Save Our Sea
มีนาคม 28, 2024, 07:05:41 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้งดการตั้งหรือตอบกระทู้ ขอเชิญใช้บอร์ดใหม่ที่ http://www.saveoursea.net/forums
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พยูนหวนคืนถิ่นอ่าวไทยในรอบ34ปี  (อ่าน 4363 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3501


เรารักในหลวง


ดูรายละเอียด อีเมล์
« เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2006, 02:14:05 PM »

พยูนหวนคืนถิ่นอ่าวไทยในรอบ34ปี พื้นที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ      

พูดถึงพะยูนแทบทุกท่านจะเล็งไปที่จังหวัดตรัง จังหวัดที่ครั้งหนึ่งได้อาศัยพะยูนมาเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าสู่จังหวัด พร้อม ๆ กับการรณรงค์ให้สังคมมองเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์พะยูนและหญ้าทะเลบริเวณชายฝั่งอาหารยอดนิยมของพะยูน
   
และจากที่พะยูนในพื้นที่แห่งนี้มีปริมาณค่อนข้างมากจึงเป็นผลให้ผู้คนสามารถพบเห็นได้โดยสะดวก ในขณะที่พะยูนกำลังออกหากินบริเวณริมฝั่ง สัตว์น้ำที่เลี้ยงลูกด้วยนมและผู้คนสามารถใกล้ชิดได้นี้ ได้เข้ามาสร้างความประทับใจ และเป็นปัจจัยบ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของชายฝั่งทะเลมาโดยตลอด และตลอดมาก็จะมีการกล่าวถึงแทบทุกครั้งเมื่อมีการออกมารณรงค์เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง
   
ดังที่กล่าวมาผู้คนส่วนใหญ่มักจะเล็งไปที่ทะเลอันดามันเมื่อจะมีการกล่าวถึงพะยูน โดยที่ลืมไปว่าครั้งหนึ่งในทะเลอ่าวไทย พะยูนก็มีอาศัยอยู่เช่นกัน แต่ได้สูญหายไปนานหลายปี จะมีก็แค่รูปปั้นบริเวณ อ่าวคุ้งกระเบน จังหวัดจันทบุรี เนื่องจากสภาพพื้นที่ทั่วไปบริเวณริมฝั่งอ่าวไทยไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิตของพะยูน หลายปีผ่านไปในที่สุดสิ่งที่ได้มีการคาดคิดตามเป้าหมายกันมาก่อนหน้านี้ก็เกิดขึ้นหลังจากที่มีโครงการเพื่อการอนุรักษ์ชายฝั่งพร้อมการฟื้นฟูสัมฤทธิผล นั่นก็คือมีการพบพะยูนที่อ่าวคุ้งกระเบน ในปีนี้
   
นายสมพล พันธุ์มณี เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดเผยว่า ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน  อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี ว่า อ่าวคุ้งกระเบนเป็นอ่าวเล็ก ๆ รูปร่างคล้ายปลากระเบน มีพื้นที่ 4,000 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณ ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ และตำบลสนามไชย อำเภอนายายอาม จังหวัด จันทบุรี เป็นพื้นที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืนของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมา  จากพระราชดำริ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำริให้มีการจัดตั้งขึ้น เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรและพัฒนาอาชีพของชาวบ้านในบริเวณชายฝั่งทะเลจังหวัดจันทบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2524
   
เนื่องจากพื้นที่บริเวณชายฝั่งถูกทำลายทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบกและทะเลอย่างมาก แม้แต่พะยูนซึ่งเคยพบในอ่าวคุ้งกระเบนก็ยังหมดสิ้นไป หลังจากได้มีการจัดตั้งศูนย์ฯ แห่งนี้ขึ้น มีการดำเนินการจัดการทรัพยากรชายฝั่งเพื่อสนองพระราชดำริ มีการฟื้นฟูและจัดการทรัพยากรในอ่าว  อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะหญ้าทะเลที่เป็นแหล่งอาหารของพะยูน จนมีพะยูนเข้ามาอาศัยหากินตามธรรมชาติอีกครั้งหนึ่งในตอนนี้
   
โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2549 ชาวประมงอ่าวคุ้งกระเบน ได้พบพะยูนขนาดความยาว 2 เมตร น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม เข้ามาอาศัยและหาอาหารกินในอ่าวคุ้งกระเบน นับเป็นนิมิตหมายที่ดีที่พะยูนได้กลับคืนสู่อ่าวคุ้งกระเบนอีกครั้ง หลังจากพะยูนได้หายไปจากอ่าวคุ้งกระเบนเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 34 ปี นับตั้งแต่พะยูนตัวสุดท้ายได้ตายไปจากการจับของชาวประมงเมื่อปี พ.ศ. 2515
   
ทางด้าน นายทวี จินดามัยกุล ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดเผยว่า พะยูน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อาศัยอยู่ในทะเล มีชื่อท้องถิ่นเรียกว่า หมูดุด หมูน้ำ ดูหยง วัวทะเล และดูกอง มีรูปร่างลำตัวรูปกระสวยคล้ายโลมา ลำตัวมีสีเทาอมชมพู มีขนสั้น ๆ ประปรายตลอดลำตัว มีขนเส้นใหญ่อยู่อย่างหนาแน่นบริเวณ ปาก มีครีบด้านหน้าหนึ่งคู่อยู่สองข้างของลำตัว มี  อายุยืนยาว 50-70 ปี เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 9- 10 ปี ระยะตั้งท้องนาน 13-14 เดือน ตกลูกครั้งละ 1 ตัว ลูกแรกเกิดจะกินนมแม่พร้อมทั้งเริ่มหัดกินหญ้าทะเลและอาศัยใกล้ชิดแม่ตลอดเวลาปีครึ่งหรือเกือบสองปี อาหารพะยูนจะเป็นพวกหญ้าทะเลได้แก่ หญ้าอำพัน หญ้าเงา หญ้าชะเงา หรือหญ้าคาทะเล กุ่ยช่าย ทะเล เป็นต้น
     
การพบพะยูนในอ่าวคุ้งกระเบนครั้งนี้เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ที่ไม่คาดคิดมาก่อนซึ่งทำให้สามารถคิดว่า“พะยูนคืนถิ่นคุ้งกระเบน” ประจวบเหมาะกับปีนี้เป็นปีมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวดังนั้นการกลับมาของพะยูนในครั้งนี้เพื่อร่วมเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพ่อหลวงไทย
     
นอกจากนี้การดำเนินงานของศูนย์ศึกษา  การพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  จะมีการนำไปจัดแสดงในพื้นที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียง  ใหม่ ในโครงการนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “60 ปีครองราชย์ ประเทศชาติพัฒนา ศูนย์ศึกษาฯ เทิดไท้” ซึ่งจัดโดย สำนักงาน กปร. ในระหว่างวันที่ 7–17 มิถุนายน 2549 ในการนี้ทางศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ จังหวัดจันทบุรี จะนำผลสำเร็จในการศึกษาและพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งที่ได้รับผลกระทบจนเกิดวิกฤติแล้วกลับฟื้นคืนมาได้ ดังกรณีของการดูแลและฟื้นฟูป่าชายเลน การเพิ่มพื้นที่หญ้าทะเล อาหารพะยูน จนพะยูนสามารถหวนกลับคืนมาอาศัย หากินได้ตามธรรมชาติ ดังเช่นเมื่อครั้งในอดีตไปจน    ถึงการหาแนวทางเพื่อการอยู่ร่วมกันระหว่างธรรมชาติสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติและชุมชนในกรณีของริมฝั่งทะเลเช่น อ่าวไทย เป็นต้น ทั้งนี้ในบริเวณพื้นที่ 17 ไร่ ภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ ซึ่งจะใช้เป็นศูนย์จัดนิทรรศการในครั้งนี้ ในส่วนของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนจะจัดไว้ในพื้นที่ของนิทรรศการถาวร รูปแบบที่มีชีวิต ภายใต้การฟื้นฟูและจัดการทรัพยากรชายฝั่งจากยอดเขาสู่ทะเลในโครงการนิทรรศ การทะเลเทียมอีกด้วย.

ที่มา  หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  วันที่ 28 พฤษภาคม 2549

บันทึกการเข้า

"ทุกวันนี้ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้ง ทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล ซึ่งสามารถนำมา ใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์และเสถียรภาพอัน ถาวรของบ้าน เมืองได้เป็นอย่างดี ข้อสำคัญจะต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด โดยมุ่งถึงประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ" ..... พระราชดำรัส
Sri_Nuan.Ray
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1327


Sri_Nuan.Ray


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2006, 03:21:20 PM »

อยากไปดู จังเลยค่ะ   จะเห็นของจริงไหมค่ะเนี่ยยยยย.... Grin
บันทึกการเข้า

ชีวิต จะเริ่มเดินทาง เมื่อผ่าน หลักสี่.....
และบอกกับตัวเองว่า..การหาความรู้เพิ่มเติมเป็นการเดินทางที่ไม่มีสิ้นสุดของชีวิต
สายชล
Moderator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 4098



ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2006, 06:01:27 PM »

 Grin

ดีใจมากที่ได้รับทราบข่าวดีนี้ค่ะ....

พี่สองสายตั้งท่าจะไปอ่าวคุ้งกระเบนมาหลายครั้ง....แต่มีเหตุอันทำให้ไม่ได้ไปสักที มีพะยูนมาล่อใจอย่างนี้ ต้องหาเวลาไปให้ได้สักครั้งหนึ่งแล้วละค่ะ
บันทึกการเข้า

Saaychol
สายน้ำ
Moderator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3501


เรารักในหลวง


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 01, 2006, 02:13:08 PM »

กปร.ฟุ้งโครงการพระราชดำริ ทำพะยูนหวนคืนอ่าวคุ้งกระเบน

 จันทบุรี:นายสมพล พันธุ์มณี เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอัน เนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้ง กระเบน จังหวัดจันทบุรีว่า อ่าวคุ้งกระเบน มีพื้นที่กว่า 4 พันไร่ ตั้งอยู่บริเวณ ต.คลองขุด อ.ท่า ใหม่ และต.สนามไชย อ.นายายอาม ทั้งนี้การจัดตั้งศูนย์การศึกษาฯนี้เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรและพัฒนา อาชีพของชาวบ้านในบริวเณชายฝั่งทะเลจังหวัดจันทบุรี เมื่อปี พ.ศ.2524

 เดิมทีพื้นที่บริเวณนี้เคยมีพะยูนอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ด้วยทรัพยากรธรรมชาติทั้งทางบก และ ทะเลถูกทำลาย ทำให้พะยูนมีจำนวนลดน้อยลง และแทบจะเรียกได้ว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว เพราะยาก แก่การพบเห็น ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวทางศูนย์ฯจึงต้องฟื้นฟูและจัดการทรัพยกรธรรมชาติที่มีอยู่เพื่อ ให้คงความยั่งยืน โดยเฉพาะหญ้าทะเลที่เป็นแหล่งอาหารของพะยูน

 นายสมพลฯ ได้เปิดเผยอีกว่า เมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมาชาวประมงอ่าวคุ้งกระ เบนได้พบพะยูนขนาดความยาว 2 เมตร น้ำหนักประมาณ 200 ก.ก.เข้ามาอาศัยและหากินใน อ่าวคุ้งกระเบน นับเป็นเรื่องที่ดีที่พะยูนได้กลับคืนสู่อ่าวฯ อีกครั้ง เพราะเป็นเวลากว่า 34 ปีแล้ว ที่ไม่มีผู้พบเห็นพะยูน หลังจากมีชาวประมงจับได้ครั้งสุดท้ายเมื่อ พ.ศ.2515 โดยเชื่อว่า การกลับมาของพะยูนในครั้งนี้เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน ประจวบเหมาะกับปีนี้เป็นปี มหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองศริรราชสมบัติครบ 60 ปี จึงกล่าวได้ว่า การกลับมาของพะยูนนี้เพื่อร่วมเฉลิมฉลองปีมหามงคลดังกล่าว

ข่าวเพิ่มเติมจาก น.ส.พ.แนวหน้ส  วันที่ 1 มิ.ย. 49

บันทึกการเข้า

"ทุกวันนี้ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้ง ทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล ซึ่งสามารถนำมา ใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์และเสถียรภาพอัน ถาวรของบ้าน เมืองได้เป็นอย่างดี ข้อสำคัญจะต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด โดยมุ่งถึงประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ" ..... พระราชดำรัส
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.026 วินาที กับ 21 คำสั่ง