กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤศจิกายน 12, 2025, 03:36:24 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 10   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คุณคิดอย่างไรกับการให้สัมปทานเอกชนเข้าไปจัดการการท่องเที่ยว 10 อุทยานแห่งชาติ  (อ่าน 74479 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Mr.can
ได้2ดาวแล้วพยายามอีกหน่อยจะได้สอย3ดาว
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« ตอบ #45 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2008, 04:39:55 AM »

สำหรับพิจารณา
     หว่านพืชย่อมหวังผล
     เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ
     ได้คืบจะเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา
      นายว่าขี้ข้าพลอย
      ปากว่าตาขยิบ หรือ มือถือสากปากถือศีล
       ดูวัวให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ ดูให้แน่ ๆ ต้องดูที่หัวหน้าพรรค(ตัวจริง)

แต่สำหรับผม
     พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง (เกียร์ว่าง โลดดดดดด)

บันทึกการเข้า
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #46 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2008, 06:16:15 AM »



กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย.....น้ำเต้าน้อยจะถอยจม.....
บันทึกการเข้า

Saaychol
Bluefin
ตอบกระทู้เยอะ ๆ จะได้ 2 ดาว
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 47



เว็บไซต์
« ตอบ #47 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2008, 06:50:14 AM »

"อย่างไรก็ตามได้เตรียมประกาศพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เป็นอุทยานแห่งชาติเพิ่มเติมรวมพื้นที่กว่า 10 ล้านไร่ภายในปีนี้ด้วย"

ข่าวนี้ยังไม่ได้ติดตามรายละเอียดครับ แต่ถ้าเป็นจริงก็ยิ่งน่าเศร้า เพราะถ้าเปลี่ยนจากป่าสงวนหรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามาเป็นอุทยานแห่งชาตินั้น เป้าหมายก็แตกต่างกันอย่างชัดเจนตามชื่ออยู่แล้ว และยิ่งเพิ่มความบอบช้ำให้แก่ธรรมชาติที่เหลืออยู่น้อยนิดเข้าไปอีก...

เหตุไฉนนักการเมืองยุคนี้ช่างชำนาญการเปลี่ยนสมบัติชาติเป็นสมบัติตัว...ต่อๆไป ลูกหลานไทยจะเอาแผ่นดินที่ไหนเหยียบ, จะเอาทะเลที่ไหนว่าย, จะมีป่าต้นน้ำที่เป็นแหล่งพักฟื้นให้ธรรมชาติ เป็นบ้านให้สัตว์ป่า เป็นแหล่งอาหาร และเป็นประโยชน์มหาศาลต่อมวลมนุษยชาติ ต่อไปหากพ่อค้า, นายทุน, นัการเมือง และเหล่าผู้มีอิทธิพล ยึดไว้เป็นของตัวเองเสียทุกอย่าง ลูกหลานไทยคงไม่มีอะไรเหลืออีก หรือชาติไทยจะสิ้นคนดีแล้ว...
บันทึกการเข้า
a-bad
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 205



« ตอบ #48 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2008, 10:37:39 AM »


28 ส.ค. 51 – มูลนิธิสืบนาคะเสถียรออกแถลงการณ์คัดค้านนโยบายเปิดสัมปทานให้เช่าพื้นที่ป่า ยืนยันให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำรงจุดยืนในการรักษาพื้นที่ป่ามิใช่แปลงป่าเป็นทุน

แถลงการณ์

มูลนิธิสืบนาคะเสถียรคัดค้านนโยบายเปิดสัมปทานให้เช่าพื้นที่ป่า

ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีนโยบายเปิดสัมปทานให้เอกชนเข้ามาดำเนินการโรงแรมและที่พักในเขตพื้นที่บริการ 10 แห่ง เป็นเวลา 30 ปี รวมทั้งการให้บริการท่องเที่ยวโดยอ้างว่าเพื่อจะนำรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ป่าอนุรักษ์มาช่วยเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งดีกว่าปล่อยให้เสื่อมโทรมและถูกบุกรุกจากนั้น

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

เห็นว่า การเปิดพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้เอกชนเช่า จะทำให้เกิดผลกระทบต่างๆ ดังนี้ :-

1. การเปิดพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้เอกชนเช่า เป็นการทำลายแหล่งธรรมชาติอย่างถาวร เนื่องจากการลงทุนเป็นการลงทุนในระยะยาว และส่งผลเสียต่อระบบนิเวศของพื้นที่โดยตรง

2. อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศไทย เป็นพื้นที่สาธารณะ ควรต้องมีความเป็นธรรมในการเข้าถึงทรัพยากรอย่างเหมาะสมตามหลักวิชาการ ทั้งนี้ควรมีการกันพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งอยู่นอกเขตพื้นที่อนุรักษ์ สำหรับการลงทุนของภาคธุรกิจอย่างเหมาะสม

3. การกระทำดังกล่าว เป็นการเปิดช่องทางการเข้ามาหาประโยชน์ของภาคธุรกิจ จนเกินขีดความสามารถในการรองรับของพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้มีการใช้อิทธิพลทางการเมือง กลุ่มทุนท้องถิ่น เข้ามาใช้ประโยชน์จากตัวราชการ ให้เปิดการบริการเพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่อนุรักษ์กระจายไปทั่ว ทำให้คุณค่าของระบบนิเวศโดยรวมถูกทำลายลงในที่สุด

ดังนั้นด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น มูลนิธิสืบนาคะเสถียรจึงขอแสดงความไม่เห็นด้วยและคัดค้านนโยบาย การเปิดพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้เอกชนเช่า และยืนยันให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำรงจุดยืนในการรักษาพื้นที่ป่ามิใช่แปลงป่าเป็นทุน

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
บันทึกการเข้า

สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #49 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2008, 03:02:41 PM »

ดีค่ะ....ช่วยกันหลายๆทาง .....หลายๆเสียง....

ถ้า ท่านอาจารย์สุรพล สุดารา และ คุณสืบ  นาคะเสถียร ยังมีชีวิตอยู่  ท่านก็คงจะทำการคัดค้านในเรื่องนี้อย่างเต็มที่.....

ขอบคุณมูลนิธิสืบนาคะเสถียรมากค่ะ.....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2008, 09:36:56 AM โดย สายชล » บันทึกการเข้า

Saaychol
Vita
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 983


อยู่เหนือสุขและทุกข์ได้ เป็นดี..!


« ตอบ #50 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2008, 03:10:35 AM »

กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย.....น้ำเต้าน้อยจะถอยจม.....
ขอขยายนะครับ..........

ข้อความนี้สันนิษฐานกันว่าแต่งในสมัยต้นๆกรุงศรีอยุธยา โดยเอาเค้ามาจากเรื่องมหาสุบินชาดก

เรื่องมีอยู่ว่า
          ครั้นหนึ่งเมื่อพระพุทธเจ้าประทัยอยู่ ณ เขตวันมหาวิหาร ในกรุงสาวัตดี แคว้นโกศล
          ท้าวปเสนทิทรงครองกรุงสาวัตถีอยู่ เกิดทรงพระสุบินแปลกประหลาด ๑๖ ประการ เมื่อทรงเล่าสุบินให้พวกปุโรหิตาจารย์ฟัง พวกปุโรหิตทำนายว่าฝันร้ายนัก ต้องทำพิธีบูชายัญสะเดาะพระเคราะห์ คือ ฆ่าสัตว์บูชาพระเป็นเจ้า แต่พระมเหสี คือ พระนางมัลลิกาเทวี ทรงแนะนำให้เสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้าขอให้ทรงทำนาย บางทีสมเด็จพระพุทธองค์ อาจทรงแนะนำวิธีผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ โดยไม่ต้องฆ่าสัตว์เผาผู้คนบูชายัญอันเป็นวิธีโหดร้าย พระเจ้าปเสนทิ จึงเสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ตามคำทรงแนะนำของพระอัครมเหสี ขอพระพุทธเมตตาให้ทรงทำนายพระสุบินแปลกประหลาดทั้ง ๑๖ ประการนั้น
          ในชาดกมีว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงทำนายว่า อันอันตรายทั้งหลายนั้น มิได้มีแก่พระราชา หากแต่จะเกิดขึ้นกับ พระศาสนา และราษฎรทั้งหลาย แล้วทรงมีพุทธทำนายบรรยายถึงวิปริตอันตรายนั้นอย่างละเอียด

สุบินประการที่ ๑๒ คือข้อที่ฝันเห็นกระเบื้องลอยน้ำ แต่ น้ำเต้ากลับจมน้ำ
�หนึ่ง ฝันว่าน้ำเต้านั้นจมชล ดูวิกลไม่เคยพบปะสบเห็น
พุทธบรรหารว่านานไปจะเป็น ที่ข้อเข็ญของสัตว์วิบัติมี
นักปราชญ์ผู้รู้ธรรมจะต่ำต้อย พาลาลอยเฟื่องฟูชูศักดิ์ศรี
ผู้พงศาตระกูลประยูรมี จะลับลี้เสื่อมสูญประยูรยศ
คนพาลจะราญเริงบรรเทิงหน้า เจรจาผิดธรรมไปจนหมด
ใครปลอกปลิ้นลมเป็นคมคด รู้โป้ปดกลอกกลับจึงนับกัน�


แล้วคำกลอนพุทธทำนาย ก็จบลงด้วยบทสุดท้ายว่า
         �ซึ่งบพิตรนิมิตรสิบหกประการ ไม่มีเหตุเพทพาลแก่พระองค์
จะได้แก่โลกทั้งหลายในภายหน้า จำไว้พิจารณาอย่าลืมหลง
จะเสื่อมสูญเมธีกวีวงศ์ และฝูงหงส์พงศ์ประยูรตระกูลพราหมณ์
จะเฟื่องฟูเชยชมนิยมหยาบ แบกแต่บาปหาบนรกยกขึ้นหาม
กองกรรมจะนำสนองตาม จดลงหนังสุนัขถามเมื่อยามตาย
พระไตรรัตน์จะวิบัติหม่นมัวหมอง ไม่ผุดผ่องแผ้วผาดสะอาดฉาย
ศักราชคำรบนั้นสองพันปลาย จะต้องพุทธทำนายไว้แน่เอยฯ�
บันทึกการเข้า

สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา  สิ่งนั้นทั้งปวงล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา
Vita
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 983


อยู่เหนือสุขและทุกข์ได้ เป็นดี..!


« ตอบ #51 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2008, 03:29:38 AM »

อันนี้คาดว่า แต่งกันทีหลังครับ.....

“... คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพด อุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศาน
       มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาล เกิดนิมิตพิศดานทุกบ้านเมือง
       พระคงคาจะแดงเดือดดั่งเลือดนก อกแผ่นดินเป็นบ้าฟ้าจะเหลือง
       ผีป่าก็จะวิ่งเข้าสิงเมือง ผีเมืองนั้นจะออกไปอยู่ไพร
       พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนี พระกาลกุลีจะเข้ามาเป็นไส้
       พระธรณีจะตีอกไห้ อกพระกาลจะไหม้อยู่เกรียมกรม
       ในลักษณะทำนายไว้บ่อห่อนผิด เมื่อวินิศพิศดูก็เห็นสม
       มิใช่เทศกาลร้อนก็ร้อนระงม มิใช่เทศกาลลมลมก็พัด
       มิใช่เทศกาลหนาวก็หนาวพ้น มิใช่เทศกาลฝนฝนก็อุบัติ
       ทุกต้นไม้หย่อมหญ้าสารพัด เกิดวิบัตินานาทั่วสากล
       เทวดาซึ่งรักษาพระศาสนา จะรักษาแต่คนฝ่ายอกุศล
       สัปรุษย์จะแพ้แก่ทรชน มิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก
       ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัว คนชั่วจะมล้างผู้มีศักดิ์
       ลูกสิทธ์จะสู้ครูพัก จะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย
       ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจ นักปราชญ์จะตกต่ำต้อย
       กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าอันลอยนั้นจะถอยจม
       ผู้มีตระกูลจะสูญเผ่า เพราะจันทานมันเข้ามาเสพสม
       ผู้มีศีลนั้นจะเสียซึ่งอารมณ์ เพราะสมัครสมาคมด้วยมารยา ...”

ส่วนอันนี้ คาดว่า มาจาก ตอนหนึ่งของเพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา
 “น้ำจะท่วมฟ้า ปลาจะกินดาว ผู้ดีจะเดินตรอก ขี้ครอกจะเดินถนน กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม ...”
บันทึกการเข้า

สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา  สิ่งนั้นทั้งปวงล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #52 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2008, 03:30:26 AM »

สาธุ.....สาธุ...สาธุ......

ครานี้ถึงเพลาฟ้าวิบัติ
กระเบื้องผลัดฟูฟ่องล่องวิถี
น้ำเต้าน้อยค่อยจมถมนที
คนอัปรีย์ครองเมืองเรื่องธรรมดา


สายชลเพิ่งแต่งเมื่อกี้นี้เองค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 30, 2008, 03:36:28 AM โดย สายชล » บันทึกการเข้า

Saaychol
Vita
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 983


อยู่เหนือสุขและทุกข์ได้ เป็นดี..!


« ตอบ #53 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2008, 05:00:20 AM »

ไม่ธรรมดานะครับเนี่ยย...........    
บันทึกการเข้า

สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา  สิ่งนั้นทั้งปวงล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #54 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2008, 06:51:13 AM »



 ...ไม่ธรรมดา....โอ๊ะ....ไม่ธรรมดา.....

ร้องเพลงใกล้คุกเข้าไปทุกที.....
บันทึกการเข้า

Saaychol
ตุ๊กแกผา
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 378



« ตอบ #55 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2008, 08:23:59 AM »

ไม่น่าหล่ะ เมื่อสักครู่ดูโทรทัศน์ ได้ยินเสียง ไก่ร้องแปลกๆ(หรือหูจะเริ่มหาเรื่องก็ไม่รู้ได้)
มันร้อง คุ๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 
บันทึกการเข้า
Bluefin
ตอบกระทู้เยอะ ๆ จะได้ 2 ดาว
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 47



เว็บไซต์
« ตอบ #56 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2008, 11:49:50 AM »

  กลุ้มใจประเทศชาติครับ ไม่ว่าใครจะชนะ แต่ทุกครั้งประเทศชาติคือผู้แพ้เสมอ...หรือต้องรอคำว่า "ปาติหาน" เหมือนในโฆษณา...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 30, 2008, 11:59:26 AM โดย Bluefin » บันทึกการเข้า
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #57 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2008, 01:51:58 PM »


น่านน่ะสิคะ....สองวันที่ผ่านมานั่งดู  Reality Show ทั้งวัน สลับช่องไปมา  หุๆ.....เครียดและเสียใจจนอยากทุบทีวีทิ้ง....

คนไทยด้วยกันแท้ๆ.....

 
บันทึกการเข้า

Saaychol
Vita
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 983


อยู่เหนือสุขและทุกข์ได้ เป็นดี..!


« ตอบ #58 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2008, 12:09:08 PM »

ชินวัตรรุ่นหลานแปลงอุทยานเป็นทุน ประเคนน้ำพุร้อนให้เอกชน Posted by บางอ้อ(http://www.oknation.net/blog/acharawadee/2008/08/22/entry-1)
วันศุกร์ ที่ 22 สิงหาคม 2551

 วันนี้มีข่าวเปิดอุทยาน 10 แห่งให้รุมทึ้ง  ไม่นานมานี้อ้อได้ไปทำข่าวนี้ที่จังหวัดเชียงใหม่ 

เปิดน้ำพุร้อนชม.ให้SMEบริหาร
ชินวัตรรุ่นหลานควงอบจ.เข้าลุย

         “ชินวัตร”รุ่นหลานควงอบจ.เชียงใหม่เตรียมเปิดน้ำพุร้อนในเขตอุทยานให้เอกชนเข้าบริหาร  ดันสสว.เข้าส่งเสริม     เริ่มที่ป่าตึง เชียงราย ก่อนดันโป่งเดือดที่ห้วยน้ำดัง และน้ำพุร้อนฝาง ที่ดอยผ้าห่มปก  เผยนักลงทุนญี่ปุ่น เกาหลีสนใจ  พร้อมคัดสินค้าหัตถกรรมย่านสันกำแพงขยายตลาดส่งออก 

.......................................
                ส่วนการลงนามร่วมกับอบจ.เชียงใหม่เพื่อส่งเสริมเอสเอ็มอีของเชียงใหม่ โดยเฉพาะการการประสานการจัดซื้อและจำหน่ายหัตถกรรม  และส่งเสริมและพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ซึ่งเป็นโครงการที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าบริหารจัดการพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของรัฐที่ยังใช้ประโยชน์ไม่เต็มศักยภาพ พื้นที่เป้าหมายคือน้ำพุร้อนโป่งเดือด ที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง และน้ำพุร้อนฝาง ที่อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก


               “น้ำพุร้อนในไทยมีถึง 112 แห่งทั่วประเทศ ในการพัฒนาเราจะให้ความสำคัญกับคนในพื้นที่ เช่นที่ป่าตึง ก็จะให้เอสเอ็มอีในพื้นที่ ที่เขาอาจดำเนินการอยู่แล้วมาจัดระเบียบระบบให้ดีขึ้น ทนการออกแนวพื้นบ้าน แต่เราจะให้ญี่ปุ่นและเกาหลีมาลงทุน โดยเราจะได้ปรับเปลี่ยนให้เขาทำให้ตรงแนวกับตลาดต้องการเช่นปรับเป็นร้านจำหน่ายของที่ระลึกในพื้นที่เดิม”


             น.ส.พนิตพิชา กล่าวว่าการพัฒนาจะเริ่มแห่งแรกที่น้ำพุร้อนป่าตึง จ.เชียงราย  โครงการต่อมาก็จะมาที่เชียงใหม่ โดยหาผู้ประกอบการในพื้นที่ นำความรู้มาพัฒนาให้เทียบเท่ากับการรองรับต่างประเทศ


            “เงินลงทุนมาจากหลายส่วน เช่นที่เชียงราย อบต.มีงบประมาณส่วนหนึ่ง เพราะอยู่ในพื้นที่ของอบต. มีงบก่อสร้างจากสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว งบสสว.จะเชิญผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นมาวางระบบ และเราเชิญผู้ประกอบการมาลงทุนเขาก็ต้องลงทุนด้านที่พักหรือสาธารณูปโภคต่างๆ ร่วมกัน โดยมีคณะทำงานจากหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมกัน โดยที่ป่าตึงคาดว่าปลายปีนี้จะเห็นรูปร่างเพราะได้ผู้ประกอบการแล้ว ส่วนจุดที่เป็นพื้นที่อุทยานก็ไม่มีปัญหา เพราะมีการลงนามความตกลงร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชอยู่แล้ว”
   


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 31, 2008, 12:15:03 PM โดย Vita » บันทึกการเข้า

สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา  สิ่งนั้นทั้งปวงล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา
Vita
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 983


อยู่เหนือสุขและทุกข์ได้ เป็นดี..!


« ตอบ #59 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2008, 12:12:26 PM »

                     พิธีลงนามความร่วมมือ การส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจังหวัดเชียงใหม่  ระหว่าง  องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ โดยนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกฯอบจ. (ที่3 จากขวา) และนายคณพล ปิ่นแก้ว ปลัดอบจ.(ขวาสุด) กับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดย นายชาวัลย์ สวัสดิ์-ชูโต รองผอ.สำนักฯ (ที่ 2 จากซ้าย) และน.ส.พนิตพิชา ชินวัตร ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจเอสเอ็มอีภูมิภาค (ซ้ายสุด) หลาน พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมี น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ (ที่ 3 จากซ้าย) ลูกสาวนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และนายชุมพร แสงมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ (ที่ 4 จากซ้าย)เป็นพยาน


* sme.jpg (53.67 KB, 400x300 - ดู 370 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา  สิ่งนั้นทั้งปวงล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 10   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.041 วินาที กับ 21 คำสั่ง