|
สายน้ำ
|
 |
« ตอบ #30 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2007, 08:16:38 AM » |
|
น้อง Wobbegong ได้แปลบทความของคุณวินิจเป็นภาษาอังกฤษ และส่งไปให้ Mr. Hans Ullrich ตำแหน่ง Regional Manager ของ PADI Asia Pacific แล้ว
และตอนนี้น้อง Wobbegong ได้รับเมล์ตอบมาจาก Mr. Hans แล้ว ..... เป็นเมล์ที่มาจากตัวฝรั่งเจ้าของเรื่องเอง ซึ่ง น้อง Wobbegong ได้โพสต์ไว้ใน Pantip.com ครับ
------------------------------------------------
From: Gunter Hormann:gunter@waterworldasia.com Sent: Thursday, 3 May 2007 1:52 PM To: 'Holger - Dive Supply' Cc: Hans Ullrich, PADI Asia Pacific Regional Manager Subject: Stellungname zum Artikel in the Thai "Manager Magazine" Hi, Unfortunately am I only able to reply to this it English. The Story, who has been translated to me, is although not exact what really has happened. The Gentleman, who wrote it has forgotten to mention some of the Facts which, of which I am sure, let you see the Story from a different View. This is the Story from my Perspective.
I've been diving on that Day in a small Group of Divers on Richelieu Rock in good Conditions. Nice Visibility and no Current when I noticed a Solo Diver without any Dive-Buddies struggling wide legged with his Fins in the few remaining Soft Corals. First thinking that he might be has gotten entangled somehow there was nobody around to help him proved wrong. When I came nearer I saw him trying to get a Grip to take some Photographs but not recognizing that Anemones and Soft corals where now floating free around his Ankles where he had them ripped out.
My fellow Divers shrugged their Shoulders, but I had still the Pictures of the once beautiful Corals here in mind. First when i approached him carefully, tipping on his Shoulders and showing him the Divers Hand sign for getting of the Ground, had no effect on him. He made an unrecognized Hand Signal back to me which most likely meant to get lost. He turned to the next Bed of Corals to continue with his Havoc.
Following him to his latest Battlefield and tried again to convince him to get out of the Corals. He shook me off. For the Sake of the last remaining Corals of Richelieu Rock I made than the (maybe) wrong Decision. Considering him a experienced Diver, he was solo diving, wearing expensive Equipment with white Fins, (that’s why I had him first categorized as an Japanese Diver) I made a last Effort. I took his Mask off. (This is not dangerous but a standard procedure in every basic open water diving course and I have been Diving Instructor for almost 22 Years and staying close to him I could have replaced the Mask within seconds) He replaced the Mask himself calmly and finally he came higher. I showed him with Signs that I would like him to ascent with me which he did.
On the Surface he yelled at me: why I wanted to kill him, he is a well-known Person with lots of Influence and knows many People in Bangkok, and this would be Thailand and he can do whatever he wants. I tried calmly to ask him if he were aware what he had done to the Reef but he would not listen.
He came later then to my Boat with a Group of 10 or more of his Colleagues and a female Translator where he continued to argue with me and I listened to his accusations but he wanted not listening to what I had to say to it. I told him that I liked to apologize for losing my temper and gave him my Card so that he could get in Contact with me to discuss this Matter peacefully. He refused to give me his identity and preferred to do this dishonest by turning around the Facts.
I apologize from my Heart to everybody in Thailand's Dive Community who feels offended by me. This all happened not for the Reason to have myself atop of someone but to save Thailand's last Corals. I invite everyone to mail me personally and I am prepared to receive your condemnations.
Gunter Hormann
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
|
|
|
|
สายน้ำ
|
 |
« ตอบ #31 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2007, 08:17:39 AM » |
|
แปลเป็นไทย โดยน้อง Wobbegong ครับ
From: Gunter Hormann:gunter@waterworldasia.com Sent: Thursday, 3 May 2007 1:52 PM To: 'Holger - Dive Supply' Cc: Hans Ullrich, PADI Asia Pacific Regional Manager
สวัสดี น่าเสียดายที่ผมตอบได้แต่เพียงเป็นภาษาอังกฤษ เรื่องนี้, ตามที่มีคนแปลมาให้ผม, ไม่ตรงกับเรื่องที่เกิดขึ้นเสียทีเดียวนัก ผู้ที่เขียนเรื่องนี้ได้ลืมที่จะบอกข้อเท็จจริงบางอย่างที่ผมมั่นใจว่าเกิดขึ้น ขอให้รับฟังเรื่องจากอีกด้านหนึ่งบ้าง ต่อไปนี้คือเรื่องที่เกิดขึ้นจากมุมมองของผม
ในวันนั้นผมดำน้ำอยู่กับนักดำน้ำกลุ่มเล็กๆ ที่หินริเชลิว ในสภาพอากาศที่ดี น้ำใส และไม่มีกระแส ผมสังเกตเห็นนักดำน้ำที่ดำอยู่เพียงคนเดียว ไม่มีคู่บัดดี้ กำลังพยายามเหยียดขายันพื้น โดยที่ฟินของเขาอยู่ในกอปะการังอ่อนที่เหลืออยู่ไม่มากนัก ในตอนแรก ผมคิดว่าเขาอาจจะเขาไปติดอยู่ในนั้นด้วยเหตุอะไรสักอย่าง และไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ ที่จะช่วยเขาได้ แต่ผมเข้าใจผิด เมื่อผมเข้าไปใกล้เขามากขึ้น ผมเห็นว่าเขากำลังพยายามหาที่ยึดเพื่อถ่ายภาพ แต่ไม่ได้ตระหนักว่าตอนนี้มีกอดอกไม้ทะเลและปะการังอ่อนที่ถูกเขาเตะหลุดออกมาลอยอยู่บริเวณข้อเท้าของเขา
นักดำน้ำคนอื่นๆ ในกลุ่มของผมก็แค่ยักไหล่ แต่ผมยังจำได้ถึงภาพของปะการังที่นี่เมื่อครั้งที่ยังสวยงามอยู่ ครั้งแรก ผมเข้าไปหาเขาอย่างระมัดระวัง สะกิดเขาที่ไหล่ และส่งสัญญาณมือของนักดำน้ำบอกเขาว่าให้ขึ้นจากพื้น แต่ไม่เป็นผล เขาส่งสัญญาณมือที่ผมไม่เข้าใจกลับมา โดยที่เขาอาจจะบอกให้ผมไปเสียห่างๆ จากนั้นเขาหันกลับไปหาปะการังกอถัดไป และสร้างความเสียหายต่อไป
ผมตามเขาไปยังสมรภูมิถัดไปของเขา และพยายามบอกให้เขาออกมาให้ห่างประการัง เขาไล่ผมไปอีกครั้ง เพื่อเห็นแก่ปะการังที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดที่หินริเชลิว ผมตัดสินบางอย่างที่ (อาจจะ) เป็นการตัดสินใจที่ผิด ผมเห้นว่าเขาเป็นนักดำน้ำที่มีประสบการณ์ เขาดำน้ำเพียงคนเดียว ใส่อุปกรณ์ราคาแพง ใส่ฟินสีขาว (ทำให้ในตอนแรกผมคิดว่าเขาเป็นนักดำน้ำชาวญี่ปุ่น) ผมพยายามลงมือครั้งสุดท้าย ผมถอดหน้ากากของเขาออก (นี่ไม่ใช่สิ่งที่อันตราย มันเป็นขั้นตอนมาตรฐานขั้นตอนหนึ่งที่จะมีการสอนในการดำน้ำในทะเลขั้นต้นทุกหลักสูตร และผมเองเป็นครูสอนดำน้ำมานานกว่า 22 ปี ผมยังคงอยู่ใกล้กับเขา ผมสามารถเอาหน้ากากใส่คืนให้เขาได้ในทันที) เขาใส่หน้ากากกลับอย่างใจเย็น และในที่สุด เขาลอยตัวสูงขึ้น ผมให้สัญญาณบอกเขาว่าผมต้องการให้เขาขึ้นมาพร้อมผม ซึ่งเขาก็ทำตาม
เมื่อถึงผิวน้ำ เขาตะโกนใส่ผมว่า ทำไมผมถึงจะฆ่าเขา เขาเป็นคนที่เป็นที่รู้จักกันดี มีอิทธิพล และรู้จักคนในกรุงเทพมากมาย ที่นี่ประเทศไทยและเขาจะทำอะไรก็ได้อย่างที่เขาต้องการ ผมพยายามถามเขาอย่างใจเย็นว่าเขารู้หรือไม่ว่าเขาทำอะไรลงไปกับกอปะการัง แต่เขาไม่ยอมฟัง
หลังจากนั้น เขามาที่เรือของผมพร้อมกับเพื่อนอีกไม่น้อยกว่า 10 คน และผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นคนแปล เขายังคงเถียงกับผมต่อไป ผมก็ฟังข้อกล่าวหาของเขา แต่เขาไม่ต้องการจะฟังสิ่งที่ผมพูด ผมบอกเขาว่าผมต้องการขอโทษที่ผมเสียการควบคุมอารมณ์ของผม แล้วมอบนามบัตรของผมให้กับเขา เพื่อให้เขาสามารถติดต่อกับผมเพื่อคุยกันเรื่องนี้อย่างสงบในภายหลัง เขาปฏิเสธที่จะแสดงตัว แต่กลับกระทำการไม่ซื่อสัตย์โดยการบิดเบือนข้อเท็จจริง
ผมต้องขอโทษอย่างสุดหัวใจต่อทุกๆ คนในสังคมดำน้ำในประเทศไทย ที่รู้สึกว่าถูกผมดูหมิ่น สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดขึ้นด้วยเหตุที่ว่าผมต้องการจะแสดงตัวว่าเหนือกว่าคนอื่น แต่เป็นไปเพื่อรักษาปะการังที่เหลืออยู่น้อยของประเทศไทย ผมยินดีให้ทุกๆ คนส่งอีเมล์มาหาผมโดยตรง และผมพร้อมที่จะรับการตำหนิจากทุกท่าน
กุนเธอร์ ฮอร์แมนน์
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
|
|
|
dugong_gang
ตอบกระทู้เยอะ ๆ จะได้ 2 ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 3
|
 |
« ตอบ #32 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2007, 09:23:37 AM » |
|
ขออนุญาตพี่สองสาย เล่าข้อเท็จจริงบางข้อให้ได้พิจารณากันนะครับ
พอดี ผมอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วยนะครับ แต่ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ใต้น้ำ ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ขอเล่าข้อเท็จจริงบางอย่างให้ฟัง
ข้อแรก พี่วินิจ เวลาดำน้ำถ่ายรูป ขอบอกว่าพี่เค้าควบคุมการลอยตัวได้ดีมาก สังเกตุได้จากหลายๆ Dive ที่ได้เจอกันในน้ำ
ข้อสอง พี่วินิจ อาจจะผิดที่ทำเป็นตัวอย่าง ที่ไม่ดี สำหรับคนที่แยกไม่ออกว่าอะไรคือ ปะการัง อะไรคือหิน แต่ด้วยประสบการณ์ดำน้ำที่ยาวนานของพี่วินิจ ผมเชื่อว่าพี่เค้ารู้ดีครับว่าเค้ากำลังนั่งอยู่บนอะไร
ข้อสาม ไม่เห็นคุณ Gunter Hormann กล่าวถึงตอนชักมีดออกมา ขู่ฆ่าพี่วินิจ ในจดหมายเลย กลัวจดหมายจะเป็นข้อผูกมัดตัวเองว่าพยายามฆ่าหรือเปล่า
ข้อสี่ ที่ไปบนเรือ South Siam ไปไม่ถึง 10 คนแน่นอน แต่ถ้ารวมน้ำหนักตัวคนที่ไปอาจจะใช่ ฮ่าๆๆ อย่าลืมว่า เรือดิ้งกี้ลำหนึ่ง รับได้กี่คน ที่แน่ๆ มี ผม พี่ fatfish พี่นัท ครูอ้อย และพี่ วินิจ แถมคนขับเรืออีกหนึ่งคน อยู่บนเรือดิ้งกี้ แล้วคุณคิดว่าจะเหลือพอให้อีกกี่คนขึ้นไปบนเรือดิ้งกี้ได้
ข้อห้า ตอนที่อยู่บนเรือ South Siam ไม่เห็นคุณ Gunter Hormann จะพูดแบบที่เขียนมาเลยนิครับ หรือเพียงแค่ว่าขอให้เรื่องมันจบไปก่อน
ข้อหก คุณจะมาสันนิษฐานจากอุปกรณ์ได้ไงว่าเค้า มีทักษะดำน้ำดี คนรวยทุกคนก็ต้องดำน้ำทักษะเป็นเลิศละซิครับเนี่ย
ข้อเจ็ด คุณบอกว่า คุณอยู่ใกล้ๆพี่วินิจตอนคุณดึงหน้ากากพี่เค้า และพร้อมที่จะคืนใส่ให้พี่วินิจ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริง นั้นหมายความว่า หน้ากากอยู่ในมือคุณ แต่ไม่ทราบว่าพี่เค้าไปดึงมาจากมือคุณ Gunter Hormann ได้ไง เท่าที่ผมทราบ พวกนี้เวลาดึงหน้ากากแล้วมักจะว่ายหนี หรือคุณว่าไม่จริง
ข้อแปด พี่วินิจ ไม่ใช่คนคุยโม้โอ้อวดตัวเอง พี่วินิจเป็นคนสุภาพ ถ่อมตน กว่าจะได้ยินเสียงพี่วินิจนั้น ยากมาก (ยากพอๆกับเจอฉลามวาฬ ฮ่าๆๆ) เพราะฉนั้นการที่พี่เค้าขึ้นจากน้ำมาโอ้อวดตัวเองว่าเป็นใคร คงจะไม่จริง เพราะเป็นผม ผมคงด่าพ่อ ด่าแม่ ก่อนละ และอีกข้อถ้าพี่วินิจคุยโม้โอ้อวดได้ขนาดนั้น และเค้าเข้าใจได้ คงไม่ต้องมี ล่าม ไปก็ได้มั้งครับ
ข้อเก้า ใช่ครับในเรื่องการเรียนดำน้ำขั้นพื้นฐาน จะต้องเรียนถอดหน้ากาก ไล่น้ำออก แต่อย่าลืมซิครับว่า เค้ากำลังสอน นักเรียนย่อมมีการเตรียมตัวพร้อมรับสถานการณ์ และอีกอย่างตอนเรียนอ่ะ เค้าให้นักเรียนถอดเองใส่เอง หน้ากากมันอยู่ในมือนักเรียนเอง ไม่ได้หายไปไหน ไม่ใช่อย่างที่คุณดึงมันออกไป
อืมม แรกๆว่าจะไม่ยั๊วะแล้วนะเนี่ย แค่นี้ก่อนแล้วกัน......
|
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 03, 2007, 09:28:53 AM โดย dugong_gang »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wobbegong
ตอบกระทู้เยอะ ๆ จะได้ 2 ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 3
|
 |
« ตอบ #33 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2007, 10:03:37 AM » |
|
เพิ่งได้รับการติดต่อจากผู้ใหญ่ในวงการดำน้ำ ว่า ขณะนี้ ขอให้นิ่งๆ กันไว้ก่อน ทางนั้นขอเวลาสัก 2-3 วัน เพื่อดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม และนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการที่ถูกต้องและเป็นธรรมสำหรับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย
ก็ขอให้ใจเย็นๆ กันไว้ก่อนครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Plateen
|
 |
« ตอบ #34 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2007, 10:10:10 AM » |
|
ว่าจะไม่อยากตอบกระทู้นี้แล้ว เพราะมันมีอารมณ์ คิดจะถามถึงเรื่องที่มันเอ๊ยเค้าชักมีดออกมาขู่เหมือนกัน ถ้าไม่ได้ทำจริงๆทำไมไม่เห็นชี้แจงเรื่องนี้ เดาจากเท่าที่เคยรู้มา พวกที่ชอบแสดงอาการข่มขู่คุกคามแบบนี้ มักเคยเป็นทหารมาก่อน พวกรบพิเศษ(SEAL)จะชำนาญการใช้อาวุธมีด การดึงหน้ากากของผู้อื่นออกผมนึกให้ตายก็นึกไม่ออกว่าหลักสูตรไหนดำน้ำที่ไหนมันสอนให้ดึงหน้ากากคนอื่นออกใต้น้ำที่ความลึกแบบนั้น นอกจากหลักสูตรต่อสู้ของหน่วยพิเศษดังกล่าว การอ้างว่าตัวเองมีประสบการณ์เป็นพันไดฟ์ ควรมีทักษะการสื่อสารที่ดีกว่านี้ที่จะสื่อให้ทราบว่าท่านกำลังเหยียบอยู่บนกองปะการังจริงๆ ไม่ใช่ใช้อารมณ์แบบนี้แล้วอ้างว่า ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ มันฟังไม่ขึ้นครับ 
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
For God so loved the world, that he gave his only begotten Son, that whosever believeth in him should not perish, but have everlasting life[John3:16]
|
|
|
|
|
|
|
|
Sea Man
|
 |
« ตอบ #37 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2007, 04:38:34 PM » |
|
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
.....รู้จักคิด....ฟังความคิดผู้อื่น....พร้อมเปลี่ยนแปลง....ไปสู่สิ่งใหม่และดีกว่า.....
|
|
|
|
Sea Man
|
 |
« ตอบ #38 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2007, 04:52:57 PM » |
|
 ...........เออแล้วตอนชักมีด...........ไม่เห็นมันเล่าเลย...งง....งง.......ลุยถั่วมันเลย.........
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
.....รู้จักคิด....ฟังความคิดผู้อื่น....พร้อมเปลี่ยนแปลง....ไปสู่สิ่งใหม่และดีกว่า.....
|
|
|
|
|
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
   
ออฟไลน์
กระทู้: 8186
Saaychol
|
 |
« ตอบ #40 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2007, 08:17:52 PM » |
|
คุณสายน้ำเกริ่นเรื่องประเด็นของเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ความเห็นแรก ความคิดเห็นก็ผ่านไปหลายข้อ.....สายชลเลยขอกลับมาพูดย้ำเรื่องการแสดงความคิดเห็นในประเด็นต่างๆในกระทู้นี้กันอีกสักรอบนะคะ
สายชลขอให้ท่านทั้งหลายลองใช้สติและสมาธิในการอ่านบทความเรื่องนี้ของน้องวินิจไปอย่างช้าๆแบบคำต่อคำดูอีกสักครั้งนะคะ
ถ้าท่านไม่มีอคติใดๆมาแผ้วพาน...เมื่ออ่านจบแล้ว...ท่านจะเห็นว่า ในบทความนี้ น้องวินิจต้องการสื่อสารถึงท่านผู้อ่านอยู่ 2 ประเด็น คือ...
ประเด็นแรก....น้องวินิจเล่าให้เราฟังว่าถูกฝรั่งคนหนึ่งรบกวน ข่มขู่ คุกคาม และกระทำการอันอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ในขณะดำน้ำอยู่ใต้น้ำลึก 60-90 ฟุต
ประเด็นที่สอง....น้องวินิจแสดงความห่วงใยว่า เมืองไทยของเรามีแหล่งดำน้ำอยู่ไม่กี่แห่ง แต่ก็ยังปล่อยให้ฝรั่งต่างชาติเข้ามาทำมาหากิน ทั้งโดยถูกกฎหมาย โดยแอบใช้นอมินีและพวกลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย แย่งงานคนไทย แอบใช้ทรัพยากรของคนไทย หนักๆ เข้าก็เหิมเกริมสร้างอิทธิพลทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของทรัพยากรแล้วดูถูกย่ำยีคนไทย จึงขอฝากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลเรื่องนี้ก่อนที่ฝรั่งจะยึดเมืองภูเก็ตและท้องทะเลอันดามัน
เมื่อมีประเด็นสองประเด็นกล่าวถึงอยู่ในเรื่องเดียวกัน....ก็คงจะไม่ผิดกติกากระมังคะที่สมาชิก SOS จะร่วมกันแสดงความคิดเห็นได้ในทั้งสองประเด็นที่มีอยู่
หรือใครใคร่แสดงความคิดเห็นถึงประเด็นใดประเด็นหนึ่งเพียงประเด็นเดียว ก็ไม่ว่ากันค่ะ เป็นสิทธิที่แต่ละท่านจะทำได้อยู่แล้ว....
ไหนๆก็โตเป็นผู้ใหญ่เหมือนๆกันแล้วนี่นะคะ....เรามาร่วมกันแสดงความคิดเห็นอย่างมีสติ เป็นไปในทางที่สร้างสรรค์ และเป็นการติเพื่อก่อกันต่อดีกว่าค่ะ...
|
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 03, 2007, 08:19:42 PM โดย สายชล »
|
บันทึกการเข้า
|
Saaychol
|
|
|
|
แม่หอย
|
 |
« ตอบ #41 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2007, 08:41:54 PM » |
|
นอนไม่หลับเหมือนกันค่ะ .. พี่สายชลนอนดึกจัง.. อยู่ข้างคุณวินิจค่ะ .. แต่ไม่อยากให้เรื่องนี้ผ่านไปเงียบๆ แบบยอมความกันไปเฉยๆ ผู้เกี่ยวข้องหรือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบไม่ควรเพิกเฉย เจ้าอันธพาลต่างชาตินั่น ยังไงก็ควรต้องได้รับการลงโทษเสียบ้าง
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
Wobbegong
ตอบกระทู้เยอะ ๆ จะได้ 2 ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 3
|
 |
« ตอบ #43 เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2007, 06:57:16 AM » |
|
เรียนพี่สายชลครับ... เรื่องนี้คิดว่าคงไม่จบแบบ "ผู้ใหญ่ขอร้อง" อย่างที่พี่ว่าหรอกครับ...
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับทางคุณวินิจด้วย เพราะเป็นผู้เสียหายตัวจริง
ขอพูดเพียงเท่านี้ก่อน (เพราะตอนนี้ก็รู้แค่นี้)
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|