กระดานข่าว Save Our Sea.net
เมษายน 27, 2024, 07:28:53 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552  (อ่าน 2106 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2009, 12:23:47 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาเกิดขึ้นได้ในหลายพื้นที่ ขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ และมีเมฆบางส่วน  อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา  ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทย ประกอบกับมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศหนาวเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ในช่วงระหว่างวันที่ 11-17 ก.พ. 52 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับจะมีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้นำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกเพิ่มมากขึ้น และจะมีฝนตกเกิดขึ้นได้


ข้อควรระวัง

ในระยะนี้ขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย
 
 


* Forecast2.jpg (37.19 KB, 684x423 - ดู 257 ครั้ง.)

* Earthquake.jpg (30.17 KB, 450x502 - ดู 240 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2009, 12:26:58 AM »

ไทยรัฐ


หากแผ่นชั้นน้ำแข็งทางขั้วโลกใต้ละลาย จะก่อให้เกิดโลกาวินาศ


 
หากว่าแผ่นชั้นน้ำแข็งของแอนตาร์กติกตะวันตก มีอันทลายลงและละลายเป็นน้ำ ในโลกที่อุ่นขึ้นหมด เหมือนอย่างที่มีผู้เชี่ยวชาญบางคนบอกเตือนว่า บริเวณชายฝั่งทะเลของทวีปอเมริกาเหนือจะได้ รับความเสียหายหนักที่สุด

ลำพังแผ่นชั้นน้ำแข็งนั้นทลายหายลงอย่างเดียว จะทำให้น้ำเอ่อท่วมรัฐนิวยอร์ก และกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทางใต้ของรัฐฟลอริดา ลอสแอนเจลิส นครซานฟรานซิสโกโก และซีแอตเติล โดยระดับน้ำทะเลบางที่อาจจะสูงขึ้นกว่าระดับปกติ 21 ฟุต

การพังทลายยังจะทำให้การหมุนรอบตัวของโลกเปลี่ยนแปลงไป แกนของโลกจะเคลื่อนออกไปจากตำแหน่งปัจจุบัน 500 เมตร จะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกแปรปรวนไป และทางภาคใต้ของมหาสมุทรอินเดีย จะโดนกระทบกระเทือนอย่างหนัก

นักภูมิฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัยโตรอนโต ประเทศแคนาดา นายเจอรี ไมโตรวิกา กล่าวว่า ระดับน้ำทะเลตามริมฝั่งของอเมริกา แถบนิวยอร์กจะสูงขึ้นไปจนถึงฝั่งทะเลด้านตะวันออกของอเมริกา ส่วนทางด้านตะวันตกจะยิ่งหนักกว่าเล็กน้อย คณะกรรมการของสหประชาชาติ เคยประมาณไว้ว่าระดับน้ำทะเลทั่วโลก อาจสูงขึ้นอีกโดยเฉลี่ยมากถึง 5 เมตร

แผ่นชั้นน้ำแข็งแอนตาร์กติกปกคลุมพื้นที่กว้างขวางถึง 900,000 ตร.กม. และมีปริมาณน้ำมากกว่าปริมาณน้ำในทะเลสาบเกรต เลค แห่งอเมริกาเหนือ ถึง 100 เท่า 

อย่างไรก็ดี เขากล่าวว่า ไม่ได้หมายความว่ามัน จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ แต่ค่อนข้างจะเป็นมาตราเวลาที่เป็นร้อยๆปีมากกว่า. 

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2009, 12:30:50 AM »

เดลินิวส์


เมืองตรังจัดใหญ่วิวาห์ใต้สมุทรปีที่ 13  ภายใต้แนวความคิด 'รักเรารักษ์โลก'

จังหวัดตรังเตรียมจัดงานวิวาห์ใต้สมุทร 2009 อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวคิด “รักเรารักษ์โลก” โดยการร่วมเป็นส่วนหนึ่ง  ในการอนุรักษ์ธรรมชาติ และยังเน้นพิธี   แต่งงานตามประเพณีไทยท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก ฉลอง เทศกาลวันแห่งความรัก ในปีการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง ชาวตรังร่วมกันต้อนรับนักท่องเที่ยวในฐานะเจ้าของบ้านที่ดี
 
นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จังหวัดตรัง หอการค้าจังหวัดตรัง องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เทศบาลนครตรัง ร่วมกับ การบินไทย สายการบินนกแอร์ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กำหนดจัดงานพิธีวิวาห์ใต้สมุทร 2009 (The 13th Trang Underwater Wedding Ceremony) ระหว่างวันที่ 13-14-15 กุมภาพันธ์ 2552 เพื่อเป็นการต้อนรับเทศกาลวันแห่งความรัก เผยแพร่พิธีแต่งงานตามประเพณีไทย และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดตรังให้ชาวต่างชาติรู้จักในฐานะของ “เมืองแห่งความรัก” พิธีวิวาห์ใต้สมุทร จังหวัดตรัง เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่คู่รักนักดำน้ำ และชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมที่ได้สร้างตำนานรักอันยิ่งใหญ่ของโลกที่รวมเอาคู่รักหนุ่มสาวดำดิ่งลงไปสู่ห้วงน้ำสีเขียวมรกต เพื่อทำพิธีจดทะเบียนสมรสใต้ท้องทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเทศกาลแห่งความรัก  โดยในปีนี้เป็นปีที่ 13 ภายใต้แนวคิด “รักเรารักษ์โลก” หรือ LOVE & HARMONY IN US ALL ซึ่งคู่บ่าวสาวจะได้เป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์ธรรมชาติ ด้วยกิจกรรมการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำและหอยมือเสือสู่ท้องทะเล ร่วมกันปลูกต้นไม้ ณ สวนรวมพรรณไม้แห่งความรัก อย่างไรก็ตาม พิธีแต่งงานตามประเพณีไทยยังคงเป็นสิ่งสำคัญในการจัดพิธีวิวาห์ใต้สมุทร ไม่ว่าจะเป็นการให้คู่บ่าวสาวแต่งกายเน้นเอกลักษณ์ความเป็นไทย ขบวนแห่ขันหมาก พิธีรดน้ำสังข์ และประเพณีกินเหนียวที่เชื่อกันว่าจะทำให้รักกันเหนียวแน่น ตลอดจนการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน
 
นายสลิล กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้คาดว่าจะมีคู่บ่าวสาวจากทั่วประเทศและทั่วโลกเข้าร่วมงานประ มาณ 40 คู่ โดยช่วงเย็นวันที่ 13 กุมภาพันธ์ จะมีขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่รอบเมืองตรัง ที่มีผู้เข้าร่วมขบวนประมาณ 1,000 คน และพิธีเปิดงานวันที่ 14 กุมภาพันธ์ บริเวณชายหาดปากเมง สำหรับสถานที่ดำน้ำจดทะเบียนสมรสใต้ทะเลจะใช้บริเวณ เกาะปริง ที่ระดับความลึกประมาณ 7 เมตร โดยมีปลัดอำเภอทำหน้าที่นายทะเบียนให้แก่คู่บ่าวสาว ปิดท้ายด้วยการฉลองงานมงคลสมรส และสัมผัสกับบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักและความงดงามของท้องทะเลตรัง ในเทศกาลวันแห่งความรัก ณ หาดวิวาห์ใต้สมุทร ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง การจัดพิธีวิวาห์ใต้สมุทรในปีนี้ยังคงได้รับความร่วมมือด้วยดีจากภาคราชการและภาคเอกชนในจังหวัดตรัง ทำให้การจัดงานเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญในปีนี้คือเป็นปีการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง มีการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดตรัง ดังนั้น ความประทับใจที่นักท่องเที่ยวได้รับจากการมาเยือนจังหวัดตรังจะเป็นที่กล่าวขานและบอกเล่ากันต่อไป
 
สำหรับกำหนดการพิธีวิวาห์ใต้สมุทร 2009 ระหว่างวันที่ 13-14-15 กุมภาพันธ์ 2552 วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2552 คู่บ่าวสาวและแขกที่มาร่วมงานเดินทางถึงสนามบินจังหวัดตรัง แล้วมีขบวนแห่คู่บ่าวสาวรอบเมือง มีพิธีรดน้ำสังข์และประเพณีกินเหนียว ในงานเลี้ยงต้อนรับคณะคู่บ่าวสาว ณ  โรงแรมธรรมรินทร์ธนา วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2552 พิธีเปิดงานวิวาห์ใต้สมุทร 2009 ณ ชายหาดปากเมง คู่บ่าวสาวร่วมกันทำพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำและปล่อยหอยมือเสือคืนสู่ท้องทะเลแล้วเดินทางไปแพขนานยนต์ เพื่อเตรียมตัวดำน้ำลงไปทำพิธีจดทะเบียนใต้ทะเล โดยคู่บ่าวสาวที่ไม่ได้ดำน้ำ เตรียมตัวลงเรือซี-คยัค เพื่อไปจดทะเบียนสมรสบนเรือที่จอดอยู่กลางทะเล แล้วกลับเข้าฝั่งเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ณ ชายหาดปากเมง แล้วเดินทาง กลับโรงแรมธรรมรินทร์ธนา ร่วมงานเลี้ยงแสดงความยินดีแก่คู่บ่าวสาว พร้อมรับประทานอาหาร, ชมการแสดงดนตรี และจุดพลุกลางทะเล ณ หาดวิวาห์ใต้สมุทร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2552.

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2009, 12:46:28 AM »

แนวหน้า


เสนอ"ตะรุเตา"เป็นมรดกโลก กรมอุทยานยันคุณสมบัติครบ   

 นายณัฐพล รัตนพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล เปิดเผยว่าทางอุทยานฯ ก็ได้ว่าจ้างทีมสำรวจให้เข้ามาศึกษาภายในอุทยานฯ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบนบกหรือทะเล เพื่อที่จะขอยื่นเรื่องเสนอให้อุทยานแห่งชาติตะรุเตาเป็นหนึ่งในมรดกโลกที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ โดยคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ โดยขณะนี้ได้ทำการสำรวจมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 70%

 ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่า ความเป็นธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ยังคงมีความสมบูรณ์อยู่มาก ต้นไม้บนเกาะและสัตว์ป่ายังคงอุดมสมบูรณ์ เพราะปราศจากสิ่งรบกวน ไม่มีใครลักลอบเข้ามาทำลาย ส่วนใต้ท้องทะเลปะการังต่างๆ ก็ยังคงมีความสวยงาม เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ และยังพบว่า ปะการังเหล่านี้ได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ สวยงามขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะแนวปะการังรอบเกาะอาดัง ราวี ด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ รวมไปจนถึงความหลากหลายทางชีวภาพ น่าจะสามารถช่วยกันผลักดันให้อุทยานแห่งชาติแห่งชาติตะรุเตากลายเป็นมรดกโลกได้ในไม่ช้าแต่นั่นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทางภาครัฐด้วย

 "หากอุทยานแห่งชาติตะรุเตาได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ก็จะทำให้มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้น เช่นเดียวกับ ลองแบ ของเวียดนาม พอได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ก็มีนักท่องเที่ยวรู้จักและให้ความสนเข้ามาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก ทางอุทยานอยู่ระหว่างประสานกับหลายฝ่ายเพื่อผลักดันให้อุทยานแห่งชาติตะรุเตาเป็นมรดกโลก ซึ่งจะทำให้พื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก"

 นายณัฐพล กล่าวต่อว่า อุทยานแห่งชาติตะรุเตามีลักษณะเด่นหลายอย่าง ทั้งทางด้านความงดงามของธรรมชาติ ความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์และสัตว์ป่า รวมไปจนถึงความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ ซึ่งในปี 2549 ทางอุทยานแห่งชาติตะรุเตาก็ได้รับการยกย่องจากองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ให้เป็นมรดกอาเซียน เพราะมีความสวยงามและความหลากหลายทางชีวภาพครบตามที่กำหนด


**************************************************************************************************************************


ถึงฤดูวางไข่-ปิดอ่าว 3 เดือน เตือนห้ามจับสัตว์"วัยอ่อน" "ประมง"ฮึ่มฝ่าฝืนจับติดคุก  

 ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงฤดูที่สัตว์น้ำในฝั่งทะเลอ่าวไทยกำลังมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัววัยอ่อนเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก กรมประมงจึงได้จัดให้มีการปิดทะเลฝั่งอ่าวไทย เป็นเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์-15 พฤษภาคม ของทุกปี โดยห้ามชาวประมงใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิด ทำการประมงในฤดูปลามีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัววัยอ่อนในที่จับสัตว์น้ำบางส่วน ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี โดยได้ประกาศใช้มาตรการดังกล่าวมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2496 นับมาถึงปัจจุบันเป็นเวลา 55 ปี

 ทั้งนี้ที่ผ่านมา มาตรการดังกล่าวก็ประสบผลสำเร็จในการรักษาประชากรสัตว์น้ำให้คงความสมดุลย์ แต่ในปัจจุบันพบว่าชาวประมงได้พัฒนาดัดแปลงเครื่องมือทำประมงบางชนิด/ประเภทให้มีประสิทธิภาพในการจับพ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำ และสัตว์น้ำวัยอ่อนจำนวนมาก จึงได้ออกประกาศกระทรวงฯ เรื่อง กำหนดห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิดทำการประมงในฤดูปลามีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน ในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากมีชาวประมงรายใดฝ่าฝืนใช้เครื่องมือต้องห้ามทำการประมงในพื้นที่ที่ได้ประกาศปิดอ่าวฯ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ ห้าพันบาท ถึง หนึ่งหมื่นบาท หรือ จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือทั้งปรับทั้งจำ

 ทั้งนี้ วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ นี้ กรมประมงจะประกอบพิธีประกาศการใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ (ปิดอ่าวฝั่งทะเลอ่าวไทย) พร้อมปล่อยเรือตรวจประมงทะเล ออกปฏิบัติงานในการควบคุมพื้นที่ เพื่อดูแลพื้นที่ฝั่งทะเลอ่าวไทย ณ บริเวณท่าเทียบเรือขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร 


***************************************************************************************************************************


ทม.แสนสุขวางมาตรการเข้ม คุมลักขายสินค้าหาดบางแสน  
 
 ชลบุรี:นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม รองนายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า จากการที่เทศบาลเมือง (ทม.) แสนสุข ได้มีการประชุมคณะกรรมการจัดระเบียบการจำหน่ายสิ้นค้าในที่สาธารณะชายหาดบางแสน ซึ่งทางคณะกรรมการจัดระเบียบการจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะได้นำเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการชายหาดบางแสนเกี่ยวกับมีผู้ลักลอบนำสินค้ามาจำหน่ายโดยการเดินเร่ขาย โดยไม่ได้รับอนุญาต

 ทั้งนี้ได้สร้างปัญหาและความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการที่เสียภาษีอย่างถูกต้องกับทาง ทม.แสนสุข ดังนั้นทางเทศบาล จึงได้มีการประสานงานกับผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าชายหาดบางแสน เพื่อให้ช่วยเป็นหูเป็นตาอีกทางหนึ่ง

 โดยผู้ลักลอบจำหน่ายสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ทางเทศบาลจะมีมาตรการจับปรับอย่างเด็ดขาด และหากยังพบว่า มีการฝ่าฝืนอีก จะมีโทษปรับเพิ่มเป็นเท่าตัว เพื่อให้ผู้ลักลอบจำหน่ายสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตหลาบจำ ไม่นำสินค้ามาเดินเร่ขายเป็นการรบกวนประชาชนที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่บริเวณชายหาดบางแสนอีก

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.055 วินาที กับ 21 คำสั่ง