สายน้ำ
|
|
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2009, 11:43:40 PM » |
|
กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป
บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาเกิดขึ้นได้ในหลายพื้นที่ ขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาในระยะนี้ไว้ด้วย
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ และมีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. คาดหมาย
ในช่วงวันที่ 8-10 ก.พ. 52 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมเข้ามาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ประกอบกับจะมีลมตะวันออกพัดปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศา มีหมอกหนาเกิดขึ้นได้ในหลายพื้นที่และมีฝนเป็นแห่งๆ อนึ่ง ในช่วงระหว่างวันที่ 12-16 ก.พ. คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ทำให้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นและอุณหภูมิลดลง
ข้อควรระวัง
ในระยะนี้ขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
|
|
|
|
|
สายน้ำ
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2009, 12:03:40 AM » |
|
มติชน
สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ และทางวัฒนธรรม : คอลัมน์ สยามประเทศไทย โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ
แผนที่ประวัติศาสตร์และแผนที่ทางวัฒนธรรม ของ (สยาม) ประเทศไทย (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สนับสนุนทุนพิมพ์) เป็นหนังสือที่ผมเขียนอธิบายเรื่องราวทางสังคมและวัฒนธรรมของดินแดนและผู้คนบริเวณสุวรรณภูมิ (Southeast Asia) ที่สืบเนื่องเป็นสยามประเทศไทย โดยศึกษาผ่านแผนที่แสดงสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ กับสิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรม ที่มีควบคู่อยู่ด้วยกันมาแต่ยุคดึกดำบรรพ์ แต่เราไม่เอาใจใส่ให้ครบเท่านั้นเอง
เฉพาะแผนที่วัฒนธรรม ผมเขียนอธิบายว่า เขตการปกครองของประเทศไทยคลาดเคลื่อนจากลักษณะภูมิประเทศและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เช่น กำหนดให้กลุ่มรัฐสุโขทัยเป็นภาคเหนือตอนล่าง ทั้งๆ ที่ภูมิประเทศและประวัติศาสตร์เป็นภาคกลางตอนบน เป็นต้น
ฉะนั้น บริเวณประเทศไทยควรจัดแบ่งตาม "เขตพื้นที่ทางวัฒนธรรม" ที่แตกต่างกัน โดยดูจากหลักฐานประวัติศาสตร์โบราณคดี แผนที่ทางสังคมวัฒนธรรมระบุ ประวัติศาสตร์"เครือญาติ"สุวรรณภูมิ มีอยู่ในหนังสือ แผนที่ประวัติศาสตร์ และแผนที่วัฒนธรรม ของ (สยาม) ประเทศไทย (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สนับสนุนทุนพิมพ์) ราคาเล่มละ 300 บาท
ลำตะคอง เป็นลำน้ำมีกำเนิดจากดงพญาเย็น (ดงพญาไฟ) มีสาขาไหลผ่านอำเภอปากช่อง, อำเภอสีคิ้ว, อำเภอสูงเนิน, อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา แล้วไหลลงแม่น้ำมูล
ลุ่มน้ำมูล เป็นวัฒนธรรมพราหมณ์-มหายาน ตั้งแต่จังหวัดนครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี
ชื่อ "ตะคอง" น่าจะมีรากจากคำว่า ตะครอง หมายถึงไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ต้น กิ่ง ก้าน ใบ คล้ายพุทรา แต่ใบหนากว่า มีหนามแหลมคม ผลกลมขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ เนื้อแน่น กินไม่ได้
โครงการเขื่อนลำตะคอง ปิดกั้นลำตะคองระหว่างช่องเขาเขื่อนลั่นกับเขาถ่านเสียด ที่ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว ทางตะวันตกของที่ตั้งจังหวัดนครราชสีมา 60 กิโลเมตร
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รับผิดชอบดูแลโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ลำตะคองสูบกลับ กำลังเชิญนักวิชาการในพื้นที่จัดทำแผนที่ทางสังคม เพื่อเป็นเครื่องมือพัฒนาพื้นที่บริเวณนั้น มณฑล ณ ภูธร เขียนบอกเล่าเรื่องชวนทำ แผนที่ทางสังคม ในคอลัมน์ร้อยสรรพรส (มติชน ฉบับวันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 หน้า 20) สรุปว่า
"แผนที่ทางสังคม เป็นกระบวนการรวบรวมข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ของชุมชนนั้นๆ ข้อมูลที่เก็บรวบรวมก็มีตั้งแต่สภาพภูมิประเทศ จำนวนประชากรไปจนถึงวัฒนธรรม ประเพณี
การทำแผนที่ทางสังคมของชุมชน จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้คนในชุมชนเข้าใจความสำคัญของตัวเอง"
ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล เล่าเรื่องที่มาของคำว่า "ภูมิสังคม" (มติชน ฉบับวันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2548 หน้า 16) จะขอยกมาเผยแพร่ไว้ดังนี้
"ภูมิ คือภูมิศาสตร์ สิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ ส่วนสังคม หมายถึงประชาชน ในแต่ละพื้นที่จะคิดไม่เหมือนกัน
ในหลวงทรงเตือนว่าโครงการที่ทำสำเร็จในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ไม่ใช่จะสำเร็จในพื้นที่ทั่วประเทศ เพราะประชาชนมีความคิดที่ไม่เหมือนกัน"
ระบบการศึกษาแห่งชาติของไทย ไม่ให้ความสำคัญต่อความรู้ภูมิศาสตร์, ภูมิประเทศ, แผนที่, ฯลฯ ฉะนั้น การเรียนการสอนประวัติศาสตร์จึงไม่มีภูมิประเทศของบ้านเมืองและรัฐนั้นๆ ส่งผลให้สำนึกของคนไทยไม่รู้จักชุมชนท้องถิ่นของตัวเองในแง่ประวัติความเป็นมาและภูมิประเทศสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและวัฒนธรรม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
|
|
|
|
สายน้ำ
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2009, 12:10:34 AM » |
|
คม ชัด ลึก
ท้องถิ่นพาเที่ยว-เที่ยวสนุกทุกระดับบน "เกาะเสม็ด" หาดสวย-น้ำใส ถูกทั้งใจ ถูกทั้งเงิน
เกาะเสม็ด เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อที่สุดของ จ.ระยอง คนระยองมีความเชื่อว่า เกาะสวาทหาดสวรรค์แห่งนี้คือเกาะเกาะเดียวกับ "เกาะแก้วพิสดาร"
ในวรรณคดีเรื่อง "พระอภัยมณี" ของท่าน "สุนทรภู่" มหากวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ทุกวันนี้คนระยองก็ภาคภูมิใจกับความเชื่อนั้นมาโดยตลอด และด้วยตำนานการผจญภัยอันโลดโผนของเกาะแก้วพิสดาร ประกอบกับธรรมชาติอันสวยงามทั้งหาดทราย และน้ำทะเลใสจึงทำให้เกาะเสม็ดครองใจนักท่องเที่ยวมาจนถึงทุกวันนี้
อิสสระพงษ์ แทนศิริ ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.ระยอง-จันทบุรี) กล่าวถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวใน จ.ระยอง ว่า ในปีนี้ ททท. ร่วมกับจังหวัดระยองมีแผนจะดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาแวะชิมผลไม้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง
ททท.ระยอง ยังมีโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว อาทิ เข้าใจถิ่น เข้าใจเที่ยว และ เติมความสุขให้ชีวิต เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวสวนผลไม้ และเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังจะได้เรียนรู้กิจกรรมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล การส่งเสริมกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถยนต์ออฟโรด ขี่รถจักรยาน และกลุ่มแรลลี่ เพื่อให้เดินทางท่องเที่ยวสนุก ปลอดภัย และรักษ์ธรรมชาติไปในตัว
จังหวัดระยองอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยรถทัวร์ปรับอากาศที่สถานีขนส่งหมอชิต หรือสถานีขนส่งเอกมัย (กรุงเทพฯ-บ้านเพ) ราคาค่าโดยสารคนละ 160 บาท ลงที่ตลาดบ้านเพ
หรือจะนั่งรถตู้ปรับอากาศก็ได้ โดยรถจะจอดหน้าร้านอาหารพงหลี มุมอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ราคาค่าโดยสารคนละ 200 บาท หรือโทรศัพท์ติดต่อคิวรถตู้อนุสาวรีย์ 08-4769-1702, 08-4761-1772 คิวบ้านเพ 08-1664-6973, 0-3865-3317
ส่วนใครต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าไปหาข้อมูลได้ที่ www.Tat-rayong.com หรือโทรศัพท์ 0-3864-5510 สำนักงาน ททท.ระยอง พร้อมให้คำตอบที่คุณพึงพอใจ
ขณะที่ นายลาภสิน พุฒซ้อน ผู้ใหญ่บ้านเกาะเสม็ด หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า "ผู้ใหญ่เครา" กล่าวอย่างมั่นใจว่า แม้ทั่วโลกจะประสบภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ แต่เกาะเสม็ดกลับไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยยังมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
ส่วนหนึ่งคงต้องยกความดีความชอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ซึ่งคอยออกสอดส่องดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำทะเลอย่างใกล้ชิด
อีกส่วนก็ต้องยกให้การบริหารจัดการที่พักบนเกาะที่มีความสะดวกสบาย และหลากหลาย โดยจะมีที่พักตั้งแต่ราคาถูกสุดบริเวณท่าเทียบเรือหน้าเกาะเสม็ด เฉลี่ยห้องละ 400-500 บาทเท่านั้น
ส่วนที่พักราคาระดับกลาง (1,000 บาทขึ้นไป) จะอยู่บริเวณอ่าวต่างๆ ซึ่งมีทั้งห้องพัดลม และห้องปรับอากาศ แต่สำหรับบรรดาไฮโซหรือมหาเศรษฐีก็มีห้องพักราคาระดับ 15,000-80,000 บาท ไว้คอยให้บริการอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่เครา ก็ให้คำแนะนำว่า ก่อนมาเที่ยวระยองควรศึกษาแหล่งท่องเที่ยวพร้อมที่พักให้ชัดเจนก่อนเพื่อเป็นการป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบจากคนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน โดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ของจังหวัด
ส่วนคนที่มาเที่ยวถ้าต้องการเที่ยวเมืองระยองด้วยก็สามารถหาที่พักได้ตามสะดวกที่หาดพีเอ็มวาย หาดสุชาดา หาดแหลมเจริญ หาดแม่รำพึง หาดสวนสน ฯลฯ พักในเมืองสัก 1 คืนแล้วค่อยลงเรือไปเที่ยวเสม็ดในตอนเช้า
ค่าเรือโดยสารไป-กลับก็ไม่แพง แค่คนละ 100 บาท ใช้เวลาแค่ 30 นาทีก็ถึงเกาะเสม็ดแล้ว โดยมีเรือไว้คอยบริการตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าถึงเกาะก็นั่งรถโดยสารต่อไปตามที่พักต่างๆ อีกทอด ซึ่งอัตราค่าโดยสารจะมีบอกไว้ที่คิวรถเสร็จสรรพ
แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบความเร็ว และสะดวดสบายเป็นพิเศษทางท่าเรือก็มีเรือเร็วไว้บริการกว่า 70 ลำ โดยคิดค่าบริการแบบเหมาลำ ให้ต่อรองกันเอง โดยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็ได้เหยียบเสม็ดสมใจ แถมยังถึงที่พักหลังเกาะ โดยไม่ต้องต่อรถอีกด้วย
สำหรับราคาค่าผ่านด่านอุทยานเกาะเสม็ด คนไทยคิด 40 บาท ต่างชาติ 200 บาท แค่นี้ก็ได้ชมความงามของแต่ละอ่าวอย่างเต็มอิ่ม เช่น อ่าวกิ่ว อ่าวหวาย ฯลฯ ที่ลือชื่อว่ามีหาดทรายที่ขาวสะอาดดั่งทรายแก้ว
นอกจากนี้ ยังมีแหล่งดำน้ำดูปะการัง นั่งเรือตกปลา มีรถจักรยานยนต์นับพันคันให้เช่าขี่ชมธรรมชาติรอบเกาะ คนเกาะเสม็ดพร้อมเต็มใจบริการนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาพักค้างคืนด้วยมิตรไมตรี และรอยยิ้มอยู่เสมอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
|
|
|
สายน้ำ
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2009, 12:13:50 AM » |
|
X-cite ไทยโพสต์
'ฟองน้ำ' เก่าแก่ที่สุด : คอลัมน์โลกน่ารู้
นักวิจัยพบร่องรอยของสารเคมีในหินอายุ 635 ล้านปี ในประเทศโอมาน เป็นหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดของสิ่งมีชีวิตจำพวกสัตว์
รายงานชิ้นนี้ตีพิมพ์ก่อนหน้าวันคล้ายวันเกิดปีที่ 200 ของชาร์ลส์ ดาร์วิน เพียงหนึ่งสัปดาห์ นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษผู้นี้ได้เสนอทฤษฎีไว้ว่า สิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนอย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน น่าจะมีวิวัฒนาการมาจากสัตว์ที่มีโครงสร้างง่ายๆ เมื่อหลายล้านปีก่อน
"สิ่งที่เราพบก็คือ หลักฐานยืนยันทฤษฎีของเขา" โรเจอร์ ซัมมอนส์ นักธรณีชีววิทยาแห่งสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ "ฟองน้ำเหล่านี้เป็นสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์พวกแรกๆ"
ผลการวิเคราะห์ทางเคมีต่อโมเลกุลต่างๆ ในหินอายุ 635 ล้านปี ทำให้พบคอเลสเตอรอลรูปแบบหนึ่งที่มีแต่ฟองน้ำเท่านั้นที่สามารถผลิตได้
นั่นแปลว่า ฟองน้ำพวกนี้ได้มีอยู่ก่อนหน้ายุคน้ำแข็งที่เกิดขึ้นเมื่อราว 630 ล้านปีก่อน ซึ่งนับเป็นข้อค้นพบที่น่าสนใจมาก เพราะเดิมทีนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ยุคน้ำแข็งดังกล่าวเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาของสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อน
ซัมมอนส์บอกอีกว่า สิ่งมีชีวิตจำพวกสัตว์ที่มีรูปแบบเรียบง่ายนี้ มีขึ้นก่อนหน้าพืชบนบกประมาณ 200 ปี
แบคทีเรียเซลล์เดียวได้ถือกำเนิดขึ้นบนโลกเมื่อประมาณ 2,500 ล้านปีก่อน
ฟอสซิลของสัตว์ที่เห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งพบในหินนั้น มีอายุ 580 ล้านปี แต่รายงานที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature ชิ้นนี้ บอกว่า การศึกษาโมเลกุลก็ช่วยให้เข้าใจวิวัฒนาการได้เช่นกัน.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
|
|
|
|