พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

สายน้ำ

Moderator
Hero Member

ออฟไลน์

เพศ: ชาย

กระทู้: 3501

เรารักในหลวง

พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« เมื่อ: มิถุนายน 08, 2006, 02:33:14 PM »

พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

กรุงเทพฯ - สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (Wildlife Conservation Society) ในพม่าได้ดำเนินการสำรวจประชากรโลมาในบริเวณหมู่บ้านแห่งต่าง ๆ ใกล้กับชายหาดหม่องมะกัน (Maung-ma-gan) ในเขตตะนาวศรีพบว่ามีโลมาจำนวนมากที่ถูกจับนำออกขายตามตลาดท้องถิ่น เพื่อนำไปปรุงเป็นอาหาร โดยในจำนวนนั้นมีโลมาอิรวดีที่ใกล้สูญพันธุ์รวมอยู่ด้วย

นายทิ้นทุน (U Tint Tun) นักชีววิทยาทางทะเล หัวหน้าทีมที่ใช้เวลาสำรวจนานประมาณ 1 เดือน และได้เสร็จสิ้นไปเมื่อปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา กล่าวว่า จากการศึกษาพบว่ามีโลมาประมาณ 30 ตัวต่อเดือน หรือสูงสุดถึง 7 ตัวต่อวันถูกนำออกจำหน่ายที่ตลาดในหมู่บ้านม่องมะกัน ใกล้กับเมืองทวาย (Dawei) ในขนาดที่แตกต่างกัน บางตัวมีขนาดลำตัวยาวกว่า 5 ฟุต ขายทั้งแบบเนื้อสด และตากแห้ง

8_6_Dolphin1.jpg (19.8 KB, 510x339 - ดู 1100 ครั้ง.)
	บันทึกการเข้า

"ทุกวันนี้ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้ง ทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล ซึ่งสามารถนำมา ใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์และเสถียรภาพอัน ถาวรของบ้าน เมืองได้เป็นอย่างดี ข้อสำคัญจะต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด โดยมุ่งถึงประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ" ..... พระราชดำรัส

สายน้ำ

Moderator
Hero Member

ออฟไลน์

เพศ: ชาย

กระทู้: 3501

เรารักในหลวง

Re: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2006, 02:34:42 PM »

"เราพบว่าปลาโลมาถูกจับขึ้นมาด้วยวิธีที่แตกต่างกันหลายทาง ทั้งยิงด้วยฉมวกและดักจับด้วยตาข่าย" นายทิ้นทุน กล่าว พร้อมอธิบายว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมพันธุ์นี้สามารถจับได้ง่ายในหลายพื้นที่ไม่ไกลจากชายฝั่ง ส่วนใหญ่จะเป็นโลมาปากขวด (Indo-pacific bottlenose) หรือโลมาหลังโหนก (Indo-pacific humpback) ซ้ำร้ายจากการสำรวจยังพบว่ามีการจับโลมาอิรวดีพันธุ์หายากออกขายด้วย

นายทิ้นทุน แสดงความเป็นห่วงว่าเรื่องของการล่าโลมาเพื่อจำหน่ายและเป็นอาหารรับประทานตามร้านอาหารต่างๆ จะกลายเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดปัญหามากยิ่งขึ้น "ผมเป็นห่วงอย่างยิ่งว่าเนื้อโลมาอาจกลายไปเป็นหนึ่งในรายการอาหารจานเด็ดตามโรงแรมหรู" ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์เมียนมาร์ไทมส์

การสำรวจในครั้งนี้มีขึ้นหลังการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับการล่าโลมาของชาวประมงในเมืองมะริด (Myeik) เมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ตลาดในเมืองมะริดยังไม่มีการขายเนื้อโลมาเหมือนกับตลาดในเมืองหม่องมะกัน

"การขายโลมาเพื่อเป็นอาหารจะทำให้พวกมันดำรงชีวิตอยู่ได้ยากมากขึ้น แต่ก็นับว่ายังโชคดีที่การปฏิบัติดังกล่าวไม่ได้ขยายลงไปตามแนวชายฝั่งเขตตะนาวศรี" นานทิ้นทุน กล่าว

8_6_Dolphin2.jpg (50.81 KB, 350x463 - ดู 952 ครั้ง.)
	บันทึกการเข้า

สายน้ำ

Moderator
Hero Member

ออฟไลน์

เพศ: ชาย

กระทู้: 3501

เรารักในหลวง

Re: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2006, 02:35:44 PM »

� � � ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตามชายฝั่งในเขตตะนาวศรีพบว่าโลมาค่อยๆ ลดจำนวนลงอย่างมาก ทั้งนี้เป็นผลมาจากความตั้งใจของชาวประมงที่ไล่ล่าเพื่อนำออกขาย แต่ก็มีบ่อยครั้งที่โลมามักบังเอิญติดร่างแหดักจับปลามาด้วย ทำให้ในปัจจุบันโลมาหายากมากขึ้นเรื่อยๆ
� � � �
� � � �สำหรับโลมาอิรวดีเป็นโลมาสายพันธุ์น้ำจืด เป็นโลมาพันธุ์ท้องถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เคยมีชุกชุมในแม่น้ำอิรวดีของพม่า แม่น้ำโขงตั้งแต่ภาคใต้ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งเรียกว่า “ปลาข่า” และยังพบมากในกัมพูชา ลงไปจนถึงภาคใต้เวียดนาม
� � � �
� � � �โลมาอิรวดีเป็นสัตว์ที่เชื่องและเป็นมิตรกับมนุษย์ทำให้ถูกล่าได้ง่ายจึงกลายเป็นสัตว์อนุรักษ์ในประเทศแถบนี้ แต่การสำรวจในลาวกับกัมพูชาเมื่อปี 2547 พบว่า ในลำน้ำโขงของ 2 ประเทศนี้ มีประชากรโลมาอิรวดีเหลืออยู่เพียงไม่กี่ร้อยตัว.

8_6_Dolphin3.jpg (69.24 KB, 584x400 - ดู 1186 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 08, 2006, 03:05:33 PM โดย สายชล »	บันทึกการเข้า

สายชล

Moderator
Hero Member

ออฟไลน์

เพศ: หญิง

กระทู้: 4098

Re: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2006, 03:18:05 PM »

โอ้โฮ....!!! โลมาประมาณ 30 ตัวต่อเดือน หรือสูงสุดถึง 7 ตัวต่อวันถูกจับฆ่า เอาเนื้อไปขาย.... Roll Eyes

อ่านดูแล้ว ไม่ได้กล่าวว่าพม่ามีกฎหมายคุ้มครองโลมา หรือมีการรณรงค์ให้ความรู้กับคุณหม่องทั้งหลายในเรื่องการอนุรักษ์โลมาหรือไม่

อย่างไรก็ตาม....ดูๆแล้ว ถึงจะมีกฎหมายคุ้มครองโลมา การควบคุมดูแลบังคับให้เป็นไปตามกฎหมายของพม่าก็คงจะหย่อนยานเอามากๆนะคะ

อย่างนี้คงอีกไม่นาน...โลมาก็คงหมดไปจากน่านน้ำพม่า เศร้าค่ะ Cry


	บันทึกการเข้า

Saaychol

Conundrum

Jr. Member

ออฟไลน์

กระทู้: 51

Re: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« ตอบ #4 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2006, 09:22:32 PM »

โลมาอิรวดีอยู่ในบัญชีคุ้มครองของไซเตสไม่ใช่เหรอครับ ??!?? Cry


	บันทึกการเข้า

Sri_Nuan.Ray

Hero Member

ออฟไลน์

เพศ: หญิง

กระทู้: 1327

Sri_Nuan.Ray

Re: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« ตอบ #5 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2006, 09:44:43 PM »

ลอง search หาดู ไม่มีค่ะ แต่ได้สิ่งนี้มาแทน

ชนิดปลาที่เป็นสัตว์ป่าซึ่งได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย มี 4 ประเภทดังนี้
� � �1. ปลาที่อยู่ในบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง มี 4 ชนิด ดังนี้
� � � � � 1) ปลาตะพัดหรือปลาอโรวาน่า (Scleropages formosus)
� � � � � 2) ปลาเสือตอ ปลาเสือหรือปลาลาด (Datnioides microlepis)
� � � � � 3) ปลาติดหินหรือปลาค้างคาว (Oreoglanis siamensis)
� � � � � 4) ปลาหมูอารีย์ (Botia sidthimunkii)
� � �2. ปลาที่อยู่ในบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ได้ มี 2 ชนิด ดังนี้
� � � � � 1) ปลาตะพัดหรือปลาอโรวาน่า (Scleropages formosus)
� � � � � 2) ปลาเสือตอ ปลาเสือหรือปลาลาด (Datnioides microlepis)
� � �3. ปลาที่อยู่ในบัญชีสัตว์ป่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศกำหนดมี 13 ชนิด ดังนี้
� � � � � 1) ปลาสเตอร์เจียนจมูกสั้น (Acipenser brevirostrum)
� � � � � 2) ปลาสเตอร์เจียนแอตแลนติค (Acipenser oxythynchus)
� � � � � 3) ปลาสเตอร์เจียน (Acipenser sturio)
� � � � � 4) ปลาตะเพียนติดหินน้ำจืด (Chasmistes cujus)
� � � � � 5) ปลาปอดออสเตรเลีย (ปลาโบราณ) (Neoceratodus forsteri)
� � � � � 6) ปลาซีลาแคนท์ (ปลาโบราณ) (Latimeria chalumnae)
� � � � � 7) ปลาตะเพียนตาบอดอาฟริกา (caecobabus geertsi)
� � � � � Cool

ปลายี่สก (Probabus jullieni)
� � � � � 9) ปลาช่อนยักษ์, ปลาอะราไพม่า (Arapaima gigas)
� � � � � 10) ปลาตะพัด, ปลาอโรวานา (Scleropages formosus)
� � � � � 11) ปลาจวดแมคโดนัล (Cynoscion macdonaldi)
� � � � � 12) ปลาฉลามปากเป็ด (Polyodon spathula)
� � � � � 13) ปลาบึก (Pangasianodon gigas)
� � �4. ปลาที่อยู่ในบัญชีอนุสัญญา CITES
� � � �ก. ปลาที่อยู่ในบัญชี 1 มีจำนวน 8 ชนิด
� � � � � 1) ปลาสเตอร์เจียนจมูกสั้น (Acipenser brevirostrum)
� � � � � 2) ปลาสเตอร์เจียน (Acipenser sturio)
� � � � � 3) ปลาตะเพียนติดหินน้ำจืด (Chasmistes cujus)
� � � � � 4) ปลาซีลาแคนท์ (ปลาโบราณ) (Latimeria chalumnae)
� � � � � 5) ปลายี่สก (Probabus jullieni)
� � � � � 6) ปลาตะพัด, ปลาอโรวานา (Scleropages formosus)
� � � � � 7) ปลาจวดแมคโดนัล (Cynoscion macdonald)
� � � � � Cool

ปลาบึก (Pangasianodon gigas)
� � � ข. ปลาที่อยู่ในบัญชี 2 มีจำนวน 6 รายการ
� � � � � 1) ปลาสเตอร์เจียนแอตแลนติค (Acipenser oxythynchus)
� � � � � 2) ปลาปอดออสเตรเลีย (ปลาโบราณ) (Neoceratodus forsteri)
� � � � � 3) ปลาช่อนยักษ์, ปลาอะราไพม่า (Arapaima gigas)
� � � � � 4) ปลาตะเพียนตาบอดอาฟริกา (Caecobabus geertsi)
� � � � � 5) ปลาฉลามปากเป็ด (Polyodon spathula)
� � � � � 6) ปลาสเตอร์เจียนในอันดับ ACIPENSERIFORMES

อนุสัญญาไซเตส แบ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ถูกควบคุมการค้าออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ บัญชีหมายเลข 1 เป็นชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ตกอยู่ในภาวะอันตรายใกล้สูญพันธุ์ จึงห้ามค้าโดยเด็ดขาด ยกเว้นบางชนิดที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์หรือเพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย และเพาะพันธุ์ทางวิชาการ ซึ่งกระทำโดยสถาบันที่สำนักเลขาธิการอนุสัญญา บัญชีหมายเลข 2 เป็นชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ยังมีปริมาณมากในธรรมชาติ แต่ต้องควบคุมการค้ามิให้เกินปริมาณการผลิตของธรรมชาติจนอาจเป็นเหตุสัตว์ป่าและพืชป่านั้นๆ ตกอยู่ในภาวะอันตราย ใกล้สูญพันธุ์ และบัญชีหมายเลข 3 เป็นชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่สมาชิกอนุสัญญาไซเตส อันเป็นประเทศถิ่นกำเนิดประกาศให้เป็นสัตว์ป่าและพืชป่าหวงห้าม หรือคุ้มครองเฉพาะภายในประเทศตนที่เป็นภาระของสมาชิกอื่นๆ ที่ต้องให้ความร่วมมือดูแลการนำเข้า เพื่อป้องกันการลักลอบส่งออกนอกประเทศนั้นๆ

ข่าวจาก คมชัดลึก 20 กันยายน 2547 บอกว่า

สมาชิกทั้ง 166 ประเทศ เข้าร่วมหารือแก้ไขระเบียบการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่าใกล้สูญพันธุ์ โดยประเทศไทยเตรียมเสนอให้โลมาอิรวดีเป็นสัตว์ตามบัญชีหมายเลข 1 ห้ามลักลอบซื้อขายระหว่างประเทศ เนื่องจากสถานการณ์โลมาอิรวดีในประเทศกำลังลดลงอย่างน่าเป็นห่วง

นายไมตรี ดวงสวัสดิ์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า โลมาอิรวดีไทยมีแนวโน้มสูญพันธุ์จากการค้าจึงต้องผลักดันให้โลมาอิรวดีสู่บัญชีหมายเลข 1 เพื่อห้ามค้าขายระหว่างประเทศโดยเด็ดขาด ขณะเดียวกันโลมาอิรวดีกำลังเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจแสดงสัตว์น้ำในภูมิภาคเอเชียที่กำลังเตรียมสร้างศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำกว่า 80 แห่ง เนื่องจากโลมาอิรวดีสามารถอยู่ในน้ำจืดได้ ต้นทุนการดูแลต่ำกว่าโลมาที่อาศัยอยู่ในน้ำเค็ม เชื่อว่าอาจจะส่งผลให้มีการลักลอบล่าโลมาอิรวดีมากขึ้น............

หรืออาจจะเป็นอย่างที่คุณ Conumdrum ว่า ก็ได้ค่ะ เพราะไม่มีคนมาบอกเรื่องผลการประชุมที่ผ่านมา


	บันทึกการเข้า

ชีวิต จะเริ่มเดินทาง เมื่อผ่าน หลักสี่.....
และบอกกับตัวเองว่า..การหาความรู้เพิ่มเติมเป็นการเดินทางที่ไม่มีสิ้นสุดของชีวิต

ป้านิด

Full Member

ออฟไลน์

กระทู้: 126

Re: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« ตอบ #6 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2006, 11:20:04 PM »

เรื่องเศร้าอีกแล้ว หม่องหนอหม่อง ทำได้ลงคอ


	บันทึกการเข้า

สายชล

Moderator
Hero Member

ออฟไลน์

เพศ: หญิง

กระทู้: 4098

Re: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« ตอบ #7 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2006, 01:18:41 AM »

"ไซเตส13" การค้านำสิ่งแวดล้อม

13 วันเต็มๆ

ท่ามกลางการจับจ้อง อย่างสนใจจากทั่วโลก สำหรับประเทศไทย ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม สมัยสามัญ ภาคีอนุสัญญา ว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดพันธุ์สัตว์ป่า และพืชป่าใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 2-14 ต.ค.2547 ที่ผ่านมา

เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 2,000 คน จากภาคีสมาชิก 166 ประเทศ

และจากข้อเสนอที่ถูกบรรจุรวมทั้งสิ้น 50 ข้อเสนอ และ 14 วาระ ส่งผลให้บรรยากาศในห้องประชุมไซเตส 13 เต็มไปด้วยข้อถกเถียงทางวิชาการ เมื่อประเทศที่เป็นผู้เสนอ ต้องพยายามหว่านล้อม ชักจูง ให้บทสรุปจากการประชุม เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมาย ขณะเดียวกันทุกประเทศที่เป็นสมาชิก ต่างก็ต้องพยายามรักษา ผลประโยชน์ของตัวเอง ขณะที่นอกห้องประชุมกลับเต็มไปด้วย การเจรจาต่อรอง เพื่อแลกคะแนนเสียง จากการโหวตซึ่งกันและกัน

เวลาทุกนาทีจึงถูกใช้อย่างมีค่า

แต่ในที่สุด การประชุม "ไซเตส" ครั้งที่ 13 ก็จบลงอย่างสวยงาม โดยมีข้อเสนอ ที่ผ่านการรับรอง 32 เรื่อง ไม่ผ่าน การรับรอง 2 และยอมถอดถอนข้อเสนอ 15 เรื่อง และให้ตั้งคณะทำงาน พิจารณา ในการประชุม Cop-14 (ไซเตส 14) อีก 1 เรื่อง

สำหรับประเทศไทย นับได้ว่าประสบความสำเร็จ เกินความคาดหมาย เพราะข้อเสนอทั้ง 5 ข้อเกือบจะเรียกได้ว่าผ่านฉลุย ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น การปรับบัญชีโลมาอิรวดีจากบัญชี 2 ไปอยู่บัญชี 1 เพื่อห้ามนำไปทำการค้าอย่างเด็ดขาด การปรับบัญชีฟ้ามุ่ย จากบัญชี 1ไปอยู่บัญชี 2 เพื่อความสะดวกในการค้า การปรับบัญชีโป๊ยเซียนหยก ซึ่งอยู่ในบัญชี 2 ออกนอกอนุสัญญาไซเตส

********************************************************************************************************************

นั่นคือผลการประชุมไซเตสที่เมืองไทยเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2547 และ ในครั้งนั้นโลมาอิรวดีได้รับการเสนอให้ขึ้นมาอยู่ในบัญชี 1 ของไซเตสเรียบร้อยแล้วค่ะ� อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

http://www.saveoursea.net/oldboard/viewtopic.php?t=930&sid=acc454b2937a45e29316ccf8d323b425

ส่วนพม่าเป็นสมาชิกของไซเตสหรือไม่ เดี๋ยวจะตรวจสอบให้นะคะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 09, 2006, 04:25:03 PM โดย สายชล »	บันทึกการเข้า

Saaychol

สายชล

Moderator
Hero Member

ออฟไลน์

เพศ: หญิง

กระทู้: 4098

Re: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« ตอบ #8 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2006, 01:31:22 AM »

บัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครองที่เป็นสัตว์น้ำ � ที่ประกาศหลังสุด มีดังนี้ค่ะ

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

1 โลมากระโดด Stenella longirostris� �
2 โลมาแถบ Stenella coeruleoalba
3 โลมาธรรมดา Delphinus delphis
4 โลมาปากขวด Tursiops aduncus
5 โลมาฟราเซอร์ Lagenodelphis hosei
6 โลมาฟันห่าง Steno bredanensis
7 โลมาลายจุด Stenella attenuate
8 โลมาหลังโหนก Sousa chinensis
9 โลมาหัวบาตรหลังเรียบ Neophocaena phocaenoides
10 โลมาอิรวดี Orcaella brevirostris
11 วาฬคูเวียร์ Ziphius cavirostris
12 วาฬนำร่องครีบสั้น Globicephala macrorhynchus
13 วาฬบรูด้า Balaenoptera edeni
14 วาฬเพชฌฆาต Orcinus orca
15 วาฬเพชฌฆาตดำ Pseudorca crassidens
16 วาฬเพชฌฆาตเล็ก Feresa attenuate
17 วาฬฟันสองซี่ Mesoplodon ginkgodens
18 วาฬฟิน Balaenoptera physaius
19 วาฬหัวแตงโม Peponocephala electra
20 วาฬหัวทุย Physeter macrocepalus
21 วาฬสเปอร์มแคระ Kogia simus
22 วาฬหัวทุยเล็ก Kogia breviceps

สัตว์เลื้อยคลาน

1 จระเข้น้ำเค็ม Crocodylus porosus
2 จระเข้น้ำจืด Crocodylus siamensis
3 ตะโขง Tomistoma schleglii
4 ตะพาบหรือปลาฝา Amyda cartilaginea
5 ตะพาบหัวกบหรือกราวเขียดหรือกริวดาว Pelochelys bibroni
6 ตะพาบแก้มแดงหรือ ปลาฝาดำ Dogania subplana
7 ตะพาบข้าวตอกหรือตะพาบดาว Amyda cartilaginea nakornsritamaratensis
8 ตะพาบพม่า Nilssonia formosa
9 ตะพาบม่านลายหรือกราวลายหรือกริวลาย Chitra chitra
10 เต่ากระ Eretmochelys imbricata
11 เต่ากระอาน Batagur baska
12 เต่าตนุ Chelonia mydas
13 เต่าทะเลลอกเกอร์เฮดหรือเต่าหัวฆ้อนหรือเต่าหัวโต Caretta caretta
14 เต่ามะเฟือง Dermochelys coriacea
15 เต่าหกหรือเต่าหกเหลือง Manouria emys
16 เต่าหญ้าตาแดงหรือเต่าสังกะสีหรือเต่าทะเลริดเลย์ Lepidochelys olivacea
17 เต่านา Malayemys subtrijuga
18 เต่าลายตีนเป็ดหรือเต่าหัวแดง Callagur boneoensis
19 เต่าจาน Batagur baska ranongensis

� ปลา

1 ตะพัดหรืออโรวาน่า Scleropages formosus
2 ติดหินหรือค้างคาว Oreoglantis siamensis
3 เสือตอหรือเสือหรือลาด Datnioides microlepis
4 หมูอารีย์ Botia sidthimunkii
5 จาดถ้ำ Poropuntius speleops
6 ฉลามวาฬ Rhincodon typus
7 พลวงถ้ำ Neolissochilus subterraneus
8 ผีเสื้อถ้ำ Cryptotora thamicola
9 ค้อถ้ำ Nemacheilus troglocataractus
10 ค้อตาบอด Schistura oedipus
11 ค้อจารุธานินธร์ Schistura jaruthanini
12 ค้อถ้ำพระวังแดง Schistura spiesi
13 ค้อถ้ำพระไทรงาม Schistura deansmarti
14 ชะโอนถ้ำ Pterocryptis buccata

สัตว์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก

1 กบเกาะช้าง Rana kohchangae
2 กบดอยช้าง Rana aenea
3 กบท่าสาร Ingerana tasanae
4 กบทูดหรือเขียดแลว Rana blythii
5 กบอกหนาม Rana fasciculispina
6 กะทั่งหรือกะท่างหรือจักกิ้มน้ำ Tylototriton verrucosus
7 คางคกขายาว Leptophryne borbonica
8 คางคกต้นไม้ Pedostibes hosii
9 คางคกเล็กหรือคางคกแคระ Bufo parvus
10 คางคกห้วยมลายู Ansonia malayana
11 คางคกหัวเรียบ Bufo macrotis
12 จงโคร่ง Bufo asper

สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง

� 1 กัลปังหาดำทุกชนิดในอันดับ (Order) Antipatharia
2 กัลปังหาทุกชนิดในอันดับ (Order) Gorgonacea
3 ปะการังแข็งทุกชนิดในอันดับ (Order) Scleractinia และในอันดับ (Order) Stylasterina
4 ปะการังไฟทุกชนิดในสกุล (Genus) Milleporina
5 ปะการังสีฟ้าทุกชนิดในอันดับ (Order) Heliopracea
6 ปะการังอ่อนทุกชนิดในอันดับ (Order) Alcyonacea
7 ดอกไม้ทะเลทุกชนิดในอันดับ (Order) Actinaria
8 หอยมือเสือทุกชนิด Tridacna spp.
9 หอยสังข์แตร Charonia tritonis
10 ปูเจ้าฟ้า Phricotelphusa sirindhorn
11 ปูราชินี Demanietta sirikit
12 ปูทูลกระหม่อมหรือปูแป้ง Thaipotamon chulabhorn
� � �
ตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 09, 2006, 02:25:16 AM โดย สายชล »	บันทึกการเข้า

Saaychol

Dokpeep

Full Member

ออฟไลน์

เพศ: ชาย

กระทู้: 136

Re: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« ตอบ #9 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2006, 02:24:09 AM »

โลมาพม่าน่าเป็นห่วงมากๆครับ ยังนึกไม่ออกว่าจะช่วยพวกเค้าได้ยังไง ลำพังปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพม่าที่รัฐบาลเป็นผู้กระทำ เค้ายังตั้งหน้าตั้งตาละเมิดอยูทุกวี่วัน โดยไม่สนใจประชาคมโลกเลย แล้วนี่เป็นปลาโลมาสถานการณ์คงเลวร้ายลงไปอีกครับ


	บันทึกการเข้า

สายชล

Moderator
Hero Member

ออฟไลน์

เพศ: หญิง

กระทู้: 4098

Re: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« ตอบ #10 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2006, 02:56:23 AM »

พบว่า พม่า เป็นสมาชิกในลำดับที่ 139 หรือที่เรียกว่า Contracting Parties � ของ CITES�มีผลบังคับเมื่อวันที่ 11 กันยายน 1997 ค่ะ

แต่....น่าแปลกใจว่าทำไมเขาจึงล่าโลมาได้อย่างเสรี ทั้งนี้เป็นเพราะว่า ถึงแม้จะเป็นสมาชิกอยู่แล้ว การควบคุมดูแลให้เป็นไปตามกฎหมายก็คงไม่ใช่เรื่องที่พม่าจะสนใจ ก็คงเป็นอย่างที่น้องดอกปีบว่าไว้ค่ะ คือขนาดสัตว์ประเสริฐเช่นมนุษย์ด้วยกันเอง เขายังละเมิดสิทธิอยู่เรื่อยๆ ถ้าเป็นสัตว์เดรัจฉานที่ท่าทางเนื้อจะอร่อยเหมือนเนื้อวัว และจับได้ง่ายๆอย่างโลมา เขาคงไม่ใส่ใจหรอกนะคะ� Tongue

ขนาดเราไปดำน้ำแถวๆ Burma Bank เขายังโยนระเบิดลงน้ำ ตูมๆๆ อยู่ไม่ไกลจากที่เราดำน้ำอบู่ เพียงเพื่อระเบิดปลามากิน ส่วนชีวิตมนุษย์....ช่างมัน..!!!� Shocked

รายชื่อสมาชิก CiITES หาอ่านได้ที่

http://www.cites.org/eng/disc/parties/alphabet.shtml


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 09, 2006, 04:23:52 PM โดย สายชล »	บันทึกการเข้า

Saaychol

Sri_Nuan.Ray

Hero Member

ออฟไลน์

เพศ: หญิง

กระทู้: 1327

Sri_Nuan.Ray

Re: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« ตอบ #11 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2006, 02:30:01 PM »

ดีจังค่ะ ที่พี่สายชล ได้หาสิ่งมีประโยชน์ มาให้เราอ่านอีกแล้ว
ขอบพระคุณมากค่ะ ชัดเจน แยกได้เห็นภาพจริงๆ Grin


	บันทึกการเข้า

noon_knight

Newbie

ออฟไลน์

เพศ: ชาย

กระทู้: 33

love whale ... save whale... for our world.

Re: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« ตอบ #12 เมื่อ: กันยายน 06, 2006, 12:20:53 AM »

ผมผู้มีความรู้เกี่ยวกับการล่าปลาวาฬเพียงเล็กน้อย....

เคยได้ยินว่าเนื้อปลาวาฬรสชาติเหมือนเนื้อวัว แต่มีความมันกว่า
เนื้อปลาวาฬจะมีไขมันมากและย่อยยากกว่า ประเทศที่มีการกินเนื้อวาฬมากมี่สุดในโลกคือ ญี่ปุ่น
จริงๆแล้วปลาวาฬเป็นห่วงโซ่อาหารขั้นสุดท้ายจริงๆ คือไม่สมควรจะล่าอย่างยิ่งเพราะ
1.จะทำให้ระบบนิเวศน์เกิดการ อสมดุลย์ หรือ ผิดปกติ
2.ทำให้สัตว์ชนิดนี้สูญพันธุ์เร็วขึ้นซึ่งก็ใกล้เต็มทีแล้ว
ผมเลยอยากขอร้องให้ลดหรือหยุดการกระทำซะเพราะจะทำให้เกิดผลเสียดังกล่าวนะครับ
เราต้องช่วยกัน noon_knight... Angry


	บันทึกการเข้า

"noon_knight" believe me to run away and going to future...

สายชล

Moderator
Hero Member

ออฟไลน์

เพศ: หญิง

กระทู้: 4098

Re: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« ตอบ #13 เมื่อ: กันยายน 06, 2006, 01:04:36 AM »

มีคนบอกว่าเนื้อวาฬในไทยมีขายคำละ 400.- บาท ส่วนโลมาจะคำละเท่าไรคะ Huh

จะถูกจะแพง....ขอไม่รับประทานดีกว่าต่ะ

ขอบคุณคุณ noon_knight ค่ะ และจะร่วมด้วยช่วยกันอนุรักษ์โลมา....วาฬ.... และสัตว์ทะเลหายากและใหล้จะสูญพันธุ์ทุกชนิดค่ะ


	บันทึกการเข้า

Saaychol

gengzilla

Newbie

ออฟไลน์

เพศ: ชาย

กระทู้: 43

Re: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« ตอบ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2007, 10:29:25 PM »

� � วันนี้ที่ออฟฟิสเปิดดู UBC ช่องนึงเสนอรายการเกี่ยวกับวิถีการดำเนินไปของไข่ปลาสเตอร์เจียน หรือคาร์เวียร์ที่เรารู้จักนั่นเอง� � ทำให้เห็นถึงความคิดของประเทศที่มี
วิวัฒนาการณ์ของการพัฒนาวัฒนธรรมมาเป็นร้อยๆปี โดยเค้าให้คำจำกัดความว่าการกินไข่ปลาคาร์เวียร์ก็คือวัฒนธรรมครับ� อึ้งไปเลย และทำให้ย้อนคิดถึงประเทศญี่ปุ่นที่ยังนิยมในเนื้อปลาวาฬอยู่ ฟังแล้วก็ไม่รู้จะทำไงดีนะครับ คงได้แต่รอ.......
� � แล้วก็ย้อนให้เห็นอีกว่ายังมีคนอีกไม่น้อยที่คิดว่าก็แค่ปลาตัวนึง ถูกฆ่าตายไปก็ไม่เห็นมีอะไรเลย ตอนนี้เราได้เห็นผลกรรมนั้นๆกันทุกวันแล้วไม่ใช่หรือครับ ไม่ไกลตัวอีกแล้วนะครับ ......


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 22, 2007, 10:32:49 PM โดย gengzilla »	บันทึกการเข้า

WayfarinG

Sr. Member

ออฟไลน์

กระทู้: 437

Re: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« ตอบ #15 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2007, 11:33:55 AM »

อยากรู้จริงๆ เลยว่า...เปอร์เซนการสร้างกับการทำลายล้างของมนุษย์อะไรจะมากกว่ากัน...


	บันทึกการเข้า

http://wayfaring.multiply.com/

แม่หอย

Sr. Member

ออฟไลน์

เพศ: หญิง

กระทู้: 441

Re: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« ตอบ #16 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2007, 04:24:34 AM »

หงุดหงิด.. หงุดหงิด..


	บันทึกการเข้า

noon_knight

Newbie

ออฟไลน์

เพศ: ชาย

กระทู้: 33

love whale ... save whale... for our world.

Re: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« ตอบ #17 เมื่อ: มีนาคม 09, 2007, 01:24:19 PM »

อ้างจาก: สายชล ที่ กันยายน 06, 2006, 01:04:36 AM

มีคนบอกว่าเนื้อวาฬในไทยมีขายคำละ 400.- บาท ส่วนโลมาจะคำละเท่าไรคะ� Huh

พี่สายชลครับ ผมได้คำตอบมาแล้วครับ
เนื้อวาฬ ปัจจุบันมีราคาประมาณคำละ 450 บ. ตามท้องตลาดสากลนะครับ
คิดเป็นอาหารจานๆละ 1200 บ. (จานเล็ก) ราคานั้นๆจะขึ้นอยู่กับชนิดของวาฬด้วยครับ ทราบว่า
วาฬที่มีราคาที่แพงตัวจะใหญ่ ไขมันจะมาก เพราะมีรสชาตดี (คิดว่าประเภทวาฬ สีน้ำเงินครับ)

ส่วนโลมาที่ต้องการคำตอบนะครับ เห็นบอกกันว่าขายเป็นกิโลกรัมครับ
เพราะหาง่าย ราคาเลยค่อนข้างถูก แต่ก็ขึ้นอยู่กับชนิดอยู่ดีครับ
โลมาปากขวด จะมีราคาที่สูงและนิยมกันมาก เพราะได้ยินมาว่ามีเนื้อร่อยและมีไขมันไม่มาก (ต่างจากวาฬที่ไขมันมากจะแพง)
กิโลละประมาณ 670 บ. (ราคานี้ไม่แน่นอนนะครับ)
ส่วนราคาเป็นราคาอาหารจานนี้ จะได้จานละ 720 บ. (จานใหญ่พอประมาณเลยนะครับ)
ข้อมูลจากพ่อค้าชาวเวียดนาม ญี่ปุ่นและชาวไทยบางส่วนที่พอมีความรู้เรื่องนี้

ยังไงก็แล้วแต่ อย่ากินมันเลยครับ ผมแทบกลุ้มที่ได้ทราบเรื่องนี้ ขอเราอย่าเลยนะครับ "นึกซะว่าผมขอร้อง"[/color]


	บันทึกการเข้า

"noon_knight" believe me to run away and going to future...

หน้า: [1] ขึ้นบน

พิมพ์

Save Our Sea > รายงานการพบสัตว์และพืชหายากในน่านน้ำไทย > โลมาและวาฬ (ผู้ดูแล: สายชล, สายน้ำ) > หัวข้อ: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร!

« หน้าที่แล้ว ต่อไป »

	ผู้เขียน	หัวข้อ: พม่าไล่ล่า..'โลมาแดดเดียว' เปิบพิสดาร! (อ่าน 18717 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้