Save Our Sea
เมษายน 29, 2024, 08:55:16 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้งดการตั้งหรือตอบกระทู้ ขอเชิญใช้บอร์ดใหม่ที่ http://www.saveoursea.net/forums
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โลมาสีชมพูทะเลขนอมวิกฤต  (อ่าน 3669 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3501


เรารักในหลวง


ดูรายละเอียด อีเมล์
« เมื่อ: สิงหาคม 15, 2006, 04:16:14 PM »

โลมาสีชมพูทะเลขนอมวิกฤต ป่วยเป็นโรคปอดตายปีละ30 ตัว



เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ร่วมกับสายการบินนกแอร์ และ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช จัดแถลงข่าวกิจกรรมอนุรักษ์โลมาทะเลขนอมและเกาะกระ น้อมเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยนายสมชัย เพียรสถาพร รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะรักษาการอธิบดี ทช.กล่าวว่า จากการที่ ทช.ส่งนักวิจัยเข้าไปเก็บข้อมูลโลมาสีชมพูหรือโลมาหลังโหนก พบข้อมูลที่น่าสนใจคือ เป็นสัตว์ประจำถิ่นในทะเลขนอมอาศัยอยู่ตลอดทั้งปี หากระบบนิเวศชายฝั่งทะเลยังอุดมสมบูรณ์ก็ไม่น่าห่วง แต่ถ้าระบบนิเวศชายฝั่งทะเลเสื่อมลง วันข้างหน้าโลมาหลังโหนกกลุ่มนี้อาจจะอพยพหนีไปอยู่ที่อื่นได้

นายสมชัยกล่าวว่า ที่เกาะกระ อ.ขนอม ยังมีแหล่งอนุรักษ์เต่าทะเล และแหล่งปะการังแห่งใหม่ที่อุดมสมบูรณ์ มีพื้นที่แนวปะการังทั้งหมด 263 ไร่ อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ค่อนข้างสูง นอกจากนี้ยังมีเต่าตนุขึ้นมาวางไข่กว่า 100 รัง เมื่อกลางปีที่ผ่านมา พบไข่เต่าตนุออกเป็นตัว 93 ตัว ปล่อยลงทะเลไป 54 ตัว นำไปอนุบาลที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง 39 ตัว อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า มีคนบางกลุ่มพยายามเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์อย่างเห็นแก่ตัวเช่น ลักลอบนำอวนลากอวนรุนรวมทั้งอวนที่มีตาถี่เข้าไปลักลอบจับสัตว์น้ำ ทำให้ปะการังเสียหาย ปลากะตักซึ่งเป็นอาหารของโลมาร่อยหรอลงมาก จึงสั่งการให้เรือลาดตระเวนชายฝั่งเฝ้าและกวดขันกับเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา กิจกรรมอนุรักษ์ครั้งนี้จะทำความสะอาดหาด วางทุ่นผูกเรือในเขตปะการัง ปลูกไม้ป่าชายเลน เก็บขยะใต้ทะเล จัดค่ายเยาวชนสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทะเลซึ่งจะทำอย่างต่อเนื่อง

นายสุพจน์ จันทรศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน ทช.กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลเพื่อทำวิจัยโลมาหลังโหนก ตั้งแต่พื้นที่ทะเลดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ถึงทะเลสาบสงขลา เป็นเวลา 2 ปี พบว่ามีโลมา 2 ชนิดคือ โลมาหลังโหนกและโลมาอิระวดี โดยเฉพาะในพื้นที่ทะเลขนอมพบว่า มีโลมาหลังโหนก 3 ฝูงๆละ 3-5 ตัว มี 1 ฝูง หากินอยู่บริเวณหน้าเกาะกระ ช่วงเช้ามักจะออกมาว่ายน้ำเล่นและหาอาหารบริเวณหน้าชายหาด

"โลมาหลังโหนกนี้มีอายุไข 50-60 ปี แรกเกิดจะมีสีเทาเมื่อโตขึ้นเรื่อยๆ ผิวจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นจางลงและเมื่ออายุ 10 ปีขึ้นไปผิวจะเริ่มกลายเป็นสีขาวอมชมพู ตัวไหนมีสีขาวอมชมพูจัดแสดงว่าอายุมาก ตัวเต็มวัยยาวถึง 2.3 เมตร หนัก 150-200 กิโลกรัม ปากเรียวยาว ครีบหลังมีฐานครีบกว้างเกือบ 1 ใน 3 ของหลัง นิสัยค่อนข้างระมัดระวัง ไม่ชอบว่ายน้ำเข้าใกล้ หรือนำหน้าเรือ แต่ชอบตะแคงตัวว่ายน้ำและหางตีน้ำ โลมากลุ่มนี้น่าเป็นห่วงเพราะระบบนิเวศชายฝั่งเสื่อมลงจากกิจกรรมของมนุษย์ แต่ละปีนั้นมีโลมาและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั้งอ่าวไทยและอันดามันป่วยเป็นโรคปอดจำนวนมาก บางตัวว่ายมาเกยตื้น ชาวบ้านเก็บมาให้ทางศูนย์รักษาตายบ้าง รอดบ้าง แต่ส่วนใหญ่ตาย ปีละประมาณ 20-30 ตัว" นายสุพจน์กล่าว


********************************************
ที่มา : น.ส.พ.มติชน ฉบับวันที่ 15 สิงหาคม 2549

บันทึกการเข้า

"ทุกวันนี้ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้ง ทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล ซึ่งสามารถนำมา ใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์และเสถียรภาพอัน ถาวรของบ้าน เมืองได้เป็นอย่างดี ข้อสำคัญจะต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด โดยมุ่งถึงประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ" ..... พระราชดำรัส
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.056 วินาที กับ 21 คำสั่ง