สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 7 ตุลาคม 2551

[สายน้ำ]

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศ ลาว ส่งผลให้ร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ 
 
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในวันที่ 7-9 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมถึงประเทศลาว ทำให้ร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังค่อนข้างแรง ส่งผลให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะออกเฉียงเหนือมีฝนฟ้าคะนองมากกว่าภาคอื่น ๆ และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่

หลังจากนั้น( 10-13 ต.ค.) ร่องความกดอากาศต่ำจะเลื่อนลงไปพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออก ทำให้บริเวณทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนลดลง ส่วนภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น

[สายน้ำ]

ผู้จัดการออนไลน์


รวบ 4 เรือประมงอวนลากลอบจับปลาช่วงฤดูวางไข่ทะเลบางแสน
 

 
       ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตร.แสนสุขรวบ 4 เรือประมงอวนลากเข้ามาจับปลาช่วงฤดูวางไข่ในเขตน่านน้ำหวงห้ามอ่าวบางแสน
       
       วันนี้ (4 ต.ค.51) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองแสนสุข จ.ชลบุรี ได้นำเรือตรวจการณ์เข้าจับกุมกลุ่มเรือประมง ที่เข้ามาในเขตน่านน้ำหวงห้ามชายหาดบางแสน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีกลุ่มปลาจำนวนมากเข้ามาอาศัยในช่วงฤดูวางไข่
       
       ทั้งนี้ จากการซุ่มดูของเจ้าหน้าที่พบเรืออวนลากจำนวน 4 ลำ กำลังจับปลาอย่างขักเขม้น จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ทราบชื่อต่อมาคือ เรือจรัสแสง มีนายวิสุทธิ์ แซ่เฮีย อายุ 55 ปี ชาวจังหวัด จ. สมุทรปราการ เป็นเจ้าของเรือ มีลูกเรือชาวพม่าอีก 6 คน, เรือ จ.พรธนาโชค มีนายประจวบ แขกดต อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.2 ต.บางขลุเก่า อ.เมือง จ.ชลบุรี เป็นเจ้าของเรือ พร้อมลูกเรือชาวพม่าอีก 4 คน
       
       นอกจากนี้ มีเรือทรัพย์สมบูรณ์ และเรือกิตติชัย มีนายกิตติชัย แก่นแก้ว อายุ 37 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ เป็นเจ้าของเรือ พร้อมลูกเรือชาวพม่ารวม 9 คน โดยทั้งหมดทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวมอบให้พนักงานสอบสวนรับเรื่องดำเนินคดี

[สายน้ำ]

มติชน


แผ่นดินไหวทิเบต 2 ครั้งติด ห่างกันแค่ 15 นาทีเท่านั้น!

สำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันที่ 6 ต.ค. ว่า แผ่นดินไหวเกิดแผ่นดินไหว 2  ครั้ง ในเมืองลาซา เมืองเอกของทิเบต โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 15.30 น. ตามเวลาในไทย มีขนาด 6.6 ริกเตอร์ อยู่ห่างจากเมืองลาซาไปทางตะวันตก 80 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากกรุงปักกิ่ง 2,600 กิโลเมตร ส่วนครั้งที่ 2 เกิดขึ้นห่างจากครั้งแรก 15 นาที มีขนาด 5.1 ริกเตอร์ อยู่ห่างจากเมืองลาซาไปทางตะวันตก 96 กิโลเมตร

ด้านสำนักงานตรวจจับแผ่นดินไหวของจีนรายงานว่า แผ่นดินไหวมีศูนย์กลางในเขตที่มีประชากรราว 42,000 คน ส่วนใหญ่เป็นคนเลี้ยงปศุสัตว์

ทางด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ไม่มีสถานที่สำคัญของเมืองได้รับความเสียหายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปสำรวจและประเมินสถานการณ์แล้ว


*****************************************************************************************************************************


แผ่นดินไหวคีร์กีซคร่าชีวิตปชช.แล้วกว่า 70 คน

ทางการคีร์กีซแถลงเมื่อวันที่ 6 ต.ค. ว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวานนี้ (5ต.ค.51) วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.6 ริคเตอร์ทำให้หมู่บ้านนูรา แถบเทือกเขาใกล้พรมแดนจีน พังเสียหาย มีชาวบ้านเสียชีวิต 72 คน และต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลกว่า 60 คน แรงสั่นสะเทือนยังรู้สึกได้ถึงกรุงบิชเคก ซึ่งอยู่ห่างออกไป 400 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและแพทย์กำลังเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่การให้ความช่วยเหลือเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะความห่างไกลของหมู่บ้าน ขาดการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์ และถนนบางสายยังใช้การไม่ได้ เพราะแผ่นดินไหว ซึ่งหลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ดังกล่าวแล้ว ยังเกิดแรงสั่นสะเทือนหรืออาฟเตอร์ช็อควัดได้ 5.1 ริคเตอร์ติดตามมาด้วย 

ส่วนที่ทิเบตเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในวันนี้ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.6 ริคเตอร์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.30 น.ตามเวลาในท้องถิ่น หรือ 15.30 น.ตามเวลาในประเทศไทย ศูนย์กลางอยู่ห่างจากนครลาซา ไปทางตะวันตกประมาณ 80 กิโลเมตร ทำให้อาคารบ้านเรือนสั่นสะเทือนแต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งก่อนหน้านี้เกิดแผ่นดินไหวใกล้แนวพรมแดนทางด้านตะวันตกของจีนระหว่างคีร์กีซกับทาจิกิสถานด้วย แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย.

[สายน้ำ]

ข่าวสด


ชุมพรค้าน โรงไฟฟ้า ป้อง"อ่าว" ธรรมชาติ

ค้านโรงไฟฟ้าชาวบ้าน นักเรียน น.ศ.กลุ่มอนุรักษ์ เกือบพันคน ชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัด ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯชุมพร ค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินของกฟผ. มีแผนผุดที่"อ่าวยายไอ๋"อ.ปะทิวแหล่งอนุรักษ์ "หอยมือเสือ" แหล่งวางไข่ปลาทู กระทบสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต อาชีพ ปัญหาสุขภาพ สร้างความแตกแยก กฟผ.พากลุ่มหนุนไปดูงานที่แม่เมาะ แจกแจงแต่ข้อดี

เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 2 ต.ค. ที่ศาลากลางจังหวัดชุมพร กลุ่มชาวบ้านจาก ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร นำโดยนายทรงสวัสดิ์ นุชศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1, นายสุพนัด ดวงกมล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5, นายธรรมเรียง ศาสตร์สาคร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7, และนายธนเทพ กมศิลป์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 พร้อมด้วยกลุ่มนักศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพร นักเรียนโรงเรียนปะทิววิทยา สมาชิกเพื่อนสิ่งแวดล้อม จ.ชุมพร และสมาชิกศูนย์สิ่งแวดล้อมชุมพร ประมาณ 700 คน เดินทางด้วยรถกระบะกว่า 100 คัน มาร้องเรียกต่อนายมานิต วัฒนเสน ผวจ.ชุมพร เพื่อคัดค้านการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีแผนจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน ที่อ่าวยายไอ๋ ต.ชุมโค เพราะหวั่นเกรงว่าโครงการดังกล่าวจะสร้างมลพิษ ก่อให้เกิดกระทบต่อวิถีชีวิต และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่

ต่อมานายอุดร น้อยทับทิม หัวหน้าสำนักงาน จ.ชุมพร ออกมารับหนังสือจากตัวแทนชาวบ้าน เนื่องจากนายมานิต และนายสุรชัย ขันอาสา รองผวจ.ชุมพร เดินทางไปราชการนอกพื้นที่ โดยหนังสือมีใจความสรุปว่า ขณะนี้กฟผ.ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาประชาสัมพันธ์เรื่องโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน ใน ต.ชุมโค และเปิดเผยข้อมูลแต่เพียงด้านดี ไม่เปิดเผยถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น หากมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้า เช่น ทรัพยากรหอยมือเสือ ในโครงการพระราชดำริ ที่ชาวต.ชุมโค หมู่ 5 ร่วมกันอนุรักษ์ไว้ อีกทั้งเป็นแหล่งวางไข่ของปลาทู และพืชผลทางการเกษตรได้รับผลกระทบจากสารปนเปื้อน ประชาชนเกิดโรคภัยไข้เจ็บ ทั้งทางตรงและทางอ้อม

หนังสือระบุต่อว่า อีกทั้งจะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน สารพิษทางอากาศ และโลหะหนักจะปนเปื้อนในน้ำตามแม่น้ำลำคลอง จนไม่สามารถใช้อุปโภคบริโภคได้ สัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่าจะได้รับสารพิษจนเสียชีวิต ทรัพยากรทางทะเลต่างๆ จะสูญพันธุ์ ปะการังน้ำตื้น ปะการังน้ำลึกที่มีเป็นจำนวนมากจะได้รับผลกระทบ รายได้จากการท่องเที่ยวจะลดลง และเกิดความแตก แยกขึ้นในชุมชน ระหว่างผู้ที่คัดค้าน กับผู้ที่สนับสนุนโรงไฟฟ้า ดังนั้น จึงขอให้ผวจ.ชุมพร ส่งหนังสือผ่านไปยังกฟผ. เพื่อขอให้ยกเลิกโครงการก่อสร้างโรงไฟ ฟ้าถ่านหิน ในพื้นที่ ต.ชุมโค เนื่องจากเห็นว่าจะส่งผลกระทบต่ออาชีพประมงชายฝั่ง สวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ อาจจะทำให้ชุมชนที่อยู่อาศัยกันมานานหลายร้อยปีต้องล่มสลายไปในที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายอุดร รับหนังสือแล้ว รับปากว่าจะดำเนินการตามที่กลุ่มชาวบ้านเรียกร้อง ก่อนที่กลุ่มชาวบ้านจะสลายการชุมนุม และจะเดินทางมาฟังคำตอบอีกครั้งในวันที่ 27 ต.ค. เนื่องจากในวันดังกล่าว ทางกฟผ.จะนำชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่งเดินทางไปดูงานโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ จ.ลำปาง

ด้านนายสุพนัด หนึ่งในแกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่ต่างไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินใน ต.ชุมโค จึงรวมตัวกันเดินทางมาชุมนุม เพื่อยื่นหนังสือแสดงถึงจุดยืนต่อ ผวจ.ชุมพร ผ่านถึงกฟผ.ว่าชาวบ้านในพื้นที่ไม่ต้องการโรงไฟฟ้าถ่านหิน เนื่องจากเห็นว่าจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และสิ่งแวดล้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ให้ความสนใจต่อข้อเรียกร้องของชาวบ้าน ก็จะมีมาตรการต่อต้านอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะได้ข้อยุติ


********************************************************************************************************************************************


ภาพแรกจากดาวเทียมธีออส ถวายในหลวง-พระเทพฯ



           ที่สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ สทอภ. พลเอก ดร.วิชิต สาทรานนท์ ประธานกรรมการบริหาร สทอภ. ร่วมกับ ดร.ธงชัย จารุพพัฒน์ ผู้อำนวยการ สภอภ. แถลงข่าว “ภาพแรกจากดาวเทียมธีออส”(THEOS’First Lmage) ภายหลังปล่อยขึ้นสู่วงโคจรที่ฐานส่งจรวดเมืองยาสนี ประเทศรัสเซีย เมื่อเวลา 13.37 น. ของวันที่ 1 ตุลาคม. สทอภ.ได้ทดสอบการถ่ายภาพจากดาวเทียมธีออสเป็นครั้งแรก โดยเริ่มทำการถ่ายภาพพื้นที่ภูเก็ต และบริเวณกรุงเทพมหานคร (กทม.)   แต่มีปัญหาเรื่องเมฆปกคลุม โดยพื้นที่กรุงเทพมหานครมีเมฆปกคลุมจนไม่สามารถมองเห็นได้ ส่วนบริเวณพื้นที่ภูเก็ตมีเมฆปกคลุมร้อยละ 60 โดยภาพแรกจากดาวเทียมธีออสที่สามารถมองเห็น คือ

1.ภาพสีบริเวณด้านใต้ของเกาะภูเก็ต และภาพขยายบริเวณเกาะปูไปจนถึงแหลมพรหมเทพ มีความละเอียดของภาพที่ 15 เมตร  และ
2. ภาพขาวดำบริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกของเกาะภูเก็ต คือ หาดกะตะใหญ่ และหาดกะตะน้อย รายละเอียดภาพ 2 เมตร

อย่างไรก็ตาม จะมีการทดสอบถ่ายภาพโดยจะไต่ระดับความสูงจาก 690 กิโลเมตรไปจนถึง 822 กิโลเมตรจากพื้นโลก ก่อนจะถ่ายภาพจริงอย่างสมบูรณ์ภายในเดือนธันวาคมนี้ และจะนำภาพถ่ายทั้งหมดขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเพื่อทรงใช้ประโยชน์ต่อไป

[สายน้ำ]

แนวหน้า


ประมงพื้นบ้านสงขลาเฮ บ.ขุดเจาะน้ำมันรับผิดชอบ หลักประกันและเงินชดเชย    
 
 สงขลา:จากกรณีที่กลุ่มเรือประมงพื้นบ้านกว่า 500 ลำจาก 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.สทิงพระ ระโนด และสิงหนคร ได้ทำการปิดร่องน้ำปากทะเลสาบสงขลาและร่องน้ำท่าเรือน้ำลึกสงขลา เพื่อเรียกร้องหลักประกัน 3 ข้อและเงินค่าชดเชยจากการได้รับผลกระทบจากการขุดเจาะน้ำมันของบริษัท นิวคาสตอล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับสัมปทานโครงการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลี่ยมและโครงการพัฒนาเพื่อผลิตปิโตรเลี่ยมในพื้นที่แปลงสัมปทานปิโตรเลี่ยม บริเวณอ่าวไทย จ.สงขลา ห่างจากฝั่งอำเภอสทิงพระประมาณ 30 กม.

 ทั้งนี้ส่งผลให้เรือสินค้าต่างประเทศเรือน้ำมันและเรือต่างๆ ไม่สามารถผ่านเข้า-ออกได้ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจของ จ.สงขลา เป็นอย่างมาก จึงได้มีการเปิดเจรจาจนสามารถเปิดใช้ร่องน้ำได้ โดยกลุ่มชาวประมงให้ระยะเวลา 3 วัน เพื่อรอคำตอบ

 นายเจริญ ทองมา แกนนำคณะกรรมการเรือประมงพื้นบ้าน 3 อำเภอ กล่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัทดังกล่าว ได้มีหนังสือตอบมาแล้วว่ายินดีรับข้อเสนอในเรื่องหลักประกัน 3 ข้อ คือ หลักประกันด้านอาชีพ หลักประกันด้านสุขภาพ และหลักประกันด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีการตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจนและอาจจะทำให้อาชีพประมงพื้นบ้านสูญสิ้นไปจากการดำเนินโครงการในพื้นที่ทับซ้อนกับพื้นที่ทำกินของชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งจับสัตว์น้ำในบริเวณโครงการฯ มาเป็นเวลาหลายสิบปี

 โดยบริษัทดังกล่าว จะต้องสร้างหลักประกันในด้านอาชีพ เช่น พื้นที่ทำการประมง สิ่งแวดล้อมทางทะเล รวมไปถึงวิถีชีวิตประมงพื้นบ้าน และสุขภาพ ซึ่งในส่วนของเงินค่าชดเชยทางบริษัทยินดีจะจ่ายให้กับเรือประมงพื้นบ้าน 3 อำเภอ จำนวน 1,075 ลำ ที่ได้รับผลกระทบจากการขุดเจาะน้ำมันปีละ 25 ล้านบาท โดยจะจ่ายให้ทุกๆ ปีที่มีการขุดเจาะน้ำมัน