สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม 2551

[สายน้ำ]

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

คลื่นกระแสลมตะวันตกที่ปกคลุมภาคเหนือของประเทศไทยจะเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือในวันนี้(27 ธ.ค. 51) ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือมีฝนจะลดน้อยลง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออกจะมีฝนตกเล็กน้อยต่อไปอีก 1-2 วัน (27-28 ธ.ค. 51) สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้โดยเฉพาะตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้ในระยะ 1-2 วันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลาระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้ไว้ด้วย 
 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีเมฆเป็นส่วนมาก และมีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 26-27 ธ.ค. 2551 คลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลัง ค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยคลื่นลมในอ่าวไทยสูง ประมาณ 2 เมตร สำหรับในช่วงวันที่ 28-29 ธ.ค. 2551 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้อากาศอุ่นขึ้น และมีหมอกในตอนเช้า ส่วนหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนเข้าตอนบนของประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังมีฝนกระจาย ต่อจากนั้นในวันที่ 30 ธ.ค. 2551 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลงอีกครั้งหนึ่ง


ข้อควรระวัง

 ในระยะนี้ ขอให้ชาวเรือในอ่าวไทยระวังอันตรายในการเดินเรือ ในช่วงวันที่ 28-29 ธ.ค. 2551ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย

[สายน้ำ]

มติชน


ปูเปรี้ยว-ปูแสม                                    :                               คอลัมน์ "คัมภีร์เศรษฐี


น้องๆ ช่วยกันปล่อยปูแสมบนต้นไม้ในป่าชายเลน
 
"สตูล" เป็นจังหวัดที่ใครต่อใครอยากจะไปเที่ยวกันแต่เท่าที่สอบถามดูล้วนบอกตรงกันว่าค่อนข้างไปยากไปเย็น เพราะไม่มีเครื่องบินจะไปลง ต้องนั่งเครื่องไปลงที่หาดใหญ่ ซึ่งจะมีเที่ยวบินเยอะ ส่วนที่ตรังมีเที่ยวบินน้อยไม่สะดวก ในวันที่ไปร่วมงานโครงการ บริหารจัดการขยะในทะเล (ชายหาดสะอ้าน บ้านปลาสะอาด)

เปิดโลกสวยใต้ท้องทะเลใส ครั้งที่ 1 ระหว่าง 19-20 ธันวาคม ที่หาดราไว ต.ขอนคลาน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล โดยท่านสำราญ รักชาติ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง คนสตูลโดยกำเนิด ไปทำพิธีเปิดนั้น มีนักเรียนและเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานในพื้นที่มาช่วยกันเยอะแยะ โดยเฉพาะนักเรียนตัวน้อยๆ ช่วยกันเก็บขยะที่มีอยู่เกลื่อนตามชายหาด ทั้งถุงพลาสติค รองเท้าแตะ โฟม และขวดพลาสติคต่างๆ แล้วยังได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ริมหาด

เด็กๆ สนุกสนานกันใหญ่ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะได้ออกนอกสถานที่ แถมไม่ต้องเรียนหนังสือ แล้วยังได้เห็นพวกพี่ป้าน้าอามาถ่ายรูปทำข่าวกันด้วย

นอกจากจะมีกิจกรรมเก็บขยะตามชายหาดแล้ว ก่อนหน้านี้ก็ได้ร่วมกันอนุรักษ์ปูเปรี้ยวหรือปูแสม ที่สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 37 (ทุ่งหว้า สตูล) เพื่อปล่อยพันธุ์ปูเปรี้ยวที่บริเวณศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ศูนย์นี้สร้างทางเดินเป็นสะพานไม้อย่างดี ใครอยากศึกษาเรื่องป่าชายเลนมาที่นี่ได้เลย จะได้เห็นได้รู้จักพันธุ์พืชในป่าชายเลนเยอะแยะ เป็นป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ทีเดียว


(บน) บรรยากาศในศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน    (ล่าง) คุณสำราญ รักชาติ (ที่สองจากขวา) โชว์ขยะจากใต้ทะเล

บางคนที่อยู่กรุงเทพฯไม่รู้จักปูแสม แต่พอบอกว่าเป็นปูที่ใช้ทำส้มตำต่างร้องอ๋อกันเป็นแถว ตอกแรกนักข่าวไม่กล้าจับเจ้าปูพวกนี้เพราะกลัวโดนหนีบ ต่อเมื่อเด็กๆ ในพื้นที่และคุณนิพนธ์ ทองอยู่ หัวหน้าศูนย์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ( จ.สตูล) สอนให้จับปูเลยใจกล้าลองจับไปปล่อยกันคนละตัวสองตัว

น้องๆ บางคนจับโยนลงไปทำให้เจ้าปูพวกนี้ตกลงไปในโคลนกว่าจะพลิกตัวกลับได้ต้องใช้เวลาสักพัก บางคนนึกว่ามันตาย แต่คุณนิพนธ์บอกต้องใช้เวลาสักพักมันจะฟื้นขึ้นมาเองและไม่ต้องกลัวก้ามที่หลุดไปมันจะงอกขึ้นมาใหม่

ปูแสมบ้านเรานับวันจะมีน้อยลงๆ ไม่พอกับความต้องการบริโภคในประเทศจนต้องสั่งซื้อมาจากประเทศเพื่อนบ้านในละแวกนี้

เสร็จจากปล่อยพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ปูแสม เก็บขยะชายหาด และปลูกต้นไม้แล้ว โปรแกรมอีกอันหนึ่งคือ ดำน้ำเก็บขยะที่เกาะเหลาเหลียงและเกาะตะเกียง ซึ่งจะต้องใช้นักดำน้ำที่มีประสบการณ์ หลายคนดำน้ำไม่เป็นเลยถือโอกาสนั่งสูดลมชมวิวเดินเที่ยวอยู่บนเกาะที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเพราะไม่มีนักท่องเที่ยวเหมือนเกาะทั่วไป จะมีบ้างก็ที่เกาะเหลาเหลียงแค่ไม่กี่คน เกาะเหล่านี้แม้จะไม่ได้ดำน้ำลงไปดู แต่นั่งบนเรืออยู่ตรงไม่ไกลจากฝั่งก็เห็นแล้วว่ามีแนวปะการังสวยงามจริงๆ และมีหลากหลายประเภทเสียด้วย


เด็กๆ กับขยะชายหาดที่เก็บได้

งานนี้ท่านอธิบดีสำราญลงไปดำน้ำเก็บขยะกับพวกนักข่าวและนักดำน้ำทั้งใน กทม.และในพื้นที่ด้วย เท่าที่สอบถามบอกส่วนใหญ่จะเป็นขยะพวกขวดเหล้ายี่ห้อดังๆ กระป๋องเบียร์ ขวดพลาสติคก็มีบ้าง ที่มีมากก็คือชิ้นส่วนอวนของชาวประมง พอเก็บชิ้นส่วนอวนก็ติดปะการังขึ้นมาด้วย นักดำน้ำเลยต้องรีบตัดอวนเพื่อนำปะการังกลับไปปล่อยในทะเลดังเดิม ถ้าปล่อยไว้นานปะการังจะตาย

ความจริงสตูลรวมทั้งที่ตรังมีเกาะอีกหลายเกาะที่น่าเที่ยว นอกเหนือจากเกาะตะรุเตาที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของทั่วโลก

คราวหน้าจะเล่าเรื่องสาวน้อยที่น่าสงสารบนเกาะเหลาเหลียง แต่จิตใจเธอบริสุทธิ์งดงามยิ่งนัก ใครที่มีความทุกข์ถ้าฟังเรื่องของน้องคนนี้แล้ว จะได้ข้อคิดอะไรดีๆ

[สายน้ำ]

คม ชัด ลึก


ค่ายนักอนุรักษ์รุ่นเยาว์ เปิดโลกเรียนรู้สู่ห้องเรียนธรรมชาติ



ค่ายนี้ทำให้ผมทำมีความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติรอบตัวเพิ่มมากขึ้นแต่ที่มากที่สุดคือ ฐานป่าชายเลนเพราะได้เรียนรู้เรื่องชนิดของต้นไม้ ได้รู้จักชื่อสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าชายเลน รู้ถึงประโยชน์ของธรรมชาติที่นับไม่ถ้วน

 ผมจะนำความรู้ที่ได้กลับไปบอกเพื่อๆว่าให้ช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน เพื่อที่จะลดภาวะโลกร้อน และจะแนะนำให้เพื่อนๆ ช่วยกันปลูกป่า ห้ามทำลายป่าครับ ด.ช.ชวนิตแก้วทอง จากโรงเรียนบ้านนาผักขวง กล่าวเสียงสะท้อนจากลูกหลานบางสะพานที่บอกเล่าความประทับใจเมื่อได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในนักอนุรักษ์รุ่นเยาว์ ปี 4  ของโครงการ ค่ายนักอนุรักษ์รุ่นเยาว์ ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประจวบคีรีขันธ์เขต 1 กับบริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ เอสเอสไอที่รณรงค์ให้ทุกคนเกิดความรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นของตนเองปลูกฝังจิตสำนึกตั้งแต่ยังเป็นเด็กและเยาวชน ถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องแก่พวกเขาอย่างต่อเนื่อง เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา 



โดยเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่ได้กว่า140 คน จาก 43 โรงเรียน ในพื้นที่อำเภอบางสะพานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาเข้าร่วมกิจกรรมในรูปแบบของการเข้าค่ายพักแรม 3 วัน 2 คืน ณ โรงเรียนบ้านท่าขาม โดยเด็กๆ ได้เรียนรู้เรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติในท้องถิ่นทั้งภาควิชาการและภาคปฏิบัติ ผ่านฐานกิจกรรมต่างๆ  ที่เน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัวด้วยการลงพื้นที่ศึกษาจากสถานที่จริง 

ไม่ว่าจะเป็น 1.ฐานระบบนิเวศป่าไม้2.ฐานระบบนิเวศชายฝั่งทะเล3.ฐานระบบนิเวศป่าชายเลน4.ฐานโลกสวยด้วยมือเรา และ5.ฐานเศรษฐกิจพอเพียงกับการแก้ปัญหาโลกร้อนสำหรับนักอนุรักษ์รุ่นเยาว์ นอกจากนี้กิจกรรมค่ายนักอนุรักษ์รุ่นเยาว์ ยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้แสดงความคิดเห็น และแสดงออกในทางที่สร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ ภายใต้การดูแลของหลายๆ หน่วยงานที่ร่วมกันถ่ายทอดความรู้และพี่เลี้ยงในแต่ละกิจกรรม อาทิ คณะวิทยากรจากกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 147 คณะวิทยากรจากเอสเอสไอและคณะครูจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประจวบคีรีขันธ์ฯ 

   

กิจกรรมค่ายนักอนุรักษ์รุ่นเยาว์ เป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆ โครงการที่บริษัทฯ ได้ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องด้วยมุ่งหวังว่าความรู้ต่างๆ ที่ปลูกฝังให้กับเยาวชนจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงแนวคิดและการเป็นต้นแบบให้คนในชุมชนหันมาให้ความสำคัญและเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น.

 ด.ญ.มนทิราเทียมจันทร์ โรงเรียนบ้านท่าขาม บอกแทนเพื่อนๆ ที่โรงเรียนอยากขอบคุณบริษัท ฯ ที่ให้การสนับสนุนในการจัดค่ายอนุรักษ์รุ่นเยาว์ ครั้งนี้เพราะเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ สอนให้พวกเราได้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นอกห้องเรียนและการที่เราได้ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติทำให้รู้ว่าธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มีประโยชน์กับพวกเราทุกคนมากจริงๆ

[สายชล]

เดลินิวส์

วันที่ 27 ธันวาคม 2551 เวลา 13:02 น

ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน จ.สุราษฎร์ธานี
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(27 ธ.ค.) ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินในเขตอำเภอเมือง ภายหลังเกิดฝนตกหนักยาวต่อเนื่องกว่า 8 ชั่วโมง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังฉับพลัน โดยมีระดับสูงถึง 30-70 เซนติเมตร สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือน ทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ถนนหลายสายไม่สามารถใช้รถสัญจรไปมาได้.