กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤษภาคม 04, 2024, 08:36:21 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เบื่ออัมพวา  (อ่าน 15519 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
nudie
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 152


« เมื่อ: เมษายน 09, 2009, 01:06:15 AM »

ได้ยินหลายเสียงว่าเบื่ออัมพวา
ได้รับหนังสือเล่มล่าสุด

คิดว่าคนบ่นว่าเบื่อควรไปหาเล่มนี้มาอ่านแก้ร้อนครับ



มรว ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ใน "มนต์รักแม่กลอง"  ฉบับเดือน เมษายน


* Scan0002_7.jpg (85.43 KB, 711x288 - ดู 628 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
nudie
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 152


« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 09, 2009, 01:13:00 AM »

ใครไม่เบื่อยี่งน่าหามาอ่าน

หากอยากรู้จักเพศของเกลือ กับปลากระบอก




* 1239163376[1].jpg (87.69 KB, 366x550 - ดู 574 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
nudie
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 152


« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 09, 2009, 01:19:11 AM »

ที่อัมพวามีอาทิตย์ละเจ็ดวัน จันทร์ถึงศุกร์คนน้อย ไม่ต้องแย่งอากาศหายใจ
วันเสาร์อาทิตย์รถติด หากไป ก็......ต้องเจอรถติด





"ปัญญาพังก่อน แล้วชายฝั่งจึงพัง"

จาก มนต์รัก แม่กลอง


* 12391634603278.jpg (49.58 KB, 366x550 - ดู 606 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
nudie
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 152


« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 09, 2009, 01:49:12 AM »

หากขาดปัญญา และมีความโลภเป็นนายแล้ว อัมพวา ปาย ทะเลไทย หรือแม้แต่ ประเทศไทย ก็อาจมีชะตากรรมเดียวกับมะม่วงรสหวานในเรื่องพระมหาชนก


* DSC_0095.jpg (49.02 KB, 500x310 - ดู 582 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
marine_wi
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 216


ผู้พิทักษ์ทะเลตัวน้อย


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 09, 2009, 07:12:55 AM »

ยังไม่เคยไป  แต่รู้มาว่า  มีหิ่งห้อยน่าดูมากค่ะ

ไม่รักเมืองไทยแล้วจะให้ใครที่ไหนมารักล่ะ
อีกอย่าง  เราอยู่บ้านเรามาตั้งนานไม่เห็นจะเบื่อตรงไหน

เมืองไทย......มีอะไรมากมายให้ค้นหา
บันทึกการเข้า
Oo
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 455



« ตอบ #5 เมื่อ: เมษายน 09, 2009, 05:34:27 PM »

ที่สำคัญ...คนอัมพวาก็อย่าเบื่อนักท่องเที่ยวนะคะ

บันทึกการเข้า
ดอกปีบ
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 316


If we see the hearts of others, peace will follow


« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 09, 2009, 06:26:23 PM »

อัมพวา ก็เป็นสถานที่ใกล้กรุงที่น่าแวะไปเยือนนะครับ ..

แต่เท่าที่ทราบก็มีประเด็นความขัดแย้ง เรื่องผลกระทบจากการท่องเที่ยว ซ่อนอยู่เหมือนกัน เช่น เรื่องเรือชมหิ่งห้อย ส่งเสียงดังรบกวนชาวสวน ริมฝั่งน้ำ จนชาวสวนบางรายตัดสินใจตัดต้นลำพูทิ้ง 
บันทึกการเข้า
Oo
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 455



« ตอบ #7 เมื่อ: เมษายน 09, 2009, 06:55:16 PM »

อัมพวา ก็เป็นสถานที่ใกล้กรุงที่น่าแวะไปเยือนนะครับ ..

แต่เท่าที่ทราบก็มีประเด็นความขัดแย้ง เรื่องผลกระทบจากการท่องเที่ยว ซ่อนอยู่เหมือนกัน เช่น เรื่องเรือชมหิ่งห้อย ส่งเสียงดังรบกวนชาวสวน ริมฝั่งน้ำ จนชาวสวนบางรายตัดสินใจตัดต้นลำพูทิ้ง 

อย่าเริ่มๆๆ เราพิมพ์แล้วก็ลบ อยู่หลายครา
ขณะนี้บ้านเมืองเครียด เดี๋ยวยิ่งเครียด

เราต้องช่วยกันรื่นรมย์ อาทิ ดูรูปที่เขา UPdate ไปดำน้ำกัน

เอ๊ะ....หรือมันจะทำให้เราเครียดขึ้น ด้วยต่อมอิจฉาเจียนแตก



บันทึกการเข้า
ดอกปีบ
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 316


If we see the hearts of others, peace will follow


« ตอบ #8 เมื่อ: เมษายน 10, 2009, 02:59:42 AM »

ฮ่าๆ ไม่เริ่มๆ 

คิดเหมือนกัน แต่เอาแค่สะท้อนประเด็นให้ทราบแค่นั้น นะจ๊ะๆ


เห็นด้วยกับโอโอว่า ตอนนี้ต้องหาอะไรรื่นรมย์ๆทำ อย่างเช่นดูอัพเดทดำน้ำจากแดนตากาล็อค
แต่อารมณ์นี้ไม่เรียก ต่อมอิจฉาแตกแล้ว เค้าเรีนกฝีอิจฉาแตก แตกแล้วยุบ ยุบแล้วบวม บวมแล้วแตกใหม่อยู่ร่ำไป

คิดถึงพวกเราทุกคนเลยนะจ๊ะ 
บันทึกการเข้า
ดอกปีบ
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 316


If we see the hearts of others, peace will follow


« ตอบ #9 เมื่อ: เมษายน 10, 2009, 03:13:00 AM »

เห็นในข่าว เลยมาช่วยโพสเพิ่มครับ ..
อัมพวา ไม่ได้มีดีแค่หิ่งห้อยอย่างเดียวนะจ๊ะ

ที่มา วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11353 มติชนรายวัน

"ภุมรินทร์กุฎีทอง" วัดดีของ "อัมพวา"

โดย สกุณา ประยูรศุข

ใคร ไปอำเภออัมพวา จ.สมุทรสงคราม ยามนี้ ของดีไม่ได้มีแค่ "หิ่งห้อย" แมลงตัวเล็กๆ ส่องแสงที่ปลายก้นยามค่ำคืนตามต้นลำพู ซึ่งกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยไปแล้วเท่านั้น

แต่ ยังมี "ของดี" อีกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ไทย เป็นเรื่องของหญิงสาวชาวบางช้างที่ ชื่อ "นาค" ภายหลังได้เป็น "พระบรมราชินี" ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1

เรื่อง ของหญิงสาวผู้นี้เกี่ยวข้องกับอัมพวาได้อย่างไร พระครูวิมล ภาวนาจารย์ พระนักพัฒนา เจ้าอาวาส วัดภุมรินทร์กุฎีทอง ซึ่งตั้งอยู่คนละฟากแม่น้ำกับอุทยาน ร.2 ที่ อ.อัมพวา เป็นคนบอกเล่าให้ฟัง- -

พระครูวิมลภาวนาจารย์ ท่านเป็นพระนักคิดและนักทำ (พัฒนา) มองเห็นความสำคัญของประวัติศาสตร์ที่ต้องสืบทอดให้ชนรุ่นหลังได้เรียนรู้ และยังเป็นพระนักอนุรักษ์ ชื่นชอบงานศิลปวัฒนธรรมไทย จึงต้องการพัฒนาให้วัดภุมรินทร์กุฎีทอง เป็น "ตลาดวัฒนธรรม" สำหรับแลกเปลี่ยนเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมไทยใน จ.สมุทร สงคราม

ไม่ว่าจะ ในเรื่องของดนตรีไทย หุ่นกระบอก หรือ การประดิดประดอยข้าวของแบบชาวบ้านที่อาศัยภูมิปัญญาไทย เช่น เครื่องดนตรีไทย จำพวกซออู้ ซอด้วง หรือ การทำว่าวไทย ฯลฯ

ความคิดของพระครูได้รับการสร้างสรรค์ผ่านทางการจัดสร้าง "พิพิธ ภัณฑ์ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์" ทางหนึ่ง และ "บ้านดนตรีไทย" อีกทางหนึ่ง

พิพิธภัณฑ์ ที่ว่านี้ตั้งอยู่บนชั้นสองของศาลาการเปรียญภายในวัด ใครได้ไปเห็นเป็นต้องตะลึงกับความงดงามของพระพุทธรูปที่หาดูจากที่ไหนไม่ได้ อีกแล้ว เป็นพระพุทธรูปในช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้นที่สมบูรณ์อย่างที่สุด งดงามทั้งพระพักตร์และจีวรที่เรียกว่า "ลายดอกพิกุล" ที่แปลกกว่า ที่อื่นก็คือ พระพุทธรูปที่ทำจากไม้ลงรักปิดทองอร่ามไปทั้งองค์ นับจำนวนเป็นร้อย

ส่วน "บ้านดนตรีไทย" นั้น เกิดขึ้นได้ไม่นาน ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ดนตรีไทยของเด็กๆ ในละแวกตำบลสวนหลวง ต่อมาได้ คุณครูปิ๊ก-คชาภรณ์ สำราญใจ ลูกศิษย์ชั้นเหลนของ ครูชื้น สกุลแก้ว มาเปิดการเรียนการสอน "เชิดหุ่นกระบอก" ให้กับเด็กๆ ที่รักและสนใจแบบสอนฟรี!! ไม่มีเก็บสตางค์ ซึ่งจากตรงนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่การเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมไทยตามความต้อง การของพระครู ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำตัวหุ่น การเขียนหน้าหุ่น การทำหัวโขน หรือการปักผ้า อื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับ "วัดภุมรินทร์กุฎีทอง" ก็มีความเป็นมาเกี่ยวข้องกับประวัติ ศาสตร์ โดยพระครูวิมลฯ เล่าว่า เดิมวัดภุมรินทร์อยู่ติดกับวัดบางลี่น้อย แต่อยู่ลึกเข้ามาทางด้านใน ส่วนวัดบางลี่น้อยอยู่ติดริมแม่น้ำแม่กลอง ทำให้ถูกกระแสน้ำกัดเซาะตลิ่งพังลงเรื่อยๆ พระอธิการเกีย เจ้าอาวาสในตอนนั้นได้รื้อย้ายกุฎีทองของวัดบางลี่มาไว้วัดภุมรินทร์

โดย กุฎีทองนี้มีความสำคัญคือ เป็นกุฎีที่ "สมเด็จพระอมรินทรามาตย์ พระมเหสีในรัชกาลที่ 1" สร้างถวายแก่พระปลัดทิม เจ้าอาวาสวัดบางลี่น้อยสมัยนั้น เพราะเป็นผู้ทำนายชะตาของนางนาค ธิดาเศรษฐีตระกูลบางช้าง ว่าจะได้เป็นนางกษัตริย์

"เมื่อย้ายมาแล้ว พระอธิการเกีย ได้บูรณะซ่อมแซมเพิ่มช่อฟ้าใบระกาใหม่ทั้งหลัง เพื่อใช้เป็นที่สวดมนต์ หลังจากนั้นวัดบางลี่ถูกกระแสน้ำกัดเซาะตลิ่งพังทลายหายไปทั้งวัด แล้ววัดภุมรินทร์จึงอยู่ปากคลองบางลี่แทน และมีชื่อเรียกใหม่ว่า "วัดภุมรินทร์กุฎีทอง" ตามที่ได้รื้อกุฎีทองมาไว้"

"กุฎีทอง" มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ตามที่พระครูเจ้าอาวาสเล่าไว้ และที่น่าสนใจยิ่ง คือเป็นกุฏิที่สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง เมื่อมีการรื้อบูรณะทำให้ค้นพบพระพุทธรูปจำนวนนับร้อยองค์ที่ซ่อนอยู่ใต้ หลังคากุฏิ จึงได้นำไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ของวัดนั่นเอง

"อาตมา เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 8 ของวัดนี้ แต่ก่อนสภาพวัดไม่เป็นอย่างนี้ ทรุดโทรมมากจนไม่มีคนทำบุญ เพราะพระยุคนั้นไม่ดีชอบทำเดรัจฉานวิชา ทำน้ำมันพราย ให้หวย มอมเมาชาวบ้าน วัดเลยเสื่อมเรื่อยจนมาถึงสมัยหลวงพ่อพระครูสถิตสมุทรคุณ ราวปี 2500 ชาวบ้านไปนิมนต์ท่านมาเป็นเจ้าอาวาส เพราะเห็นว่าวัดจะถูกยุบ เนื่องจากไม่มีคนดูแล ต้นไม้ขึ้นปกคลุมรก ทรัพย์สมบัติในวัดโดนโจรกรรมไปหมด พระครูสถิตฯ ท่านขอมาดูวัดก่อน พอมาเห็นกุฎีทองซึ่งเป็นกุฎีประวัติศาสตร์ ที่สมเด็จพระราชินีในรัชกาลที่ 1 สร้างถวาย เห็นมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากเลยมีใจอยากมาพัฒนาวัดภุมรินทร์ กระทั่งวัดเจริญขึ้นเป็นลำดับ ใช้เวลาอยู่ 2-3 ปี"

พระครูวิมลฯ เล่าเสียงสลดเมื่อบอกว่า "พระครูสถิตฯ ท่านเคยพูดตอนมาอยู่ใหม่ๆ นั่งมองขันข้าวโยมผ่านหน้าวัดไป...คือหมายความว่าโยมเอาขันข้าวลงเรือพาย ผ่านหน้าวัดไปทำบุญที่วัดอื่น ก็สลดใจนะ วัดเสื่อมขนาดเขาไม่ทำบุญกัน.."

" เจ้าอาวาสตอนนั้นท่านเป็นคนเก่ง เป็นนักปกครอง เป็นนักโหรา ศาสตร์ เป็นนักบรรยาย และเป็นหมอรักษากระดูกด้วย คนพื้นที่นี้ขึ้นมะพร้าวกันทุกวัน ตกต้นมะพร้าวก็หามมาให้หลวงพ่อรักษา ท่านก็เลยโด่งดัง เวลาไปหาคนใหญ่ๆ โตๆ ขอเงินมาบูรณะวัด เขาเอาเงินใส่ปี๊บหมากถวายทีละ 2-3 ปี๊บ นับแล้วปี๊บหนึ่งได้ 7-8 หมื่นบาท บางปี๊บเป็นแสน สมัยนั้นเงินหมื่นเงินแสนไม่ใช่น้อยๆ หลวงพ่อจึงสามารถบูรณะวัดได้เป็นอย่างดี ศาลาการเปรียญนี่สร้างแปดเดือนเสร็จ พอเข้าพรรษาชาวบ้านก็มาทำบุญได้เลย" เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันเล่าถึงอดีตเมื่อปี 2500

แต่ นั่นเป็นเรื่องราวที่ผ่านมานานมากแล้ว ขณะที่ปัจจุบันวัดภุมรินทร์กุฎีทองได้รับการพัฒนามากระทั่งถึงยุคนี้ พ.ศ.2552 วัดภุมรินทร์กุฎีทอง จะได้รับการยกย่องเป็น "วัดตัวอย่างการพัฒนาดีเด่น" จังหวัดสมุทร สงคราม

วัดภุมรินทร์กุฎีทอง จึงนับเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งด้านศาสนาและศิลปวัฒนธรรมไทย "ของดี" อีกแห่งของสมุทรสงคราม

วัดภุมรินทร์กุฎีทอง แหล่งรวมโบราณวัตถุยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น

นอก จาก "กุฎีทอง" ที่สมเด็จพระอมรินทรามาตย์ พระมเหสีในรัชกาลที่ 1 สร้างถวายวัดบางลี่น้อยไว้แต่เดิมแล้ว ยังมีเครื่องใช้ส่วนพระองค์ถวายไว้ที่วัดจำนวนมาก ต่อเมื่อรื้อย้ายกุฎีทองไปไว้ที่วัดภุมรินทร์ ซึ่งสร้างโดย น.ส.ภู่ เมื่อ พ.ศ.2431 ทำให้วัดภุมรินทร์ มีสร้อยต่อท้ายชื่อเป็น "วัดภุมรินทร์กุฎีทอง" มาจนถึงปัจจุบัน

สิ่งของโบราณวัตถุมากมายในวัดภุมรินทร์กุฎีทอง ล้วนแล้วแต่เป็นของเก่าอายุหลายร้อยปี เช่น รอยพระพุทธบาทจำลอง พระพุทธรูปนับร้อยองค์ ส่วนมากเป็นพระที่ชาวบ้านนำมาถวายวัดเป็นพุทธบูชาในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น

" พระเนรมิตร นิยมเวช" พระลูกวัดที่ทำหน้าที่วิทยากรประจำพิพิธภัณฑ์ เล่าว่า เดิมชาวบ้านเรียกว่าวัดปากคลอง เพราะอยู่ปากคลองพอดี พอน.ส.ภู่คหบดีมาสร้างวัดก็เลยให้ชื่อเหมือนเจ้าของคนสร้าง

"ว่ากัน ว่าพระพิฆเณศของที่นี่ศักดิ์สิทธิ์มาก ใครมาขอในเรื่องหน้าที่การงานจะได้สมปรารถนาทุกคน เท่าที่เขามาทำบุญเขาบอกอาตมาเช่นนั้น จนกลายเป็นว่าใครมาทำบุญก็มาขอกับท่านในเรื่องงาน เท็จจริงอย่างไรต้องพิสูจน์เอง"

วัดแห่งนี้มีเนื้อที่ 52 ไร่ 2 งาน 4 ตารางวา เก็บพระพุทธรูปองค์ใหญ่สมัยกรุงศรีอยุธยา พระพุทธรูปเชียงแสน ทวารวดี ศรีวิชัย แต่พระยุครัตนโกสินทร์ตอนต้นมากที่สุด เดิมมีมากกว่านี้แต่ถูกโจรกรรมสมัยที่มีข่าวขโมยพระตามวัดต่างๆ พระที่วัดก็โดนด้วย อย่างองค์ที่เป็นพระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยา โจรขนไปไม่ไหวทิ้งไว้ริมตลิ่งข้างแม่น้ำ เอากลับมายังเปื้อนโคลนอยู่ ไม่กล้าขัดออกเพราะกลัวรักปิดทองจะลอกออกหมด

หรือตู้เก็บพระไตรปิฎก ก็สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นของดั้งเดิม ลายลบเลือนแทบจะหายหมดแล้ว ของทั้งหมดในนี้กรมศิลปากรมาสำรวจแล้ว บางส่วนก็ขึ้นทะเบียนแล้ว แต่บางส่วนก็ยัง

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องถ้วยลายคราม เครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ และตราประจำรัชกาลที่ 1 เป็นตราที่ทำจากงาช้าง ซึ่งเจ้าอาวาสเป็นผู้เก็บรักษาไว้

ตลาดวัฒนธรรม ศูนย์เรียนรู้"หุ่นกระบอก"

ร่วมพิธีไหว้ครูใหญ่ 12 เมษายน 2552


เพียง เวลาไม่ถึงสองเดือน "ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมไทย ชฎานางหุ่นกระบอก" ของ ครูปิ๊ก-คชาภรณ์ สำราญใจ บัณฑิตจากเพาะช่างสาขาศิลปะประจำชาติ ที่ดั้นด้นมาเปิดสอน "การเชิดหุ่นกระบอก" ให้กับลูกหลานของชาวบ้าน ต.สวนหลวง อ.อัมพวา ก็คืบหน้าไปมากมายจนคนเป็นครูอดปลื้มใจกับลูกศิษย์ตัวน้อยไม่ได้

" ครูปิ๊ก" เธอเล่าความเป็นมาให้ฟัง ว่ามาเปิดสอนที่นี่ โดยมาติดต่อกับเจ้าอาวาส เพราะทราบว่าท่านเป็นพระที่รักในศิลปวัฒนธรรมไทย ซึ่งเมื่อมาถึงก็ไม่ผิดหวังได้รับการสนับสนุนอย่างดี และยังช่วยประกาศไปยังผู้ปกครองที่อยากให้ลูกหลานมาเล่าเรียนการเชิดหุ่น และยังเป็นผู้หาทุนมาสนับสนุนในโครงการ โดยติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ ทั้ง อบจ. อบต. และหน่วยงานเอกชนอื่นๆ จนได้เงินงบประมาณจำนวนหนึ่งมาทำโครงการ

" โครงการมีชื่อว่า โครงการร่วมศึกษาศิลปวัฒนธรรมไทยสร้างสายใยให้เยาวชน เป็นการสอนฟรี เด็กๆ ให้ความสนใจมากและตั้งใจจริง สอนไม่นานก็จับหุ่นกันได้แล้ว อาจเป็นเพราะเด็กๆ มีพื้นเดิมอยู่แล้วในเรื่องของจังหวะ เพราะเขาเรียนดนตรีไทยที่บ้านดนตรีไทยมาก่อนแล้ว จึงไม่ยากในการสอน ส่วนมากเป็นเด็กในพื้นที่ ในชุมชน มาจากโรงเรียนต่างๆ ละแวกนี้ ซึ่งเรารับสอนตั้งแต่ 8 ขวบก็สามารถเล่นได้แล้ว การสอนก็ฟรี เสียแต่ค่าครู 12 บาท"

"วันที่ 12 เมษายนนี้ เราจะจัดพิธีใหญ่เป็นการไหว้ครูประจำปี จะมีพราหมณ์มาทำพิธีและครอบครูให้กับเด็กๆ ที่เรียน มีพิธีบายศรี มีคนสำคัญๆ มาร่วมงานทั้งจากจังหวัด อบต. และ อบจ. เป็นงานใหญ่ของเรา" เสียงครูปิ๊กเล่าอย่างร่าเริง

"เราตั้งความหวังไว้ว่าสิ้นเดือน เมษายนนี้เราจะมีคณะหุ่นกระบอกบ้านดนตรีไทย ตั้งใจแบบนั้นจริงๆ ละครที่นำมาเล่นจะเน้นละครนอก เพราะชาวบ้านสามารถดูได้ เช่น สังข์ทอง พระอภัยมณี นำมาดัดแปลงบท ใส่คำพูดที่ปรับให้เข้ากับชาวบ้าน ให้บรรยากาศเข้ากับพื้นที่ ทุกอย่างเราทำเองหมด เขียนบทเอง ซ้อมเอง สอนเด็กๆ ให้เล่น ทำหมดทุกอย่าง"

สำหรับตัวครูปิ๊กเองนั้น เธอว่า "เพราะใจรักถึงมาทำที่นี่ อยู่ที่นี่ แม้ว่าจะไม่ได้เงินทองมากมายอะไร ก็ไม่คิดที่จะเลิกทำ

" ชีวิตที่ผ่านมาเคยทำธุรกิจ ได้เงินเยอะแยะแต่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสุขเลย-เลยถอยหลังมาคิดใหม่ มาทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ทุกครั้งที่ได้จับตัวหุ่นสอนเด็กๆ เหมือนมีวิญญาณครูเข้าสิง มีความสุขมาก"

หน้า 20



* pra01100452p1.jpg (17.1 KB, 250x159 - ดู 523 ครั้ง.)

* pra01100452p2.jpg (17.52 KB, 200x251 - ดู 529 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Oo
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 455



« ตอบ #10 เมื่อ: เมษายน 10, 2009, 05:09:56 AM »

รื่นรมย์และร่มรื่น

มีรูปของกินที่อัมพวามาฝากกกกก


* P3010039.JPG (131.37 KB, 480x640 - ดู 536 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Oo
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 455



« ตอบ #11 เมื่อ: เมษายน 10, 2009, 05:19:16 AM »

ถึงคนจะเยอะ แต่ก็มีพี่สายตรวจจักรยาน ทำหน้าที่ดูและความปลอดภัย


* P3010072.JPG (338.31 KB, 945x1531 - ดู 579 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Oo
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 455



« ตอบ #12 เมื่อ: เมษายน 10, 2009, 05:22:30 AM »

มุมเงียบๆ ก็มี


* IMG_5165s.JPG (106.46 KB, 640x480 - ดู 542 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Oo
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 455



« ตอบ #13 เมื่อ: เมษายน 10, 2009, 05:25:55 AM »

พายยางเล่น


* IMG_5198s.JPG (89.56 KB, 480x640 - ดู 523 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
WayfarinG
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2388



« ตอบ #14 เมื่อ: เมษายน 10, 2009, 05:26:41 AM »

เคยไปอัมพวา เมื่อหลายปีก่อน รู้สึกว่าเป็นที่ที่น่ารักมากๆ .. หลายปีให้หลัง ไปอีกรอบ รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่อย่างว่า ความเจริญไปที่ไหน ความเสื่อมโทรมก็ตามไปติดๆ ..

รถจากที่ขับกันสบายๆ ติดยิ่งกว่า กทม เพราะ เป็นถนนเลนเดียว ทำอะไรไม่ได้มากกว่าการรอและรอ ..  

เคยพูดเสมอๆ ว่า คนท้องถิ่น ถ้าไม่คิดที่จะทำอะไรเพื่อบ้านตัวเอง การจะมาเรียกร้องให้คนอื่นช่วย มันก็ยังงัยๆ อยู่อะจ๊ะ ..  
บันทึกการเข้า

If you reject the food, ignore the customs, fear the religion and avoid the people, you might better stay home.  -- > James Michener
หน้า: [1] 2 3   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.301 วินาที กับ 19 คำสั่ง