กระดานข่าว Save Our Sea.net
เมษายน 19, 2024, 02:48:07 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล  (อ่าน 5509 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 12:20:05 AM »


ตัวเป็นๆ ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล


"นาร์วาฬ" มีงาออกจากปาก แต่ลักษณะเป็นเกลียวคล้ายเขาของยูนิคอร์นสัตว์ในเทพนิยาย (ภาพเนชั่นแนลจีโอกราฟิก)

ยุคสมัยที่ใครๆ ก็มีคลิป (หลุด) ไม่เว้นแม้แต่สัตว์ที่หาชมได้ยากสุดๆ อย่าง "นาร์วาฬ" เจ้าของฉายา "ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล" ก็หนีไม่พ้นกล้องของทีมสารคดีบีบีซี ที่เฝ้าติดตามสัตว์ลึกลับแห่งอาร์กติกมาเกือบปี นับเป็นครั้งแรก ที่สามารถบันทึกเส้นทางอพยพของนาร์วาฬจากมุมสูงได้
       
       ทีมงานแผนกธรรมชาติวิทยา บีบีซีแห่งอังกฤษ (BBC Natural History Unit) ภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง กับสิ่งที่บันทึกได้ระหว่างการถ่ายทำสารคดีชุด เหตุการณ์ยิ่งใหญ่แห่งธรรมชาติ (Nature's Great Events)
       
       ภาพสิ่งมีชีวิตฝูงหนึ่ง ที่แหวกว่ายไปตามรอยแยกของน้ำแข็งบนผืนมหาสมุทรอาร์กติก ระหว่างกำลังอพยพย้ายถิ่นในช่วงฤดูร้อน
       
       สัตว์ที่ผ่านเข้ามาให้บีบีซีได้มีโอกาสบันทึกนั้นคือ "นาร์วาฬ" (Narwhal) วาฬขาวขนาดเล็ก ที่อาศัยอยู่บริเวณอาร์กติก ซึ่งบางครั้งวาฬน้อยเหล่านี้ ได้รับฉายาว่า "ยูนิคอร์นแห่งอาร์กติก" หรือ "ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล" เพราะงาที่มีลักษณะบิดเกลียวยื่นยาวแทงทะลุออกมาจากปากของพวกมัน


สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแห่งขั้วโลกนี้ ยังมีหลายพฤติกรรมที่นักชีววิทยาต้องการไขข้อสงสัย (ภาพเนชั่นแนลจีโอกราฟิก)
       
       งา (ที่เหมือนจะเป็นเขาของยูนิคอร์น) แต่ยื่นออกจากปากของนาร์วาฬนี้ ยาวประมาณ 2 เมตร ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า งาอันยาวยืดนี้เป็นความภาคภูมิใจของนาร์วาฬเพศผู้ที่ใช้ดึงดูดความสนใจระหว่างการจับคู่
       
       ทีมงานของบีบีซีมุ่งหน้าสู่อาร์กติกตั้งแต่เดือน มิ.ย. 51 ที่ผ่านมา เพื่อจับจ้องบันทึกภาพการอพยพของเหล่าสัตว์ที่มีงาเหมือนช้างในช่วงฤดูร้อน
       
       ช่วงเวลานี้ของปี อากาศเริ่มมีความร้อนสูงมากขึ้น ทำให้อุณภูมิน้ำทะเลสูงกว่าจุดเยือกแข็ง แผ่นน้ำแข็งหนาๆ เริ่มละลาย สร้างพื้นที่น้ำแข็งแตกกระจายไปทั่ว


อยู่กันเป็นฝูง และหากินในน้ำลึก (ภาพเนชั่นแนลจีโอกราฟิก)
       
       ทุกๆ ปีในหน้าร้อนนาร์วาฬนับพันๆ ตัว จะใช้รอยแยกของแผ่นน้ำแข็งเป็นเส้นทางอพยพจากแหล่งที่อยู่คือบาฟฟิน เบย์ (Baffin Bay) ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างมหาสมุทรอาร์กติกกับแอตแลนติก ที่บริเวณแคนาดา มุ่งหน้านับพัน กิโลเมตรสู่ไฮอาร์กติกฟยอร์ด (High Arctic Fjords) อ่าวน้ำแข็งแถบขั้วโลกเหนือ พรมแดนของนอร์เวย์
       
       ทว่า การติดตามหาร่องรอยของสัตว์เหล่านี้ใช่ว่าจะง่ายดาย
       
       จัสติน แอนเดอร์สัน ผู้ผลิตรายการนี้กล่าวว่า แม้นาร์วาฬจะตัวใหญ่ แต่พื้นที่ในการค้นหาก็กว้างใหญ่พอๆ กับสก็อตแลนด์
       
       "เหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทร" เขาเปรียบเทียบ ทีมงานของเขาพร้อมกล้องบันทึกภาพใต้น้ำ ต้องใช้เวลาราว 4 สัปดาห์เฝ้ารอยูนิคอร์นทะเลบนแผ่นน้ำแข็ง แต่เมื่อเห็นร่องรอยของสิ่งที่รอคอยแล้ว แผ่นน้ำแข็งที่แทรกตัวอยู่ก็เริ่มเป็นอันตราย บางเกินกว่ามนุษย์จะอยู่ได้


งาที่แสนยาวของนาร์วาฬใช้เพื่อดึงดูดเพศตรงข้าม (ภาพเนชั่นแนลจีโอกราฟิก)
       
       แม้จะเปลี่ยนแผนมาใช้เฮลิคอปเตอร์ตามหา ที่ดูเหมือนว่าจะสะดวกสบายในการเดินทาง แต่หมอกในอาร์กติกก็เป็นอันตรายต่อการขับเครื่องบินเป็นอย่างยิ่ง
       
       ทว่าหลังจากตามหาด้วยเฮลิคอปเตอร์มา 7 วันแล้ว ในวันที่ 8 ของการบินที่ท้องฟ้าแจ่มใส อีกทั้งยังมีพระอาทิตย์เที่ยงคืน (ในฤดูร้อนที่ขั้วโลกเหนือจะเห็นดวงอาทิตย์ 24 ชั่วโมง) ทำให้ช่างภาพสามารถบันทึกนาร์วาฬที่แหวกว่ายตามเส้นทางที่คาดหมาย จากเฮลิคอปเตอร์ได้ไม่ยาก
       
       แอนเดอร์สัน กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า นับเป็นครั้งแรกที่มีการบันทึกภาพการอพยพของนาร์วาฬได้  ภาพนาร์วาฬที่บันทึกได้ก่อนๆ หน้านี้ เป็นภาพที่บันทึกบนแผ่นน้ำแข็ง เห็นแค่การใช้ชีวิตรอบๆ นี่นับเป็นครั้งแรกที่บันทึกได้จากมุมสูง


แม้จะเป็นสัตว์หายาก แต่ก็ถูกล่าหัวมากไม่แพ้กับสัตว์ขั้วโลกเหนืออื่นๆ (ภาพเนชั่นแนลจีโอกราฟิก)
       
       "เป็นภาพที่มหัศจรรย์มาก สัตว์เหล่านี้ไม่น่าเชื่อว่าจะมีจริง เหมือนสัตว์จากเทพปกรณัม พวกเราประหลาดใจมากที่ได้เห็นพวกมัน" แอนเดอร์สันกล่าว
       
       การพบเห็นนาร์วาฬ เป็นโอกาสที่จะได้ศึกษาความซับซ้อนของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแถบอาร์กติก นับเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยากในธรรมชาติ
       
       แมดส์ เพียเตอร์ ไฮเดอ-ยอร์เก้นเซน (Mads Pieter Heide-Jorgensen) จากสถาบันทรัพยากรธรรมชาติแห่งกรีนแลนด์ (Greenland Institute of Natural Resources) เปิดเผยว่า จุดประสงค์ที่สัตว์เหล่านี้อพยพในช่วงฤดูร้อน ยังคงเป็นปริศนา
       
       เขาอธิบายว่า สิ่งที่น่าสนใจคือนาร์วาฬ หาอาหารในน้ำลึก ที่บริเวณใจกลางบาฟฟินเบย์ในช่วงฤดูหนาว แต่เมื่อถึงฤดูร้อนก็หาอาหารได้ด้วยความยากลำบาก จึงทำให้พวกมันถอยกลับไปอยู่บริเวณทะเลน้ำแข็ง ซึ่งนาร์วาฬมีพฤติกรรมอย่างนี้มานานนับพันปี
       
       อย่างไรก็ดี การที่นาร์วาฬอพยพไปใช้เวลาช่วงฤดูร้อนที่บริเวณหน้าทะเลน้ำแข็งเกือบติดกับขั้วโลกเลยนั้น เป็นสิ่งที่นักธรรมชาติวิทยาขั้วโลกยังไม่สามารถค้นหาคำตอบได้


งาที่ยาวกว่า 2 เมตร นอกจากจะถูกล่าเพื่อสะสมแล้ว ที่งาของนาร์วาฬยังเป็นแหล่งวิตามินซีชั้นดีอีกด้วย (ภาพการ์เดียน)


นาร์วาฬแบบมีงาคู่ หายากยิ่ง (ภาพจากวิกิพีเดีย-Zoologisches Museum in Hamburg)
       
       ด้วยความที่ต้องการศึกษาความเชื่อมโยงของน้ำแข็งอาร์กติกับนาร์วาฬ ว่าจะพวกมันจะมีปฏิกิริยาต่อการเปลี่ยนแปลงของน้ำแข็งที่ปกคลุมมหาสมุทรอาร์กติกอย่างไร
       
       ศ.ไฮเดอ-ยอร์เก้นเซนได้ติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณดาวเทียม ตามตำแหน่งเส้นทางที่นาร์วาฬว่ายน้ำผ่าน โดยตรวจสอบอุณหภูมิน้ำที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งพบว่าอุณหภูมิน้ำลึกเพิ่มสูงขึ้นมากในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา
       
       อย่างไรก็ดีศาสตราจารย์จากกรีนแลนด์ยังไม่ด่วนสรุปฟันธงว่า สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงสังผลต่อเหล่านาร์วาฬอย่างไร


ภาพจากวิดิโอที่บีบีซีบันทึกระหว่างการอพยพของนาร์วาฬ จากมุมสูง
       
       สำหรับสารคดี Nature's Great Events ตอน The Great Melt ของบีบีซีที่บันทึกภาพนาร์วาฬได้ในครั้งนี้ จะออกอากาศผ่านช่อง BBC One ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ก.พ.52 เวลา 04.00 น. ตามเวลาประเทศไทย (หรือตรงกับวันที่ 11 ก.พ.52 เวลา 21.00 น. ตามเวลามาตรฐาน)



จาก                                     :                              ผู้จัดการออนไลน์       วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2552 
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
WayfarinG
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2388



« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 01:47:56 AM »

เฮ้อออ .. คนเราทำไมจิตใจถึงโหดเหี้ยมอย่างงี้เนอะ .. มันก็อยู่ของมันดีดี .. 
บันทึกการเข้า

If you reject the food, ignore the customs, fear the religion and avoid the people, you might better stay home.  -- > James Michener
Sky
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2506



« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 06:52:02 AM »

รูปนี้น่าสงสารมากเลย

บันทึกการเข้า
หอยกะทิ
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 155


บุ๋งๆ จงกลายเป็นวงๆๆๆ


« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2009, 07:35:09 AM »

เป็นวาฬที่น่าหลงไหลมากที่สุดครับ ชอบมาก ถ้าได้เห็นซักครั้งน่าจะเป็นอะไรที่สุดๆ
บันทึกการเข้า
marine_wi
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 216


ผู้พิทักษ์ทะเลตัวน้อย


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 18, 2009, 01:54:14 PM »

น่าสงสารมันจังเลย

ถ้าเปลียนกัน  มันมาล่ามนุษย์บ้างจะรู้สึกไง
บันทึกการเข้า
ตุ๊กแกผา
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 378



« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 21, 2009, 02:29:22 AM »

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะไม่มี แต่เป็น.......คนล่าหัวคนแทน (รุ่นนี้อาจไม่ทราบ.....เคยออกมาเป็นภาพยนต์แล้ว......เราไม่เคยดูหรอก มีคนมาบอกว่าโหดดดดดดดดดด มากกกกกกกก)
........โหดที่สุดในโลก ก็คือมนุษย์(จะอ่านว่า มะ-นุส หรือ ม๋า-นุชตามใครหลายคนก็ได้...แต่ควรอ่านในใจน๊ะจ๊ะ เพราะมันไม่สุภาพ)นี่แหล่ะ
บันทึกการเข้า
หอยกะทิ
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 155


บุ๋งๆ จงกลายเป็นวงๆๆๆ


« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 03, 2009, 03:55:11 PM »

คนล่าหัวคนผมดูแล้วครับ เป็นสารคดี ที่ห้องสมุดกลาง มอ. ยังมีอยู่มั๊ง ภาพแบบไม่มีเซ็นเซอร์ โหดร้ายมาก อังเอิญไปดู ดูจบ อ้วกเลย ไม่ได้ พูดเล่น???
บันทึกการเข้า
marine_wi
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 216


ผู้พิทักษ์ทะเลตัวน้อย


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: เมษายน 04, 2009, 01:46:03 AM »

คงไม่ควรที่จะเรียกว่ามนุษย์แล้วล่ะ   
บันทึกการเข้า
ตุ๊กแกผา
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 378



« ตอบ #8 เมื่อ: เมษายน 04, 2009, 03:46:54 AM »

คนล่าหัวคนผมดูแล้วครับ เป็นสารคดี ที่ห้องสมุดกลาง มอ. ยังมีอยู่มั๊ง ภาพแบบไม่มีเซ็นเซอร์ โหดร้ายมาก อังเอิญไปดู ดูจบ อ้วกเลย ไม่ได้ พูดเล่น???
โชคดีที่เราไม่ดู.....
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.026 วินาที กับ 20 คำสั่ง