กระดานข่าว Save Our Sea.net
มีนาคม 28, 2024, 09:23:46 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน 2552  (อ่าน 4340 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: เมษายน 30, 2009, 12:14:09 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้ตอนบนเริ่มอ่อนกำลังลง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้บางพื้นที่


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่  อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศา  ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 29 เม.ย.-1 พ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคกลางและภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกระจายและฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 2-5 พ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้หย่อมความกดอากาศต่ำจะเลื่อนลงมาปกคลุมภาคใต้ตอนบนและอ่าวไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ส่วนภาคใต้ตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้นและคลื่นลมในอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้นด้วย


ข้อควรระวัง

สำหรับในช่วงวันที่ 2-5 พ.ค. อ่าวไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง



* Forecast2.jpg (38.52 KB, 684x423 - ดู 810 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 30, 2009, 12:26:00 AM »

ผู้จัดการออนไลน์


กรมอุทยานฯ ลดค่าเข้าครึ่งราคาดึงดูดนักท่องเที่ยว
 

 ผาหล่มสัก อุทยานแห่งชาติภูกระดึง   
 
       นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ พร้อมสนองนโยบายรัฐบาล และกระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬา ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ
       
       โดยขณะนี้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้เตรียมเปิดอุทยาน เพื่อการท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกหลายแห่ง อาทิ อุทยานแห่งชาติออบขาน จ.เชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติแก่งเจ็ดแถว จ.พิษณุโลก และเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ รวมทั้งอุทยานแห่งชาติแม่โถ และขุนขาน จ.เชียงใหม่ พร้อมกันนี้ยังลดค่าธรรมเนียมชมอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศลง 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แลชะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้มาท่องเที่ยวในประเทศมากยิ่งขึ้น

 
*********************************************************************************************************************************


สิมิลัน หวั่นไหว                                                  :                                            ปิ่น บุตรี


หินเรือใบและหาดทรายอันสวยงามที่เกาะแปด 
 
 
       สิมิลัน หมู่เกาะที่นานๆผมจะไปเยือนสักครั้ง
       
       แต่ว่าไปแต่ละครั้ง ธรรมชาติความงามที่สิมิลันไม่เคยสร้างความผิดหวัง
       
       สายน้ำยังคงใสแจ๋ว ช่วงน้ำตื้นมองเห็นปะการังฝูงปลาแหวกว่าย หาดทรายยังคงขาวเนียน วิวทิวทัศน์ยังคงสวยงาม นกชาปีไหน-ปูไก่ ยังปรากฏกายให้เห็น
       
       ในความงามเหล่านี้ ผมพบว่ามีคนเล็กๆอยู่กลุ่มหนึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ปิดทองหลังพระ ปิดทองข้างหลังความงาม เพื่อปกป้อง อนุรักษ์หมู่เกาะสิมิลันให้คงความงามอยู่คู่โลกไปอีกนานเท่านาน

       
       ผู้ปิดทองหลังเต่า
       
       การไปสิมิลันครั้งนี้นอกจากความงามของธรรมชาติดังที่กล่าวมาแล้ว ผมเจอเต่าทะเลตัวเป็นๆ ถึง 3 ตัว(ที่เกาะสี่ 1 ตัว เกาะแปด 2 ตัว)ว่ายน้ำมาให้เห็นกันจะจะ ใกล้ตาถนัดถนี่
       
       แม้จะเป็นความบังเอิญผสมความโชคดี(มาก) แต่ว่าเมื่อมองย้อนลึกเข้าไปก็พบว่า ในสถานการณ์ที่เต่าทะเลสุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ มีความหวังเล็กๆจากโครงการอนุรักษ์เต่าทะเลหมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งจัดตั้งเป็นศูนย์อนุรักษ์เต่าขึ้นมาที่เกาะหนึ่งหรือเกาะหูยง
       
       ที่นั่นเป็นพื้นที่หวงห้าม(เป็นเกาะเพื่อการอนุรักษ์ ไม่ใช่เกาะเพื่อการท่องเที่ยว)เนื่องจากเป็นจุดเต่าทะเลวางไข่จุดสำคัญของทะเลอันดามัน มีกองทัพเรือ(โดยความร่วมมือของกรมอุทยานฯ)เป็นผู้ดูแลพื้นที่

   
วันนี้ของเต่าทะเลสิมิลัน ค่อนข้างโชคดีที่มีโครงการอนุรักษ์เต่าทะเลเพื่อป้องกันการสูญพันธุ์ 
 
       บนเกาะหนึ่งมีเจ้าหน้าที่เฝ้าประจำการเป็นผลัด ผลัดละแค่ 3 คน ปฏิบัติการเป็นกะ กะละ 15 วัน อยู่กินการตามอัตภาพ ที่สำคัญคือต้องมีความอดทนและความพยายามอย่างสูงในการปฏิบัติภารกิจ เพราะบนเกาะหนึ่งไม่มีไฟฟ้า น้ำมีจำกัด นานๆจะได้กินน้ำแข็งเย็นสักที ถ้าโชคดีมีเรือประมงแวะผ่านมา แล้ววิทยุบอกเจ้าหน้าที่ให้ขับเรือเล็กออกไปรับน้ำแข็ง อาหารการกินก็ไม่ได้สะดวกสบาย ยิ่งเป็นหน้ามรสุมนี่ยิ่งแล้วใหญ่ ความยากลำบากจะเพิ่มเป็นเท่าตัว เพราะคลื่นลมฝนแห่งอันดามันบริเวณเกาะสิมิลันนั้นมันไม่ธรรมดาเอาเสียเลย
       
       พวกเขาแม้เป็นชายฉกรรจ์ แต่ว่าก็ต้องทำหน้าที่ประหนึ่ง “แม่นม(ของ)เต่า”เลยทีเดียว
       
       แม่นมเต่า มีหน้าที่คอยดูแลฟูมฟักลูกเต่าทะเลอย่างใกล้ชิด เริ่มตั้งแต่เดินตรวจตราในช่วงเช้ามืดของแต่ละวันหรือที่เจ้าหน้าที่เรียกว่า“เดินเต่า” ดูว่าวันไหนมีแม่เต่าตัวไหนขึ้นมาวางไข่บ้าง เมื่อเห็นไข่เต่าก็นำไปฝังทรายไว้ในบ่อพัก แล้วรอเวลาประมาณ 2 เดือน ลูกเต่าจะฟักตัวออกมาดูโลก แต่ภารกิจของแม่นมเต่ายังไม่จบสิ้นเพราะต้องดูแลอีกสักพักให้ลูกเต่าแข็งแรงก่อนส่งไปยังศูนย์อนุบาลเต่าที่ทับละมุต่อไป
       
       แม่นมเต่าคนหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่า ทุกครั้งที่เห็นเต่าที่อนุบาลไว้ถูกปล่อยลงทะเล เขาจะเกิดความรู้สึกปีติอย่างบอกไม่ถูก เพราะนั่นหมายถึงหนึ่งภารกิจของเขาได้เสร็จสิ้นไป รอภารกิจดูแลลูกเต่าชุดใหม่มาเยือนอีกครั้ง

   
เต๊ะ ศตวรรษ กับภารกิจวางทุ่นใต้น้ำ และกลุ่มเพื่อนอาสาลงไปผูกทุ่นใต้ทะเล 
 
       ผู้ปิดทองใต้ทะเล
       
       หมู่เกาะสิมิลันขึ้นชื่อนักในเรื่องแหล่งดำน้ำลึกที่สวยงามติดอันดับโลก ถึงกระนั้นปะการังน้ำตื้นที่สิมิลันก็สวยใช่ย่อย
       
       ทุกปีช่วงฤดูท่องเที่ยวจะมีเรือจำนวนมากพานักท่องเที่ยวมาดำน้ำ ในอดีตเรือจะใช้การทิ้งสมอเพื่อลอยลำอันเป็นหนึ่งในตัวการทำให้ปะการังพังเสียหาย นับเป็นวิธีการที่ค่อนข้างล้าสมัย ทำให้ปัจจุบันมีการเปลี่ยนรูปแบบหันมาใช้วิธีผูกทุ่นลอยลำแทน
       
       หมู่เกาะสิมิลันได้ทำการวางทุ่นเพื่อจอดเรือมาตั้งแต่เมื่อ 15 ปีที่แล้ว และดำเนินการวางทุ่นเรื่อยมาเพราะแต่ละปีจะมีทุ่นชำรุด สูญหาย ซึ่งหากมองด้วยตาเปล่าเห็นลูกทุ่นลอยน้ำอยู่ไหวๆ มันดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ทว่าถ้ามองลึกลงไปใต้ทะเลถึงตัวฐานของทุ่น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะนำฐานทุ่นปูนไปวางไว้ใต้ทะเล แต่สำหรับทีมวางทุ่นใต้ทะเลนั้น นี่คือภารกิจปิดทองใต้ทะเลเพื่ออนุรักษ์แนวปะการัง และให้นักท่องเที่ยวสามารถดำน้ำชมโลกใต้ทะเลกันได้อย่างเพลิดเพลินใจ
       
       การวางทุ่นใต้ทะเลนั้นมันไม่ใช่เรื่องสวยงาม สบายๆเหมือนการท่องเที่ยวดำน้ำดูปะการัง แต่มันคือความยากลำบากอย่างหนึ่ง ซึ่งก่อนการวางทุ่นต้องมีการสำรวจพื้นที่ การเตรียมตัวและซักซ้อมกันเป็นอย่างดี เพื่อป้องกันสิ่งไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นใต้น้ำได้
       
       จากนั้นเมื่อถึงขั้นตอนการนำฐานทุ่นลงไปวางใต้ทะเล นี่แหละคือความยากลำบาก เพราะทุ่นปูนมันทั้งใหญ่ทั้งหนัก(เป็นตันๆ)
       
       เรื่องนี้ผู้ที่เคยผ่านการดำน้ำลงไปวางทุ่น อย่าง เต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร นักร้องนักแสดง ในฐานะอาสาสมัครโครงการวางทุ่นได้ถ่ายทอดประสบการณ์ให้ฟังว่า การวางทุ่นที่สิมิลันเป็นการดำน้ำวางทุ่นครั้งแรก เต๊ะมีภารกิจต้องดำลงไปเปลี่ยนเอาทุ่นเก่าออก แล้วนำทุ่นใหม่ขนาดกลาง(สีส้ม)ลงไปผูกข้างล่าง ที่บริเวณเกาะสี่(เกาะเมียง)ที่ระดับความลึกประมาณ 31 เมตร
       
       “ผมคิดว่าพื้นฐานของการวางทุ่นนี้ไม่ยากเพียงแต่ว่าต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับการผูกเงื่อน การคล้องเงื่อน คือถ้าเกิดคล้องบนบกมันไม่มีปัญหาเพราะเราใช้เวลาเท่าไรก็ได้ แต่พอลงไปใต้น้ำเรื่องของเวลา เรื่องของอากาศ เป็นข้อจำกัดมาก ต้องมีการซ้อมไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นอันตรายกับตัวเราได้ ซึ่งสำหรับกิจกรรมนี้ผมคิดว่าเป็นกิจกรรมที่ดี ถึงแม้ว่าเราลงไปในครั้งนี้ไม่ได้ไปเชิงสันทนาการหรือว่าท่องเที่ยวเท่าไร แต่มันก็เป็นเชิงอนุรักษ์ที่แบบว่าอย่างน้อยทุกครั้งที่เรามาที่นี่ เราก็รู้ว่าทุ่นนี้เราเป็นคนวางนะ อย่างน้อยเราก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ทำให้ปะการังตรงนี้บริเวณนี้ยังคงสมบูรณ์อยู่”
       
       เต๊ะเล่าพร้อมกับฝากไปถึงนักท่องเที่ยวว่า เวลาดำน้ำต้องช่วยกันอนุรักษ์ดูแลปะการังด้วย

   
ในความสวยงามของสิมิลันมีคนเล็กๆทำหน้าที่เป็นผู้ปิดทองหลังพระอยู่ 
 
 
       ผู้ปิดทองหลังเกาะ
       
       หมู่เกาะสิมิลันเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ เป็นหมู่เกาะในฝันของใครหลายๆคน อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
       
       ในจำนวน 9 เกาะของหมู่เกาะสิมิลันนั้น มีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าดูและอยู่ใน 2 จุดหลักๆคือที่เกาะแปด(เกาะสิมิลัน) และเกาะสี่(เกาะเมียง)
       
       พี่ไหว พิทักษ์ป่าอาวุโสแห่งเกาะสิมิลันเล่าให้ผมฟังว่า ในช่วงฤดูท่องเที่ยวนั้นเกาะสิมิลันจะสวยปานสวรรค์ ตรงกันข้ามกับช่วงมรสุมที่พายุกระหน่ำ บางวันฝนตกปานฟ้ารั่ว บางวันคลื่นแรงออกเรือไม่ได้ บางวันลมแรงพัดกิ่งไม้หักระนาว พัดหลังคาปลิวว่อน
       
       “ช่วงมรสุมนั้นอาหารหลักของเราก็มีพวกน้ำพริก ปลากระป๋อง เพราะมันออกไปไหนไม่ได้” พี่ไหวเล่า ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าหน้ามรสุมนั้น มันคือนรกกลายของคนอยู่เกาะห่างไกลเลยทีเดียว
       
       อย่างไรก็ตามในช่วงฤดูท่องเที่ยว คลื่นลมสงบ น้ำใส ฟ้าสวย แต่พิทักษ์ป่าหลายครั้งหลายหนก็ต้องปวดหัวกับพฤติกรรมแย่ๆของนักท่องเที่ยวไทยบางคน ไม่ว่าจะเป็น ไม่เคารพกฎเกณฑ์ของทางอุทยานฯ เอะอะ เสียงดัง เอาแต่ใจ ทิ้งขยะเรี่ยราด นำอาหารไปกินในเต็นท์จนงูหนูเข้าไปกินตาม และพฤติกรรมแย่ๆอีกสารพัด
       
       เท่าที่ผมสำรวจพูดคุยกับเจ้าหน้าที่พบว่า นักท่องเที่ยวที่มีพฤติกรรมยอดแย่มากที่สุดคือ กลุ่มผู้มีตำแหน่งมีอำนาจ อาทิ ข้าราชการ ฝ่ายปกครอง(มีอายุ) พวกนี้จะทั้งเบ่ง กร่าง ตามสันดานของคนมักมากในอำนาจ
       
       "เดี๋ยวนี้พิทักษ์ป่า นอกจากจะต้องดูแลป่า ดูแลทะเลแล้ว ยังต้องทำหน้าที่บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย บางคนกางเต็นท์ไม่เป็น เราก็ต้องไปกางให้ บางคนบาดเจ็บจากการเล่นน้ำเราก็ไปช่วย แถมบางคนยังบ่นหาความสะดวกสบายทั้งๆที่รู้ว่า มานอนเกาะ มานอนอุทยานฯ ไม่ได้นอนโรงแรม"
       
       พี่ไหวเล่าให้ฟัง พร้อมบ่นให้ฟังว่านักท่องเที่ยวหลายคนยังเสียนิสัยคือทิ้งขยะเรี่ยราด สูบบุหรี่ก็โยนทิ้ง กินเหล้าเบียร์(นำไปเอง)ก็วางทิ้งเกลื่อนไว้ตรงนั้นแหละ เจ้าหน้าที่ต้องมาตามเก็บให้
       
       “ผมอยากให้นักท่องเที่ยวนำอะไรมาบนเกาะ ก็ให้นำกลับไปด้วย เพื่อจะได้แก้ปัญหาขยะบนเกาะ หรืออย่างน้อยก็ให้ทิ้งขยะเป็นที่เป็นทาง”พี่ไหวเล่าในค่ำคืนที่เราตั้งวงพูดคุยกัน
       
       ..................................
       
       เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ผมตื่นขึ้นมาเห็นพี่ไหวเดินเก็บก้นบุหรี่ ขวดเหล้า กระป๋องเบียร์ กระป๋องน้ำอัดลมที่นักท่องเที่ยวกินทิ้งไว้
       
       ผมเห็นภาพนี้แล้วก็อดสะทกสะท้อนใจไม่ได้ เพราะถ้านักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งยังมีพฤติกรรมทิ้งขยะเรี่ยราดไม่เป็นที่เป็นทางอย่างนี้ ต่อให้ 10 พี่ไหว 100 พี่ไหว เก็บยังไงมันก็”ไม่ไหว”อยู่ดี

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 30, 2009, 12:29:05 AM »

มติชน


เรือประมงจม-ช่วยลูกเรือ 40 ชีวิต ลอยคอกลางทะเลระยอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างพรกุศล ได้รับแจ้งจากเทศบาลนครระยองว่า เกิดอุบัติเหตุเรือประมงล่ม บริเวณหัวเขื่อนปากน้ำ ต.ปากน้ำ อ.เมืองระยอง ห่างจากฝั่งประมาณ 200 เมตร โดยลูกเรือกำลังลอยคอกลางทะเล หลังรับแจ้งจึงนำเจ้าหน้าที่ออกไปช่วยเหลือร่วมกับเรือประมง ท่ามกลางชาวบ้านที่ทราบข่าวมายืนดูเหตุการณ์

เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ร่วมกับเรือประมงชายฝั่งออกไปช่วยเหลือลูกเรือที่กำลังลอยคอกว่า 40 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือลูกเรือกลับเข้าฝั่งโดยปลอดภัยทั้งหมด ซึ่งไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด ทั้งนี้ ทราบว่าเป็นลูกเรือของแพปลาวิเศษ บริเวณปากน้ำระยอง ส่วนสาเหตุเรือล่มครั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 30, 2009, 12:31:45 AM »

ข่าวสด


คลื่นกัดเซาะหนัก ชายเลนแหลมงอบ

ตราด - นายสมชาย สามัญ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแหลมงอบ เปิดเผยว่า ขณะนี้เกิดปัญหาน้ำกัดเซาะป่าชายเลนบริเวณชายหาด เช่นที่หาดทรายดำ ซึ่งเป็นป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์มาก ชาวบ้านบริเวณนั้นได้อาศัยพื้นที่ป่าชายเลนนี้ทำมาหากินจับกุ้งหอยปูปลาบริโภคและขาย จากการสำรวจพบว่าป่าชายเลนในบริเวณนี้ถูกน้ำกัดเซาะประมาณปีละ 5-10 ซ.ม. ระยะทางตั้งแต่บ้านยายม่อมจนถึงบ้านแหลมทองหลางรวมกว่า 2 ก.ม. ทำให้พื้นที่ป่าชายเลนเสียหาย มีต้นไม้ล้มจำนวนมาก

นายสมชายกล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ทางด้านเทศบาลต้องแก้ไขปัญหา เฉพาะในเขตพื้นที่ของเทศบาล เท่าที่มีงบประมาณทำได้ ส่วนพื้นที่อื่นๆ ที่ติดต่อกันและได้รับผลกระทบ จะขอความร่วมมือจากชาวบ้าน โดยให้ช่วยกันสร้างที่กั้น ซึ่งอาจจะใช้ไม้ไผ่มาปักทำแนวกั้นไว้ก่อน เพราะทางเทศบาลไม่มีงบประมาณเพียงพอ

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 30, 2009, 12:34:38 AM »

เนชั่นแชนแนล : เนชั่นทันข่าว


ฝนกระหน่ำเมืองพัทยาท่วมบ้านกว่า 100 หลังคาเรือน

ผู้สื่อข่าวรายงานช่วงดึกที่ผ่านมาที่เขตเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนักเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง จนเกิดมีน้ำท่วมขังบนถนนสุขุมวิท และ ถนนสายต่างๆในเมืองพัทยาเป็นจำนวนมาก ซึ่งระดับน้ำมีความสูงกว่า 60 เซนติเมตร ทำให้การจราจรบนท้องถนนเคลื่อนตัวไปได้ช้าเนื่องจากต้องขับรถลุยกระแสน้ำที่ท่วมขังอยู่ตามท้องถนนจนเกิดน้ำท่วมเข้าไปที่ห้องเครื่องยนต์ทำให้รถยนต์ รถจักรยานยนต์ หลายคันเครื่องยนต์ดับกลางทางต้องลงมาช่วยกันเข็นรถเข้ามาจอดไว้ที่ข้างทาง

นอกจากนี้น้ำที่ท่วมขังอยู่นั้นมีปริมาณมากจึงทำให้น้ำไหลทะลักเข้าไปท่วมขังในบ้านเรือนของชาวบ้านในเขตพื้นที่เมืองพัทยากว่า 100 หลังคาเรือน และ ข้าวของเครื่องใช้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยชาวบ้านที่บ้านถูกน้ำท่วมต้องช่วยกันนำถังมาวิดน้ำออกจากตัวบ้านพัก ทางด้านเจ้าหน้าที่ของเมืองพัทยาได้นำเอารถเครื่องสูบน้ำมาเร่งสูบระบายน้ำที่ท่วมขังตามท้องถนนออก และ ยังให้การช่วยเหลือประชาชนสูบระบายน้ำออกจากบ้านพักของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมอีกด้วย

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #5 เมื่อ: เมษายน 30, 2009, 12:41:42 AM »

สำนักข่าว INN


แผ่นดินไหว4.9ริคเตอร์เกาะริวกิวญี่ปุ่น
 
 

เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 4.9 ริคเตอร์ ใต้ทะเล ที่เกาะริวกิว ประเทศญี่ปุ่น

สำนักธรณีวิทยาของสหรัฐ รายงาน เมื่อเวลาประมาณ 00.21น. ตามเวลาประเทศไทย เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเล ที่เกาะริวกิว ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 4.9 ริคเตอร์

โดยจุดศูนย์กลางการสั่นครั้งนี้อยู่ใต้ทะเลลึกราว 29 กม. ห่างจาก อิชิกาคิ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ เกาะริวกิว ประเทศ ญี่ปุ่น ราว 105 กม. และห่างจาก เมือง ซู โอ ประเทศไต้หวัน ราว 165 กม.

เบื้องต้นยังไม่มีรายงานการเตือนสึนามิ และผลกระทบจากการสั่นครั้งนี้จากทางการของทั้ง 2 ประเทศ 

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 30, 2009, 01:14:05 AM »

ช่วยกันเอาขยะกลับไปด้วยเถอะค๊าบบ พี่น้อง..... 

ขอบคุณค๊าบบบ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.027 วินาที กับ 20 คำสั่ง