เต่าทะเลใกล้หมด งัดกฎหมายคุมเข้ม

[สายน้ำ]

เต่าทะเลใกล้หมด งัดกฎหมายคุมเข้ม

เร่งงัดกฎเหล็กป้องกันเต่าทะเลสูญพันธุ์ จัดหาที่อยู่แห่งใหม่พร้อมเอาผิดผู้ฝ่าฝืนขั้นเด็ดขาด โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ในการประมง ทำให้เต่าลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว

นายสำราญ รักชาติ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  เปิดเผยว่า สถานการณ์เต่าทะเลไทยในปัจจุบันพบว่ามีแนวโน้มลดลง ทั้งที่เต่าเป็นสัตว์ทะเลที่หายาก  โดยสาเหตุเกิดจากมีการทำประมงมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีชาวประมงได้นำเทคโนโลยีการจับสัตว์หลายประเภทมาใช้  เช่น  อวนลาก  อวนลอย เบ็ดราว ซึ่งส่งผลให้เต่าทะเลจมน้ำตายได้

นอกจากนี้ยังพบปัญหาการลักลอบเก็บไข่เต่าทะเลเพื่อการบริโภค  แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้มีการร่วมมือกันอนุรักษ์ไข่เต่าทะเล   โดยมีการสนับสนุนทั้งภาครัฐและเอกชน แต่ยังมีชาวบ้านบางกลุ่มที่ยังมีการลักลอบเก็บไข่เต่าอยู่ นอกจากนี้ยังพบการบุกรุกพื้นที่อาศัย ซึ่งถือเป็นการบุกรุกแหล่งวางไข่  เพื่อก่อสร้างที่อยู่อาศัยและการเพิ่มจำนวนของสิ่งก่อสร้าง  การขยายตัวของแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ การถ่ายเทของเสียสู่ชายฝั่งก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เต่าทะเลไม่สามารถกลับมายังแหล่งวางไข่ได้อีก

ดังนั้นกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจึงได้จัดทำโครงการอนุรักษ์เต่าทะเล โดยเฉพาะเต่าตนุ ได้มีการสำรวจเกาะเพื่อจัดทำเป็นที่วางไข่ของเต่าทะเล ซึ่งพบว่าในพื้นที่เกาะกระ  จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์และจะนำมาใช้เป็นที่วางไข่ของเต่าทะเลต่อไป  ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวจะห้ามไม่ให้มีการรบกวนการวางไข่ และเพื่อเป็นการอนุรักษ์ให้เต่าทะเลคงอยู่กับประเทศไทย จะมีการนำกฎหมายว่าด้วยการอนุรักษ์เต่าทะเลขึ้นมาใช้ดำเนินการกับผู้ที่ฝ่าฝืน ตาม พ.ร.บ.การประมง พ.ศ. 2490 ห้ามมีการดัก จับ ล่อ หรือทำอันตรายเต่าทะเลทุกชนิด รวมทั้งไข่ทะเล     

นอกจากนี้ยังมี พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 กำหนดให้เต่าทะเลเป็นสัตว์คุ้มครอง ห้ามมีเต่าไว้หรือซากเต่าไว้ในครอบครอง รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากเต่าทะเลไว้ในครอบครองเพื่อการค้า ตลอดจนห้ามมีการส่งออกนอกราชอาณาจักรด้วย.


จาก   :   X-cite  ไทยโพสต์  วันที่ 10 พฤศจิกายน 2549

[สายน้ำ]

ทช. งัดกฎเหล็กป้องเต่าทะเลสูญพันธุ์ เร่งจัดหาที่อยู่แห่งใหม่

      นายสำราญ รักชาติ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยว่าสถานการณ์เต่าทะเลไทยในปัจจุบัน พบว่ามีแนวโน้มลดลงทั้งที่เต่าทะเลเป็นสัตว์ที่หายาก โดยสาเหตุเกิดจากการทำประมงมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันชาวประมงได้นำเทคโนโลยีการจับสัตว์หลายประเภทมาใช้ เช่น อวนลาก อวนลอย เบ็ดราว ซึ่งส่งผลให้เต่าทะเลจมน้ำตาย..

          และรณรงค์ให้ร่วมมือกันอนุรักษ์ไข่เต่าทะเล โดยมีการสนับสนุนทั้งภาครัฐและเอกชน แต่ยังมีชาวบ้านบางกลุ่มที่ยังมีการลักลอบเก็บไข่เต่าอยู่ นอกจากนี้ยังพบพื้นที่อาศัยซึ่งถือเป็นการบุกรุกแหล่งวางไข่ เพื่อก่อสร้างที่อยู่อาศัยและการเพิ่มจำนวนของสิ่งก่อสร้าง การขยายตัวของแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ การถ่ายเทของเสียสู่ชายฝั่ง ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เต่าทะเลไม่สามารถกลับมายังแหล่งวางไข่ได้อีก

          ดังนั้น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงได้จัดทำโครงการอนุรักษ์เต่าทะเล โดยเฉพาะเต่าตนุ โดยได้มีการสำรวจเกาะเพื่อจัดทำเป็นที่วางไข่ของเต่าทะเล ซึ่งพบว่าในพื้นที่เกาะกระ จ.นครศรีธรรมราช ยังเป็นพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ และจะนำมาใช้เป็นที่วางไข่ของเต่าทะเลต่อไป

          ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวจะห้ามไม่ให้มีการรบกวนการวางไข่ และเพื่อเป็นการอนุรักษ์ให้เต่าทะเลคงอยู่กับประเทศไทย จะมีการนำกฏหมายว่าด้วยการอนุรักษ์เต่าทะเลขึ้นมาใช้ดำเนินการกับผู้ที่ฝ่าฝืน ตาม พ.ร.บ.การประมง พ.ศ. 2535 กำหนดให้เต่าทะเลเป็นสัตว์คุ้มครอง รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากเต่าทะเลไว้ในครอบครองเพื่อการค้าตลอดจนห้ามมีการส่งออกนอกราชอาณาจักรด้วย

 
จาก   :   www.dmcr.go.th  ของ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  วันที่ 14 พฤศจิกายน 2549