กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤษภาคม 01, 2024, 07:40:56 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2552  (อ่าน 3434 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: มีนาคม 28, 2009, 12:08:28 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ลมใต้กับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนขึ้น และยังมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อน และมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


คาดหมาย

 ในช่วงวันที่ 27-29 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมทะเลจีนใต้และประเทศไทยตอนบนจะมีกำลัง อ่อนลง และจะมีลมใต้กับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ ส่วนในช่วงวันที่ 30 มี.ค. - 2 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมทะเลจีนใต้ และประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น กับมีลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่


ข้อควรระวัง

 ในระยะนี้ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 30 มี.ค.-2 เม.ย. 52 นี้ไว้ด้วย



* Forecast2.jpg (37.8 KB, 684x423 - ดู 877 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 28, 2009, 12:15:56 AM »

เดลินิวส์


ผุดไอเดีย 'AmpleMoonPartyOnTheBeach' หาดขนอม  ปักหมุดเป็นจุดขาย 'แรม 1 ค่ำ' เทียบชั้น 'ฟูลมูนปาร์ตี้'

"อำเภอขนอม” เป็นพื้นที่หนึ่งในเขตอุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล  โดยกำหนดที่ดินบางส่วนของป่าคลองธง คลองเหรง ป่าเขาออก ป่าเขาท้องโหนด ป่าเขาไชยสน ป่าเลนคลองขนอม เขาฝีหาย ป่าเขาวัง ป่าเขากรด ป่าไชยคราม-วัดประดู่ ป่าเขาหัวช้าง และหมู่เกาะ 8 เกาะ ได้แก่ เกาะมัดแตง เกาะมัดโกง เกาะราบ เกาะหัวตะเข้ เกาะวังนอก เกาะวังใน เกาะน้อย และ เกาะท่าไร่ ในท้องที่อำเภอสิชล อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช และท้องที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมเป็นพื้นที่ “เขตอุทยานแห่งชาติหาดขนอม-    หมู่เกาะทะเลใต้” อ.ขนอม เป็นมากกว่าเมืองประวัติศาสตร์อันเก่าแก่และยิ่งใหญ่ของอาณาจักรศรีวิชัยแต่ขนอมยังมีภูมิทัศน์เชื่อมโยงกับทะเลฝั่งอ่าวไทยที่น้ำทะเลสวยและใสหาดทรายขาวละเอียด ซึ่งยังคงความสมบูรณ์งดงามและแสนเงียบสงบไว้ได้อย่างรื่นรมย์ และด้วยภูมิประเทศที่ดีทำให้ “อ่าวขนอม” หรือทะเลขนอมไม่ค่อยมีมรสุมรบกวนเหมือนแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลอื่น ๆ เพราะมีแนวเกาะแก่งที่คอยกำบังคลื่นลมได้เป็นอย่างดี ทะเลอ่าวขนอมจึงเงียบสงบ ประกอบกับอุณหภูมิประมาณ 32-34 องศา ส่งผลให้ไอของน้ำทะเลที่มากระทบร่างกายไม่เหนียวเหนอะหนะเหมือนน้ำทะเลที่อื่น ๆ จึงถือเป็นคุณสมบัติพิเศษที่พูดได้ว่าเป็นแหล่งเที่ยวทางทะเลดีที่สุดแห่งหนึ่งของไทย
 
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สภาอุตสาหกรรมธุรกิจการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช ชมรมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอขนอม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้กำหนดจัดกิจกรรม “Ample Moon Party On The Beach” ขึ้น ณ บริเวณบ้านศิวิไล หาดหน้าด่าน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช โดยจัดให้มีกิจกรรมการแสดงดนตรีแนว Reggae ผสมผสานเครื่องดื่ม Cocktail Party ในบรรยากาศแสงเทียน On The Beach  นอกจากนี้ยังจัดให้มีการออกร้านจัดแสดงและเชิญชิมอาหาร Sea Food โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวใน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ในภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศและของโลกตกต่ำมากเป็นประวัติการณ์
 
นายเฉลิมเกียรติ คล้ายสุวรรณ รองประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดงาน เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรม Ample Moon Party On The Beach  ณ บริเวณบ้านศิวิไล หาดหน้าด่าน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของ อ.ขนอม กิจกรรมหนึ่ง และเป็นการนำร่องรูปแบบการท่องเที่ยวในลักษณะคล้ายกับ “ฟูลมูนปาร์ตี้” แต่ที่ อ.ขนอม กำหนดจัดกิจกรรม ในคืนแรม 1 ค่ำ ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความแตกต่างเพราะพระจันทร์ในคืนแรม 1 ค่ำเป็นพระจันทร์ที่สวยสมบูรณ์กว่าคืนวันขึ้น 15 ค่ำ ในคืนแรม 1 ค่ำดวงจันทร์ที่จะอยู่ใกล้โลกมากที่สุดจึงมีขนาดใหญ่และมีความสว่างกว่าคืน 15 ค่ำ ทั้งสีสันดวงจันทร์จะสุกสดใสมากกว่า เมื่อพลบค่ำก็จะเห็นดวงจันทร์สีแดงสดใส โผล่พ้นขึ้นมาจากขอบน้ำทะเล อย่างช้า ๆ โดยปรากฏการณ์ลักษณะนี้มีให้เห็น  2 แห่งในประเทศ คือ ที่แหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต และชายหาดหน้าด่าน อ.ขนอม 
 
“คาดหวังให้เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวต่อเนื่องตลอดทั้งปี เป็นจุดที่นัดหมายของคนรู้ใจ มองทะเลสีฟ้าใสในคืนพระจันทร์สุกสดใสโผล่พ้นขอบน้ำทะเลแสงจันทร์ที่สาดลงมากระทบกับเกลียวคลื่น ทำให้เกิดเป็นเกลียวสีเงินและสีทองระยิบระยับ เป็นบรรยากาศและความสวยงามที่หาชมได้ไม่ง่ายนัก โดยจะให้ความสำคัญและเน้นจุดขายของความครบถ้วนสมบูรณ์ของดวงจันทร์ให้มากที่สุด เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างจาก “ฟูลมูนปาร์ตี้” ของเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ที่ในปัจจุบันไม่ได้เน้นเรื่องความสวยงามของดวงจันทร์ เป็นเพียงคืนแห่งการรวมตัวหรือนัดพบกันในคืนพระจันทร์เต็มดวงเท่านั้น”
 
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า “จุดขายของดวงจันทร์ในคืนแรม 1 ค่ำนี้เป็น แบรนด์ที่ตนเชื่อว่าจะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก และยังเป็นการกำหนด แบรนด์ปาร์ตี้ในคืนแรม 1 ค่ำครั้งแรกของโลก  ซึ่งในการจัดกิจกรรมครั้งแรกเมื่อแรม 1 ค่ำ ซึ่งตรงกับวันที่ 11 มีนาคม 2552 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศที่ทราบข่าวเดินทางมาร่วมกิจกรรมเกินความคาดหมาย นอกจากนี้ยังมีหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดนำโดย นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และนักธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศนำโดยนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มาร่วมกิจกรรมและสังเกตการณ์บรรยากาศและกิจกรรมที่จัดเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปี 2552 จะมีการจัดกิจกรรมทุกเดือน ๆ ละ 1 ครั้ง รวมอีก 9 ครั้ง โดยใช้งบฯ เดือนละ 1 ล้านบาท ดังนั้นในปี 2552 จะต้องใช้งบประมาณในการจัดกิจ กรรมในปีนี้อีก 9 ล้านบาท ซึ่งจะขอสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปตนมั่นใจว่าใช้เวลาเพียง 1 ปี โดยในปี 2553 จะสามารถปักเข็มหมุด อ.ขนอม โดยเฉพาะกิจกรรมนี้ Ample Moon Party On The Beach ลงในแผนที่ท่องเที่ยวโลกได้อย่างแน่นอน”
 
ทางด้าน นายภาณุ  อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ถ้าไม่ได้มาสัมผัสด้วยตาตัวเองจะไม่เชื่อเลยว่าในจุดหาดหน้าด่านคืนพระจันทร์แรม 1 ค่ำ จะสวยงามขนาดนี้ ประกอบกับการจัดกิจกรรมอื่น ๆ ลงไปผสมผสานทำให้เกิดความเหมาะสมลงตัวที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวในลักษณะนี้ซึ่งเป็นรูปแบบที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกเขาสนใจมาก ทางคณะกรรมการผู้จัดกิจกรรมทุกระดับเขามั่นใจว่ากิจกรรมสำหรับการจัดกิจกรรม Ample Moon Party On  The Beach  จะได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวมากกว่าที่เกาะพะงัน จ.สุราษฏร์ธานี เสียอีก และตนพร้อมที่จะให้การสนับสนุนเรื่องงบประมาณอย่างเต็มที่
 
การจัดกิจกรรมปาร์ตี้ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างในประเทศไทยคงต้องยกให้งานฟูลมูนปาร์ตี้ (Full moon party) ซึ่งเริ่มจัดขึ้นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2528  เป็นการจัดงานเลี้ยงส่งขอบคุณให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักอาศัยของพาราไดร์บังกะโล งานปาร์ตี้ครั้งนั้นจัดขึ้นตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ มี  พระจันทร์เต็มดวงเคลื่อนขึ้นสู่ตำแหน่งบริเวณกลางชายหาดที่มีภูเขาโอบล้อมอยู่ พระจันทร์เต็มดวงส่องแสงสว่างสวยงามยิ่งนัก เป็นความประทับใจของผู้มาพักอาศัย จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งแรกแค่ 30-40 คน จนในปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาร่วมกิจกรรมหลายหมื่นคนกลายเป็นปาร์ตี้ขนาดใหญ่ติดอันดับโลก
 
ส่วนการจัดปาร์ตี้ขึ้นที่ หาดหน้าด่าน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช และกำหนดวันแรม 1 ค่ำ นอกจากต้องการเน้นให้เห็นถึงความแตกต่างของดวงจันทร์ในคืนขึ้น 15 ค่ำที่จัดที่เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และต้องการเน้นถึงความสมบูรณ์ของดวงจันทร์ที่สีสุกสดใสกว่า ขนาดใหญ่กว่าแล้วยังเป็นการหลีกเลี่ยงวันขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งเป็นวันพระ ซึ่งนครศรีธรรมราชเป็นเมืองศูนย์กลางพุทธศาสนาหรือ “เมืองพระ” การจัดกิจกรรมงานปาร์ตี้ในลักษณะนี้จึงไม่เหมาะสมนัก เพื่อให้เหมาะสมกับนครศรีธรรมราชเมืองพระ จึงกำหนดจัดขึ้นในวันแรม 1 ค่ำแทน ส่วนจะสามารถผลักดันให้กิจกรรม “Ample Moon Party On The Beach”  ก้าวขึ้นเทียบฟูลมูนปาร์ตี้และ “ปักหมุดการท่องเที่ยว”อำเภอขนอมในแผนที่โลกตามเป้าหมายได้หรือไม่นั้น...อีกไม่นานเกินรอคงจะได้คำตอบ.

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 28, 2009, 12:24:34 AM »

มติชน


ภารกิจเสี่ยงตาย “สัญญา” แล่นเรือใบข้ามอ่าวไทย หวิดสิ้นชื่อ หลังจากเรียนแล้วเรือล่มกว่า 30 ครั้ง



สงสัยการกลับมาเป็นพิธีกร “เจาะใจ” อีกครั้งจะไม่ง่ายจริงๆ เมื่อเจ้าตัวต้องเจอหลักสูตรฝึกภารกิจสุดโหด "RECON" ทั้งต้องฝึกหนักเหมือนทหาร นอนกลางดิน ต้องเจอความสูง กินของแปลก ทั้งเลือดงู และแมงป่อง

เพราะเพิ่งกลับมาได้ไม่กี่เทป สัญญา คุณากร ต้องเจออะไรต่าง ๆ มากมาย  เทปแรกก็ต้องไปฝึกภารกิจสุดโหด  เสร็จเทปนั้นยังไม่ทันได้พักผ่อน  สัญญาก็ต้องปฏิบัติภารกิจครั้งที่สอง แต่เป็นภารกิจเพื่อฝันของตัวเอง  ที่ไฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ว่าอยากแล่นเรือใบข้ามอ่าวไทย  เพราะคิดว่าในฐานะที่เป็นคนไทย มันเป็นความคิดที่เจ๋งม๊าก ๆ กับการแล่นเรือใบข้ามฝั่งอ่าวไทยได้ 

ว้าว.........

ยากไหมล่ะ ...แม้จะพอแล่นเป็นอยู่บ้าง  แต่การแล่นเรือใบข้ามอ่าวไทย ต้องเผชิญกับอะไรต่าง ๆ มากมาย ทั้งการควบคุมเรือใบไปในทิศทางที่ต้องการ   ความโดดเดี่ยว  มรสุม ฝนฟ้าอากาศ   และต้องใช้เวลาอยู่กลางน้ำเพื่อจะแล่นเรือจากชายฝั่งสัตหีบ ไปชายฝั่งชะอำ โดยระยะทาง 100 กิโลเมตร ใช้เวลาเกือบ 20 ชั่วโมง



ก่อนจะแล่นจริง ๆ หนุ่มดู๋ ของเรา ต้องไปเรียนรู้วิธีแล่นเรือใบอย่างถูกต้อง โดยมีครูฝึกผู้ชำนาญ  คือ  ครูอ้วน จากสมาคมเรือใบแห่งประเทศไทย  นักกีฬาเอเชียนเกมส์ ซีเกมส์  และเจ้าของรางวัลอีกมากมาย ช่วยเทรน พาเรียนรู้วิธีควบคุมเรือใบชนิดต่างๆ ทั้ง HOBE,เลเซอร์ ฯลฯ ทิศทางลม การเรียนค่อนข้างทรหด เรียนแล้วเรือล่มกว่า 30 ครั้ง ทั้งเหนื่อย ทั้งท้อ ทั้งหมดแรง

แต่ภารกิจเสี่ยงตาย ๆ จริง ๆ ของสัญญา ก็เริ่มต้นขึ้น ร่วมลุ้นร่วมกันในวันที่ 2 เมษายน 2552  ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดรายการเจาะใจ กับภารกิจครั้งสำคัญของสัญญา ว่าจะทำได้สำเร็จไหม โดยภารกิจนี้ทำเพื่อหาเงินร่วมสมทุบทุนสร้างอาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งครั้งนี้ผู้ชมที่ติดตามจะได้ร่วมทำบุญ ร่วมลุ้น ไปกับภารกิจของสัญญา คุณากรได้วันที่ 2 เมษายน เวลา 22.15 น. ทางช่อง 5

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 28, 2009, 12:28:50 AM »

ข่าวสด


อุทยานเจ้าไหมทุ่ม 12 ล้าน ผุดท่าเทียบเรือ

ตรัง - นายเดชา นิลวิเชียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เปิดเผยว่า อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมร่วมกับจังหวัดตรังจัดทำโครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือประมงชายฝั่ง บริเวณเกาะมุกด์ อ.กันตัง ใช้งบประมาณกว่า 12 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากสภาพของท่าเทียบเรือดังกล่าวทรุดโทรม เพราะมีอายุการใช้งานมานาน อีกทั้งเวลาน้ำลดน้ำจะขึ้นไม่ถึงท่าเรือ ทำให้ท่าเรือเหมือนกับตั้งอยู่บนบก ส่งผลให้เรือไม่สามารถเข้ามาเทียบท่าได้ ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บนเกาะมุกด์มีปัญหาในการสัญจรไปมา และชาวประมงพื้นบ้าน รวมทั้งนักท่องเที่ยวก็ไม่ได้รับความสะดวกในการขึ้นฝั่ง ณ ท่าเรือดังกล่าว

"ที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเมื่อยามน้ำลงจะใช้ท่าเรือไม่ได้ แม้ยามเจ็บไข้ได้ป่วยจะลงเรือไปหาหมอที่โรงพยาบาลในตัวอำเภอหรือจังหวัดก็ไม่สามารถเดินทางไปได้ นอกจากนี้ชาวประมงพื้นบ้านที่ทำมาค้าขายปลาที่ท่าเทียบเรือก็มีปัญหาในการขนถ่ายปลาที่หามาได้ ทำให้ต้องนำเรือไปเทียบท่าอื่นที่ไกลออกไป ส่งผลให้ต้องเพิ่มภาระต้นทุนมากขึ้น ดังนั้นทางอุทยานฯ จึงได้ประสานกับทางจังหวัดตรัง เพื่อจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการต่อเติมท่าเทียบเรือให้ใหม่ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ภายในปี 2553 นี้อย่างแน่นอน" นายเดชากล่าว

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 28, 2009, 12:34:27 AM »

X-cite  ไทยโพสต์


เปิดโลก 'ปาปัวนิวกินี'                            :                          โลกน่ารู้

   นักวิทยาศาสตร์พบสัตว์ชนิดใหม่กว่า   50  ชนิด  ในเขตป่าเขาของประเทศปาปัวนิวกินี   มีทั้งกบ  ต้นไม้สีเขียวสดใส  ซึ่งมีดวงตาสีดำดวงใหญ่  แมงมุมที่กระโดดได้  และตุ๊กแกลายทาง

     องค์กรอนุรักษ์  ชื่อ  คอนเซอร์เวชั่น  อินเตอร์เนชันแนล  ในกรุงวอชิงตัน  ได้ประกาศการค้นพบนี้  หลังจากใช้เวลาหลายเดือนวิเคราะห์สัตว์กว่า  600  ชนิด  ที่พบระหว่างการไปสำรวจบนเกาะในแปซิฟิกใต้แห่งนี้  เมื่อเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม  ปีที่แล้ว

     ทางกลุ่มบอกว่า   สัตว์ชนิดใหม่มี  เช่น  แมงมุมราว  50  ชนิด  กบ  3  ชนิด  และตุ๊กแกชนิดหนึ่ง
     ตัวที่น่าสนใจก็คือ  กบสีน้ำตาลตัวเล็กซึ่งร้องเสียงแหลมสูง  กบต้นไม้ตาโต  กับกบที่ส่งเสียงดัง  แมงมุมกระโดดได้ชนิดหนึ่งมีสีเขียวสดสลับสีซีด  ส่วนอีกชนิดเป็นสีน้ำตาลและมีขนดก

     สตีฟ  ริชาร์ด  หัวหน้าทีมสำรวจ  บอกว่า  การเจอสัตว์ชนิดใหม่ๆ  มากมายเช่นนี้  แสดงว่ายังมีที่เรายังไม่ได้ค้นพบอยู่อีกมากบนเกาะแห่งนั้น

     ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกบ  เครก  แฟรงคลิน  อาจารย์ด้านสัตววิทยาแห่งมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์  ออสเตรเลีย  บอกว่า  กบเป็นเครื่องบ่งชี้ความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อม

     ทีมสำรวจมาจากสหรัฐ   แคนาดา  และปาปัวนิวกินี  พื้นที่ที่สำรวจนั้นเป็นแหล่งต้นน้ำที่หล่อเลี้ยงประชากรนับแสน
     คอนเซอร์เวชั่น   อินเตอร์เนชนแนล   มีแผนจะสำรวจปาปัวนิวกินีเพิ่มเติมอีก   3  ครั้งในปีนี้  ด้วยความหวังที่จะพบสัตว์ชนิดใหม่ๆ  อีก

     "เรามีชีวิตอยู่ในเมือง  ซึ่งเราคิดว่าเรารู้จักทุกสิ่งทุกอย่างดีหมดแล้ว  แต่ที่จริงเราต้องรู้จักโลกให้ดีกว่านี้  เพื่อการจัดการที่ดีขึ้น"  บรูซ  บีห์เลอร์  นักวิทยาศาสตร์ของหน่วยงานแห่งนี้บอก.

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.301 วินาที กับ 20 คำสั่ง