สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน 2552

[สายน้ำ]

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมทะเลจีนใต้และประเทศไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกยังมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีพายุฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงที่อาจเกิดขึ้นได้อีก


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมทะเลจีนใต้และประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง และในขณะที่ภาคเหนือภาคตะวันอกเฉียงเหนือ และภาคกลางมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 3-8 เม.ย. 52 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมทะเลจีนใต้ และประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง และลมใต้กับลมตะวันออกเฉียงใต้จะพัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลงและอากาศร้อนขึ้น


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 2 เม.ย. 52 ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงที่จะเกิดไว้ด้วย

[สายน้ำ]

ไทยรัฐ


ภูเขาขยะลอยในแปซิฟิก เกิดจากถุงพลาสติกทับถมกันโตเป็นเกาะยักษ์                            :                         ข่าววิทยาการ
 
หนังสือพิมพ์รายวัน “เดอะ ซาน ฟรานซิสโก ครอนิเกิล” ของสหรัฐอเมริกา รายงานข่าวว่า ได้พบกองขยะใหญ่โตมโหฬาร เทียบได้กับเกาะที่โตขนาดเท่ากับดินแดนรัฐเท็กซัส ลอยขวางอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ช่วงระหว่างนครซาน ฟรานซิสโกกับรัฐอาไวอิ

นายคริส ปาร์รี เจ้าหน้าที่ของคณะกรมการชายฝั่งที่ในนครซาน ฟรานซิสโก กล่าวว่า เกาะขยะยักษ์นั้น ยิ่งมีขนาดทวีโตใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว มาตั้ง แต่ทศวรรษ ของปี พ.ศ. 2493 มันประกอบด้วยถุงพลาสติกถึงร้อยละ 80 และประมาณว่า มีน้ำหนักรวมกันไม่ต่ำกว่า 3.5 ล้านตัน

เขาบอกอย่างปลงว่า “มาถึงบัดนี้ ปัญหาการเก็บกวาดมันให้หมดไป คงจะทำได้ยากเสียแล้ว ตราบเท่าที่เรายังคงต้องใช้พลาสติกกันอยู่” แต่แนะนำให้ว่า ควรจะเปลี่ยนให้มาใช้ถุงผ้าใบใส่สิ่งของ แทนถุงพลาสติกกันอย่างรวดเร็วก่อนอื่น”. 

[สายน้ำ]

เดลินิวส์


ภัยร้ายรายวัน:ระวังฟ้าผ่า

 ระยะนี้จะเอาแน่เอานอนกับสภาพอากาศคงจะไม่ได้ วันนี้แดดเปรี้ยงร้อนอบอ้าว แต่พรุ่งนี้ฟ้าสลัว เมฆครึ้มหอบฝนห่าใหญ่ กระหน่ำซ้ำด้วยสายฟ้าแลบ และเสียงฟ้าคำรามดังกระหึ่ม

ปรากฏการณ์ธรรมชาติบางครั้งก็ส่งผลเลวร้าย คร่าชีวิตผู้คน อย่างกรณีฟ้าผ่า คร่าชีวิตหนูน้อยวัย 4 ปี ที่เปิดตู้เย็นดื่มน้ำขณะฝนตก หรือกรณีของ 2 ชาวสวน ที่หนึ่งในนั้นหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาใช้งาน ระหว่างนั่งหลบฝนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ก็ถูกสายฟ้าฟาดเปรี้ยงตัวไหม้เกรียมดับอนาถ



เมื่อเกิดปรากฏการณ์ฟ้าผ่าใส่คนบ่อยครั้งขึ้น หลายคนคงนึกสงสัยว่า ฟ้าผ่า เกิดขึ้นได้อย่างไร...

ฟ้าผ่า เกิดจากเมฆฝนฟ้าคะนอง โดยภายในก้อนเมฆและบริเวณพื้นดินจะมีประจุไฟฟ้าที่แตกต่างกัน คือ ประจุบวกและประจุลบ เมื่อประจุต่างขั้ววิ่งเข้าหากัน ก็จะทำให้เกิดฟ้าผ่า

โดยฟ้าผ่าที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต เรียกว่า ฟ้าผ่าจากเมฆลงสู่พื้นดิน ในลักษณะประจุลบเคลื่อนที่จากฐานเมฆลงมาที่อากาศเข้าใกล้พื้นดิน และจะเหนี่ยวนำประจุบวกจากวัตถุบนพื้นโลก รวมทั้งจากพื้นดินให้ไหลขึ้นมาตามต้นไม้ หลังคาบ้าน และที่สูง เมื่อประจุต่างขั้วเดินทางมาพบและเคลื่อนที่สวนกัน จึงเกิดกระแสโต้กลับ และเกิดฟ้าผ่า

ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตจากการถูกฟ้าผ่า ตามคำกล่าวของดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ ที่ปรึกษาด้านวิชาการ ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ คือ

1.ไฟฟ้าวิ่งเข้าสู่ร่างกายโดยการสัมผัสกับสิ่งที่ถูกฟ้าผ่า เช่น ฟ้าผ่าลงต้นไม้ขณะที่มนุษย์สัมผัสถูกต้นไม้
2.ไฟฟ้าแลบจากด้านข้าง ในลักษณะที่กระแสไฟฟ้ากระโดดเข้าสู่ตัวคน
3.กระแสไฟฟ้าวิ่งตามพื้น เช่น เมื่อฟ้าผ่าลงต้นไม้ กระแสไฟฟ้ากระจายลงพื้นที่รอบ ๆ โดยเฉพาะบริเวณที่มีน้ำเจิ่งนอง

นอกจากนี้ พฤติกรรมการใช้หรือเข้าใกล้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคลื่นไมโครเวฟเป็นส่วนประกอบ อย่าง ตู้เย็น โทรศัพท์มือถือ (คลื่นไมโครเวฟ คือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งซึ่งมีอยู่แล้วในธรรมชาติ โดยดวงอาทิตย์เป็นผู้ส่งออกมา โดยไมโครเวฟมีความถี่ตั้งแต่ 300-3000 MHz มีคุณสมบัติสะท้อนคลื่น ดูดซึมคลื่น และทะลุผ่าน) ระหว่างฝนตก เมื่อเกิดฟ้าผ่าลงหลังคาบ้าน แล้วบ้านหลังดังกล่าวไม่มีสายดิน กระแสไฟฟ้าจึงกระจายตามพื้นบ้านและเข้าสู่ร่างกายของผู้ที่ยืนอยู่ในที่มีน้ำเจิ่งนอง หรือร่างกายเปียกชื้น (ตรงตามลักษณะของสาเหตุข้อที่ 3)

เพื่อความปลอดภัย ลดความเสี่ยงถูกฟ้าผ่า ระหว่างฝนตก ไม่ควรใช้โทรศัพท์ หรือเล่นอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อกับสายโทรศัพท์ รวมทั้งควรถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า และหลบอยู่ในบริเวณที่มิดชิด หลีกเลี่ยงการหลบฝนใต้ต้นไม้ ในตู้โทรศัพท์.

ขอบคุณภาพประกอบจาก the French National Aerospace Research Establishment - onERA


*****************************************************************************************************************************


ดำดิ่งสู่ความมหัศจรรย์ของโลก”เมอร์เมด”
 
   
 
 ดินแดนแห่งท้องทะเลอันกว้างใหญ่สุดลึกลับ ที่มนุษย์อย่างเราไม่สามารถสัมผัสได้ จนไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าเป็นอย่างไร แต่ยังมีตำนานความเชื่อเล่าสืบต่อกันมา กล่าวขานถึงหญิงสาวแสนสวยนามว่า “เมอร์เมด” มีครึ่งบนเป็นมนุษย์ ครึ่งล่างมีครีบหางระยิบระยับเหมือนปลา ดวงตากลมโตสีเขียวเหมือนน้ำทะเล ผมเป็นประ กายสีบรอนด์สตอเบอร์รี่ ส่วนผิวเป็นสีขาวบริสุทธิ์ราวกับไข่มุก และหากเมอร์เมดเสียใจ หยดน้ำตาจะกลายเป็นไข่มุก ซึ่งมีพลังคุ้มครองสิ่งชั่วร้ายได้ ว่ากันว่าเมอร์เมดยังเป็นเหมือนทูตเฝ้าปกป้องเด็กนิสัยดีให้ปลอดภัยจากภัยอันตรายต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้เอง เด็ก ๆ ทั่วโลกจึงหลงรักเมอร์เมด
   
แต่ถึงกระนั้น ก็ยังไม่มีใครเคยได้เห็นว่าเมอร์เมดมีจริงหรือไม่ ?
 
จนกระทั่ง “สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล สตาร์” ขอรับอาสาไขปริศนาให้กับคุณหนู ๆ ร่วมกันค้นหาคำตอบไป กับการแสดงแสงสีเสียงตระการตาของเหล่าเมอร์เมด ชื่อว่า ไลท์ เมจิกคอล เมอร์เมด (Live Magical Mermaid) เป็นการผสมผสานละครเวทีกับการแสดงระบำใต้น้ำเข้าไว้ด้วยกันแบบมืออาชีพ พร้อมยกเอาเตียงนอนเปลือกหอยสุดรักสุดหวงของเมอร์เมด มาให้ยลโฉมกันอย่างใกล้ชิด พร้อมสามารถเข้าไปถ่ายภาพน่ารัก ๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึก
 
อีกทั้ง ยังได้เพลิดเพลินกับสวนสวยใต้น้ำอันรื่นรมย์ หรือ เมอร์เมด การ์เด้นท์ (Mermaid Garden) สวนพักผ่อนหย่อนใจของเหล่าเมอร์เมด ที่พวกเธอมักแหวกว่ายอยู่กับสัตว์น้ำ เปลือกหอย ปะการังอย่างสนุกสนาน พร้อมกับการขับกล่อมเด็ก ๆ ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะจากพิณทะเลคู่ใจ


 
นอกจากนี้ สยามโอเชี่ยน เวิร์ล ยังได้รวบรวมภาพและข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องราวความมหัศจรรย์ และคำบอกเล่าที่เกี่ยวกับเมอร์เมดจากทั่วทุกมุมโลก มาช่วยเติมเต็มจินตนาการของคุณหนู ๆ ให้กว้างไกลอย่างมีคุณค่าตลอดช่วงปิดเทอมนี้

[สายน้ำ]

ข่าวสด


แฉนายทุนบุกรุก"อ่าวนาง"สร้างรีสอร์ต ตัดถนนลุยเขาท่อนซุงเกลื่อน-พบบิ๊กขรก.หนุนหลัง

กระบี่ - นายวิทูรย์ ชลายนนาวิน ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนพร้อมด้วยนายเชิดวิทย์ คงมีสุข ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 นายศุภชัย สุขใส หัวหน้าสายตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี หน่วยป้องกันและปราบปรามและรักษาป่าที่ กบ.1-5 หน่วยประสานงานป้องกันและปราบปรามทรัพยากรป่าไม้จ.กระบี่ สนธิกำลังร่วมกว่า 50 นาย เข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนางและป่าหางนาค หมู่ที่ 3 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ภายหลังจากที่ได้รับแจ้งว่ามีนายทุนรายใหญ่เข้าบุกรุกปรับปรุงพื้นที่เตรียมสร้างรีสอร์ต

นายวิทูรย์กล่าวว่า จากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบพบว่า สภาพพื้นที่เป็นภูเขา โดยจุดเกิดเหตุอยู่บนยอดเขา ชื่อเขาคลองแห้ง ความชันโดยเฉลี่ย 90-100 เปอร์เซ็นต์ สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 200 เมตร มีการตัดถนนเข้าไปในพื้นที่โดยรอบภูเขาเป็นระยะทางกว่า 800 เมตร สภาพพื้นผิวถนนถูกอัดบดเป็นอย่างดี ขนาดความกว้าง 5-10 เมตร พบท่อนซุง เป็นไม้เบญจพรรณ เช่น ไม้สอม ไม้นนทรี ไม้กอ ถูกตัดทำลายกองไว้ตามจุดต่างๆ ริมถนน รวมจำนวน 38 ท่อน นอกจากนั้น ยังมีการปักหลักเขตที่ดิน ไม่ต่ำกว่า 10 จุด เพื่อเตรียมออกเอกสารสิทธิ เจ้าหน้าที่จึงถ่ายภาพพื้นที่ไว้ และตรวจยึดไม้ไว้เป็นหลักฐาน

นายวิทูรย์กล่าวต่อไปว่า หลังจากตรวจสอบพื้นที่ และจากการรายงานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ ทราบว่า มีการแอบอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงในจังหวัด ว่าเป็นผู้อนุญาตให้ดำเนินการ ทำให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไม่กล้าเข้าไปตรวจสอบ นอกจากนั้น ยังมีการอ้างแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน หรือส.ค.1 แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักฐาน ส.ค.1 ดังกล่าวแล้ว พบว่าเป็นการกล่าวอ้าง ส.ค.1 ไม่ตรงพื้นที่ มีทิศข้างเดียว มีการระบุการครอบครองทำประโยชน์มาก่อนปี 2475 และสภาพพื้นที่เป็นสวนยาง แต่จากการตรวจสอบไม่พบสวนยางแต่อย่างใด ทั้งนี้ การกระทำของผู้แอบอ้างเป็นการกระทำผิดพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ซึ่งหลังจากนี้จะส่งมอบหลักฐานการตรวจยึดทั้งหมด นำเสนอต่ออธิบดีกรมป่าไม้เพื่อพิจารณาดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

[สายน้ำ]

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์


จ.ตราด ส่งเสริมการใช้เรือใบเพื่อการประมงและการท่องเที่ยว

จังหวัดตราด ส่งเสริมการใช้เรือใบเพื่อการประมงและการท่องเที่ยว ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวสนใจชมธรรมชาติที่สวยงามทางทะเลของจังหวัด

วันนี้ (31 มี.ค.52) บริเวณหาดทรายแหลมกลัด อำเภอเมืองตราด นายประทีป จงสืบธรรม รองผู้ว่าราชกาจังหวัดตราด เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการใช้งานเรือใบเพื่อการประมงและการท่องเที่ยวจังหวัดตราด โดยมีชาวประมง 20 ราย รับมอบเรือใบพร้อมเข้ารับอบรมและแนะนำการใช้เรือใบในกิจการการประมงพร้อมสาธิตการใช้เรือใบเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่นิยมล่องเรือเที่ยวธรรมชาติทางทะเลที่สวยงามของจังหวัด โดยเฉพาะเกาะแก่งต่างๆ ที่มีมากกว่า 50 เกาะ

นายไชยันต์ การสมเนตร ประมงจังหวัดตราด กล่าวถึงการอบรมในครั้งนี้ว่า เป็นการร่วมมือกันระหว่างสำนักงานประมงจังหวัดตราด กับศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์การสะพานปลาและองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมกลัด โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันแพงในช่วงแรก ชาวประมงไม่สามารถออกไปหาปลาได้ จึงได้มีการปรับปรุงเรือ นำใบมาใส่แล้วทดลองใช้ปรากฏว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจังหวัดตราดมีความสนใจจึงได้มีการต่อยอดเป็นเรือใบเพื่อการท่องเที่ยวด้วย จึงได้มีการมอบเรือใบให้กับชาวประมงที่ร่วมโครงการและสาธิตการใช้เรือใบทางทะเล คาดว่าเรือใบจะเป็นแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวสนใจชมธรรมชาติที่สวยงามทางทะเลของจังหวัดมากยิ่งขึ้นในอนาคต

[chickykai]

ไทยรัฐ


ภูเขาขยะลอยในแปซิฟิก เกิดจากถุงพลาสติกทับถมกันโตเป็นเกาะยักษ์                            :                         ข่าววิทยาการ
 
หนังสือพิมพ์รายวัน “เดอะ ซาน ฟรานซิสโก ครอนิเกิล” ของสหรัฐอเมริกา รายงานข่าวว่า ได้พบกองขยะใหญ่โตมโหฬาร เทียบได้กับเกาะที่โตขนาดเท่ากับดินแดนรัฐเท็กซัส ลอยขวางอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ช่วงระหว่างนครซาน ฟรานซิสโกกับรัฐอาไวอิ

นายคริส ปาร์รี เจ้าหน้าที่ของคณะกรมการชายฝั่งที่ในนครซาน ฟรานซิสโก กล่าวว่า เกาะขยะยักษ์นั้น ยิ่งมีขนาดทวีโตใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว มาตั้ง แต่ทศวรรษ ของปี พ.ศ. 2493 มันประกอบด้วยถุงพลาสติกถึงร้อยละ 80 และประมาณว่า มีน้ำหนักรวมกันไม่ต่ำกว่า 3.5 ล้านตัน

เขาบอกอย่างปลงว่า “มาถึงบัดนี้ ปัญหาการเก็บกวาดมันให้หมดไป คงจะทำได้ยากเสียแล้ว ตราบเท่าที่เรายังคงต้องใช้พลาสติกกันอยู่” แต่แนะนำให้ว่า ควรจะเปลี่ยนให้มาใช้ถุงผ้าใบใส่สิ่งของ แทนถุงพลาสติกกันอย่างรวดเร็วก่อนอื่น”. 

  เง้อ เกาะขยะขนาดมโหฬาร แถมนับวันจะโตขึ้น โตขึ้นอีก แล้วสัตว์น้ำแถวนั้นมันไม่กินขยะตายกันเกลื่อนเลยเหรอเนี่ย

[สายชล]

กองขยะใหญ่เท่ารัฐเท๊กซัส  ก็ขนาดเท่าๆกับประเทศไทยเลยนะคะนั่น....ฟังดูน่ากลัวจัง..... 


เขาปล่อยเกาะขยะไว้อย่างนั้น น่าจะกลายเป็นที่อาศัยหลบภัยและที่หากินของสัตว์น้ำทั้งหลายไปแล้วละกระมังคะ..... 


อย่างไรก็ตาม....ถ้าไปขวางเส้นทางการเดินเรือ ก็น่าจะเป็นอุปสรรคและอันตรายกับการเดินเรือด้วย  อาจจะต้องอ้อมเดินเรือหลบขยะไปไกล เสียทั้งเวลาและน้ำมัน  และแค่ใบพัดเรือไปพันกับขยะแค่นั้นก็ยุ่งแล้ว....หุๆ...