กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤศจิกายน 14, 2025, 09:19:48 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ชมเมืองตาก ..... จากกล้องนิคอน  (อ่าน 23436 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: มิถุนายน 22, 2007, 01:54:50 AM »


ในกระทู้ก่อนๆ คุณสายชลได้พาไปเที่ยวบางจุดในจังหวัดกำแพงเพ็ชรไปแล้ว ..... เที่ยวนี้ ผมขอพาขึ้นเหนือไปอีกสักนิดนึง ขับรถจากกำแพงเพ็ชรไปประมาณไม่ถึงชั่วโมง ..... จังหวัดตาก ครับ

จริงๆแล้ว ก็คุณสายชลอีกนั่นแหล่ะครับที่เป็นคนพาเที่ยว เพราะเธอมีความผูกพันและความหลังอยู่กับ 3 จังหวัดคือ นครสวรรค์ ที่เป็นที่กำเนิด -  กำแพงเพชร ที่พักพิงในวัยเด็ก และ ตาก ที่ใช้เวลาอยู่มาตั้งแต่เด็กจนสาว ก่อนจะเข้ามาเป็นคนกรุงเต้บ ...

 ..... เป็นการเที่ยวประเภท 1 วันก็เที่ยวได้แบบง่ายๆ  และภาพที่ได้มาก็มาจากกล้องนิคอนคู่ชีพ 2 ตัวคือ Coolpix 995 และ D70  ผมใช้ 995 ส่วนคุณสายชลชอบ D70  ถือกันไปคนละตัวเลยจะได้ไม่ต้องแย่งกันใช้   

หากพูดถึงจังหวัดตาก  คนจะรู้จักจุดท่องเที่ยวยอดฮิตติดชาร์ต แม่สอด ทีลอซู  อุ้มผาง ไปโน่นเลย  จะมีสักกี่คนที่เคยแวะเข้าไปในตัวเมือง  บ้านระแหง  อำเภอบ้านตาก  อำเภอสามเงา ..... ถ้าอยากทราบว่ามีอะไรบ้าง ตามมาเลยครับ
 


* Title.jpg (93.4 KB, 700x600 - ดู 609 ครั้ง.)

* tak map2.jpg (96.51 KB, 600x945 - ดู 684 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 22, 2007, 02:18:20 AM โดย สายน้ำ » บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2007, 01:57:59 AM »


ก่อนพาไปเที่ยวก็ขอพาไปทำความรู้จักกับจังหวัดตากในภาพรวมแบบสรุปๆก่อนครับ


" ธรรมชาติน่ายล ภูมิพลเขื่อนใหญ่ พระเจ้าตากเกรียงไกร เมืองไม้และป่างาม "

เมืองตาก ในอดีตเป็นเมืองที่มีชาวมอญอยู่มาก่อน ดังมีหลักฐานศิลปะมอญปรากฏอยู่ ตัวเมืองเดิมตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านตาก เมืองนี้สร้างขึ้นก่อนสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ต่อมาเมื่อได้สถาปนากรุงสุโขทัยเป็นราชธานีแล้ว เมืองตากมีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญด้านตะวันตกในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้โปรดให้ย้ายตัวเมืองตากจากฝั่งขวาของแม่น้ำปิงมายังฝั่งซ้ายบริเวณตำบลบ้านระแหงจนกระทั่งทุกวันนี้

เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับสอง ของภาคเหนือ รองจากเชียงใหม่ พื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นป่าเขาอันเป็นที่อยู่ ของชาวเขาเผ่าต่างๆ มีแม่น้ำปิงไหลผ่านตัวจังหวัด และมีแม่น้ำเมย เป็นเส้นกั้นเขตแดนไทย กับพม่า ที่อำเภอแม่สอด ซึ่งเป็นศูนย์กลาง การค้าขาย ชายแดนระหว่างไทยกับพม่า

ตาก อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 426 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 10,254,156 ไร่ สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็น ภูเขา และป่าไม้ เป็นจังหวัดที่มีอุทยานแห่งชาติหลายแห่งที่ยังคงความสมบูรณ์ของป่า และธรรมชาติ อาทิ อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช อุทยานแห่งชาติแม่เมย อุทยานแห่งชาติลานสาง และอุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ ตลอดจนมีน้ำตกที่ นักท่องเที่ยวรักการผจญภัย และนิยมการล่องแก่งต้องมาเยือนสักครั้ง คือ น้ำตกทีลอซู และน้ำตกทีลอเร นอกจากความสวยงามตามธรรมชาติแล้ว ยังเป็นจังหวัดที่มีผลผลิตทางการเกษตรที่ขึ้นชื่อทั้งดอกไม้ และผลไม้ โดยเฉพาะทับทิม ซึ่งเป็นพันธุ์ ที่มีผลใหญ่ และกำลังได้รับความนิยมมาก



* Title2.jpg (84.57 KB, 650x621 - ดู 656 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 22, 2007, 05:50:32 AM โดย สายน้ำ » บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2007, 01:59:44 AM »


ประวัติและความเป็นมาตั้งแต่โบราณกาล ......


จ. ตาก เป็นหนึ่งในหัวเมืองที่มีอายุ เกินกว่า 2,000 ปี และเคยเป็นชุมชนโบราณ ที่มีการเพาะปลูก และ ล่าสัตว์ มีการปั้น เครื่องปั้นดินเผา และ หล่อโลหะ ประเภท สำริด จากหลักฐานการค้นพบซากโบราณวัตถุหลายชิ้น ซึ่งเป็นเครื่องใช้ไม้สอย ในยุคโลหะตอนปลาย ก่อนประวัติศาสตร์ คือ ประมาณ 2,500 - 1,500 ปีมาแล้ว

เดิมที ชุมชน ตาก ในอดีต คงเป็นเมืองที่ชาวมอญ สร้างขึ้น และเป็นราชธานีของแคว้นแถบตอนเหนือ ที่มีกษัตริย์ปกครอง ต่อเนื่องกันมาหลายพระองค์ ในรัชสมัย พระเจ้าสักดำ ราวปี พ.ศ.560 เมืองตาก เป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ มีอาณาเขตแผ่ไปไกล จนจดทะเลอันดามัน และมีการติดต่อค้าขาย กับเมือง อินเดีย ด้วย ต่อมาในพุทธศตวรรษที่ 10 พระยากาฬวรรณดิส อพยพโยกย้ายผู้คน ไปสร้างราชธานีใหม่ ขึ้นที่ เมืองละโว้ ทางตอนใต้ของ เมืองตาก ทิ้งให้ ตาก กลายเป็นเมืองร้าง อยู่หลายร้อยปี

จนราวปี พ.ศ.1310 - 1311 พระนางจามเทวีวงศ์ พระราชธิดา ในกษัตริย์ เมืองละโว้ เสด็จตามลุ่มน้ำปิง ผ่าน เมืองตาก เพื่อไปปกครอง แคว้น หริภุญไชย หรือ ลำพูน ในปัจจุบัน ทรงพบร่องรอยกำแพงเก่า ตามริมฝั่งแม่น้ำ จึงโปรดฯ ให้สร้างเมืองแห่งนี้ขึ้นเป็นบ้านเมืองใหม่ เรียกกันว่า "บ้านตาก" ด้วยมีเรื่องเล่าว่า เป็นสถานที่ ที่พี่เลี้ยงของพระนาง ตากผ้า และสิ่งของที่เปียกชุ่ม ขณะเดินทางมาตามลำน้ำ

หลังจาก พ่อขุนรามคำแหง ชนช้างชนะ ขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด ในปี พ.ศ.1781 แล้ว พระองค์ได้ยกทัพผ่านลงมาทาง แหลมมลายู ปราบเมืองใหญ่น้อย ที่เคยเป็นอาณาจักร ทวารวดี และ ศรีวิชัย รวมเข้าเป็น อาณาจักร สุโขทัย เป็นผลให้มีการเปิดเส้นทางค้าขาย ทางบก ไปยังเมือง เมาะตะมะ ของ มอญ ซึ่งเป็นเมืองท่า ผ่านสินค้าต่อไปยัง อินเดีย เปอร์เซีย และ อาระเบีย โดยพ่อค้าไทย มักนำเครื่อง สังคโลก จาก สุโขทัย ผ่านแม่สอด ไปยัง เมาะตะมะ เพื่อส่งต่อไปยังประเทศต่างๆ โดยทางเรือ ขณะเดียวกัน ก็นำสินค้าจากเมือง เมาะตะมะ และประเทศ ทางตะวันตก กลับมาขายด้วย

สมัย อยุธยา บ้านตาก เป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญ สำหรับป้องกันกองทัพ พม่า ที่ยกทัพเข้ามาทางด่าน แม่ละเมา มีแม่ทัพ นายกอง และไพร่พล จาก กรุงศรีอยุธยา มาประจำการ และยังเป็นที่ชุมนุมไพร่พล ทหารกล้า สำหรับการเดินทัพครั้งสำคัญ เพื่อเข้าตีเมือง เชียงใหม่ อีกหลายครั้ง ในสมัย สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช ช่วงที่ กรุงศรีอยุธยา เป็นประเทศราช ขึ้นกับ พม่า สมัย พระเจ้าหงสาวดี ได้ย้ายเมือง จาก บ้านตาก ลงมาทางใต้ ประมาณ 25 กม. เรียกว่า "เมืองตากระแหง" ตั้งอยู่ ริมแม่น้ำปิง ฝั่งตะวันตก ด้วยเหตุที่การ คมนาคมติดต่อ ระหว่างเมืองนี้ กับเมือง มอญ ใกล้กว่าที่เก่า

ก่อนเสียกรุงครั้งที่ 2 เมือง ตากระแหง ถูก พม่า ตีแตก ผู้คนหนีไป บ้านเมืองร้าง จนถึงสมัย ต้นรัตนโกสินทร์ พระเจ้ากาวิละ ได้รวบรวมชาว เมืองตาก เดิม ที่ บ้านตาก และ เมืองตากระแหง มาตั้งเมืองใหม่ โดยย้ายเมือง มาอยู่ฝั่งตะวันออก ของ แม่น้ำปิง เพื่อให้ ลำน้ำ เป็นปราการธรรมชาติ ที่ช่วยกั้นทัพ พม่า เมื่อ พม่า เป็นเมืองขึ้นของ อังกฤษ บ้านเมืองสงบ ปลอดศึกสงคราม ตาก เริ่มมีการค้าขาย กับ พม่า และเมืองทาง ภาคเหนือ โดยอาศัยลำน้ำปิง เป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญ ชุมชนจึงขยายตัว ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด ตาก ก็กลายเป็นศูนย์กลางการค้า ทางเรือ ระหว่าง เชียงใหม่ นครสวรรค์ และ กรุงเทพฯ



* Title3.jpg (95.45 KB, 650x630 - ดู 632 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2007, 02:04:28 AM »


สิ่งแรกที่สองสายปฏิบัติเป็นประจำทุกครั้งที่แวะมาตากคือ แวะไปสักการะพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระผู้กอบกู้เอกราชให้ชาติไทยและรวบรวมแผ่นดินไทยเข้าเป็นหนึ่งเดียว ณ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช


* 01_03.jpg (94.96 KB, 700x600 - ดู 642 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #4 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2007, 02:07:20 AM »


ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ตั้งอยู่ที่ถนนจรดวิถีถ่อง ใกล้กับสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ศาลนี้แต่เดิมอยู่ที่วัดดอยเขาแก้วฝั่งตรงข้ามกับตัวเมือง ต่อมาในปี พ.ศ. 2490 ชาวเมืองเห็นว่าศาลนั้นไม่สมพระเกียรติ จึงช่วยกันสร้างศาลขึ้นใหม่พร้อมกับให้กรมศิลปากรหล่อพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริงเล็กน้อย ในพระอิริยาบถที่กำลังประทับอยู่บนราชอาสน์ มีพระแสงดาบพาดอยู่ที่พระเพลา ที่ฐานพระบรมรูปมีคำจารึกว่า พระเจ้าตากสินกรุงธนบุรี ทรงพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 2277 สวรรคต พ.ศ. 2325 รวม 48 พรรษา

ผู้คนจะมีแวะมาสักการะไม่ขาดสาย ทั้งคนตากเอง  รวมทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ


* 01_01.jpg (98.21 KB, 700x600 - ดู 616 ครั้ง.)

* 01_05.jpg (99.46 KB, 652x588 - ดู 658 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #5 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2007, 02:13:54 AM »


ด้วยความที่พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์นักรบที่เก่งกล้า ต้องออกทัพจับศึกตลอดทั้งรัชกาล  ..... ผู้คนที่มาสักการะ และอาจจะแถมด้วยการบนสักเล็กน้อยเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น จึงนำทั้งหุ่นทั้งตุ๊กตาที่เป็นทั้งหิน ไม้ และกระดาษในรูปของช้าง ม้า ซึ่งเป็นพาหนะในการทำศึก รวมทั้งศาสตราวุธหลายชนิด มาวางถวายแก้บนไว้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของศาล

แต่ที่ไม่เข้าใจคือ เจ้าม้าลายตรงกลางน่ะ มายังไง !!!!!


* 01_02.jpg (99.71 KB, 700x600 - ดู 665 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #6 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2007, 02:52:36 AM »


คนที่มาสักการะพระองค์ท่านคงจะมีหลายแบบ ..... พวกหนึ่งอาจจะเพราะรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย จึงมาสักการะเพื่อให้เป็นสิริมงคลแก่ตัว  อีกพวกหนึ่งอาจจะอาศัยเป็นที่พึ่งในหลายๆทาง รวมทั้งการบนบานศาลกล่าว ที่ขาดไม่ได้เวลากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์

อย่างไรก็ตาม  หากเพื่อนๆมีโอกาสแวะไปเยือนเมืองตาก  อย่าลืมไปสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ศาลฯ สักครั้งนะครับ


* 01_04.jpg (94.06 KB, 650x630 - ดู 670 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #7 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2007, 02:57:02 AM »


ที่พำนักพักพิงของสองสายเที่ยวนี้คือ โรงแรมเวียงตาก ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง


* 02_01.jpg (98.05 KB, 700x600 - ดู 650 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #8 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2007, 03:02:41 AM »


บนถนนเลียบแม่น้ำปิงฝั่ง อ.เมือง นี้  มีเสาไฟรูปหงส์ด้วย เหมือนที่ถนนอักษะแถวพุทธมณฑล

และเสาไฟประดับถนนบางจุด ประดับเป็นทรงดาวกระจายด้วย แต่ขอประทานโทษ ไม่ได้สังเกตเลยว่า ตอนกลางคืนจะสวยงามหรือไม่


* 02_02.jpg (97.98 KB, 700x600 - ดู 609 ครั้ง.)

* 02_03.jpg (88.82 KB, 650x630 - ดู 640 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 22, 2009, 12:00:47 PM โดย สายชล » บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #9 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2007, 03:12:50 AM »


จุดเด่นของบริเวณนี้คือ สะพานแขวนที่เชื่อมแม่น้ำปิงฝั่งตะวันออกไปยังฝั่งตะวันตก มีชื่อว่า สะพานแขวนสมโภช กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี  เป็นสะพานที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์มีอายุครบ 200 ปี สร้างเมื่อ พ.ศ. 2525 โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดตาก เพื่อเชื่อมสองฝั่งแม่น้ำปิงระหว่างเทศบาลเมืองตาก และตำบลป่ามะม่วง

ในอดีตจะเป็นสะพานไม้แขวน ปักเสาไม้รับน้ำหนักไว้เป็นช่วงๆ สามารถใช้รถจักรยานและรถจักรยานยนต์สัญจรไปมาได้  แต่ปัจจุบันห้ามใช้ในการสัญจรแล้ว ใช้สำหรับเดินชมทิวทัศน์แม่น้ำปิงและมีการประดับไฟสวยงามมากในยามค่ำคืน โครงสร้างของสะพานมีขนาดความกว้าง 250 เมตร ยาว 400 เมตร ฐานรากและจุดพื้นเป็นไม้โยงยึดด้วยลวดสลิงขนาดใหญ่


* 02_05.jpg (99.38 KB, 700x600 - ดู 624 ครั้ง.)

* 02_06.jpg (99.87 KB, 593x600 - ดู 613 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #10 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2007, 03:18:49 AM »


จำได้ว่า สะพานเก่านั้น จะมีผู้คนใช้สัญจรกันตลอดเวลา เนื่องจากสะพานข้ามแม่น้ำปิงไปอีกฝั่งหนึ่งจะมีเพียงสะพานกิตติขจร ซึ่งอยู่ค่อนข้างไกล  และสะพานเดิม เวลาข้ามจะออกแนวเสียวๆเล็กน้อย เพราะจะมีแรงแกว่งโยกพอสมควร แถมยังมีการเก็บเงินค่าผ่านทางด้วย  แต่ปัจจุบัน ลงรากฐานแน่นหนา ขึงด้วยสลิงเส้นใหญ่  แข็งแรง  เดินเล่นได้ไม่มีเสียว  แต่ห้ามใช้ยานพาหนะในรูปแบบใดๆผ่านแล้ว


* 02_07.jpg (91.81 KB, 650x650 - ดู 632 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #11 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2007, 03:21:26 AM »


ริมน้ำบางจุด  จะปลูกชวนชมไว้ให้ดอกสวยงาม ..... ในภาพมองผ่านไปจะเห็นสะพานข้ามแม่น้ำปิงแห่งใหม่อยู่ด้านหลัง


* 02_04.jpg (95.9 KB, 700x600 - ดู 630 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 22, 2007, 02:18:42 PM โดย สายน้ำ » บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #12 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2007, 03:32:10 AM »


หากจะเดินทางไปเขื่อนภูมิพล  เราสามารถเดินทางอย่างสะดวกสบายได้ด้วยทางหลวงสายพหลโยธิน แล้วไปแยกเข้าเขื่อนที่ อ.สามเงา  แต่เราจะไม่ไปทางนั้นครับ สบายเกินไป  เราเลือกที่จะขับรถกินลมชมวิว ใช้เส้นทางแบบบ้านๆ  แวะจอดไปตลอดทาง

ออกจากโรงแรม สองสายข้ามแม่น้ำปิงไปยังฝั่งตะวันตกด้วยสะพานใหม่เอี่ยม แล้วใช้ถนนเลียบแม่น้ำปิงฝั่งตะวันตกเพื่อไปยังอำเภอบ้านตาก  อำเภอสามเงา และเขื่อนภูมิพลเป็นที่หมายสุดท้าย

แม่น้ำปิงช่วงที่อยู่นอก อ.เมือง จะสวยแบบธรรมชาติจริงๆ


* 03_01.jpg (89.31 KB, 700x600 - ดู 620 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 03, 2008, 05:44:59 AM โดย สายชล » บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #13 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2007, 03:36:35 AM »


ถ้าเป็นช่วงฝนชุก  สองข้างทางน่าจะเขียวขจี  แต่เดือนกุมภาพันธ์ที่เราไปนั้นเป็นช่วงแล้งฝน  สองข้างถนนบางช่วงที่มีน้ำหล่อเลี้ยงมากหน่อย  ต้นไม้จะหนาแน่นเขียวครึ้ม  บางช่วงก็หรอมแหรม และถูกไฟป่าเผาจนเตียนโล่งไปก็มี


* 03_03.jpg (93.59 KB, 700x600 - ดู 596 ครั้ง.)

* 03_04.jpg (99.9 KB, 650x621 - ดู 634 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #14 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2007, 03:42:57 AM »


สองข้างทางบางช่วง แตกต่างกันราวสวรรค์กับนรก  ด้านหนึ่งแห้งแล้ง จนต้นไม้ต้นหญ้าแห้งตายกลายเป็นสีน้ำตาล  พื้นดินแตกระแหง  แต่ฝั่งตรงข้าม ต้นข้าวในนา และต้นไม้ต้นไร่เขียวขจี


* 03_05.jpg (89.69 KB, 650x621 - ดู 614 ครั้ง.)

* 03_06.jpg (98.22 KB, 700x600 - ดู 605 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [1] 2 3 4   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.026 วินาที กับ 19 คำสั่ง