Save Our Sea
พฤษภาคม 18, 2024, 10:26:27 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้งดการตั้งหรือตอบกระทู้ ขอเชิญใช้บอร์ดใหม่ที่ http://www.saveoursea.net/forums
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แอ่วเหนือ  (อ่าน 8481 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายเดี่ยว ประชาชาติ
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 288



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 01:54:40 AM »

ไปเมืองเหนือมาช่วงปีใหม่ครับ ถ่ายรูปมาเล่าสู่กัน

แวะที่แรกที่เมืองลำปางครับ

จังหวัดลำปาง เป็นจังหวัดที่มีความเก่าแก่และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาแล้วไม่น้อยกว่า 1,300 ปี ตั้งแต่สมัยหริภุญชัย (พระนางจามเทวี) เป็นต้นมา คือ ราวพุทธศตวรรษที่ 13 ชื่อของเมืองเขลางค์อันเป็นเมืองในยุคแรก ๆ และเมืองนครลำปาง ปรากฏอยู่ในหลักฐานทางประวัติศาสตร์หลายแห่ง ทั้งจากตำนานศิลาจารึกพงศาวดาร และจากคำที่นิยมเรียกกันโดยทั่วไปอย่างแพร่หลาย ได้แก่ตำนานจามเทวี ชินกาลบาลีปกรณ์ ตำนานมูลศาสนา ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ตำนานเจ้าเจ็ดตน พงศาวดารโยนก


* CNX-New-Year-2006-(42).jpg (40.89 KB, 368x500 - ดู 578 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

คลื่นทะเลซัดฝั่ง อาจจะพังทลาย
ดังกับซากหินทราย ถูกทลายสูญสิ้น
สายเดี่ยว ประชาชาติ
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 288



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 01:55:24 AM »

เมื่อพระเจ้าเม็งรายสร้างเมืองเชียงใหม่เป็นราชธานี ในปี พ.ศ.1839 แล้ว ได้แผ่ขยายอิทธิพลมาครอบครองลำพูนและเมืองลคร (เขลางค์) กล่าวคือในพ.ศ. 1844 พระเจ้าเม็งรายโปรดให้ขุนคราม โอรส ยกกองทัพไปตีเมืองลำพูน พระยายีบาสู้ไม่ได้ จึงอพยพหนีมาพึ่งพระยาเบิกพระอนุชาที่เมืองลคร (เขลางค์) กองทัพของพระเจ้าเม็งรายซึ่งมีขุนครามเป็นแม่ทัพ ได้ยกติดตามมาประทะกับกองทัพของพระยาเบิกที่ริมน้ำแม่ตาล ปรากฏว่าพระยาเบิกเสียชีวิตในการสู้รบ ส่วนพระยายีบาเจ้าเมืองลำพูน ได้พาครอบครัวหนีไปพึ่งเจ้าเมืองสองแคว (พิษณุโลก ) ประทับอยู่ที่นั่นจนสิ้นพระชนม์ จึงสิ้นวงศ์เจ้าผู้ครองเขลางค์ยุคแรก

       ส่วนเรื่องราวในตำนานชินกาลมาลีปกรณ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมต่อไปอีกว่า ภายหลังจากที่พระเจ้าเม็งรายได้รับชัยชนะต่อพระยาเบิกแล้ว ได้แต่งตั้งชาวมิลักขะเป็นเจ้าเมืองแทน เจ้าเมืองคนใหม่พยายามชักชวนชาวเมืองเขลางค์สร้างเมืองใหม่ ซึ่งกลายเป็นเมืองเขลางค์ยุค 2 หลังจากนี้ก็มีเจ้าผู้ครองนครซึ่งมียศเป็นหมื่นปกครองสืบต่อกันมา เป็นเวลานาน จนกระทั่งสิ้นราชวงศ์เม็งราย พม่าก็แผ่อิทธิพลเข้ามาแทนที่ในสมัยพระเจ้าบุเรงนอง

       เมืองนครลำปางเป็นหัวเมืองสำคัญของลานนาไทยมาจนกระทั่งถึงสมัยพระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์พม่าแห่งหงสาวดีได้แผ่อำนาจเข้าครอบครองลานนาไทยใน พ.ศ. 2101 ซึ่งสัญลักษณ์แห่งอำนาจของบุเรงนองยังปรากฏอยู่ทั่วไป ได้แก่ไม้แกะสลักรูปหงส์ประจำวัดต่าง ๆ (หมายถึงหงสาวดี) นับตั้งแต่นั้นมา นครลำปางตกอยู่ภายใต้อำนาจของพม่าเป็นเวลานานร่วม ๆ 200 ปีเศษ (พ.ศ.2101 - 2317) และบางครั้งก็อยู่ภายใต้การปกครองของกรุงศรีอยุธยาบ้างเช่น สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นต้น



* CNX-New-Year-2006-(85).jpg (63.17 KB, 332x500 - ดู 575 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

คลื่นทะเลซัดฝั่ง อาจจะพังทลาย
ดังกับซากหินทราย ถูกทลายสูญสิ้น
สายเดี่ยว ประชาชาติ
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 288



ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 01:56:07 AM »

ปูชนียสถานที่สำคัญได้แก่ วัดพระแก้วดอนเต้า ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ระหว่าง พ.ศ. 1979 - 2011

ประชาชาติเดินเข้าไปอย่างสง่า แร้วหัวก็ชนกับราวประตูดังฉึกใหญ่ งงอยู่พักใหญ่

ลุงคำกองคนเฝ้าหันมามองแร้วค้อนควับ...แร้วเอื้นออกไป " อ้ายมอเตอร์ไซด์ไปไหนมาจ๊ะ "........

กลัวแร้วคร๊าบ....


* CNX-New-Year-2006-(14).jpg (64.86 KB, 500x332 - ดู 551 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

คลื่นทะเลซัดฝั่ง อาจจะพังทลาย
ดังกับซากหินทราย ถูกทลายสูญสิ้น
สายเดี่ยว ประชาชาติ
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 288



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 01:56:48 AM »

ตามตำนาน วัดพระธาตุลำปางหลาง (ฉบับสาขาสมาคม เพื่อการรักษาสมบัติวัฒนธรรมประจำจังหวัดลำปาง) ได้กล่าวถึงเรื่องราวของเมืองลำปางไว้ว่า
       "พระพุทธเจ้าได้เสด็จด้วยลำดับบ้านใหญ่เมืองน้อย ทั้งหลาย พระพุทธเจ้าไปรอดบ้านอันหนึ่งชื่อ ลัมพการีวัน พระพุทธเจ้านั่งอยู่เหนือดอยม่อนน้อย สูงสะหน่อย ยังมีลัวะ ชื่ออ้ายคอน มันหันพระพุทธเจ้า เอาน้ำผึ้งใส่กระบอกไม้ป้างมาหื้อทานแก่พระพุทธเจ้า กับหมากพ้าว 4 ลูก พระพุทธเจ้ายื่นบอกน้ำเผิ้งหื้อแก่มหาอานนท์ถอกตกปากบาตร พระพุทธเจ้าฉันแล้ว ชัดบอกไม้ไปตกหนเหนือ แล้วพระพุทธเจ้าทำนายว่า สถานที่นี้จักเป็นเมืองอันหนึ่งชื่อ "ลัมภางค์"
       ดังนั้นนามเมืองลำปาง จึงหมายถึงชื่อของเมืองอันเป็นที่ตั้งของพระธาตุลำปางหลวงในปัจจุบัน
       จังหวัดลำปางเดิมชื่อ "เมืองนครลำปาง" จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน ได้แก่ ศิลาจารึก เลขทะเบียน ลป.1 จารึกเจ้าหมื่นคำเพชรเมื่อ พ.ศ.2019 และศิลาจารึกเลขทะเบียน ลป.2 จารึกเจ้าหาญสีทัต ได้จารึกชื่อเมืองนี้ว่า "ลคอร" ส่วนตำนานชินกาลมารีปกรณ์ ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ตำนานเมืองเชียงแสน ตลอดจนพงศาวดารของทางฝ่ายเหนือ ก็ล้วนแล้วแต่เรียกชื่อว่า เมืองนครลำปาง แม้แต่เอกสารทางราชการสมัยรัตนโกสินตอนต้น ก็เรียกเจ้าเมืองว่า พระยานครลำปาง นอกจากนี้จารึกประตูพระอุโบสถวัดบุญวาทย์วิหาร ก็ยังมีข้อความตอนหนึ่งจารึกว่า เมืองนครลำปาง แต่เมื่อมีการปฏิรูปบ้านเมืองจากมณฑลเทศาภิบาลเป็นจังหวัด ตามคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2459 ปรากฏว่า ชื่อของเมืองนครลำปาง ได้กลายมาเป็นจังหวัดลำปาง มาจนกระทั่งทุกวันนี้

มุมยอดฮิตครับ


* CNX-New-Year-2006-(45).jpg (64.34 KB, 332x500 - ดู 554 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

คลื่นทะเลซัดฝั่ง อาจจะพังทลาย
ดังกับซากหินทราย ถูกทลายสูญสิ้น
สายเดี่ยว ประชาชาติ
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 288



ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 01:59:09 AM »

อีกมุมครับ

ความจริงต้องมีรูปเจดียแบบกลับหัวในอุโบสถ เป็น Unseen Thailand

เป็นรูปแบบกล้องรูเข็ม แต่ประชาชาติขอติดไว้ก่อนครับ ลืมเอามาด้วย


* CNX-New-Year-2006-(114).jpg (61.26 KB, 500x332 - ดู 518 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

คลื่นทะเลซัดฝั่ง อาจจะพังทลาย
ดังกับซากหินทราย ถูกทลายสูญสิ้น
สายเดี่ยว ประชาชาติ
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 288



ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 01:59:51 AM »

เปิ้นจะอู้จะอี้ก็ออกมาแบบนี้หละ

น้ำฝนใสเย็นจากโอ่งดิน ดื่มอร่อยนักแล

น้ำดื่มขวดปาส-ติก...ใส่เครื่องทำน้ำเย็น ถึงจะใหลเย็นก็ระคายคอ



* CNX-New-Year-2006-(18).jpg (59.65 KB, 332x500 - ดู 531 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

คลื่นทะเลซัดฝั่ง อาจจะพังทลาย
ดังกับซากหินทราย ถูกทลายสูญสิ้น
สายเดี่ยว ประชาชาติ
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 288



ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 02:00:17 AM »

จริงครับ......

เจ้าของปีเป็นผู้ตอบ


* CNX-New-Year-2006-(22).jpg (63.78 KB, 424x500 - ดู 537 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

คลื่นทะเลซัดฝั่ง อาจจะพังทลาย
ดังกับซากหินทราย ถูกทลายสูญสิ้น
สายเดี่ยว ประชาชาติ
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 288



ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 02:00:50 AM »

ชวดหนู ฉลูห่าน ขาลเงาะ เถาะไก่........

แร้วปีแมวไปอยู่ที่ใหน..........มีปีวิฬามั้ยฟะ.......

เจ็บใจจริงวุ้ย ชอบแต่หมาอยู่นั้นนะ


* CNX-New-Year-2006-(11).jpg (66.35 KB, 332x500 - ดู 553 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

คลื่นทะเลซัดฝั่ง อาจจะพังทลาย
ดังกับซากหินทราย ถูกทลายสูญสิ้น
สายเดี่ยว ประชาชาติ
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 288



ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 02:01:38 AM »

กลับมาเชียงใหม่ครับ

นิทานเรื่องนี้สอนไว้ว่า ควรติดเลนส์ไปเกินหนึ่งตัวในกระเป๋า

ทั้งเทเล และไวนด์ ไปด้วยกัน มิฉนั้นจะถ่ายได้ไม่หลากหลายเรย

วุ้ย........



* CNX-New-Year-2006-(198).jpg (59.99 KB, 500x394 - ดู 544 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

คลื่นทะเลซัดฝั่ง อาจจะพังทลาย
ดังกับซากหินทราย ถูกทลายสูญสิ้น
สายเดี่ยว ประชาชาติ
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 288



ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 02:02:24 AM »

วันปีใหม่มาแร้ว

จุดพลุหน่อย.....ตามธรรมเนียมปฏิบัติ

ให้โรงแรมจุดนะครับ ไม่ควรจุดเองที่บ้าน.......เด้วคุกมาเยือน


* CNX-New-Year-2006-(226).jpg (66 KB, 332x500 - ดู 549 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

คลื่นทะเลซัดฝั่ง อาจจะพังทลาย
ดังกับซากหินทราย ถูกทลายสูญสิ้น
สายเดี่ยว ประชาชาติ
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 288



ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 02:03:00 AM »

ลูกสุดท้าย ช่วงฟินนาเร่

ยกกล้องถ่ายสบีด 4 วินาที รูรับแสง 22 เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ 8 สำหรับกล้องดิจิมอน

แร้วก็สั่นเป็นเจ้าเข้า เพราะไม่มีขาตั้งกล้อง กับเตกีล่าสองขวดครึ่งอยู่ในร่างกาย

สามสิบภาพได้มาสอง ยังดีกว่าแห้วเรียบหรอกนะ


* CNX-New-Year-2006-(250).jpg (64.55 KB, 384x500 - ดู 517 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

คลื่นทะเลซัดฝั่ง อาจจะพังทลาย
ดังกับซากหินทราย ถูกทลายสูญสิ้น
สายเดี่ยว ประชาชาติ
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 288



ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 02:04:57 AM »

จบด้วยโคมลอย........ลูกละแปดสิบ........แพงชิบ........

อย่าเล่นในกรุงเทพนะครับ ผิด....ถ้าหล่นลงบ้านแร้วไฟใหม้

ปีใหม่พออนุโลม


* CNX-New-Year-2006-(265).jpg (59.71 KB, 500x332 - ดู 550 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

คลื่นทะเลซัดฝั่ง อาจจะพังทลาย
ดังกับซากหินทราย ถูกทลายสูญสิ้น
สายเดี่ยว ประชาชาติ
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 288



ดูรายละเอียด
« ตอบ #12 เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 02:05:48 AM »

ตื่นเช้าไปทำบุญ วัดพระสิงห์

คนตรึมเรย


* CNX-New-Year-2006-(294).jpg (63.77 KB, 500x332 - ดู 538 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

คลื่นทะเลซัดฝั่ง อาจจะพังทลาย
ดังกับซากหินทราย ถูกทลายสูญสิ้น
สายเดี่ยว ประชาชาติ
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 288



ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 02:06:39 AM »

วัดพระสิงห์ หรือมีชื่อเต็มว่า วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนสามล้าน ต.พระสิงห์ เป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวรู้จักคุ้นชื่อกันดี พญาผายู กษัตริย์เชียงใหม่โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น เพื่อบรรจุพระอัฐิของพญาคำฟู ซึ่งเป็นพระราชบิดา เดิมชื่อว่า วัดลีเชียงพระ บริเวณหน้าวัดแห่งนี้เคยเป็นกาดมาก่อน ชาวบ้านเรียกว่า กาดลี วัดพระสิงห์มีสิ่งที่น่าสนใจได้แก่ หอไตร สร้างเป็นครึ่งตึกครึ่งไม้ ที่ตัวผนังตึกด้านนอกประดับด้วยทวยเทพปูนปั้นแต่งองค์ทรงเครื่องสวยงาม เป็นฝีมือช่างสมัยพระเมืองแก้ว ต่อมาในสมัยเจ้าแก้วนวรัฐได้มีการซ่อมแซมขึ้นใหม่ ประมาณ พ.ศ. 2467 ที่ฐานหอไตรปั้นเป็นลายลูกฟักลดบัวภายในประดับด้วยรูปสัตว์หิมพานต์ และประจำยาม ที่มีลักษณะละม้ายลายสมัยราชวงศ์เหม็งของจีน

นอกจากนี้ยังมีวิหารลายคำ เป็นวิหารทรงพื้นเมืองล้านนาขนาดเล็กกระทัดรัด ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ ที่ผนังวิหารมีภาพจิตรกรรมโดยรอบ ด้านเหนือเขียนเป็นเรื่องสังข์ทอง ด้านใต้เป็นเรื่องสุวรรณหงส์ ภาพจิตรกรรมดังกล่าวมีความน่าสนใจมากทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องสังข์ทองพบเพียงแห่งเดียวที่นี่ ลักษณะเด่นของภาพจิตรกรรมที่พบในล้านนา อาจารย์ศิลป์ พีระศรี ได้สรุปไว้ว่า
" จิตรกรรมในภาคเหนือนิยมเขียนภาพชีวิตประจำวัน เป็นภาพเหมือนชีวิตจริง ถ้าเรามองดูภาพที่งดงามเรื่องสังข์ทองในวิหารลายคำ วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ เราจะรู้สึกคล้ายกับว่า เราเข้าไปอยู่ในสภาพการณ์ที่เป็นจริงตามความเป็นอยู่เมื่อ 100 ปีก่อน "


* CNX-New-Year-2006-(302).jpg (65.35 KB, 327x500 - ดู 554 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

คลื่นทะเลซัดฝั่ง อาจจะพังทลาย
ดังกับซากหินทราย ถูกทลายสูญสิ้น
สายเดี่ยว ประชาชาติ
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 288



ดูรายละเอียด
« ตอบ #14 เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 02:07:17 AM »

...


* CNX-New-Year-2006-(290).jpg (60.48 KB, 500x332 - ดู 542 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

คลื่นทะเลซัดฝั่ง อาจจะพังทลาย
ดังกับซากหินทราย ถูกทลายสูญสิ้น
สายเดี่ยว ประชาชาติ
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 288



ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 02:11:30 AM »

มีคนเคยบอกให้รู้ว่าการทำงานควรทำอย่างเหมือนปิดทองหลังพระ ประชาชาติก็เห็นด้วยครึ่งนึง

แต่ถ้าพระท่านอยู่ตรงวงเวียน ยังไงคนก็ต้องเห็นจนได้ ปิดหน้าหรือจะปิดหลัง เมื่อมีความตั้งใจ ความมุ่งมั่น เจตนาที่ดีในการกระทำผลก็ออกมาเท่าๆกัน

ซักวันก็ต้องเห็นผลกันครับ

เหมือนขับรถวนรอบวงเวียน....... Wink


* CNX-New-Year-2006-(352).jpg (61.62 KB, 332x500 - ดู 496 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

คลื่นทะเลซัดฝั่ง อาจจะพังทลาย
ดังกับซากหินทราย ถูกทลายสูญสิ้น
สายเดี่ยว ประชาชาติ
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 288



ดูรายละเอียด
« ตอบ #16 เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 02:15:19 AM »

เตรียมไม้กวาดให้กวาดสิ่งกวนใจ เรื่องหงุดหงิด เรื่องเสียตังค์ ออกไปครับ

ถ้าจะเสียตังค์เพราะดำน้ำ ไม่ต้องกวาดไปนะครับ

ถ้าเรื่องกล้องจมน้ำ......อิอิ....ก็ต้องกวาดออกไปโดยเร็วๆ

มีให้หลายด้ามครับ......

หวัดดีปีใหม่ครับ... Grin


* CNX-New-Year-2006-(380).jpg (62.15 KB, 500x332 - ดู 502 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 06, 2006, 02:17:58 AM โดย สายเดี่ยว ประชาชาติ » บันทึกการเข้า

คลื่นทะเลซัดฝั่ง อาจจะพังทลาย
ดังกับซากหินทราย ถูกทลายสูญสิ้น
แม่หอย
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 441



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #17 เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 07:50:45 AM »

..สวัสดีปีใหม่ค่า...
แหม..คิดถึงจัง คุณสายเดี่ยวฯ นึกว่าหายไปไหน ที่แท้หนีไปแอ่วเหนือ..
ห้องท่องเที่ยวฯ นี่แม่หอยไม่ค่อยเข้ามาดู เพราะมักอิจฉาคนได้ไปเที่ยว แม่หอยมีแต่หัวปักอยู่กับบ่อหอย..
วันนี้เห็นกระทู้ใหม่คุณสายเดี่ยวเลยต้องเปิดห้องมาดู ได้ติดตามไปเที่ยวด้วย สนุกดีค่ะ ไปเที่ยวนี้ดีจังตังค์อยู่ครบ ..ขอบคุณนะคะ ฮิๆ..
บันทึกการเข้า
สายน้ำ
Moderator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3501


เรารักในหลวง


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #18 เมื่อ: มกราคม 06, 2006, 03:22:00 PM »

Kissอ๋อ...ไปแอ่วสาวเมืองเหนือมานี่เองนะพ่อหลานรัก....รูปสวยๆเรื่องดีๆ ได้ทั้งเที่ยว ได้ทั้งความรู้ทางประวัติศาสตร์อย่างนี้ อยากให้มีบ่อยๆครับ

และต้องขอบคุณที่หาไม้กวาดมาฝาก กำลังต้องการมาใช้กวาดกระทู้เก่าๆไปหาที่เก็บซะบ้าง เพราะถึงกำหนดจ่ายเงินค่าเช่าพื้นที่และค่า Domain ของ SOS จึงได้ทราบว่า เราใช้เนื้อที่เกินที่เช่าไปซัก 5 เท่าได้ ทำให้ต้องจ่ายค่าเช่าแพงขึ้น และคงต้องหาทางเอากระทู้เก่าๆไปเก็บ ลบทิ้ง หรือ ลดขนาดลงบ้างแล้ว

ดูจากภาพแล้ว ทางเหนืออากาศคงจะดีมาก  ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าจริงๆ ไม่ใช่สีเทาๆแบบกรุงเทพฯ ถ่ายรูปออกมาต้องสวยแน่ๆ  ลองลงรูปให้ขนาดใหญ่ขึ้นอีกหน่อยสิครับ แต่เวลา save อย่าให้เกิน 150 k นะครับ หลานรัก Grin
บันทึกการเข้า

"ทุกวันนี้ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้ง ทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล ซึ่งสามารถนำมา ใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์และเสถียรภาพอัน ถาวรของบ้าน เมืองได้เป็นอย่างดี ข้อสำคัญจะต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด โดยมุ่งถึงประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ" ..... พระราชดำรัส
ป้านิด
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 126


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #19 เมื่อ: มีนาคม 02, 2006, 10:47:14 PM »

เดือนหน้าจะไปเที่ยวปาย เชียงใหม่ ลำปาง ก่อนลงไปเที่ยวทะเลอันดามันค่ะ

ข้อมูลเยี่ยมมากค่ะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.052 วินาที กับ 21 คำสั่ง