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่าน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนน้อยลง ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางพื้นที่

หลังจากนั้น( 12-14 ต.ค.) บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยอีก ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนร่องความกดอากาศต่ำจะเลื่อนลงไปพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบนและอ่าวไทย ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่


ข้อควรระวัง

ในวันที่ 11-14 ต.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ตอนบนโดยเฉพาะจังหวัดราชบุรี เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก



* Forecast2.jpg (41.64 KB, 693x430 - ดู 699 ครั้ง.)

* Earthquake.jpg (33.63 KB, 400x440 - ดู 677 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2008, 12:05:15 AM »

มติชน


นักวิทย์"ญี่ปุ่น-มะกัน"มาแรง คว้าโนเบลเคมี ผลงานค้นพบโปรตีนเรืองแสงจากแมงกะพรุน



นักวิทยาศาสตร์อเมริกันและญี่ปุ่นมาแรง ค้นพบโปรตีนจีเอฟพีจากแมงกะพรุนเรืองแสงสีเขียวมาช่วยดูการเติบโตก้อนเนื้อมะเร็ง คว้า"โนเบลสาขาเคมี"ในวันนี้ ก่อนหน้านักวิทย์สองชาติรับไปแล้วโนเบลสาขาฟิสิกส์



สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมว่า นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน 2 ราย และชาวญี่ปุ่น 1 รายได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีประจำปี 2551 จากการประกาศของราชบัณฑิตยสถานด้านวิทยาศาสตร์ของสวีเดน

 

นายโอซามุ ชิโมมูระ ชาวญี่ปุ่น และนาย มาร์ติน ชาลฟีกับ นายโรเจอร์ เซียน ชาวอเมริกันได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีประจำปีนี้จากการค้นพบโปรตีนจีเอฟพีซึ่งเป็นโปรตีนที่ได้จากแมงกระพรุนพันธุ์ aequorea victoria โดยโปรตีนชนิดนี้จะเรืองแสงเป็นสีเขียวเข้มภายใต้แสงไฟสีฟ้าและรังสีอัลตราไวโอเล็ตทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเห็นการเจริญเติบโตของก้อนเนื้อที่เป็นมะเร็ง เห็นพัฒนาการของโรคอัลไซเมอร์ในสมองหรือการขยายตัวของเชื้อแบคทีเรียที่มีพิษได้ชัดเจน
 
ทั้งสามคนจะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 10 ล้านโครน (ราว 4,800,000 บาท) โดยพิธีมอบรางวัลจะจัดขึ้นที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้



ขณะนี้ยังไม่ได้ประกาศผลรางวัลโนเบลในสาขาวิทยาศาสตร์ วรรณกรรมและสันติภาพ เริ่มต้นมีการมอบให้กับผู้ทำคุณประโยชน์ในด้านต่างๆ ตั้งแต่เมื่อปี 2444 โดยก่อตั้งขึ้นตามเจตนารมณ์ของนักวิทยาศาสตร์มหาเศรษฐีอัลเฟรด โนเบล ภายหลังได้มีการเพิ่มสาขาเศรษฐศาสตร์ขึ้นมาเมื่อปี 2511 โดยในวันที่ 9 ตุลาคม จะมีการประกาศผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมและตามด้วยสาขาสันติภาพในวันที่ 10 ตุลาคม ปิดท้ายด้วยสาขาเศรษฐศาสตร์ในวันที่ 13 ตุลาคม

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2008, 12:07:25 AM »

ข่าวสด


สัตว์น้ำน่าขัน


 
เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก นำภาพสัตว์หน้าตาน่าขันและแปลกตามาให้ชม ภาพแรกเป็น "ปลาแบต" พบที่เกาะโคคอสของคอสตาริกา มีริมฝีปากกว้าง ว่ายน้ำไม่เก่ง ภาพที่ 2 เป็น "ปลาเบลนนี่" พบที่หมู่เกาะโซโลมอนส์ หน้าของมันมีลายจุดเหมือนตกกระ ภาพที่ 3 เป็น "ปลาฟร็อก" หรือ "ปลาแองเกลอร์" สีแดง อยู่ที่หมู่เกาะโซโลมอนส์เช่นกัน ส่วนภาพที่ 4 เป็น "ปลาไหลบลูริบบอนอีล" ที่หมู่เกาะฟิจิ

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2008, 12:12:08 AM »

X-cite  ไทยโพสต์


สัตว์ทะเลลึกแห่งภูเขาไฟใต้น้ำ                                   :                              คอลัมน์โลกน่ารู้

นักวิทยาศาสตร์ออสเตรเลียค้นพบสัตว์ทะเลชนิดใหม่ถึง 274 ชนิด มีทั้งปลา ปะการังโบราณ สัตว์จำพวกหอยและหมึก สัตว์มีเปลือกแข็งหุ้มตัวจำพวกกุ้งและปู และฟองน้ำ

สัตว์ทะเลเหล่านี้อาศัยอยู่ในน้ำเย็นจัด ที่ความลึก 3,000 เมตร ในบริเวณภูเขาไฟที่ดับแล้ว

องค์การวิจัยอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์เครือสหราชอาณาจักร  หรือซีโร ได้ไปทำแผนที่ภูมิประเทศที่เป็นภูเขา  ซึ่งมีความสูงถึง  500  เมตร  และโตรกผาซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าแกรนด์แคนยอน เป็นครั้งแรก

เรือสำรวจของซีโรได้ไปเก็บข้อมูลในอุทยานทางทะเล ห่างจากเกาะแทสเมเนียทางทิศใต้ของออสเตรเลียราว 100 ไมล์ทะเล เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2549 และเดือนเมษายน 2550 โดยใช้เทคโนโลยีโซนาร์และกล้องวิดีโอแบบใหม่ รวมทั้งเก็บตัวอย่างบนพื้นทะเล

เคต วิลสัน นักวิทยาศาสตร์ของซีโร พูดตอนหนึ่งระหว่างประกาศการค้นพบนี้ที่เมืองโฮบาร์ตของแทสเมเนียว่า  ทุกวันนี้เรารู้เกี่ยวกับพื้นผิวของดาวอังคารมากกว่าทะเลลึกในมหาสมุทรต่างๆ ของโลกเสียอีก

"ในน่านน้ำของออสเตรเลียกว่า 40% ของสัตว์ที่เก็บตัวอย่างขึ้นมานี้ เราไม่เคยรู้จักมาก่อน" เธอบอก

นิก แบ็กซ์ ผู้เชี่ยวชาญของซีโร บอกว่า การสำรวจทำให้พบภูเขาใต้น้ำ 123 ลูก "มันเป็นเสมือนป่าฝนแห่งทะเลลึก  มีสัตว์อาศัยอยู่มากมาย หลายชนิดพบได้แต่ในน้ำลึกเท่านั้น บางบริเวณปะการังมีความสูงถึง  2 เมตร มีอายุราว 300 ปีเป็นอย่างน้อย ปะการังในบางจุดอาจมีอายุถึง 2,000 ปี"

รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของออสเตรเลีย  ปีเตอร์  แกร์เร็ต บอกว่า งานวิจัยนี้จะช่วยอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในมหาสมุทรของออสเตรเลีย

"เราจะเข้าใจถึงผลกระทบจากภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง  กระแสน้ำ  ผลของอุณหภูมิน้ำต่อความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต" เขาบอก.

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #4 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2008, 12:19:43 AM »

แนวหน้า


ปภ.เตือนภัยพิบัติดินถล่ม "ประจวบ-ชุมพร"อันตราย พายุฝนถล่มยาวถึงปลายปี    
 
 นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) ซึ่งมี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเตรียมความพร้อมด้านการป้องกันและการแจ้งเตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.ประจวบคีรีขันธ์และ จ.ชุมพร พบว่าในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.2551 ร่องฝนจะเลื่อนพาดผ่านภาคใต้ และมีโอกาสที่พายุหมุนเขตร้อนจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคใต้ ทำให้มีฝนตกหนักตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.ชุมพร ลงไป

 ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่มในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ และจ.ประจวบคีรีขันธ์ในฤดูมรสุมนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 14 จังหวัด และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยฯ ระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมจัดทำแผนเฉพาะกิจในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยฯ ปี 2551 โดยวางระบบการเฝ้าระวัง แผนการอพยพ เส้นทางอพยพ การแจ้งเตือนภัย และกำหนดพื้นที่รองรับการอพยพ

 นายอนุชาฯ กล่าวต่อไปว่า จากการสำรวจข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติดินถล่มใน 14 จังหวัดภาคใต้ พบว่ามีพื้นที่เสี่ยง 722 หมู่บ้าน และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่เสี่ยง 19 หมู่บ้าน รวมทั้งสิ้น 741 หมู่บ้าน และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันภัยพิบัติจากภาวะฝนตกหนักในระยะนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้พัฒนาระบบการเฝ้าระวังสำหรับการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม หากได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนสาธารณภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป 


*************************************************************************************************************************


ทส.ฟุ้งงานแก้ปัญหา พื้นที่เสี่ยง"ดินถล่ม" เร่งผุด"แนวป้องกัน" วางต้นแบบทั่วปท.    
 
 นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานด้านธรณีพิบัติภัยดินถล่ม ว่า ตามที่มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2545 และวันที่ 30 กันยายน 2546 ให้กรมทรัพยากรธรณีเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มทั่วประเทศ และจัดตั้งเครือข่ายเหตุธรณีพิบัติภัยโดยเป็นการจัดตั้งเครือข่ายภาคประชาชนและท้องถิ่น เพื่อเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยโดยมีการบูรณาการร่วมกับภูมิปัญญาท้อถิ่นนั้น จนถึงขณะนี้ได้มีการประเมินความเสี่ยงพิบัติภัยดินถล่ม จัดทำแผนที่เสี่ยงภัยดินถล่ม และบัญชีรายชื่อหมู่บ้านเสี่ยงภัยดินถล่ม ซึ่งพบว่ามีพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม 2,371 หมู่บ้าน 692 ตำบล 254 อำเภอใน 51 จังหวัด

 ทั้งนี้โดยได้ดำเนินการจัดตั้งเครือข่ายแจ้งเหตุธรณีภัยพิบัติภัยที่จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นจังหวัดแรก ในปี 2546 และได้ดำเนินการแล้วเสร็จแล้วจนถึงปีงบประมาณ 2551 เป็นจำนวน 26 จังหวัด รวมพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม 1,304 หมู่บ้าน 300 ตำบล 5 กิ่งอำเภอ 126 อำเภอ มีจำนวนอาสาสมัครเครือข่าย 10,436 ราย แลในปีงบประมาณ 2552 นี้จะดำเนินการจัดตั้งเครือข่ายเพิ่มอีกใน 5 จังวัด ประกอบด้วย จังหวัดระนอง, กำแพงเพชร, พิษณุโลก, กาญจนบุรี และตราด และในส่วนจังหวัดที่มีความเสี่ยงรองลงมา จะเร่งดำเนินการให้แล้เสร็จภายในปี 2555

 นอกจากนี้ได้ทำการซักซ้อมแผนการเฝ้าระวังและจำลองเหตุการณ์กรณีธรณีพิบัติภัยดินถล่ม โดยได้ดำเนินการในปีงบประมาณ 2550 โดยคัดเลือกจากจังหวัดที่ได้ดำเนินการจัดตั้งเครือข่ายฯไว้แล้ว จนถึงปีงบประมาณ 2551 ได้ดำการไปแล้ว 17 จังหวัด และในปีงบประมาณ 2552 จะดำเนินการซักซ้อมทบทวนแผนการเฝ้าระวังและจำลองเหตุการณ์กรณีเกิดธรณี พิบัติภัยดินถล่ม เพิ่มอีกใน 6 จังหวัดประกอบด้วยจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ ลำปาง และตาก จำนวนอาสาสมัครเพิ่มเป็น 3,267 คน

 นายอภิชัย ยังกล่าวถึงการดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบดินถล่มว่า ได้ปรับปรุงร่องน้ำ เพิ่มความเสถียรให้กับพื้นที่ลาดชันโดยใช้กระสอบแบบมีปีก ในพ้นที่นำร่องที่บ้านน้ำต๊ะ ตำบลน้ำหมัน อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนา กรมอุทยาน สัตว์ป่าและพันธ์พืช กรมป่าไม้ กรมชลประทาน โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และในปี 2552 จะดำเนินกาฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบดินถล่มในพื้นที่ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ในโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำแม่งอน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #5 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2008, 12:25:34 AM »

สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น


เชียงใหม่เปิดศูนย์แสดงสัตว์น้ำจืด-เค็ม    

สวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดตัว ศูนย์แสดงสัตว์น้ำจืดและเค็ม มูลค่า 600 ล้านบาท ที่มีอุโมงค์ใต้น้ำที่ยาวที่สุดในโลก

สวนสัตว์เชียงใหม่ แถลงเปิดตัว อควอเรี่ยมศูนย์แสดงสัตว์น้ำเค็มและจืดที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และอุโมงค์ใต้น้ำที่ยาวที่สุดในโลก นายโสภณ ดำนุ้ย ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ เปิดเผยความคืบหน้าการก่อสร้างอวอเรี่ยมว่าเสร็จไปแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ได้งบลงทุนกว่า 600 ล้านบาท และพร้อมที่จะเปิดให้บริการภายในเดือนตุลาคมนี้อย่างแน่นอน โดยทางทีมงานได้คัดเลือกพันธุ์ปลาที่น่าสนใจและหายากกว่า 8 พันตัว 250 สายพันธุ์ มาอนุบาล เพื่อเตรียมพร้อมในการขนย้ายมาปล่อยในอุโมงค์ใต้น้ำแล้ว โดยปลาที่จะสร้างสีสันและดึงดูดนักท่องเที่ยวจะมีทั้ง อะโรไพม่า ยาวกว่า 1 เมตร, ฉลามเสือดาว, ปลากระเบน, และปลาหมอทะเล เป็นต้น โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าชมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน/เดือน และมีรายได้กว่า 250 ล้านบาท/ปี

ทั้งนี้ในช่วงแรกจะมีการลดราคาค่าผ่านประตู โดยผู้ใหญ่เสียค่าผ่านประตู 180 บาท จากราคาปกติ 250 บาท เด็กน้อย 30 บาท จาก 180 บาท และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 450 บาท เด็ก 350 บาท

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.022 วินาที กับ 20 คำสั่ง