เห็นภาพจริงๆครับ
เหมือนว่าเรากำลังต่อสู้กับอะไรที่น่ากลัวเเละเรามองไม่เห็นตั้งหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความเห็นแก่ตัว ผลประโยชน์ จิตสำนึก
เป็นธรรมดาที่เราต้องเหนื่อยแและท้อบ้างครับ สู้กับอะไรที่ใหญ่เกินตัว แถมยังมองไม่เห็นอีกต่างหาก
ถึงประสบการณ์การทำงานอนุรักษ์ของผมจะน้อยนิด ไม่อาจเปรียบกับที่พี่ๆน้องๆหลายๆคนที่นี่ได้ประสบมาทั้งโดยตรงและโดยอ้อม
แต่ผมก็บอกได้เต็มปากว่า
... เห็นด้วยและเข้าใจครับ ...
ผมเห็นว่า นอกจากที่พี่สายชลบอกแล้ว "ถ้าเราไม่ทำ แล้วใครจะทำ" เป็นเหตุผลหลัก ซึ่งแน่นอน มันคงไม่สามารถทำให้ปัญหาเหล่านี้มันหมดสิ้นไปได้
แต่อย่างน้อย ทะเลไทยไม่มีหลอดที่จะหลุดเข้าไปในกระเพาะฉลามวาฬ ไม่มีถุงพลาสติกที่ลอยในทะเลแล้วเต่าเข้าใจผิดว่าเป็นแมงกระพรุน เหล่าปลาน้อยที่หลุดออกจากอวน ม้าน้ำตัวน้อยที่กำลังเติบโต รวมถึงซากอวนทุกผืนที่จะถูกตัดเลาะออกจากแนวปะการัง เพื่อที่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะได้มีโอกาสเติบโตต่อไปได้บ้าง ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เราตัดสินใจเก็บของลงเรือทุกครั้งที่เวลาและโอกาสเอื้ออำนวยใช่ไหมครับ
นอกจากนี้ผมยังเชื่ออีกว่า สิ่งที่พวกเราพี่ๆน้องทำอยู่ตอนนี้ มันทำให้คนรุ่นใหม่ หรือคนที่สนใจและอยากทำงานอนุรักษ์ได้เห็นว่า บ้านเมืองเรา ยังมีพวกเรา ยังมีคนกลุ่มนี้อยู่ ยังมีที่ที่พร้อมจะเปิดโอกาสให้พวกเขาได้เข้ามาเีรียนรู้และมีส่วนร่วม ไม่ใช่หันไปทางไหนก็มองไม่เห็นใคร
เท่านี้ก็เพียงพอแล้วจริงๆ