เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกขอบคุณช่างภาพใต้น้ำที่นำความงามของโลกใต้ทะเลออกมาเผยแพร่ช่วยสร้างสำนึกให้ผู้คนเกิดความรักและหวงแหนทรัพยากรค่ะ..
รักหนังสือโลกทะเลของท่านมุ้ย ชื่นชมสารคดีโลกใต้ทะเลทั้งหลายที่ทั้งช่างภาพและนักวิชาการทั้งในและต่างประเทศได้ผลิตขึ้นมาเป็นสื่อให้พี่น้องที่ไม่มีโอกาสได้เห็นของจริง ได้ดูได้ชื่นชม ..หรือแม้กระทั่งให้เราๆ ที่ได้เห็นของจริง แต่เอาแค่ลงไปชมความงาม ไม่ค่อยได้สนใจไฝ่รู้อะไรนัก ได้รับความรู้ขึ้นมาบ้าง..
แม่หอยพูดเสมอว่า เรื่องชีวิตสัตว์ใต้ทะเลนั้น อ่านเรื่อง ชมภาพ ดูวีดีโอ ภาพยนต์สารคดีต่างๆ ได้ข้อมูลความรู้ รายละเอียดต่างๆ ชัดเจน ดีกว่าจับสัตว์น้ำมาใส่ตู้อะควาเรียม อ้างว่าเพื่อให้คนไม่มีโอกาสลงทะเลได้เห็นได้ศึกษาซะอีก.. รู้ดีว่าการทำงานสารคดีใต้น้ำแต่ละเรื่อง น่าจะรบกวนวุ่นวายกับชีวิตสัตว์ไม่น้อย กว่าจะได้ภาพได้เรื่องมาครบถ้วน แต่คงไม่ทรมานยาวนานเท่าการถูกจับเอามากักขังให้จบชีวิตลงในตู้ ชีวิตแล้วชีวิตเล่า คนที่มาดูก็แค่เดินผ่านๆ ชมแค่ความงามความแปลก แทบไม่ได้รู้เห็นอะไรเกี่ยวกับชีวิตมันเลยแม้แต่น้อย ..
ติดตามชื่นชมผลงานทั้งเรื่องและภาพของสรรพชีวิตใต้ทะเลของคุณวินิจและปรมาจารย์อีกหลายๆ ท่านที่ทำงานเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของชีวิตใต้ทะเลมาโดยตลอด..
งานของท่านมีประโยชน์นะคะ ไม่ใช่ถ่ายไว้โชว์ไว้อวดฝีมืออย่างเดียว .. อย่าท้อแท้เลยค่ะ
สมัยนี้คนเราถือกล้องลงน้ำกันเยอะ แต่ถ้าเราแค่จะเก็บความประทับใจไว้ชื่นชมเป็นความทรงจำส่วนตัว ก็ควรจะเอาแค่พอดูได้ อย่าถึงกับเอาจริงเอาจังยิงชัตเตอร์พร้อมแฟลชไม่ยั้งจนปลาตาบอดตามๆ กัน หรือตะเกียกตะกายแก่งแย่งซีนจนปะการังกระจุยเลยนะคะ
แหม.. คนทำงานยังจะต้องมารู้สึกถูกกดดัน สงสัยว่าคนที่ถือกล้อง ถ้าจะมีใครที่ต้องก้มมองตัวเอง เพื่อพิจารณาหยุดการถ่ายภาพอันเป็นการรบกวนชีวิตสัตว์ ก็คงไม่ใช่คุณวินิจหรอกนะคะ ..
ปล. เรื่องถ่ายภาพใต้น้ำน่ะแม่หอยไม่มีความกดดันหรอกค่ะ ถ่ายภาพเพื่อบันทึกเรื่องราวและเก็บไว้ใช้ในงาน ถ่ายมา 3 ปี 5 ปี ไม่มีพัฒนา ไม่กดดัน ไม่ประกวดกับใคร และถ้ากล้องน้อยยังบันทึกภาพได้ก็ยังไม่หยุดถ่ายภาพ ไม่เลิกไม่แลกทั้งนั้น ฮิๆ..
มีแต่ความกดดันเรื่องอื่น.. เครียด...ด...ด...