Save Our Sea
พฤษภาคม 01, 2024, 02:56:19 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้งดการตั้งหรือตอบกระทู้ ขอเชิญใช้บอร์ดใหม่ที่ http://www.saveoursea.net/forums
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ช้างสาร” พ่นพิษปลาพะยูนหนัก 200 กิโลกรัม ท้องแตกตายเกยตื้น  (อ่าน 3212 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3501


เรารักในหลวง


ดูรายละเอียด อีเมล์
« เมื่อ: ตุลาคม 04, 2006, 09:37:01 AM »

“ช้างสาร” พ่นพิษปลาพะยูนหนัก 200 กิโลกรัม ท้องแตกตายเกยตื้น

        ศูนย์ข่าวศรีราชา - พายุ “ช้างสาร” พ่นพิษปลาพะยูนน้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัมท้องแตกตายเกยตื้นชายหาดกองเรือยุทธการ สัตหีบ
     
      เมื่อคืนวันที่ 2 ต.ค. เวลา 20.00 น.พลเรือเอก นพพร อาชวาคม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กองทัพเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งและรายงานจากนาวาเอก นพดล สุภากร ผู้บังคับการกรมสนับสนุน กองเรือยุทธการ ว่า ได้พบปลาพะยูนตายมาเกยตื้นชายหาดกองเรือยุทธการ ตรงข้ามหน้าบ้านพักประจำตำแหน่งผู้บัญชาการกองเรือยุทธการและนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ส่งกลิ่นเหม็น ในเบื้องต้นปลามีน้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม และมีความยาวประมาณ 2 เมตร
     
      นาวาเอก นพดล สุภากร ได้ประสานมายัง ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิโรจนธรรมสถาน สัตหีบ เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยให้ดำเนินการนำซากปลาพะยูนมาเก็บรักษาไว้ก่อนเพื่อรอการติดต่อกับกรมประมงให้มาดำเนินการตรวจสอบซากปลาพะยูน ในเบื้องต้นพบว่าบริเวณท้องของปลาพะยูนมีบาดแผลขนาดใหญ่ น่าจะตายมาแล้วประมาณ 2 วัน และยังไม่ทราบว่าถูกปลาฉลามกัดหรือไม่ หรือว่าถูกใบพัดเรือประมงในทะเล และได้ถูกคลื่นซัดเข้ามาในอ่าวกองเรือยุทธการ
     
      ได้รับการเปิดเผยจาก พลเรือตรี ชัยวัฒน์ เอี่ยมสมุทร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ อำเภอสัตหีบ ว่า ในระยะเวลาที่ผ่านมาในอ่าวหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ซึ่งเป็นอ่าวติดต่อระหว่างกองเรือยุทธการ ด้านหน้าศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือ ซึ่งหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งเป็นผู้ดูแลได้พบว่ามีปลาพะยูน 2 ตัว เข้ามากินหญ้าและวนเวียนอยู่บริเวณอ่าวอยู่เป็นประจำ ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ส่วนปลาพะยูนที่พบว่าตายเกยตื้นน่าจะเป็นปลาพะยูนตัวเดียวกับที่เข้ามาวนเวียนอยู่ในอ่าวหน้าศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล อย่างแน่นอน
     
      ส่วนสาเหตุที่ปลาพะยูนเข้ามาเกยตื้นแล้วตายนั้นคงเกิดมาจากสาเหตุที่ขณะนี้มีคลื่นลมแรง มีฝนตกอยู่อย่างต่อเนื่อง และสืบเนื่องมาจากพายุช้างสารด้วย


บันทึกการเข้า

"ทุกวันนี้ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้ง ทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล ซึ่งสามารถนำมา ใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์และเสถียรภาพอัน ถาวรของบ้าน เมืองได้เป็นอย่างดี ข้อสำคัญจะต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด โดยมุ่งถึงประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ" ..... พระราชดำรัส
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.105 วินาที กับ 22 คำสั่ง