nudie
|
|
« เมื่อ: มีนาคม 13, 2008, 09:58:27 AM » |
|
เตรียมทิ้งฝูงบินปลดระวาง 10 ลำจมทะเลภูเก็ตสร้างปะการัง แห่งแรกของประเทศไทย เตรียมนำฝูงบินปลดระวางหลังสงครมเกาหลี-เวียดนาม 10 ลำ ทำแหล่งปะการังเทียม สร้างแหล่งดำน้ำใหม่ หวังดึงนักดำน้ำจากทั่วโลกปีละไม่ต่ำกว่า 3,000 คน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 13 มีนาคม 2551 ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏบัติการจังหวัดภูเก็ต (POC) นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดสร้างปะการังเทียมเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 1/2551 โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เชิงทะเล ผู้แทนกองทัพอากาศ สมาคมดำน้ำทีดีเอ (ประเทศไทย) มูลนิธิเพื่อทะเล การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคใต้เขต 4 ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (จ.ภูเก็ต) เป็นต้น เพื่อรับทราบที่มาของโครงการ ตลอดจนพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียของการจัดปะการังเทียมจากซากเครื่องบิน
นายวรพจน์ กล่าวชี้แจงว่า ด้วยจังหวัดภูเก็ต มีนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเล เพื่อเป็น ศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลก และเพื่อเป็นการป้องกันแก้ไขปัญหา ลดผลกระทบความเสื่อมจากการใช้ประโยชน์แนวปะการัง และเพื่อฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และระบบนิเวศน์ทางทะเล โดยเฉพาะแนวปะการังในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จึงได้มีแนวทางในการดำเนินการจัดหาวัสดุต่างๆ ได้แก่ ซากเครื่องบิน ตู้รถไฟ เรือ และอื่นๆ นำมาสร้างเป็นปะการังเทียมสำหรับเป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งดำน้ำแห่งใหม่ของภูเก็ตในพื้นที่อ่าวต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต
ในการดำเนินการดังกล่าว จังหวัดภูเก็ตได้มอบหมายให้สมาคมดำน้ำ ทีดีเอ (ประเทศไทย) อบต.เชิงทะเล ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยการทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 4 (จ.ภูเก็ต) และศูนย์การท่องเที่ยวกีฬาและนันทนาการจังหวัดภูเก็ต ประสานกับมูลนิธิเพื่อทะเล เพื่อขอรับบริจาคเครื่องบินจากกองทัพอากาศ นำมาจัดวางเป็นปะการังเทียมในพื้นที่อ่าวบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งทางกองทัพอากาศได้อนุมัติให้เรียบร้อยแล้วจำนวน 10 ลำ จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินโครงการดังหล่าวให้ลุล่วงตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้
นายวิทเยนทร์ มุตตามระ กรรมการและเลขานุการมูลนิธิเพื่อทะเล กล่าวว่า จากการที่ทางมูลนิธิฯได้มาช่วยเหลือในการซ่อมแซมปะการังที่เสียหายจากสึนามิ ก็พบมาปะการังบริเวณแหล่งดำน้ำของทะเลฝั่งอันดามันมีสภาพที่เสื่อมโทรมค่อนข้างมาก จึงได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องๆ เพื่อจัดทำโครงการปะการังเทียม โดยเสนอขอเครื่องบินที่ปลดประจำการแล้วจากกองทัพอากาศมาสร้างปะการัง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย และได้รับการอนุมัติแล้วจำนวน 10 ลำ
ประกอบด้วย เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 2 ดาโกต้า Douglas C-47 Skytrain จำนวน 4 ลำ เป็นเครื่องบินขนาดใหญ่ส่วนปีก 95 ฟุต ความยาว 64 ฟุต 5.5 นิ้ว สูง 16 ฟุต 11 นิ้ว เป็นเครื่องที่เคยปฎิบัติการในสงครามเกาหลี และเวียดนาม ปลดประจำการ เมื่อปี พ.ศ. 2534 กับเฮลิคอปเตอร์แบบ 4ก(ฮ.4ก) Sikorsky S-58T จำนวน 6 ลำ เป็นเครื่องบินประเภทลำเลียงขนส่งสนับสนุนการรบ จุผู้โดยสารได้ 12 คน โดยได้รับข้อเสนอแนะว่าน่าชื่อว่า "ฝูงบินปะการัง" เป็นเครื่องบินที่มีประวัติอย่างนานและน่าสนใจ ขณะนี้เครื่องทั้งหมดจอดอยู่ที่กองบิน 2 ลพบุรี
เหตุที่เลือกใช้เครื่องบินในการจัดทำปะการังเทีมนั้น นายวิทเยนทร์ กล่าวว่า เนื่องจากจะมีความแตกต่างการการดำเนินการทั่วๆ และยังไม่การใช้ไม่มาก รวมทั้งยังมีความเหมาะสมในด้านอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะรูปแบบซึ่งไม่ต้านน้ำและคลื่น ไม่ทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนแปลง รวมทั้งวัสดุที่ใช้เป็นอลูมิเนียมไม่ขึ้นสนิม บุบสลายช้ามีระยะเวลาใช้งานค่อนข้างนาน ทั้งนี้เบื้องต้นกำหนดที่จะนำเครื่องบินดังกล่าวมาจมในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้
นายวิทเยนทร์ กล่าวถึง พื้นที่ดำเนินการว่า จะอยู่บริเวณอ่าวบางเทา จุดที่จมเครื่องบินนั้นอยู่ใกล้กับซากเรือขุดแร่ จะเป็นพื้นทรายโล่ง ห่างจากชายฝั่งประมาณ 1 กิโลเมตร มีระดับน้ำลึกประมาณ 15-20 เมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 50x50 ตารางเมตร ซึ่งหลังจากดำเนินการแล้วเสร็จจะทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำเพิ่มมากขึ้นในอ่าวบางเทาไม่ต่ำกว่า 3 แห่ง และมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการปีละไม่ต่ำกว่า 2,000 คน ทั้งนี้จะมีการทำประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารให้เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางด้วย
ด้านนายมาโนช พันธุ์ฉลาด นายกอบต.เชิงทะเล กล่าวว่า ในส่วนของ อบต.เชิงทะเล ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ดำเนินการ พร้อมที่จะให้การสนับสนุน ซึ่งจากการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ต่างเห็นด้วย และขณะนี้สภา อบต.ฯ ได้มีอนุมัติงบประมาณในการดำเนินการ จำนวน 4 ล้านบาท เพื่อให้ในการนำเครื่องบินจากจังหวัดลพบุรีมาจัดสร้างเป็นปะการังเทียมที่อ่าวบางเทา
ขณะที่นายไพทูล แพชัยภูมิ หัวหน้าศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (จ.ภูเก็ต) กล่าวว่า การท่องเที่ยว การประมง เป็นแหล่งที่มาของการสร้างงาน อาชีพ ของจังหวัดภูเก็ต และเป็นรายได้หลัก แต่ปัจจุบัน
แหล่งท่องเที่ยวหลัก คือ แหล่งทรัพยากรธรรมชาติของจังหวัดภูเก็ต ได้รับผลกระทบจากการใช้ประโยชน์ เกิดความเสื่อมโทรม จึงต้องร่วมกันหาวิธีการเพื่อรักษาความสมดุลธรรมชาติ และการใช้อย่างยั่งยืน ป้องกัน ฟื้นฟู และจัดการการใช้ประโยชน์ ให้ความไม่สมดุลของสัดส่วนของรายได้และการลงทุนเพื่อดูแลต้นทุน เพราะปัจจุบันมีการการลงทุนในด้านการดูแลไม่ถึง 5 %
ดังนั้นโครงการนี้จึงเป็นโครงการที่จะเพิ่มแหล่งดำน้ำให้กับภูเก็ต เพื่อลดความหนาแน่นของแหล่งดำน้ำตามธรรมชาติได้เป็นอย่างดี เพราะจากในอดีตซึ่งเคยสามารถดำน้ำดูปะการังได้ทั่วเกาะ แต่ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่จุดที่สามารถดำน้ำดูปะการังได้ เช่น เกาะราชา ซึ่งมีนักดำน้ำเข้าไปใช้บริการสูงถึงเดือนละ 600 คน เกาะดอกไม้ กองหินมูสัง ซึ่งมีเรือคิงครุยเซอร์จม เป็นต้น ซึ่งหากมีแหล่งปะการังเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้สามารถกระจายนักท่องเที่ยวออกไปจากแหล่งดำน้ำธรรมชาติได้ ก็จะทำให้สามารถฟื้นตัวได้ และคาดว่าเมื่อปะการังเทียมที่อ่าวบางเทาแล้วเสร็จจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก คาดว่ามีจำนวนปีละไม่ต่ำกว่า 3,000 คน นายไพทูลกล่าว ============================================== จาก คม ชัด ลึก ครับ ระยอง หรือชุมพร ก็คงเป็นประโยชน์มากกว่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
conundrum
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 13, 2008, 01:10:54 PM » |
|
หวังว่าคงจะไม่เอาไปจมขวางร่องน้ำ แบบเรือกูดกะเรือครามล่ะครับ และก็คงจะไม่จมลึกเกินไป จนต้องใช้ trimix หรอกนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Sri_Nuan.Ray
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 13, 2008, 02:22:07 PM » |
|
พี่ขา หาก "เพื่อทะเล" ต้องการกำลังพล รบกวนโทรหาด้วยนะจ๊ะ....เผื่อหนูหนีงานไปได้จ๊ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
~~~ หากเราหยุดนิ่ง ทุกอย่างที่ผ่านมา คือ อดีต.... ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อมันจะได้เป็นอดีตที่มีค่าแก่ ความทรงจำของเรา ~~~
|
|
|
สายน้ำ
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 14, 2008, 01:16:46 AM » |
|
สองสายเองก็เป็นอาสาสมัครเหมือนกันครับน้อง SNR ...... กำลังหลักที่จะร่วมทำงานนี้ น่าจะมาจากกลุ่มนักดำน้ำในภูเก็ตเองมากกว่า เพราะ TDA เป็นสปอนเซอร์รายหนึ่งครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
|
|
|
kungkings
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 14, 2008, 01:30:11 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทำวันนี้ และวันหน้าให้ดีที่สุด...
|
|
|
สายรุ้ง
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 14, 2008, 07:42:19 AM » |
|
รวดเร็วดีจังค่ะ nudie..... วันนี้ได้มีโอกาสเห็นหน้าตาเครื่องบินที่จะนำไปทำบ้านให้ปะการังแล้ว ก็ดูเก๋าดีน่ะ เท่ดีด้วย สงสัยปล่อยเมื่อไรพี่สองสายต้องจัดโปรแกรมอีกแล้วหล่ะค่ะ มารอลงชื่อเตรียมตัวแย้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
angel frog
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 14, 2008, 08:07:28 AM » |
|
ขำพี่อะ เห็นภาพลอยมาเลย ...กระโถน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 8186
Saaychol
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: มีนาคม 14, 2008, 10:12:53 AM » |
|
สยามรัฐ
ภูเก็ตเนรมิต"ฝูงบินปะการัง"รับนักดำน้ำอนาคต
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 13 มีนาคม 2551 ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดภูเก็ต นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดสร้างปะการังเทียมเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำจังหวัดภูเก็ต
ในการดำเนินการดังกล่าว จังหวัดภูเก็ตได้มอบหมายให้สมาคมดำน้ำ ทีดีเอ (ประเทศไทย) อบต.เชิงทะเล ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยกรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 4 (จ.ภูเก็ต) และศูนย์การท่องเที่ยวกีฬาและนันทนาการจังหวัดภูเก็ต ประสานกับมูลนิธิเพื่อทะเล เพื่อขอรับบริจาคเครื่องบินจากกองทัพอากาศ นำมาจัดวางเป็นปะการังเทียมในพื้ ้นที่อ่าวบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งทางกองทัพอากาศได้อนุมัติให้เรียบร้อยแล้วจำนวน 10 ลำ จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินโครงการดังกล่าวให้ลุล่วงตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ นายวิทเยนทร์ มุตตามระ กรรมการและเลขานุการมูลนิธิเพื่อทะเล กล่าวว่า จากการที่ทางมูลนิธิฯได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำโครงการปะการังเทียม โดยเสนอขอเครื่องบินที่ปลดประจำการแล้วจากกองทัพอากาศมาสร้างปะการัง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย และได้รับการอนุมัติแล้วจำนวน 10 ลำ ประกอบด้วย เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 2 ดาโกต้า Douglas C-47 Skytrain จำนวน 4 ลำ เป็นเครื่องบินขนาดใหญ่ส่วนปีก 95 ฟุต ความยาว 64 ฟุต 5.5 นิ้ว สูง 16 ฟุต 11 นิ้ว เป็นเครื่องที่เคยปฎิบัติการในสงครามเกาหลี และเวียดนาม ปลดประจำการ เมื่อปี พ.ศ. 2534 กับเฮลิคอปเตอร์แบบ 4ก(ฮ.4ก) Sikorsky S-58T จำนวน 6 ลำ เป็นเครื่องบินประเภทลำเลียงขนส่งสนับสนุนการรบรรจุผู้โดยสารได้ 12 คน โดยได้รับข้อเสนอแนะว่าน่าชื่อว่า "ฝูงบินปะการัง" เป็นเครื่องบินที่มีประวัติยาวนานและน่าสนใจ ขณะนี้เครื่องทั้งหมดจอดอยู่ทื่กองบิน 2 ลพบุรี
พื้นที่ดำเนินการ จะอยู่บริเวณอ่าวบางเทา จุดที่จมเครื่องบินนั้นอยู่ใกล้กับซากเรือขุดแร่ จะเป็นพื้นทรายโล่ง ห่างจากชายฝั่งประมาณ 1 กิโลเมตร มีระดับน้ำลึกประมาณ 15-20 เมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 50x50 ตารางเมตร ซึ่งหลังจากดำเนินการแล้วเสร็จจะทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำเพิ่มมากขึ้นในอ่าวบางเทาไม่ต่ำกว่า 3 แห่ง และมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการปีละไม่ต่ำกว่า 2,000 คน ทั้งนี้จะมีการทำประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารให้เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางด้วย
ดังนั้นโครงการนี้จึงเป็นโครงการที่จะเพิ่มแหล่งดำน้ำให้กับภูเก็ต เพื่อลดความหนาแน่นของแหล่งดำน้ำตามธรรมชาติได้เป็นอย่างดี เพราะจากในอดีตซึ่งเคยสามารถดำน้ำดูปะการังได้ทั่วเกาะ แต่ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่จุดที่สามารถดำน้ำดูปะการังได้ เช่น เกาะราชา ซึ่งมีนักดำน้ำเข้าไปใช้บริการสูงถึงเดือนละ 600 คน เกาะดอกไม้ กองหินมูสัง ซึ่งมีเรือคิงครุยเซอร์จม เป็นต้น ซึ่งหากมีแหล่งปะการังเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้สามารถกระจายนักท่องเที่ยวออกไปจากแหล่งดำน้ำธรรมชาติได้ ก็จะทำให้สามารถฟื้นตัวได้ และคาดว่าเมื่อปะการังเทียมที่อ่าวบางเทาแล้วเสร็จจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก คาดว่ามีจำนวนปีละไม่ต่ำกว่า 3,000 คน นายไพทูลกล่าว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Saaychol
|
|
|
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 8186
Saaychol
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: มีนาคม 14, 2008, 10:14:08 AM » |
|
X-cite ไทยโพสต์
ฝูงบินปะการังที่ภูเก็ต
ทัพฟ้าบริจาคฝูงบินปลดระวาง 10 ลำ มุดทะเลภูเก็ตสร้างปะการังแห่งแรกของประเทศไทยที่อ่าวบางเทา หวังเป็นแหล่งดำน้ำใหม่ดึงนักดำน้ำจากทั่วโลก
ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดภูเก็ต (POC) วันที่ 13 มีนาคม นายวรพจน์ รัฐสีมา รอง ผวจ.ภูเก็ต เป็นประธานประชุมคณะกรรมการจัดสร้างปะการังเทียมเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำจังหวัดภูเก็ต โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเพื่อรับทราบที่มาของโครงการ ตลอดจนพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียของการจัดปะการังเทียมจากซากเครื่องบิน
นายวรพจน์กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเลเพื่อเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลก และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเสื่อมจากการใช้ประโยชน์แนวปะการัง และเพื่อฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและระบบนิเวศทางทะเล โดยเฉพาะแนวปะการังในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จึงได้มีแนวทางในการดำเนินการจัดหาวัสดุต่างๆ ได้แก่ ซากเครื่องบิน ตู้รถไฟ เรือ และอื่นๆ นำมาสร้างเป็นปะการังเทียมสำหรับเป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งดำน้ำแห่งใหม่ของภูเก็ตในพื้นที่อ่าวต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต
ในการดำเนินการดังกล่าว จังหวัดภูเก็ตได้มอบหมายให้สมาคมดำน้ำ ทีดีเอ (ประเทศไทย) อบต.เชิงทะเล ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (จ.ภูเก็ต) และศูนย์การท่องเที่ยวกีฬาและนันทนาการจังหวัดภูเก็ต ประสานกับมูลนิธิเพื่อทะเล เพื่อขอรับบริจาคเครื่องบินจากกองทัพอากาศ นำมาจัดวางเป็นปะการังเทียมในพื้นที่อ่าวบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งทางกองทัพอากาศได้อนุมัติให้เรียบร้อยแล้วจำนวน 10 ลำ
นายวิทเยนทร์ มุตตามระ กรรมการและเลขานุการมูลนิธิเพื่อทะเล กล่าวว่า จากการที่ทางมูลนิธิฯ ได้มาช่วยเหลือในการซ่อมแซมปะการังที่เสียหายจากสึนามิ พบว่าปะการังบริเวณแหล่งดำน้ำของทะเลฝั่งอันดามันมีสภาพเสื่อมโทรมค่อนข้างมาก จึงได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำโครงการปะการังเทียม โดยเสนอขอเครื่องบินปลดประจำการแล้วจากกองทัพอากาศมาสร้างปะการังซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย และได้รับอนุมัติแล้ว 10 ลำ ประกอบด้วย เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 2 ดาโกต้า Douglas C-47 Skytrain จำนวน 4 ลำ เคยปฏิบัติการในสงครามเกาหลีและเวียดนาม ปลดประจำการเมื่อปี พ.ศ.2534 กับเฮลิคอปเตอร์แบบ 4ก (ฮ.4ก) Sikorsky S-58T จำนวน 6 ลำ เป็นเครื่องบินประเภทลำเลียงขนส่งสนับสนุนการรบ จุผู้โดยสารได้ 12 คน โดยได้รับข้อเสนอแนะว่าน่าชื่อว่า "ฝูงบินปะการัง" ขณะนี้เครื่องทั้งหมดจอดอยู่ที่กองบิน 2 ลพบุรี และกำหนดจะนำเครื่องบินดังกล่าวมาจมในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้
นายไพทูรณ์ แพรชัยภูมิ หัวหน้าศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (จ.ภูเก็ต) กล่าวว่า โครงการนี้จะเพิ่มแหล่งดำน้ำให้ภูเก็ตเพื่อลดความหนาแน่นของแหล่งดำน้ำตามธรรมชาติได้เป็นอย่างดี เพราะจากในอดีตซึ่งเคยสามารถดำน้ำดูปะการังได้ทั่วเกาะแต่ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่จุดที่สามารถดำน้ำดูปะการังได้ เช่น เกาะราชา ซึ่งมีนักดำน้ำเข้าไปใช้บริการสูงถึงเดือนละ 600 คน เกาะดอกไม้ กองหินมูสัง ซึ่งมีเรือคิงครุยเซอร์จม เป็นต้น หากมีแหล่งปะการังเพิ่มขึ้นก็จะทำให้สามารถกระจายนักท่องเที่ยวออกไปจากแหล่งดำน้ำธรรมชาติได้ จะทำให้สามารถฟื้นตัวได้ และคาดว่าเมื่อปะการังเทียมที่อ่าวบางเทาแล้วเสร็จจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก คาดว่ามีจำนวนปีละไม่ต่ำกว่า 3,000 คน.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Saaychol
|
|
|
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 8186
Saaychol
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: มีนาคม 14, 2008, 10:17:01 AM » |
|
มติชน
ซากเครื่องบินเพื่อทะเล นายศักดิ์อนันต์ ปลาทอง อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในฐานะคณะกรรมการโครงการสร้างแหล่งดำน้ำแห่งใหม่ ย้าย "ซากเครื่องบินเพื่อทะเล" ดาโกต้าและเฮลิคอปเตอร์ รุ่น S58T ไปจมที่หาดบางเทา จ.ภูเก็ต เพื่อจัดสร้างแหล่งดำน้ำใหม่หลังเหตุการณ์สึนามิ เปิดโอกาสให้แนวปะการังที่ได้รับผลกระทบมีโอกาสฟื้นตัวตามธรรมชาติ คาดว่าจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยววันละ 300 คน ขณะนี้มีไม่กี่แห่งในโลกที่มีจุดดำน้ำที่นำซากเครื่องบินมาใช้ เช่น แมริออท เรค ที่มลรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ที่จมเครื่องบิน DC-3 นอกจากนี้ยังมีที่มลรัฐฮาวาย และประเทศแคนาดา ซึ่งได้รับความสนใจจากนักดำน้ำทั่วโลกอย่างมาก
นายศักดิ์อนันต์กล่าวว่า จากการเจรจากับกองทัพอากาศ พบว่า มีเครื่องบินปลดประจำการสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 อยู่ที่กองบิน 2 จ.ลพบุรี รวมทั้งสิ้น 10 ลำ ซึ่งได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการแล้ว แผนการเคลื่อนย้ายและแหล่งที่นำซากเครื่องบินไปจมที่หาดบางเทาสภาพพื้นทะเลมีความเหมาะสม มีระดับน้ำลึกประมาณ 20 เมตร และอยู่ห่างจากฝั่งภูเก็ตเพียง 1 กิโลเมตร เท่านั้น ขณะนี้ทางจังหวัดได้อนุมัติงบฯจำนวน 4 ล้านบาท สำหรับโครงการนี้ สำหรับเครื่องบินดังกล่าวประกอบด้วย อากาศยานลำเลียงแบบดาโกต้า รุ่นซี 47 (Dakota C 47) จำนวน 4 ลำ อายุ 61 ปี ซึ่งไทยได้รับมอบมาตั้งแต่ ปี 2490 โดยเครื่องบินรุ่นนี้ใช้ในภารกิจลำเลียงและลาดตระเวนถ่ายภาพทางอากาศ สมัยสงครามเกาหลี และสงครามเวียดนาม นอกจากนี้ยังมีเฮลิคอปเตอร์ รุ่น S58T จำนวน 6 ลำ พ.ศ.2520 ซึ่งใช้ในภารกิจลำเลียงทางอากาศยุทธวิธี ค้นหาและช่วยชีวิต
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Saaychol
|
|
|
topping
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: มีนาคม 14, 2008, 01:42:57 PM » |
|
พี่ ๆ คะ ท้อปถามเป็นความรู้นะคะ ...
พวกเรือ โบกี้รถไฟ เครื่องบิน ฯลฯ เหล่านี้ เวลาทิ้งลงน้ำไปมันไม่เป็นมลพิษให้ทะเลเหรอคะ ทั้งคราบน้ำมันเอย ทั้งสนิมเอย นี่ยังไม่รวมพวกโลหะหนักที่จะปนเปื้อนไปในน้ำได้ ปกติแล้ว เค้าจะต้องทำความสะอาดกันก่อนใช่ไหมคะ พวกคราบน้ำมันในถัง รวมถึงถอดเบาะ ถอดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กระจก ฯลฯ ให้เหลือแต่โครงที่สะอาด ๆ ใช่ไหมคะ
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าถ้าเรามีฝูงบินใต้ทะเล เป็นแหล่งดำน้ำอีกแหล่งคงจะเท่ห์ไม่หยอกนะคะ จำได้ตอนที่ไปดำที่ Coron ใน Palawan (ฟิลิปปินส์) จะเป็นเรือรบลำใหญ่มโหฬารสมัยสงครามโลกที่โดนระเบิดจม แล้วเค้าไม่ได้ย้ายลากไปไหน มันเกยตื้นอยู่ในระดับที่ดำได้เลย จะบอกว่าอะเมซิ่งมาก ๆ ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
boat sick forever
ตอบกระทู้เยอะ ๆ จะได้ 2 ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 18
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: มีนาคม 15, 2008, 03:09:52 PM » |
|
[b]ได้ลงน้ำซะทีเนาะ ลุ้นกันอยู่เป็นนานสองนาน ยินดีด้วยนะครับ ฝากอีกนิดนึงครับ อลูมิเนียมกิโลละหลายตังค์อยู่นะครับ ต้องฝากผู้เกี่ยวข้องดูแลหน่อยกลัวจะเหมือนเรือจมหลายๆแหล่งแหว่งๆหายๆกันไป กว่าจะได้มาก็ยากลำบากน่าดูคงต้องช่วยกันเป้นหูเป็นตาหน่อย จะได้มีกองบินไว้ดูนานๆ ปรบมือดังๆให้ผู้ก่อการด้วยครับor]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|