กระดานข่าว Save Our Sea.net
เมษายน 16, 2024, 08:28:44 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: “เต่าสิมิลัน”อย่าให้ถึงวันเป็น“เต่านินจา”  (อ่าน 7019 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: มีนาคม 26, 2009, 01:08:29 AM »


“เต่าสิมิลัน”อย่าให้ถึงวันเป็น“เต่านินจา”                                     :                             ปิ่น บุตรี
 

เต่าทะเล เกาะสี่   
 
       ...เกาะสี่ (เมียง)
       
       คืนแรกแห่งสิมิลัน
       
       เมื่อคืนเกาะสี่ฝนตกหนัก แต่เช้าวันรุ่งขึ้นท้องฟ้าสดใส คลื่นลมสงบ น้ำทะเลหน้าเกาะสวยใสปิ๊ง สะท้อนแสงแดดระยิบระยับ
       
       ผมยืนอยู่บนเรือนำเที่ยวรอเวลาออกลำไปดำน้ำดูปะการัง บนเรือมองลงไปเห็นปะการังและฝูงปลาแหวกว่ายเพลินตา ระหว่างผมดูปลาอยู่เพลินๆ จู่ๆใต้น้ำมีเงาดำกลมๆวูบไหวลอยมา ก่อนจะเคลื่อนไม่ช้าไม่เร็วเข้าใกล้ๆเรือจนเห็นได้ชัดว่า นั่นมันคือ“เต่าทะเล”ตัวเขื่องหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู
       
       เต่าทะเลตัวนั้นมันแหวกว่ายโชว์ตัวให้พวกเราชมกันอยู่พักใหญ่ ก่อนจะว่ายหายลับไป
       
       เจ้าหน้าที่เรือบอกว่า การได้เจอเต่าตัวเป็นๆใกล้ๆอย่างนี้นับเป็นโชคดีของผมไม่น้อยเลย
       
       อืม...ผมก็คิดอย่างนั้น ว่านี่เป็นความโชคดีมากของผม ผิดกับโชคชะตาชีวิตของเต่าทะเลในบ้านเราหลายๆแห่งที่ออกแนวตรงกันข้าม คือจัดอยู่ในขั้น“โชคร้าย” เพราะพวกมันกำลังอยู่ในสถานการณ์วิกฤตที่สุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ไม่น้อยเลย
       
       แต่สำหรับเต่าทะเลที่สิมิลันในวันนี้ ดูพอจะมีโชคบ้าง เพราะที่นี่เขาได้จัดทำโครงการอนุรักษ์เต่าทะเลขึ้นมาที่เกาะหนึ่ง เพื่อร่วมฟื้นฟูปริมาณเต่าทะเลให้กลับมาอยู่คู่กับทะเลไทยในปริมาณที่เหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง...

       
       ...เกาะหนึ่ง(หูยง)
       
       ในจำนวนเกาะทั้ง 9 ของหมู่เกาะสิมิลันนั้น เกาะหนึ่งหรือเกาะหูยงถือเป็นพื้นที่หวงห้าม เพราะเป็นพื้นที่เต่าทะเลวางไข่ นั่นจึงทำให้ประมาณปี 2538 ทางกองทัพเรือได้ร่วมมือกับกรมอุทยานฯ(สมัยนั้นยังเป็นกรมป่าไม้อยู่)จัดตั้งโครงการอนุรักษ์เต่าทะเลขึ้นบนเกาะแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่(ทหารเรือ) 3 คน ผลัดเปลี่ยนมาปฏิบัติการบนเกาะเป็นกะ ทุกๆ 15 วัน
       
       พวกเขาเหล่านั้น จะคอยดูแล ฟูมฟักไข่เต่าอย่างใกล้ชิดทะนุถนอม เรียกว่าเป็นดัง“แม่นม(ของ)เต่า”ก็ว่าได้
       
       ฉะนั้นเกาะหนึ่งจึงไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวบนเกาะ ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ไปรบกวนสถานที่วางไข่เต่าทะเลอันเป็นพื้นที่ละเอียดอ่อนมาก ซึ่งพลเรือตรีธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือพังงา ได้เปิดเผยว่า เกาะหนึ่ง ปัจจุบันเป็นแหล่งวางไข่เต่าทะเลที่ใหญ่ที่สุดในทะเลอันดามัน

   
เต่าทะเล 2 ตัวมาเล่นน้ำที่เกาะแปด   
 
       แม่เต่าที่มาวางไข่บนเกาะหนึ่งส่วนใหญ่มาจากน่านน้ำในทะเลอินเดีย เมื่อมาวางไข่แล้วก็จะว่ายน้ำกลับไปหากินแถวเกาะอันดามันเหนือและเกาะนิโคบาร์ แต่กระนั้นก็มีเต่าส่วนหนึ่งติดใจทะเลไทย เลือกหากินอยู่แถบนี้ อย่างแม่เต่าชื่อ“แม่ศรีนวล” ที่จากการฝังชิปติดตามพบว่ามันชอบหากินอยู่แถวทะเลในเขตคุระบุรี จ.พังงา
       
       แม่ศรีนวล เต่าตัวนี้พี่จ่าเจ้าหน้าที่บนเกาะหนึ่ง บอกว่า มันตัวใหญ่มากและเพิ่งขึ้นมาวางไข่ครั้งล่าสุดบนเกาะหนึ่งก่อนผมไปเที่ยวสิมิลันเพียงวันเดียว
       
       ซึ่งกระบวนการฟูมฟักดูแลไข่เต่านั้น พี่จ่าผู้เป็นดังแม่นมเต่า อธิบายคร่าวๆให้ผมฟังว่า แม่เต่าจะมีรอบการวางไข่ประมาณ 3-5 ปี โดยจากสถิติที่เก็บบนเกาะหนึ่ง มีแม่เต่าสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมาวางไข่เฉลี่ยทุกๆ 12 วัน(ต่อครั้ง) แม่เต่าที่ขึ้นมาวางไข่เท่าที่สำรวจพบเป็นเต่าตนุ(สถานภาพปัจจุบันสุมเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ หากไม่ช่วยกันอนุรักษ์ไว้)แม่เต่าหนึ่งท้อง จะวางไข่ราว 4-8 ครั้ง ครั้งละประมาณ 100-150 ฟอง ปี 51 ที่ผ่านมา มี 8 แม่เต่าขึ้นมาวางไข่ เต่าที่ขึ้นมาวางไข่ทางเจ้าหน้าที่จะทำการฝังชิปและตั้งชื่อไว้เพื่อติดตามผล
       
       “หากรอให้ไข่เต่าฟักตัวเองตามธรรมชาติ เปอร์เซ็นต์รอดจะมีแค่ประมาณ 1-2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เราจึงต้องช่วยเหลือเต่า นำไข่มาเก็บรักษาไว้ในบ่อทรายลึกประมาณ 1 เมตร เพื่อรอวันฟักเป็นตัว ประมาณ 55-65 วัน เมื่อฟักเป็นตัวแล้วจะเลี้ยงไว้สักพัก แล้วค่อยส่งต่อไปยังฐานทับเรือทับละมุเพื่ออนุบาลเลี้ยงดูมันอีกที”
       
       พี่จ่าเล่าขั้นตอน ซึ่งหลังจากนั้นทางทับละมุจะเป็นผู้ดูแล จนมีอายุประมาณ 6-7 เดือน มีขนาดตัวพอเหมาะ จึงนำเต่ากลับไปปล่อยให้มันเผชิญโลกกว้างในท้องทะเลต่อไป ส่วนพวกแม่นมเต่าอย่างทีมพี่จ่าก็หันไปดูฟูมฟักไข่เต่าในรุ่นต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดหน้าที่ เพราะตราบใดที่เกาะหนึ่งยังคงสภาพบริสุทธิ์เช่นนี้ไว้ได้ แม่เต่าก็จะขึ้นมาวางไข่อยู่ไม่ได้ขาดเนื่องจากที่นี่มีน้ำทะเลบริสุทธิ์สะอาด ทรายสะอาด หาดทรายยาว ที่สำคัญคือไม่มี“คน”มาคอยรบกวน
       
       พูดถึงคนแล้ว ผมอดนึกถึงตอนดูสารคดีเรื่องการฟักของลูกเต่าทะเล ที่พอมันฟักตัวออกมาแล้ว พอจะเดินลงทะเล ก็ถูกนก ถูกปู เข้ามาจับกินมากมาย เหลือรอดลงทะเลไม่เท่าไหร่ ครั้นลงทะเลก็ถูกปลาใหญ่ไล่ฮุบกินจนแทบจะไม่เหลือรอด แต่นั่นยังไม่เลวร้ายเท่ากับเมื่อไข่เต่าถูกคนใจบาปมาเจอแล้วนำไข่กลับไปกินหรือไปขายเรียบวุธไม่เหลือหรอ
       
       เรื่องนี้โทษคนขายอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะซับพลายด์กับดีมานด์เป็นของคู่กัน เพราะในเมื่อยังมีคนส่วนหนึ่งเชื่ออย่างฝังใจว่าไข่เต่าเป็นยาอายุวัฒนะเมื่อกินแล้วจะอายุยืน นั่นจึงทำให้มีผู้พยายามลักลอบเก็บไข่เต่ามาขายอยู่ไม่ได้ขาดจนประชากรเต่าในบ้านเราร่อยหรอลงทุกที ซึ่งหากถามว่าศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของเต่าทะเลคือสิ่งมีชีวิตประเภทไหน
       
       งานนี้ตอบไม่ยากว่ามันคือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า“คน”นั่นเอง

       
       ...เกาะแปด(สิมิลัน)
       
       วันที่ 3 แห่งสิมิลัน ช่วงเที่ยงๆ หลังเที่ยวชมเกาะแปดจนหนำใจทั้ง เล่นน้ำทะเล ขึ้นหินเรือใบไปชมวิว ขณะอยู่บนเรือเพื่อจะเดินทางไปทำดำน้ำในเกาะใกล้เคียง ระหว่างนั้นในน้ำทะเลที่ใสแจ๋วแหววมองลงไปเห็นฝูงปลาแหวกว่าย จู่ๆก็มีเงาดำๆวูบไหวแหวกว่ายมากินอาหารที่พรรคพวกผมโยนให้ปลากิน
       
       อา...นั่นมันเต่าทะเลอีกแล้ว คนละตัวกับเมื่อวานเสียด้วยเพราะขนาดตัวมันเล็กกว่า เห็นอย่างนี้ผมรู้สึกว่าวันนี้เป็นโชคดีอีกครั้งที่ได้เห็นเต่าตัวเป็นๆ
       
       แต่เอ๊ะ!!! นั่นมันอะไรดำๆวูบไหวตามมาอีก เมื่อเพ่งสายตาไปดู นั่นมันเต่าทะเลอีกตัวนี่หว่า แถมตัวใหญ่กว่าตัวนี้เสียด้วย พวกมันทั้ง 2 ตัวพากันแหวกว่ายอวดโฉมให้พวกเราชมกันอย่างจุใจ นับเป็นโชคสองชั้นอันน่าทึ่งที่สิมิลันมอบให้ชนิดที่จะคงความประทับใจไปอีกนานเท่านาน...

   
เต่าทะเล(เกาะแปด) สัตว์ที่ต้องช่วยกันอนุรักษ์ไว้ 
 
 
       ...เกาะสี่(อีกครั้ง)
       
       คืนที่สามคืนสุดท้ายแห่งสิมิลัน
       
       เรื่องราวการพบเจอเต่าถึง 3 ตัว ใน 3 วัน ถูกนำไปถ่ายทอดให้พี่ไหว เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอาวุโสแห่งสิมิลันในระหว่างที่ผมกับพรรคพวกนั่งร่ำสุรากับแก
       
       พี่ไหวอธิบายให้ฟังว่า เต่าทะเลในเมืองไทยจากข้อมูลของกรมอุทยานฯ ตอนนี้พบว่ามี 4 ชนิดด้วยกัน คือ เต่าตนุ เต่ากระ เต่าสังกะสีหรือเต่าหญ้า และเต่ามะเฟือง(บางข้อมูลระบุว่าเมืองไทยพบเต่าทะเล 5 ชนิด คือนอกจากเต่าทะเลทั้ง 4 ชนิดแล้วก็ยังมีเต่าหัวค้อนเพิ่มมาอีกหนึ่งชนิด)
       
       “เต่าที่นี่ที่พี่เจอบ่อยๆเป็นเต่าตนุ ส่วนเต่ากระนานๆเจอที ส่วนเต่าสังกะสีกับเต่ามะเฟืองนี่พี่ก็เจอบ่อยเหมือนกัน แต่มันโผล่ให้เห็นแค่บางจุดเท่านั้น”
       
       พี่ไหวเล่าด้วยสำเนียงทองแดงแท้ๆ ก่อนหยุดเว้นวรรคไปชั่วขณะ จนผมอดรนทนไม่ไหวไม่ได้ต้องถามด้วยความสงสัยว่า “แล้วเต่าสังกะสีกับเต่ามะเฟืองนี่มันโผล่มาให้เห็นที่ไหนล่ะพี่ ผมจะมีโอกาสได้เห็นมันมั้ย”
       
       “โอ๊ย!?! หาไม่ยากหรอก มันโผล่ให้เห็นที่ข้างฝาเป็นประจำเลย จนพี่เรียกมันว่าเต่าข้างฝา” พี่ไหวตอบชัดถ้อยชัดคำ
       
       “หา อะไรนะเต่าขึ้นข้างฝา มันโผล่ขึ้นฝาบ้านพี่รึ”ผมถามต่อ
       
       “เปล่า มันโผล่ขึ้นข้างฝาห้องนิทรรศการที่เราจัดให้นักท่องเที่ยวดู เพราะเต่าทั้ง 2 ชนิด มันไม่โผล่ที่สิมิลันมานานแล้ว”
       
       อืม...ผมฟังพี่ไหวเล่าแล้วในใจก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่า ถ้าปัจจุบันไม่ช่วยกันดูแลอนุรักษ์เต่าทะเล เต่าอีก 2 ชนิดที่ยังคงพบเห็นที่สิมิลัน อาจทำตัวเป็น”เต่านินจา“ (นินจาเต่า)
       
       นั่นก็คือหายสูญไปแบบไร้ร่องรอย ชนิดที่เราไม่มีวันตามหามันให้กลับคืนสู่ท้องทะเลได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆก็ตาม
 


จาก                                     :                                ผู้จัดการออนไลน์   วันที่ 25 มีนาคม 2552
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
WayfarinG
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2388



« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 26, 2009, 02:24:55 AM »

อยากให้มันอยู่กะพวกเรานานๆ เนอะ เพราะ เท่าที่รู้เต่าเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนมาก ..

แต่จากที่อ่านในข่าว มันตายด้วยถุงขยะ ติดอวน เยอะมากเลย ..


บันทึกการเข้า

If you reject the food, ignore the customs, fear the religion and avoid the people, you might better stay home.  -- > James Michener
lord of death
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 130



« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 26, 2009, 02:31:07 AM »

เต่าเกาะแปด = ชอบกินกล้วย
เต่ามะเฟือง เห็นแว๊บๆข้างกาบเรือ ตัวเล็ก ไม่เกินศอก เรือกำลังแล่น เลยทำอะไรไม่ทัน
บันทึกการเข้า

จงหมั่นระลึกถึงความตาย เพราะเป็นวาระติดตัวเรามาตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิ เมื่อถึงเวลาจักได้มีสติกับความตาย ยังให้เราระลึกถึงพุทธองค์และกำหนดจิตถึงภพภูมิใหม่ได้เมื่อวาระนั้นมาถึง ขอให้ทุกท่านพ้นอบายภูมิ เราได้มีเวลาเที่ยว หุ หุ
Sri_Nuan.Ray
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1808



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 26, 2009, 03:03:45 AM »

มาระดมพลังสมองกันดีกว่าค่ะ ......อยากทราบความคิดเห็นของพี่ๆ น้องๆ SOS เหมือนกันค่ะ ว่า

" เต่าที่เราพบบริเวณ เกาะ 7 หรือเกาะ 8 ที่เค้าเข้ามาแวะเยี่ยมนักท่องเที่ยวบนเรือเนี่ย ควรจะให้อาหารเค้าไหมค่ะ "


ควรเพราะ .........................
1. อยากให้เค้าเชื่อง และเข้ามาให้พวกเราพบเห็นได้บ่อยๆๆ



ไม่ควรเพราะ............
1. สูญเสียระบบสมดุลย์ธรรมชาติ ยิ่งให้อาหารเค้า เค้าก็จะหาอาหารกินเองไม่ได้



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 26, 2009, 03:23:46 AM โดย Sri_Nuan.Ray » บันทึกการเข้า

~~~ หากเราหยุดนิ่ง ทุกอย่างที่ผ่านมา คือ อดีต.... ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อมันจะได้เป็นอดีตที่มีค่าแก่ ความทรงจำของเรา  ~~~
Birdie ที่ไม่ใช่กาแฟ
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 295



« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 26, 2009, 03:15:47 AM »

พี่หนูติ่งทำโพลล์เลยดีมั้ยคะ จะได้มีคนเข้ามาตอบเยอะ ๆ
บันทึกการเข้า
Sri_Nuan.Ray
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1808



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 26, 2009, 03:26:32 AM »

พี่หนูติ่งทำโพลล์เลยดีมั้ยคะ จะได้มีคนเข้ามาตอบเยอะ ๆ


ทำโพลล์ มันไม่สามารถ   ตอบความคิดเห็นเสริมที่แตกต่างได้ค่ะ (เอ๊ะหรือทำได้คะ)

อยากเห็น การแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ และเพื่อสรุปความคิดเห็นทั้งหมด มากกว่าตอบแค่ เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย น่ะค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 26, 2009, 05:05:49 AM โดย Sri_Nuan.Ray » บันทึกการเข้า

~~~ หากเราหยุดนิ่ง ทุกอย่างที่ผ่านมา คือ อดีต.... ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อมันจะได้เป็นอดีตที่มีค่าแก่ ความทรงจำของเรา  ~~~
WayfarinG
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2388



« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 26, 2009, 03:36:14 AM »

พิงค์ว่า มันก็คงเหมือนลิงในเขาใหญ่ ที่เค้าติดป้ายประกาศว่า ไม่ให้อาหารมัน .. แต่คนบางกลุ่ม คงจะยังอ่านภาษาไทยไม่แตกฉาน ก็ยังคงให้อาหารมันอยู่

พอมันตาย โดนรถทับแบนแต๋ อยู่บนถนน .. เพราะ ความเคยชิน คิดว่า รถทุกคันจะหยุดให้อาหารมัน .. ก็มากล่าวโทษกัน ..



สรุป ก็คือ .. ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ..  



ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติ ของคนไทยอยู่แล้ว ที่มีกฎเอาไปหาช่องทางในการทำผิด .. ไม่ได้เหมารวมทั้งหมด แต่ส่วนมากมันก็เป็นเช่นนั้นไม่ใช่ฤา .. 


สรุป อีกที .. เราก็คงได้แต่ ห้ามปรามคนใกล้ตัว .. ให้คนใกล้ตัว ไปบอกคนใกล้ตัว ว่า สิ่งที่จะทำต่อไป มันเป็นสิ่งไม่ดี ก็คงได้เท่านั้น .. เพราะ จะหวังให้ทางหน่วยงานต่างๆ มาทำ .. ก็คงรอกันต่อไป ..




บันทึกการเข้า

If you reject the food, ignore the customs, fear the religion and avoid the people, you might better stay home.  -- > James Michener
Udomlert
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 162


« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 26, 2009, 03:46:38 AM »

ไม่ควรให้อาหารครับ.
Note : ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ และทำงานอย่างมีความสุข หนุกหนานครับ
บันทึกการเข้า
ตุ๊กแกผา
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 378



« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 26, 2009, 04:11:10 AM »

ไม่ควรให้ค่ะ....เหมือนกับทุกที่ ที่เขาใหญ่(กวาง , ลิง) ที่ป่าชายเลน(ก็ลิงอีก) เพราะมันจะชินกับการมาขอ ไม่หากินเอง หากินเองไม่เป็น และสัญชาตญาณการระวังภัยก็จะลดลง หรือ หายไปด้วย....เสี่ยงต่อการถูกจับ(โดยผู้ไม่หวังดี)ได้ง่าย.....เรามักเรียกสัตว์กลุ่มนี้ว่า "เสียจริต"
ที่สำคัญ สัตว์บางชนิดเวลาหิวจัด จะมีการแย่งกัน กัดกันเอง ดุร้าย เคยมีคนที่โดนลิงแย่งถุงขนมจากมือ เมื่อไม่ให้ก็โดนกัด (เสี่ยงต่อการเป็นโรคอีกต่างหาก)
.....นี่แหล่ะ โลกด้านที่คนที่ใจดีต่อสัตว์ต่างๆมองไม่เห็น......น่าสงสารจริงๆ
บันทึกการเข้า
Sri_Nuan.Ray
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1808



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: มีนาคม 26, 2009, 05:08:45 AM »

สรุปอีกทีตอนนี้

ควรเพราะ .........................
1. อยากให้เค้าเชื่อง และเข้ามาให้พวกเราพบเห็นได้บ่อยๆๆ


ไม่ควรเพราะ............
1. สูญเสียระบบสมดุลย์ธรรมชาติ ยิ่งให้อาหารเค้า เค้าก็จะหาอาหารกินเองไม่ได้
2. ไม่สามารถหาข้อสรุปได้  (แต่แนวโน้มจะเป็นไม่ได้นะเนี่ย) เราก็คงได้แต่ ห้ามปรามคนใกล้ตัว .. ให้คนใกล้ตัว ไปบอกคนใกล้ตัว ว่า สิ่งที่จะทำต่อไป มันเป็นสิ่งไม่ดี ก็คงได้เท่านั้น .. เพราะ จะหวังให้ทางหน่วยงานต่างๆ มาทำ .. ก็คงรอกันต่อไป ..
3. ไม่ควรให้อาหารครับ.
4. ไม่ควรให้ค่ะ....เหมือนกับทุกที่ ที่เขาใหญ่(กวาง , ลิง) ที่ป่าชายเลน(ก็ลิงอีก) เพราะมันจะชินกับการมาขอ ไม่หากินเอง หากินเองไม่เป็น และสัญชาตญาณการระวังภัยก็จะลดลง หรือ หายไปด้วย....เสี่ยงต่อการถูกจับ(โดยผู้ไม่หวังดี)ได้ง่าย.....เรามักเรียก สัตว์กลุ่มนี้ว่า "เสียจริต"
ที่สำคัญ สัตว์บางชนิดเวลาหิวจัด จะมีการแย่งกัน กัดกันเอง ดุร้าย เคยมีคนที่โดนลิงแย่งถุงขนมจากมือ เมื่อไม่ให้ก็โดนกัด (เสี่ยงต่อการเป็นโรคอีกต่างหาก)
บันทึกการเข้า

~~~ หากเราหยุดนิ่ง ทุกอย่างที่ผ่านมา คือ อดีต.... ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อมันจะได้เป็นอดีตที่มีค่าแก่ ความทรงจำของเรา  ~~~
WayfarinG
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2388



« ตอบ #10 เมื่อ: มีนาคม 26, 2009, 05:49:48 AM »



บันทึกการเข้า

If you reject the food, ignore the customs, fear the religion and avoid the people, you might better stay home.  -- > James Michener
เบิ๊ด
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 127



« ตอบ #11 เมื่อ: มีนาคม 26, 2009, 07:37:28 AM »

เห็นด้วยกับพิ้งค์คร๊าบ...ชัดเจนมาก!!!ไม่ควรให้อาหารค่ะ.....
บันทึกการเข้า
Sri_Nuan.Ray
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1808



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: มีนาคม 26, 2009, 08:08:33 AM »

" ขอย้ายโพลล์ ไปตั้งกระทู้ในห้องนั่งเล่นของสมาชิกเราแล้วค่ะ "
บันทึกการเข้า

~~~ หากเราหยุดนิ่ง ทุกอย่างที่ผ่านมา คือ อดีต.... ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อมันจะได้เป็นอดีตที่มีค่าแก่ ความทรงจำของเรา  ~~~
lord of death
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 130



« ตอบ #13 เมื่อ: มีนาคม 26, 2009, 11:21:10 AM »

ลงคะแนนไม่ควรให้ครับ เสียนิสัยกันหมด
บันทึกการเข้า

จงหมั่นระลึกถึงความตาย เพราะเป็นวาระติดตัวเรามาตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิ เมื่อถึงเวลาจักได้มีสติกับความตาย ยังให้เราระลึกถึงพุทธองค์และกำหนดจิตถึงภพภูมิใหม่ได้เมื่อวาระนั้นมาถึง ขอให้ทุกท่านพ้นอบายภูมิ เราได้มีเวลาเที่ยว หุ หุ
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.027 วินาที กับ 20 คำสั่ง