ยิ่งสำรวจยิ่งพบ สิ่งมีชีวิตประหลาดที่แอนตาร์กติกา

[สายน้ำ]

ยิ่งสำรวจยิ่งพบ สิ่งมีชีวิตประหลาดที่แอนตาร์กติกา


หน้าตาเหมือนเพรียงหัวหอม (tunicates) สีขาวใสบอบบางเหมือนแก้ว พบอยู่ใต้แอนตาร์กติกาลึกลงไป 220 เมตร และลึกลงไปที่ 1,000 เมตรบริเวณขั้วโลกเป็นทะเลน้ำแข็ง ก็จะพบสิ่งมีชีวิตหน้าตาแปลกๆ อีกมากมาย (ภาพ Australian Antarctic Division)

       นักวิทยาศาสตร์สำรวจทะเลน้ำแข็งในมหาสมุทรแอนตาร์กติกา พบสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดมากมาย ทั้งแมงมุมทะเลยักษ์และหนอนเบิ้มต่างอาศัยอยู่ในห้วงทะเลมืดลึกและหนาวเย็น
       
       ผู้เชี่ยวชาญทางสัตว์น้ำทั้งจากออสเตรเลีย ฝรั่งเศสและญี่ปุ่นเข้าร่วมโครงการนานาชาติเพื่อสำมะโนประชากรสัตว์ทะเลในโลกซีกใต้ที่ไกลออกไป โดยเก็บตัวอย่างสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่อยู่ในห้วงทะเลลึก 6,500 ฟุต และส่วนใหญ่ก็ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน


ฟองน้ำทะเล, กัลปังหา และปะการังแบบเส้นเกาะกันอยู่ที่พื้นทะเลลึกลงไป 400 เมตร (Australian Antarctic Division)
       
       สัตว์ใต้ทะเลบางชนิดเติบโตมาด้วยรูปลักษณะที่ใหญ่ผิดปกติ นับเป็นปรากฎการณ์ที่เรียกว่า รูปร่างใหญ่กว่าปกติ หรือไจแอนทิซึม (gigantism) ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าใดนัก
       
       "ไจแอนทิซึมนับเป็นเรื่องปกติสำหรับทะเลแอนตาร์กติกา" คำบอกเล่าของมาร์ติน ริดเดิล (Martin Riddle) นักวิทยาศาสตร์แผนกแอนตาร์กติกาของออสเตรเลีย (Australian Antarctic Division) ผู้นำการสำรวจทะเลขั้วโลกใต้
       
       ทั้งนี้ทีมสำรวจของพวกเขาเก็บตัวอย่างหนอนขนาดใหญ่ สัตว์จำพวกกุ้งปูที่ใหญ่กว่าปกติ และยังพบแมงมุมทะเลขนาดเท่าจานข้าว


กัลปังหาสีสันสดใส พร้อมด้วยไบรโอโซนหรือเสื่อทะเล และฟองน้ำที่ความลึก 600 เมตร ใต้มหาสมุทรแอนตาร์กติกา (ภาพ Australian Antarctic Division)
       
       นอกจากสัตว์น้ำหน้าตาประหลาดหลากชนิดแล้ว นักวิทยาศาสตร์ยังพบสัตว์ที่กินแพลงตอนเป็นอาหารเป็นเหมือนแก้วใส อยู่เต็มก้นทะเล
       
       ตัวอย่างของสิ่งมีชีวิตหน้าตาแปลกๆ เหล่านี้ถูกส่งต่อไปยังมหาวิทยาลัยและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทั่วโลก เพื่อช่วยกันระบุสายพันธุ์ ลำดับอนุกรมวิธานจากตัวอย่างเนื้อเยื่อ และการวิเคราะห์ทางรหัสพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ)
       
       "ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตทุกตัวที่เราเก็บได้ จะสามารถระบุชนิดได้ และแน่นอนว่าจะต้องมีสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่เราค้นพบระหว่างการเดินทางมากมาย" เกรมแฮม โฮซี (Graham Hosie) ผู้นำโครงการสำรวจประชากรสัตว์น้ำอธิบาย


ภาพซ้ายคือหนอนยักษ์ที่ก้นทะเล ส่วนขวากัลปังหาและเสื่อทะเล (ภาพ Australian Antarctic Division /AP)
       
       โครงการสำรวจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระดับนานาชาติในความพยายามที่จะทำแผนที่รูปแบบสิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรแอนตาร์กติกา ซึ่งรู้จักกันในนาม "มหาสมุทรตอนใต้" (Southern Ocean) และต้องการศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศที่มีต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้ท้องทะเล
       
       เรือที่ใช้ในการสำรวจทะเลใต้นี้มีถึง 3 ลำด้วยกัน ได้แก่ ออโรรา ออสตราลิส (Aurora Australis) ของออสเตรเลีย, ลาสโตลาบ (L'Astrolabe) ของฝรั่งเศส และยูมิตากะ มารุ (Umitaka Maru) ของญี่ปุ่น เพิ่งกลับมาจากการสำรวจที่ยาวนานถึง 2 เดือน
       
       เรือสำรวจของฝรั่งเศสและญี่ปุ่นต่างเดินทางเก็บตัวอย่างในตอนกลางและตอนเหนือของแอนตาร์กติกา ส่วนออสเตรเลียลงสำรวจห้วงน้ำลึกด้วยกล้องควบคุมระยะไกล


ปลาคอดทางยาว (Grenadier fish) ปลาน้ำลึกกำลังแหวกว่ายเหนือฟองน้ำแก้วใต้แอนตาร์กติกา (ภาพ Australian Antarctic Division /AP)
       
       การเดินทางสำรวจครั้งนี้เพื่อเก็บข้อมูลประชากรสัตว์น้ำใต้แอนตาร์กติกาตามโครงการความร่วมมือสำมะโนประชากรสัตว์น้ำในแอนตาร์กติกาตะวันออก (Collaborative East Antarctic Marine Census) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำแผนที่และความหลากหลายทางทะเลครั้งใหญ่ของโลกเรา โดยมีแผนการสำรวจ 10-15 ปี พร้อมจุดประสงค์ที่สำคัญยิ่งคือผลกระทบของสภาพการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศต่อสภาพแวดล้อมใต้ทะเล




จาก                    :                       ผู้จัดการออนไลน์    วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2551 

[สายน้ำ]

ดูใต้ทะเลแอนตาร์กติก เจอแมงมุมตัวใหญ่เท่าจานข้าว


 
โลกใต้ทะเลยังมีอะไรให้สำรวจอีกเยอะ นายมาร์ติน ริดเดิล หัวหน้าทีมนักสำรวจของเรือ "ออโรร่า ออสเตรลิส" ออกไปสำรวจใต้ทะเลแอนตาร์กติกความลึก 1,000 เมตร และพบสิ่งน่าสนใจมากมาย อย่างแมงมุมทะเลตัวใหญ่เท่าจานข้าว แมงกะพรุนหนวดยาว 6 เมตร

ริดเดิล กล่าวว่า "สัตว์ขนาดมหึมานับเป็นสิ่งปกติที่พบในทะเลแอนตาร์กติก เราเก็บหนอนตัวใหญ่ สัตว์จำพวกกุ้งปู แมงมุมตัวเท่าจาน พวกมันอาศัยอยู่ในที่มืด มีตาโต รวมทั้งมีปลาหน้าตาแปลกๆ เมื่อไปดูภาพวิดีโอที่ถ่ายไว้ จะเห็นภูเขายักษ์ใต้ทะเล มีเนินเขา พวกสัตว์อยู่อย่างสงบเพราะไม่ได้เป็นพื้นที่ถูกรบกวน ในบางพื้นที่ที่ถ่ายมา พบว่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ทุกตารางนิ้ว"

การสำรวจของ "ออโรร่า ออสเตรลิส" ของออสเตรเลีย ในช่วงหน้าร้อนที่เพิ่งผ่านมาหรือตรงกับหน้าหนาวของไทย รวมทั้งการสำรวจของเรืออีก 2 ลำ คือ "ลาสโตรลาเบ้" ของฝรั่งเศส และเรือ "อูมิตากะมารู" ของญี่ปุ่น มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักวิทยาศาสตร์สังเกตผลกระทบของสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปในทะเลแอนตาร์กติก เช่น ระดับกรดในน้ำทะเลสูงขึ้น อันเกิดจากการเพิ่มจำนวนคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ จนอาจทำให้สัตว์ใต้ทะเลมีความเป็นอยู่ที่ลำบาก อย่างเปลือกกุ้งและปูนิ่มลง เพราะแคลเซียมคาร์บอเนตที่เป็นองค์ประกอบของเปลือก ถูกกรดในน้ำทะเลกัด

นายแกรมห์ โฮซี่ ผู้นำโครงการสำรวจประชากรสัตว์ทะเลในแอนตาร์กติกของเรือ "อูมิตากะมารู" กล่าวว่า สัตว์บางชนิดที่จับมาพบในทะเลลึก 200-1,400 เมตร มีน้ำหนักถึง 30 กิโลกรัม และ 25% ของสัตว์ที่พบนั้น ไม่เคยพบเห็นและรู้จักกันมาก่อน

สำหรับเรือ 3 ลำนั้นแบ่งหน้าที่กันสำรวจ เรือฝรั่งเศสและญี่ปุ่นสำรวจทะเลระดับพื้นผิวและระดับกลาง ส่วนเรือออสเตรเลียมีหน้าที่สำรวจน้ำทะเลระดับลึกและพื้นมหาสมุทร สัตว์ที่จับได้จะส่งไปยังมหาวิทยาลัยและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทั่วโลก เพื่อระบุว่าเป็นสัตว์ประเภทใด รวมทั้งหาตัวอย่างเนื้อเยื่อและถอดรหัสดีเอ็นเอ



จาก                    :                       ข่าวสด    วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2551  

[kungkings]

น่าตื่นเต้นมั่ก ๆ เลยคะ 

[WayfarinG]

น่าสนใจไปดำอย่างยิ่ง แต่คาดว่าคงแข็งตาย..