เมษายน 26, 2024, 10:10:47 PM
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว
: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
สมาชิก
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
กระดานข่าว Save Our Sea.net
>
หมวดหมู่ทั่วไป
>
ห้องรับแขก
(ผู้ดูแล:
สายชล
,
สายน้ำ
) >
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2552
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2552 (อ่าน 3067 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2552
«
เมื่อ:
เมษายน 20, 2009, 12:47:29 AM »
กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป
ลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ด้านตะวันตกของประเทศมีฝนตกมากกว่าบริเวณอื่นๆในระยะนี้
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
คาดหมาย
ในช่วงวันที่ 19-21 เม.ย. ลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้าปกคลุมประเทศไทยยังคงมีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยทางด้านตะวันตกมีฝนเพิ่มมากขึ้น โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย และ มีลมกระโชกแรงบางแห่ง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 22-25 เม.ย. ลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้มีปริมาณฝนลดลง และมีอากาศร้อนขึ้น
ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้นได้ในระยะนี้
Forecast2.jpg
(40.05 KB, 684x423 - ดู 517 ครั้ง.)
Earthquake.jpg
(39.88 KB, 450x499 - ดู 478 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2552
«
ตอบ #1 เมื่อ:
เมษายน 20, 2009, 12:56:07 AM »
ผู้จัดการออนไลน์
จนท.ศูนย์อนุรักษ์ฯ เร่งช่วยชีวิตเต่าตะนุยักษ์อายุกว่า 50 ปีที่หาดราไวย์
ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 เร่งช่วยชีวิตเต่าตะนุน้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม หลังถูกคนลักลอบจับปลาสวยงามในทะเลจับได้ผูกเชือกกับสมอเรือทิ้งในทะเลหน้าหาดราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เผยเป็นเต่าตะนุขนาดใหญ่เพศผู้ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยพบเห็นในรอบ 10 ปี
ในวันที่19 เมษายน นายไพทูล แพนชัยภูมิ ผู้อำนวยการการ ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ภูเก็ต กล่าวภายหลังเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำเต่าทะเลขนาดใหญ่ ซึ่งถูกผูกติดไว้กับสมอเรือทิ้งหน้าหาดราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อเวลา 04.00 น. ว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่า มีการลักลอบจับปลาสวยงามและสัตว์ทะเลหายากมาขึ้น ที่บริเวณชายหาดราไวย์
เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าระวังและพบเห็นเรือต้องสงสัยตามที่แจ้งจึงได้เข้าไปตรวจสอบ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยไป แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบในจุดที่สงสัยว่ามีการทิ้งของกลาง เนื่องจากเรือลำดังกล่าวมีลักษณะเอียงก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปถึง
จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ต้องตะลึง เนื่องจากพบเต่าทะเลขนาดใหญ่ถูกเชือกล่ามติดไว้กับสมอเรือ จึงได้ทำการช่วยเหลือขึ้นมา ในเบื้องต้นพบมีบาดแผลถูกสมอเรือฟันได้รับบาดเจ็บจึงส่งให้สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เพื่อนำไปรักษาตัวที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายากของสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลนดูแล
น.ส.กาญจนา อดุลยานุโกศล หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อว่า สำหรับเต่าทะเลดังกล่าว เป็นเต่าตะนุ เพศผู้ น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ความกว้างของกระดอง 97 ซม. รอบตัวกว้าง 1 เมตร 64 เซนติเมตร อายุประมาณ 50-60 ปี เป็นเต่าตะนุตัวผู้ขนาดใหญ่ที่พบเห็นในรอบ 10 ปี
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ที่กระทำความผิดในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่มีรูปถ่ายของผู้ต้องสงสัยทั้งหมด
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2552
«
ตอบ #2 เมื่อ:
เมษายน 20, 2009, 01:15:18 AM »
แนวหน้า
"ป่าไม้"ย้ำ6แผนงาน ยึดแนวพระราชดำริ แก้ปัญหาแบบยั่งยืน "หมอกควัน-ไฟป่า"
นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า กรมป่าไม้ได้จัดทำแผนปฏิบัติการแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่าตามแนวพระราชดำริป่าเปียก ซึ่งมีหลักการสำคัญ คือการอนุรักษ์ป่าไม้ โดยใช้ความชุ่มชื้นให้ป่าเขียวตลอดเวลา สามารถป้องกันไฟป่าได้ ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้เมื่อมีไฟป่าเกิดขึ้น ผู้คนส่วนใหญ่มักจะคำนึงถึงการแก้ปัญหาด้วยการระดมสรรพกำลังกันดับไฟป่าให้มอดดับอย่างรวดเร็วเท่านั้น ซึ่งเห็นว่าไม่น่าจะเป็นแนวทางป้องกันไฟป่าได้สำเร็จและยั่งยืนในระยะยาว
สำหรับแนวดำเนินการตามพระราชดำริป่าเปียกนั้นมี 6 วิธีด้วยกัน คือ 1.ทำระบบป้องกันไฟไหม้ป่า โดยใช้แนวคลองส่งน้ำและแนวพืชชนิดต่างๆ ปลูกตามแนวคลองนั้น 2. สร้างระบบการควบคุมไฟป่าด้วยแนวป้องกันไฟ ป่าเปียก โดยอาศัยน้ำชลประทานและน้ำฝน 3. การปลูกต้นไม้โตเร็วคลุมแนวร่องน้ำ เพื่อให้ความชุ่มชื้นค่อยๆ ทวีขึ้นและแผ่ขยายออกไปทั้งสองข้างของร่องน้ำ ซึ่งจะทำให้ต้นไม้งอกงามและมีส่วนช่วยป้องกันไฟป่า เพราะ ไฟป่าจะเกิดขึ้นง่ายหากป่าขาดความ ชุ่มชื้น 4. การสร้างฝายชะลอความชุ่มชื้น หรือที่เรียกว่า "Check Dam" ขึ้น เพื่อปิดกั้นร่องน้ำหรือลำธารขนาดเล็กเป็นระยะๆ เพื่อใช้เก็บกักน้ำและตะกอนดินไว้บางส่วน โดยน้ำที่เก็บไว้จะซึมเข้าไปสะสมในดิน ทำให้ความชุ่มชื้นแผ่ขยายเข้าไปทั้งสองด้านกลายเป็นป่าเปียก 5. การสูบน้ำเข้าไปในระดับที่สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วปล่อยน้ำลงมาทีละน้อยให้ค่อยๆ ไหลซึมลงดิน เพื่อช่วยเสริมการปลูกป่าบนพื้นที่สูงในรูป "ภูเขาป่า" ให้กลายเป็น "ป่าเปียก" ซึ่งสามารถป้องกันไฟป่าได้อีกด้วย และ 6.ปลูกต้นกล้วยในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นช่องว่างของป่า ประมาณ 2 เมตร หากเกิดไฟไหม้ป่าก็จะปะทะ ต้นกล้วยซึ่งอุ้มน้ำไว้ได้มากกว่าพืชอื่น ทำให้ลดการสูญเสียน้ำลงไปได้มาก ซึ่งการดำเนินการและวิธีการตามประราชดำริป่าเปียกแล้วจะสามารถป้องกันไฟป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพและยังยืนยืน
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
หมวดหมู่ทั่วไป
-----------------------------
=> ห้องรับแขก
=> กิจกรรมและผลงาน
=> เรื่องเล่าชาวทะเล
=> ท่องเที่ยวทั่วแผ่นดิน
=> คุยเฟื่องเรื่องดำน้ำ
=> หลังเลนส์
=> สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล
=> คลังกระทู้เก่า
กำลังโหลด...