พฤศจิกายน 01, 2024, 01:34:40 AM
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว
: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
สมาชิก
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
กระดานข่าว Save Our Sea.net
>
หมวดหมู่ทั่วไป
>
ห้องรับแขก
(ผู้ดูแล:
สายชล
,
สายน้ำ
) >
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม 2551
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม 2551 (อ่าน 2098 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม 2551
«
เมื่อ:
ธันวาคม 28, 2008, 11:10:55 PM »
กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป
มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีฝนฟ้าคะนองกระจาย คลื่นลมในอ่าวไทยสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-21 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
คาดหมาย
ในช่วงวันที่ 28-29 ธ.ค. 2551 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้อากาศอุ่นขึ้น และ มีหมอกในตอนเช้า ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัด สุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ คลื่นลมในอ่าวไทยสูง 1-2 เมตร หลังจากนั้นในวันที่ 30 ธ.ค. 2551-3 ม.ค. 2552 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนระลอกใหม่จะแผ่ลงมา ปกคลุมประเทศไทยตอนบนอีกครั้งหนึ่ง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา กับมีลมแรง ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นด้วย
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 28-29 ธ.ค. 2551ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก ส่วนประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนในช่วงวันที่ 31 ธ.ค. 2551 - 3 ม.ค. 2552 ขอให้ชาวเรือในอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือไว้ด้วย
Forecast2.jpg
(39.08 KB, 684x423 - ดู 278 ครั้ง.)
Earthquake2.jpg
(27.27 KB, 450x306 - ดู 287 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม 2551
«
ตอบ #1 เมื่อ:
ธันวาคม 28, 2008, 11:30:54 PM »
เดลินิวส์
ผิวสดใสด้วยน้ำทะเล
ทราบหรือไม่ว่าการอาบน้ำทะเลสามารถทำให้ผิวสดใสเปล่งประกายได้ วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีเรื่องนี้มาบอก...
1. เกลือ ทำให้ผิวคงความชุ่มชื้น ดังการใช้เกลือทะเล เพื่อความงาม จึงมีผลทำให้ ผิวอ่อนนุ่นสดใสและเปล่งปลั่ง และยังช่วยขจัดเซลล์ผิวให้หลุดลอกออกไป
2. สาหร่ายทะเล ทำให้โลหิตไหลเวียนไปทั่วร่างกาย ทำให้มีชีวิตชีวาและเกิดพลังงานใหม่ ๆ
3. โคลนทะเล ทำให้ผิวกระตุ้นให้ระบบน้ำเหลืองและการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น และทำให้เนื้อ เยื้อแต่งตึง
รู้อย่างนี้ ก็ไม่ต้องกลัวกับการเล่นน้ำทะเลว่าผิวจะเสียอีกต่อไป เพราะน้ำทะเลก็มีประโยชน์เหมือนกัน.
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม 2551
«
ตอบ #2 เมื่อ:
ธันวาคม 28, 2008, 11:40:34 PM »
ผู้จัดการออนไลน์
เรียนรู้ธรรมชาติใน "อุทยานแห่งชาติสีเขียว"
อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จ.พังงา
ด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติที่นับวันจะถูกทำลายลงเรื่อยๆ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงจัดตั้งโครงการ
"อุทยานแห่งชาติสีเขียว" (Green National Park)
ขึ้น เพื่อฟื้นฟูและพัฒนารักษาธรรมชาติให้ยั่งยืน
โครงการอุทยานแห่งชาติสีเขียว เป็นอีกหนึ่งโครงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งปัจจุบันมีอุทยานแห่งชาติเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากในทุกปี แต่เนื่องจากพื้นที่อุทยานฯนั้น เป็นพื้นที่เปราะบาง ทำให้เกิดโครงการนี้ขึ้น เพื่อรักษาแหล่งธรรมชาติให้คงอยู่
โครงการนี้เล็งเห็นว่า การท่องเที่ยวสำคัญกับการพัฒนาประเทศ จึงจัดการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ และสัตว์ป่า อีกทั้งยังสร้างมาตรฐานของการจัดอุทยานแห่งชาติและท่องเที่ยวในด้านความสะอาด ปราศจากขยะ และมลพิษ สร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่ดีให้แก่อุทยาน
โดยกำหนดการท่องเที่ยวให้จำกัดอยู่ในขีดความสามารถในการรองรับในอุทยานแห่งชาติแต่ละแห่งภายใต้แนวคิด "7 Greens" ซึ่งต้องสร้างความรู้สึกให้กับนักท่องเที่ยวและชุมชน ปรับเปลี่ยนวิธีการเดินทางหรือรูปแบบการให้บริการด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับวัตถุประสงค์ของโครงการนี้เพื่อต้องการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว สนับสนุนรายได้ให้กับประเทศ และส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมรักษาธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ และที่สำคัญเพื่อลดภาวะโลกร้อน ซึ่งระยะนำร่อง มีพื้นที่เป้าหมายเป็น
อุทยานแห่งชาติทางบก 1 แห่ง และอุทยานแห่งชาติทางทะเล 1 แห่ง
คือ
"อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่"
ที่ครอบคลุมพื้นที่ จังหวัดปราจีนบุรี สระบุรี นครนายก และนครราชสีมา และอุทยานแห่งชาติทางทะเล คือ
"อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา"
จังหวัดพังงา
โครงการอุทยานแห่งชาติสีเขียว จะดำเนินงานภายใต้หลักการจัดการอุทยานแห่งชาติอย่างยั่งยืนในระหว่างเดือนตุลาคม 2551 กันยายน 2552
โครงการอุทยานแห่งชาติสีเขียวนี้ จะมีกิจกรรมหลักๆ อยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ด้าน คือ
ด้านการประชาสัมพันธ์
ที่จะจัดให้มีการประกวดตราสัญลักษณ์และคำขวัญอุทยานฯ รวมถึงการให้ข้อมูลในศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม
ที่ส่งเสริมให้ลดใช้พลังงานต่างๆ ทั้งน้ำ ไฟฟ้า รวมถึงการบำบัดในด้านมลภาวะต่างๆ
ด้านการบริการ
ที่มีการพัฒนามาตรฐานการบริการภายในอุทยานต่างๆ อาทิ ความปลอดภัย ที่พัก ระบบป้าย การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเป็นต้น และท้ายสุด
การบริหารจัดการ
ที่มีการกำหนดขอบเขตการใช้ประโยชน์อย่างชัดเจน
ซึ่งต่อไปอุทยานแห่งชาติแห่งชาติเขาใหญ่ อันเป็นอุทยานแห่งชาติสีเขียวนำร่องนั้น จะใช้รถที่ไร้มลพิษ และมีรถรับ-ส่งเพื่อลดปัญหาการจราจรแออัด ลานจอดรถแน่น และจะมีการกำหนดพื้นที่สูบบุหรี่ สนับสนุนโครงการร้านค้าในอุทยานที่มีตรา Green food good test และจะพัฒนาไปยังอุทยานแห่งชาติต่างๆ ในประเทศไทย
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม 2551
«
ตอบ #3 เมื่อ:
ธันวาคม 28, 2008, 11:49:04 PM »
แนวหน้า
"ตรัง"ชงกรมขนส่งทางน้ำ 67 ล. ลุยปรับปรุงท่าเทียบเรือกันตัง
ตรัง:นายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าว่า ในปี พ.ศ.2552 ทางจังหวัดได้ประสานของบประมาณไปยังกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี จำนวน 67 ล้านบาทเพื่อปรับปรุงก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือต่างประเทศ อำเภอกันตัง ซึ่งขณะนี้ชำรุดเป็นอย่างมากจำเป็นที่จะต้องได้รับการปรับปรุงก่อสร้างใหม่เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าจากจังหวัดตรังและจังหวัดใกล้เคียงไปสู่ต่างประเทศ ซึ่งล่าสุดทราบว่าทางกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวีได้มีการอนุติงบประมาณและอยู่ในระหว่างการดำเนินการ
โดยปกติท่าเทียบเรือต่างประเทศอำเภอกันตังแห่งนี้ มรท่าเทียบเรือ 3 ท่า เปิดให้เอกชนเช่าพื้นที่เพื่อขนส่งสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ นำเข้าและส่งออก สามารถทำรายได้ให้กับทางจังหวัดและท้องถิ่นปีละไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท แต่ขณะนี้ท่าเทียบเรือที่1 ชำรุด จึงต้องเร่งปรับปรุงก่อสร้างใหม่ คาดว่าหากไม่มีปัญหาต้นปี พ.ศ.2552 น่าจะสามารถนำเดินการได้ทันทีซึ่งจะแล้วเสร็จประมาณสิ้นปี สำหรับความยาวของสะพานท่าเทียบเรือมีความยาว 140เมตร
ทั้งนี้เมื่อการปรับปรุงก่อสร้างแล้วเสร็จทางเทศบาลเมืองกันตังจะดำเนินการขุดลอกร่องน้ำโดยการใช้รถแบ็คโฮขุดแทนวิธีการดูดเนื่องจากเป็นการป้องกันตะลิ่งพัง เมื่อกรมการขนส่งทางน้ำฯดำเนินการแล้วเสร็จ จะส่งมอบสะพานให้ทางกรมธนารักษ์ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ จากนั้นทางกรมธนารักษ์จะทำสัญญากับทางเทศบาลเมืองกันตังให้ดูแลรับผิดชอบด้วยการแบ่งรายได้ให้กรมธนารักษ์50% ที่เหลือเป็นของเทศบาลเมืองกันตัง
*****************************************************************************************************************************
ชาวบ้านน้ำเค็มตั้งกองทุนฯ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ
พังงา:นายไมตรี จงไกรจักร ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้ประสบภัยสึนามิ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมงานรำลึก 4 ปี สึนามิ ที่บ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ว่า ภายหลังเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ ได้เกิดปัญหาวิกฤติความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ 6 จังหวัดอันดามัน ส่งผลทำให้ผู้ประสบภัยเกิดการรวมกลุ่ม ร่วมคิด ร่วมทำและเชื่อมโยงกันเป็น"เครือข่ายผู้ประสบภัย สึนามิ" ขึ้นมาสำหรับใช้เป็นองค์กรหลักในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ ระหว่างชุมชนกับชุมชน และชุมชนกับองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับชุมชน
ทั้งนี้เครือข่ายฯ ได้ร่วมกันจัดตั้งเป็น"กองทุนปกป้องที่ดินทรัพยากรและวัฒนธรรมพื้นถิ่นอันดามัน" โดยมีสมาชิกในเครือข่ายร่วมกันสมทบคนละ 10 บาทต่อคนต่อเดือน ปัจจุบันมีสมาชิกในเครือข่ายไม่น้อยกว่า 3,000 คน โดยมีกิจกรรมการจัดตั้งกองทุนหมุนเวียนและกลุ่มออมทรัพย์และพัฒนาเป็นธนาคารชุมชนบ้านน้ำเค็มในปัจจุบัน และได้จัดทำแผนเตรียมความพร้อมป้องกันภัยในชุมชนจนมาเป็นพิพิธภัณฑ์สึนามิ บ้านน้ำเค็ม
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
หมวดหมู่ทั่วไป
-----------------------------
=> ห้องรับแขก
=> กิจกรรมและผลงาน
=> เรื่องเล่าชาวทะเล
=> ท่องเที่ยวทั่วแผ่นดิน
=> คุยเฟื่องเรื่องดำน้ำ
=> หลังเลนส์
=> สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล
=> คลังกระทู้เก่า
กำลังโหลด...