แข่งเรือ ขึ้นโขน ชิงธง Unseen Thailand

http://www.chumphontour.com/forum/viewtopic.php?t=24

ประเพณีแห่พระแข่งเรือ ชิงโล่ และถ้วยพระราชทาน อ.หลังสวน จ.ชุมพร

การ ดำเนินชีวิตของคนไทยมีความผูกพันธ์กับแม่น้ำมาเนิ่นนานแล้วการปลูกสร้างบ้านเรือน การสร้างชุมชนตั้งแต่สมัยโบราณของคนไทย จะเลือกทำเลที่ติดกับแม่น้ำลำคลองเป็นสำคัญเพื่อที่จะอาศัยน้ำในการเพาะปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหาร น้ำดื่ม น้ำใช้ แม่น้ำจึงเปรียบเสมือนสายโลหิตของชีวิตคนไทยที่ใช้อุปโภคบริโภค การเกษตร ที่สำคัญคือ การสัญจรไปมาโดยอาศัยแม่น้ำ การติดต่อค้าขาย และยานพาหนะที่ใช้ในการสัญจรและการค้าขายนั่นคือ “เรือ”

ในสมัยก่อนเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก และว่างเว้นจากการเพาะปลูก ประมาณเดือน กันยายน ถึง เดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลทอดกฐิน คนหนุ่มสาว คนเฒ่า คนแก่ ตามหมู่บ้าน ก็ร่วมแรงร่วมใจกันตกแต่งเรือเพื่อตั้งองค์กฐิน ไปทอดตามวัดวาอารามต่างๆ ที่ตนศรัทธา วัดต่างๆ ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำ ขบวนเรือกฐิน จะมีเรือลำใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นเรือมาด ที่ตกแต่งมีธงทิว อย่างสวยงามเป็นเรือตั้งองค์กฐิน นอกจากนั้นจะเป็นเรือรองลงมา พายนำและพายติดตาม เรือเหล่านี้ได้แก่ เรือหมู เรือพายม้า เรือยาว แห่องค์กฐินไปตามคุ้งน้ำ มีพิณพาทย์ลาดตะโพน บรรเลงอย่างสนุกสนานเต็มคุ้งน้ำ เมื่อทอดกฐินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการเล่นเรือเพลง และแข่งขันเรือกัน ระยะแรกๆ อาจมีการแข่งขันหลายหลากชนิด ตามลักษณะเรือ จะเห็นเป็นที่สนุกสนานกัน ที่สุดก็คือการแข่งขันเรือยาว

การแข่งขันเรือยาวไม่ปรากฏแน่ชัดว่า มีการเริ่มการแข่งขันมาแต่สมัยใด แต่สมัยกรุงศรีอยุธยาได้มีการแข่งขันกันในเดือน 11 และถือเป็นพระราชพิธีประจำเดือน 11 ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำนองตลิ่งเหมาะแก่การแข่งขันเรือกัน ในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระเอกาทศรถโปรดให้มีการแข่งขันเรือของทหารขึ้นเพื่อฝึกซ้อมฝีพาย เมื่อเรือลำใดเข้าเส้นชัยก่อนก็จะพระราชทานรางวัลแก่ทหารเหล่านั้นเพื่อเป็นกำลังใจ ดังนั้นเรือยาวที่ใช้ในการแข่งขันในปัจจุบันนี้ ก็เป็นเรือที่พัฒนามาจากเรือที่ใช้ทำสงครามในสมัยก่อนนั่นเอง

ผู้สันทัดกรณี บางท่านได้ให้ข้อสันนิษฐานว่า “การแข่งขันเรือยาวหลังสวน” คงจะเกิดขึ้นราวๆ ปี พ.ศ. 2387 ในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เพราะช่วงนั้นเมืองหลังสวน มีวัดเกิดขึ้นหลายวัด การแห่พระ หรือการลากพระ ก็คงจะเกิดขึ้นและมีการแข่งขันเรือยาวด้วย

อย่างไรก็ตามพอจะหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สมารถนำมาอ้างอิงได้ว่า “การแข่งเรือยาวของหลังสวน ได้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานมาก และสืบเนืองมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 102 ปีมาแล้ว กล่าวคือ เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้เสด็จประพาสทางชลมารค ถึงเมืองหลังสวน ซึ่งมีหลักฐานะเป็นเมืองจัตวาขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ร.ศ. 108 (พ.ศ. 2432) พระยาจรูญราชโภคากร (คอซิมเต๊ก ณ ระนอง) ซึ่งเป็นเจ้าเมืองหลังสวนในขณะนั้น ได้จัดขบวนเรือรับเสด็จจากปากอ่าวไทย เพื่อนำเรือกลไฟพระที่นั่ง ทอนิครอฟต์ มาตามลำน้ำหลังสวน และเสด็จประทับที่ ตำบลบางขันเงิน หนึ่งในขบวนเรือที่รับเสด็จในคราวนั้นคือ “เรือมะเขือยำ” สังกัดวัดดอนชัย ซึ่งเป็นเรือยาวที่ใช้ในการแข่งขันและครองความชนะเลิศเสมอมาในสมัยนั้น ปัจจุบันเรือ มะเขือยำ ได้ปลดระวางแล้ว ไม่ได้ส่งเข้าทำการแข่งขัน แต่จะใช้เป็นเรือเกียรติยศนำขบวนพาเหรดเรือ ในการแข่งขันเรือยาวหลังสวน

จากหลักฐานดังกล่าวพอที่จะชี้ให้เห็นว่า “การแข่งขันเรือยาวหลังสวน” ได้สืบทอดเป็นประเพณีท้องถิ่นมาช้านานแล้ว”

ข้อมูลและภาพทั้งหมดจาก เว็บททท.
และ http://www.chumphontour.com ครับ

วันนี้ที่ชุมพร มีอีกเทศกาลหนึ่งคือ ดู นับเหยี่ยวอพยบ ตำบลท่ายาง (ทางไปท่าเรือเกาะเต่า) 22-23 ตค. ที่ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากท้องฟ้าปิด และฝนตกหนัก น้ำท่วมบางเส้นทาง ตลอด 2-3 วันนี้ ครับ

	ผู้เขียน	หัวข้อ: แข่งเรือ ขึ้นโขน ชิงธง Unseen Thailand (อ่าน 5806 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้