Save Our Sea
เมษายน 27, 2024, 03:52:04 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้งดการตั้งหรือตอบกระทู้ ขอเชิญใช้บอร์ดใหม่ที่ http://www.saveoursea.net/forums
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ปลิงทะเลไม่ได้กินทราย  (อ่าน 9148 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3501


เรารักในหลวง


ดูรายละเอียด อีเมล์
« เมื่อ: ตุลาคม 18, 2006, 07:56:54 AM »



ปลิงทะเลไม่ได้กินทราย คำตอบจาก 2 หนุ่มเมืองตรัง    :  คอลัมน์ ไอคิวทะลุฟ้า


ภาสุ กูมุดา และนพรัตน์ ช่วยจันทร์
 
ครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้...ชาวประมงที่เกาะมุกด์ จ.ตรัง เชื่อว่าปลิงทะเลกินทรายเป็นอาหาร แต่ผลจากการศึกษาค้นคว้าของนักเรียนโรงเรียนบ้านเกาะมุกด์ได้ปฏิเสธความเชื่อนั้นด้วยกระบวนการและวิธีคิดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์

สืบเนื่องจากโครงการ GLOBE (Global Learning and Observations to Benefit the Environment) ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้จัดการประชุมวิชาการนานาชาติเกี่ยวกับทรัพยากรชายฝั่งทะเล "The Exploration of Marine Coastal Resources Symposium" ที่จ.ภูเก็ต เมื่อไม่นานนี้

ในงานนี้มีนักเรียนจากเกาะมุกด์ จ.ตรัง ได้แก่ นายภาสุ กูมุดา และนายนพรัตน์ ช่วยจันทร์ ชั้นม.2 โรงเรียนบ้านเกาะมุกด์ ซึ่งเป็นโรงเรียนในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน มานำเสนองานวิจัยด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีคุณครูชัย แก้วหนัน เป็นที่ปรึกษา

พวกเขาเล่าว่าวันหนึ่งเด็กๆ กลุ่มนี้ออกหาปลากับชาวประมงและจับปลิงทะเลมาได้ 1 ตัว ซึ่งรู้สึกว่าน่าสนใจมาก ก็เลยสังเกตดู พบว่าปลิงทะเลนั้นเหมือนไส้เดือนตัวอ้วนๆ มีผิวหนังหนาและขรุขระ และจะหดตัวลงเมื่อถูกสัมผัส



ชาวประมงบอกพวกเด็กๆ ว่าเขาพบมันในซอกหินที่มีความลึกประมาณ 1.5 เมตร มันอาศัยอยู่ในที่มืดๆ ใช้ซอกหินกำบังแสงสว่าง แต่ปลิงทะเลนั้นได้ราคาดี โดยเฉพาะปลิงส้ม เพราะหลายคนเชื่อว่าเป็นยาบำรุงกำลัง

ปลิงทะเลที่ชาวบ้านหาได้นั้นจะอยู่ทางตอนเหนือ ตะวันตก และตอนใต้ของเกาะมุกด์ แต่ปัจจุบันกลับลดจำนวนลงเรื่อยๆ พวกเด็กๆ สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากการที่พวกมันกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจและถูกจับไปขายมากเกินไป หรืออาจจะเป็นผลกระทบมาจากเหตุการณ์สึนามิ และก็แปลกใจสงสัยว่าสึนามิทำให้ปลิงทะเลลดจำนวนลงได้อย่างไร

นายนพรัตน์ ช่วยจันทร์ เล่าว่า "ผมพบว่าการจับปลิงทะเลแต่ละตัวได้นั้นมันยากมาก และสงสัยว่าถ้าสัตว์ชนิดนี้ขายได้ราคาดีทำไมถึงไม่ลองเพาะเลี้ยงมัน จึงลองจับปลิงทะเลใส่ขวดโหลแล้วใส่น้ำทะเลลงไป แต่ไม่ได้ให้อาหารอะไรเลย เพราะยังไม่ทราบว่าปลิงทะเลกินอะไรเป็นอาหาร ชาวประมงบอกว่าปลิงทะเลกินทราย แต่ก็ไม่เชื่อครับ หลังจากนั้น 2 วันมันก็ตาย จึงเกิดคำถามตามมาว่าทำไมมันถึงตาย มันกินอะไรเป็นอาหาร และมันต้องการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ประกอบด้วยอะไรบ้าง"



ต่อไปจึงเกิดกระบวนการค้นหาคำตอบ คุณครูแนะให้ค้นคว้าทางอินเทอร์เน็ตและหนังสือต่างๆ ในอินเตอร์เน็ตได้ให้คำตอบว่าปลิงทะเลไม่ได้กินทรายเป็นอาหาร แต่กินวัตถุอินทรีย์หรือสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในทรายต่างหาก โดยทรายนั้นมีส่วนสำคัญในการย่อยสลายหรือบดวัตถุอินทรีย์เหล่านั้นให้มีขนาดเล็กลงพอเหมาะแก่การกินเท่านั้น

ส่วนในด้านสภาพแวดล้อม จากการศึกษาในอินเตอร์เน็ตพบว่าปลิงทะเลอาศัยอยู่ในทะเลลึกและในน้ำตื้นด้วย โดยมักจะอาศัยอยู่ในทราย ปะการังและหญ้าทะเล ส่วนข้อสงสัยเกี่ยวกับอุณหภูมิและความเค็มของน้ำทะเลที่เหมาะสมนั้นพวกเขายังคงค้นหาต่อไป

พวกเขาได้คำตอบว่า มันยากที่จะจำลองสภาพแวดล้อมให้เหมือนกับธรรมชาติให้เหมาะสมกับปลิงทะเลได้ เพราะเป็นสิ่งที่ซับซ้อนควบคุมยาก แต่สิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับการศึกษาครั้งนี้ก็คือพวกเขาได้เรียนรู้และเข้าใจปลิงทะเลมากยิ่งขึ้นทั้งจากชาวประมง จากการสังเกต และจากอินเตอร์เน็ต

และการศึกษาครั้งนี้จุดประกายความสนใจในการศึกษาเกี่ยวกับทรัพยากรชายฝั่งทะเลให้แก่เด็กทั้งสองมากขึ้น

"ผมตั้งใจจะเรียนรู้ศึกษาวิจัยต่อยอดเกี่ยวกับทรัพยากรชายฝั่งทะเลเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ ในทุกระดับชั้นการศึกษาทั้งในระดับมัธยมศึกษาและระดับอุดมศึกษาครับ" นายภาสุ กูมุดากล่าว

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ GLOBE คลิกดูได้ที่เว็บไซต์ สสวท. www.ipst.ac.th

หมายเหตุ :  ปลิงทะเลพบได้ตั้งแต่ชายหาดไปจนถึงก้นทะเล ชนิดที่รู้จักดีคือปลิงดำตามพื้นทรายที่ตื้น หากบังเอิญไปถูกตัวปลิงทะเลจะพ่นสารสีขาวเหนียวออกมา สารพวกนี้หากเข้าตาอาจบอดได้ ปัจจุบันปลิงทะเลในเมืองไทยกำลังจะสูญพันธุ์ เพราะถูกจับไปต้มแล้วตากแห้งก่อนส่งขาย


---------------------------------------------------------------

จาก :  ข่าวสด  วันที่ 18 ตุลาคม 2549

บันทึกการเข้า

"ทุกวันนี้ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้ง ทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล ซึ่งสามารถนำมา ใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์และเสถียรภาพอัน ถาวรของบ้าน เมืองได้เป็นอย่างดี ข้อสำคัญจะต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด โดยมุ่งถึงประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ" ..... พระราชดำรัส
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.022 วินาที กับ 21 คำสั่ง