ตลุย..swiss กัน 2 คน [เอกสาร]

นาย

17-10-2010, 03:20

ขอแนะนำสถานที่น่าเที่ยวสำหรับกรุง bern เนื่องจากวันแรกที่เดินมาถึง เราเดินทางมุ่งสู่ กรุง bern เลย สถานที่แรกคือ อาคารรัฐสภา bundesshaus อาคารรัฐสภานี้ไม่มีรั้วรอบขอบชิดเหมือนทั่วๆไป แต่ตั้งเด่น ริมถนน มีลานด้านหน้าสำหรับ นั่งอาบแดดและยังเป็นตลาดสด ขายผลไม้ ดอกไม้และของต่างๆ ภายในอาคารเปิดให้ชมได้ ตั้งแต่ เวลา 0900 - 1600 ทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์และเมื่อเปิดสมัยการประชุม ...ไม่เสียค่าใช้จ่าย

นาย

17-10-2010, 03:45

...สถานที่ต่อไปคือ หอนาฬิกาดาราศาสตร์ Zeitglockenturm อยู่ปลายถนน Marktgasse สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1530 โดยตัวเข็มที่เป็นเดือนและดาวจะเป็นตัวบอกเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตก และเวลาในหนึ่งวัน สำหรับนาฬิกาเล็กสีแดง จะบอกเกี่ยวกับ จักรราศรี วันที่และสัปดาห์
จุดเด่นของนาฬิกานี้ คือ ตุ๊กตาหมีแบบต่างๆที่จะออกมาเต้นระบำทุกๆ 1 ชั่วโมง ..

koy

17-10-2010, 06:31

เสื้อ sos ออกท่องโลกอีกแล้ว หนนี้ข้ามทวีปเลย รอดูรูปเพิ่มเติมอยู่นะครับพี่จุ๋มพี่นาย

สายน้ำ

17-10-2010, 07:51

Super_Srinuanray

17-10-2010, 08:20

หูยยยอิจฉาพี่สองคนจัง ไปฮันนีมูนรอบที่ 20 ล่ะ..
ชอบๆๆ รอดูรูปอีกค่ะ..

สายชล

17-10-2010, 09:08

อู้ยยยยย....ขอกรี๊ดดังๆหน่อย......

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด.......

สวีทหวานแหววที่เมืองสวิส....น่ารักมากๆค่ะ โดยเฉพาะท่าโพสกับเสื้อ sos เห็นแล้วเป็นปลื้มมมม....

อิๆ...อยากให้ลูกน้องของน้องนายมาเห็นภาพเหล่านี้จริงๆเลยค่ะ....;)

นาย

17-10-2010, 09:28

น่ารัก สวีท หวานแหววมากครับ จนกลัวว่า หิมะจะกลายเป็นสีชมพู

ภาพน้องจุ๋มใน #2 ผมขออนุญาตปรับให้เป็นแนวตั้งหน่อยนะครับ เพราะขืนปล่อยให้น้องจุ๋มยืนตะแคงอยู่แบบนั้นนานๆ อาจจะปวดหัวได้

และที่สงสัยคือ ทำไมแต่ละโพสต์ของน้องนายถึงได้ใช้ช่วงเวลาห่างกันจัง .... #1 เวลา 1:57, #2 เวลา 3:20, #3 เวลา 3:45 และ #4 เวลา 6:31

พี่จ๋อมครับ...วันนี้เป็นวันที่ 6 แล้ว(16/10/10)อยู่ที่ Lausanne เพิ่งจะมีเวลาใช้ net เลยเอารูปย้อนหลังค่อยๆทะยอยมา และก็เป็นมือใหม่ในการ post นั่งปรับรูปตะแคงให้ตั้งตรงไม่ได้ทั้งคืน ยังไงพี่จ๋อมช่วยหน่อยครับ....และทำไมรูป load นานจังครับ..:confused::)

สายชล

17-10-2010, 09:35

แสดงว่าน้องนายและน้องจุ๋มยังอยู่ที่สวิสที่ Internet ไม่ Hi-speed แน่ๆเลยค่ะ....

ขอให้น้องทั้งสองเที่ยวต่อให้สนุก และเราจะรอคอยดูภาพหวานๆของน้องต่อนะคะ....(เดี๋ยวถ้า post ภาพ มีปัญหาอีก พี่สองสายจะช่วยแก้ให้ค่ะ)

นาย

17-10-2010, 10:04

ถนนสายชอบปิ้งที่ยาวที่สุดในโลก..หลังจากชมอาคารรัฐสภาเดินมาจุดตัดที่ถนน Spitalgasse กับถนน Marktgasse พบบ่อนำ้พุที่ถูกประดับด้วยรูปปั้นสวยงาม บอกเรื่องราวต่างๆไว้ ย่านชอบปิ้งนี้มีชื่อเสียงมากอยู่ในย่านเมืองเก่า รวมระยะทางแล้วประมาณ 6 กม.

blue day

17-10-2010, 19:18

ซาาาาาาวี๊ดดดดดด สวีทททททททท:d:D

นาย

18-10-2010, 02:02

...บ่อหมี (Bear Pits) เยอรมันเรียกว่า Barengraben ชื่อเมืองมาจากคำว่า Baํr ซึ่งแปลว่าหมีในภาษาเยอรมัน หมีเป็นสัญญลักษณ์ของกรุงเบิร์น ตามตำนานเล่าขานกันว่า ดยุคเบิร์นโทลด์ที่ ๕ (Duke Berchtold V) แห่งซาห์ริงเงน ( Zahringen) ผู้สร้างเมืองเบิร์น ได้เสด็จไปล่าสัตว์และดำริว่าจะตั้งชื่อเมืองตามชื่อสัตว์ตัวแรกที่ทรงพบและฆ่าได้สำเร็จ...และสัตว์ที่พระองค์ได้พบก็คือหมีผู้โชคร้ายตัวนั้น..และพระองค์ได้ ต่อสู้กับหมีและฆ่าหมีดุตัวนั้นอย่างกล้าหาญ เมื่อปี ค.ศ. ๑๑๙๑ จึงตั้งชื่อเมืองใหม่นี้ว่า Baํr และใช้รูปหมีเป็นสัญลักษณ์ของเมือง บ่อหมีได้รับการก่อสร้างมาตั้งแต่ตอนปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๕ แต่ถูกย้ายไปอยู่ในที่ต่าง ๆ จนครั้งล่าสุดย้ายมายังที่อยู่ปัจจุบันเมื่อปี ค.ศ. ๑๘๕๗ บ่อหมีมาตั้งอยู่ใกล้สะพาน Kirchenfeldbruํํcke และตั้งแต่ปี ค.ศ. ๑๙๙๖ เป็นต้นมามีการจำกัดจำนวนหมีในบ่อไว้เพียง ๕ ตัวเท่านั้น เหตุผลเพื่อสุขภาพของหมีที่ถูกขังอยู่ในบ่อแคบ ๆ

นาย

18-10-2010, 03:17

สถานที่น่าชมอีกแห่งในกรุงbern ที่อยากจะแนะนำก็คือ มหาวิหาร Munํster มหาวิหารนี้ใช้เวลาสร้างนานถึง ร้อยปีเศษ กว่าจะสร้างเสร็จ จุดเด่นของมหาวิหารแห่งนี้อยู่ที่กระจกสี Stain Glass ที่นำมาตกแต่ง ประดับประดาภายในตามหน้าต่างและช่องแสงเหนือบานประตูวิหาร ด้านหน้าโบสถ์มีภาพเกี่ยวกับ การตัดสินหลังความตาย ว่าจะไปที่ใดใน(นรก หรือ สวรรค์) ถ้าในศาสนาพุทธก็คือ ๓๑ ภูมิ มีความเชื่อในลักษณะเดียวกัน สรุปคือ ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ทุกศาสนามีสิ่งที่เหมือนกันก็ คือ มีเรื่องของ ศีล สมาธิ เหมือนกันทุกศาสนา แต่พุทธของเราจะเพิ่มในเรื่องของปัญญา และโบสถ์แห่งนี้มีหอคอยหรือจุดชมวิว ชมกรุงbern ซึ่งมีความสง่างามของเมืองโบราณยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จนได้รับเกียรติขึ้นบัญชี ให้เป็นมรดกโลก....

นาย

18-10-2010, 03:33

...ขึ้นชมวิว กรุงBern เมืองมรดกโลก

นาย

18-10-2010, 03:51

...จาก Bern เดินทางต่อไปยัง Interlaken โดยรถไฟและพักที่ Interlaken 3 คืน แต่ถึง Interlaken ช่วงประมาณ 4 โมงเย็น ทำให้มีเวลาพอที่จะขึ้นเขา HARDER KULM ซึ่งเป็นจุดชมวิวเมือง Interlaken

นาย

18-10-2010, 04:05

...ชมวิวบน Harder Kulm,เมือง Interlaken เป็นเมืองที่อยู่ระหว่าง ทะเลสาบ BRIENZERSEE กับทะเลสาบ THUNERSEE (inter = ระหว่าง,laken = ทะเลสาบ )

นาย

18-10-2010, 04:10

....วันรุ่งขึ้นเตรียมเดินทาง..สู่ยอดเขา Jungfrau

ตุ๊กแกผา

18-10-2010, 09:08

อยากจะร้องดังๆ.......อิจฉามากกกกกกกก รูปสวยจังเลยค่ะพี่นาย พี่จุ๋มขา

ต่อมอิจฉาทำงาน ตาร้อนผ่าวๆๆๆๆๆๆ....อยากไปๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

.....ยืนรอ นั่งรอ นอนรอชมอยู่ค๊าบบบบบบบ

angel frog

18-10-2010, 09:10

วัยรุ่น วัยสวีท ......
เที่ยวสนุกไหม คอยดูรูปต่อ นะค่ะ ..น่ารักทั้งคู่เลย

Udomlert

18-10-2010, 09:26

Happy Anniversary ครับ ขอให้มีความสุขมากๆ
รูปภาพงาม ข้อมูลแน่นเอี้ยด
ครบรอบ 20 ปี ของผมก็ใกล้แล้ว

สายชล

18-10-2010, 10:25

ภาพสวยมากๆค่ะ....น้องนายน้องจุ๋ม....;)

เห็นมุมมองของตากล้องแล้ว....อยากให้ถือกล้องลงน้ำจังเลยค่ะ...

นาย

18-10-2010, 10:46

ภาพสวยมากๆค่ะ....น้องนายน้องจุ๋ม....;)

เห็นมุมมองของตากล้องแล้ว....อยากให้ถือกล้องลงน้ำจังเลยค่ะ...

มือสมัครเล่นครับพี่น้อยใช้กล้อง Compact ธรรมดา G10 กดชัดเตอร์อย่างเดียว

สายชล

18-10-2010, 15:52

มุมมองของภาพหรือมุมกล้องนั้น....ไม่เกี่ยวกับว่าภาพที่ได้ออกมานั้นจะได้มาจากกล้องชนิดไหนหรอกค่ะน้องนาย แต่ขึ้นอยู่กับตัวตากล้องโดยตรงต่างหากนะคะ....:)

นาย

19-10-2010, 03:23

....วันที่ 2 ของการตลุย swiss คือ Jungfraujoch และ Grindelwald ..... Jungfraujoch ได้ ชื่อว่าเป็นจุดสูงสุดในยุโรป เพราะเป็นที่ตั้งของ สถานีรถไฟ และ ที่ทำการไปรษณีย์ ที่สูงที่สุดในยุโรป การขึ้นเขาไปชมยอดเขาที่ ปกคลุมด้วยหิมะเหล่านี้เป็นไฮไลต์ของการมาเยือน swiss ความสวยงามตามธรรมชาติของเขาแห่งนี้เป็นยอดเขาที่มี ชื่อเสียง มากกว่ายอดเขาทุกแห่ง ในประเทศและเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก ดังจะเห็นได้ว่า มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมมากกว่าปีละ 500,000 คน รัฐบาลสวิส ทำการสร้างทางรถไฟสาย Jungfraubahn ขึ้นเขาไปสู่ยอดJungfraujoch มาตั้แต่ปี ค.ศ. 1912 ซึ่งจะครบ 100 ปี แห่งการก่อสร้าง ในปี 2012 ซึ่งได้ทำบอร์ดเวลานับถอยหลังไว้ หลายจุดบนอาคาร.. (ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 16 ปี และใช้งบประมาณก่อสร้างมากถึง 15 ล้านฟรังก์สวิส) จุดที่ตั้งของอาคารทีี่ทำการต่างๆ อยู่ที่ระดับความสูง 3,454 เมตร จุดสูงสุดบนยอดเขาJungfrau อยู่ที่ความสูง 4,158 เมตรเหนือระดับนำ้ทะเล อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีตำ่กว่า 0 องศา
.....จุดที่น่าชมบนJungfraujoch ได้แก่ ห้องแสดงนิทรรศการประวัติการสร้างรถไฟขึ้นมายอดJungfraujoch Ice Palace(ถำ้นำ้แข็ง) ที่สร้างขึ้น โดยเจาะธารนำ้แข็งเข้าไปและแกะสลักนำ้แข็ง เป็นรูปต่างๆประดับไว้ทั่วปราสาท ,Plateau (ลานชมวิวยอดเขา) จุดนี้ให้ออกไปชมทิวทัศน์ของทะเลภูเขารอบตัว , Sphinx Viewpoint หรือ Sphinx Terrace เป็นชานชาลาที่ยกพื้นยื่นออกไปเหนือธารนำ้แข็งอเลต์ ซึ่งใกล้กับชานชาลาจะมีทางออกไปสู่ธารนำ้แข็งยาว ที่สุดในโลก 23 กม.ซึ่งยูเนสโกขึ้นบัญชีธารนำ้แข็งแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกด้านธรรมชาติของสวิส

นาย

19-10-2010, 03:31

...Ice Palace(ถำ้นำ้แข็ง)และPlateau (ลานชมวิวยอดเขา)

นาย

19-10-2010, 03:44

....Grindelwald ....เป็นเมืองที่มีภูมิประเทศสวยงามมาก ประกอบด้วยภูเขาสูง ทุ่งหญ้า ธารนำ้แข็ง และบ้านชนบทแบบสวิสที่ปลูกลดหลั่นอยู่ตามไหล่เขา ภาพชนบทของGrindelwald เป็นภาพสัญญาลักษณ์หนึ่งของ swiss

นาย

19-10-2010, 14:53

....วันที่ 3 ของการตลุย คือ เมือง Luzern และยอดเขา Pilatus เมือง Luzern นี้ (ฝรั่งเศส และ อังกฤษเรียกว่า Lucerne)ตั้งอยู่ตรงปากแม่นำ้ Reuss ซึ่งไหลลงสู่ทะเลสาบLuzern เมือง Luzern นี้มีประวัติที่เกี่ยวข้องกับ swiss มานานมาก สถานที่ท่องเที่ยวในLuzern ...สะพานไม้ชาเปล (Kapellbruํcke หรือ Chapel Bridge) สะพานไม้อายุเกือบ 700 ปีนี้เป็นสะพานที่มีหลังคาคลุมที่ทอดข้ามแม่นำ้รอยด์ มีจุดเด่นคือภาพเขียนบนคานไม้ใต้หลังคาตลอด ความยาวของสะพานเป็นภาพเขียนฝีมือจิตรกร Heinrich Wagmann บอกเล่าความเป็นมาของท้องถิ่นและเหตุการณ์สำคัญของประเทศ,.. นอกจากสะพานไม้แล้ว ยังมี ..สิงโตแห่งLuzern สัญญลักษณ์ของLuzern ที่มีชื่อเสียง เป็นหินแกะสลักเป็นรูปสิงโตต้องหอกบาดเจ็บนอนอยู่ในถำ้ อนุเสาวรีย์นี้เป็นของขวัญจากรัฐบาล ฝรั่งเศสมอบให้swiss เพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารรับจ้างชาวสวิสที่เสียชีวิต ในระหว่างการปฎิวัติในฝรั่งเศส,..การท่องเที่ยวนอกLuzern ชมวิวบนเขาPilatus และนั่งรถไฟที่ชันที่สุดในโลก

ตุ๊กแกผา

19-10-2010, 17:33

สวยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ:d:d:d

Kungkings

19-10-2010, 17:52

สั้นๆ ได้ใจความ.....อิจฉา... อิอิ

นาย

21-10-2010, 08:26

...ชมวิวเขาPilatus....

นาย

21-10-2010, 09:17

..การเดินทางขึ้นชมวิวบนเขา Pilatus จาก Luzern สามารถขึ้นได้ 2 ทางคือ ทางรถไฟที่ชันที่สุดในโลก หรือ ทางกระเช้าก็ได้..... ขาขึ้นเราเลือกที่จะขึ้นกระเช้า..ขาลงนั่งรถไฟที่ชันที่สุดในโลกและนั่งเรือกลับ Luzern....

นาย

24-10-2010, 07:54

....วันที่ 4 ของการตลุย คือ เมือง Zermatt และยอดเขา Matterhorn .....เมือง Zermatt เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเมื่อประมาณ 200 ปี เป็นเมืองปลอดมลพิษ ตั้งอยู่เชิงเขา Matterhorn ยอดเขาสัญลักษณ์ของswiss นักท่องเที่ยวที่ขับรถมาจะต้องจอดรถไว้ที่เมือง Taํํsch หรือ Visp แล้วนั่งรถไฟต่อเพื่อมายัง เมือง Zermatt จะมีรถ Taxi ไฟฟ้า และรถม้าไว้บริการนักท่องเที่ยว ทำให้เมืองแห่งนี้คงมีอากาศที่สดชื่น ปราศจากมลพิษอยู่ตลอดไป

สายชล

24-10-2010, 08:06

ยอดเขา Matterhorn สวยสง่า น่าเกรงขามจริงๆค่ะ....:)

น้องนายและน้องจุ๋ม ดูมีความสุขสดชื่นรื่นรมย์มาก ซึ่งคงเป็นผลจากการได้รับอากาศบริสุทธิ์ที่ปราศจากมลพิษ และได้เห็นความงามของธรรมชาติที่สวยงามน่าอัศจรรย์นะคะ

นาย

24-10-2010, 08:26

ยอดเขา Matterhorn

นาย

24-10-2010, 08:36

...เมือง Zermatt เป็นเมืองปลอดมลพิษ ตั้งอยู่เชิงเขา Matterhorn

สายน้ำ

24-10-2010, 09:48

รูปแรกใน #34 .... ตาน้องจุ๋มเป็นประกายออกมานอกแว่นเลยครับ

น่าอิจฉาคู่นี้จริงๆเล๊ย

นาย

24-10-2010, 10:09

รูปแรกใน #34 .... ตาน้องจุ๋มเป็นประกายออกมานอกแว่นเลยครับ

น่าอิจฉาคู่นี้จริงๆเล๊ย

พี่จ๋อมครับ..ช่วยจับรูป#35 ตั้งให้หน่อยครับผม...ขอบคุณครับ

นาย

24-10-2010, 16:22

...เมือง Zermatt นอกจากเป็นเมืองปลอดมลพิษแล้ว ยังคงวัฒนธรรมแบบswissดังเดิม ผู้คนมีสุขภาพแข็งแรง การออกกำลังกายของเขาคือการเดินเขา

สายน้ำ

25-10-2010, 07:44

บ้านดู Classic มากครับ .... ชอบจริงๆ

นาย

25-10-2010, 08:31

....การอนุรักษ์วัฒนธรรมแบบswissดังเดิม..ยังคงมีให้เห็นและรักษาไว้ดีมากในเมืองนี้...ขอบคุณพี่จ๋อมที่ชอบดูบ้านเลยเอาภาพบ้านเพิ่มเข้ามาครับผม

นาย

27-10-2010, 22:03

...วันที่ 5 ของการตลุย คือ เมือง Vevey และ เมือง Lausanne ..... เมือง Vevey เป็นเมืองเล็กๆที่เงียบสงบทางด้านทิศเหนือของทะเลสาบเจนีวาอยู่ห่างจาก Montreux ประมาณ 15 กม.เมืองนี้เป็นสถานที่ซึ่ง ชาร์ลี แชปลิน ดาราตลกผู้มีชื่อเสียง และนักประพันธ์อังกฤษ แกรแฮม กรีน มาใช้ชีวิตสุดท้าย และพักอยู่ ชั่วนิรันดร์ที่สุสาน Corsier เมือง Vevey จะมีการจัดงานประจำปีที่สำคัญ คือ ในเดือน ส.ค. งานรำลึกถึงชาร์ลี แชปลิน และ งานเทศกาลไวน์แห่ง Vevey ....นอกจากนั้นยังเป็นที่ตั้งของบริษัทเนสท์เล่ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านอาหาร

นาย

27-10-2010, 22:38

....ขอขอบคุณ..คุณลุงผู้น่ารักและใจดี ที่พาพวกเราชมเมืองเล่าเรื่องต่างๆเกี่ยวกับเมืองนี้ให้พวกเราฟัง....ถึงแม้ว่าผู้คนชาวเมืองนี้จะพูดภาษาฝรั่งเศสเป็นหลัก แต่คุณลุงก็พยายามพูดอังกฤษให้พวกเราฟัง(อย่างตั้งใจ)...ที่เห็นด้านหลังเป็นทะเลสาบเจนีวาซึ่งกันพรมแดนระหว่าง สวิส กับ ฝรั่งเศส...ถามคุณลุงว่า..ช้อนกับมีดหายไปไหนทำไมมีแต่ซ่อมอยู่ที่ทะเลสาบ...อ้อไอ้หลานเอ๋ย..ช้อนกับมีดหาย เขาเอาไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ซึ่งตั้งอยู่ที่หลังสุสานนี้....

นาย

27-10-2010, 23:00

...เมือง Lausanne จุดเด่นในด้านการท่องเที่ยวของเมือง Lausanne คือ ความเป็นเมืองเก่า ในยุคกลางที่มีศูนย์การค้าทันสมัยให้ช้อปปิ้ง และพิพิธภัณฑ์โอลิมปิก

นาย

27-10-2010, 23:22

.....พิพิธภัณฑ์โอลิมปิก ( Musee Olympique ) พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งขึ้นเมื่อ Lausanne ได้เป็นที่ตั้ง สนง.ใหญ่ของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล..IOC มีการจัดแสดงเรื่องราวของ ปรัชญา ประวัติศาสตร์ และเหตุการณ์สำคัญๆ ของ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกด้วยการนำเสนอแบบไฮเทค มีนิทรรศการ เครื่องมือเครื่องใช้ อุปกรณ์ต่างๆ เหรียญรางวัลและอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน...แต่ภายในอาคารห้ามถ่ายรูป...

Kungkings

28-10-2010, 09:14

บ้านดู Classic มากครับ .... ชอบจริงๆ

แอบรู้สึกเหมือนพี่จ๋อมเลยคะ...:p:p
ไม้เก่าๆ... บรรยากาศเดิมๆ อากาศที่บริสุทธิ์ ไม่ต้องผ่านการปรุงแต่ง เฮ้ออออ... มันช่างวิเศษจริงๆๆๆๆ

angel frog

28-10-2010, 09:56

ไปกัน 2 คน เหงาไหม ..คราวหน้าชวนด้วยอิจ๋า ว่าแต่งวดหน้า จะครบรอบกี่ปีดีอะ (แซวๆ)

นาย

28-10-2010, 10:00

แอบรู้สึกเหมือนพี่จ๋อมเลยคะ...:p:p
ไม้เก่าๆ... บรรยากาศเดิมๆ อากาศที่บริสุทธิ์ ไม่ต้องผ่านการปรุงแต่ง เฮ้ออออ... มันช่างวิเศษจริงๆๆๆๆ

...ขอบคุณน้องKungkings ที่รับชม...ว่างๆถ้ามีโอกาสไปswissไม่ควรพลาด..เมืองZermatt น่าจะไปอยู่ 2-3 วัน ชมให้ทั่วเมือง..เดินเขา..อากาศบริสุทธิปราศจากมลพิษ...(แต่อย่าลืมพาน้องPhanu ไปด้วยนะจะ๊..จะบอกให้...ฮุฮุฮุ)...แต่อย่าลืมชมในวันที่ 7 ของการตลุย..จะบอกว่าภายในบ้านของชาวสวิสดังเดิมเป็นอย่างไรบ้าง...ขอบคุณครับ

นาย

28-10-2010, 10:10

ไปกัน 2 คน เหงาไหม ..คราวหน้าชวนด้วยอิจ๋า ว่าแต่งวดหน้า จะครบรอบกี่ปีดีอะ (แซวๆ)

...ขอบคุณพี่ป้ากบครับ...คราวหน้าไม่รู้จะอ้างอะไรดี...แต่ก็ไม่ค่อยเหงาเท่าไรครับ..พากันวิ่งเพื่อให้ทันเวลารถไฟ...(ตรงเวลามาก..สมกับเป็นเมืองนาฬิกา..จริงๆ)

นาย

30-10-2010, 09:03

.....มหาวิหารแห่งโลซานน์ ( Cathedral de Lausanne ) เป็นมหาวิหารสมัยศตวรรษที่ 12 ที่ใหญ่ที่สุดใน swiss.....ในวิหารประดับด้วยกระจกสีจำนวน 105 บาน หน้าต่างกระจกสีประดับเป็นรูปฤดูกาล จักรราศี และธาตุทั้ง 4...

นาย

30-10-2010, 09:23

....ภายในมหาวิหาร

kkg

01-11-2010, 12:56

น่ารักมากๆเลยค่ะ :) :) :)

tik

01-11-2010, 16:45

อิจฉาตาร้อนต้องเลิกดำน้ำไปเที่ยวบกแล้วมั่งครับ

นาย

01-11-2010, 20:20

...ขอบคุณครูTik กับน้องkkg...ครับ

นาย

01-11-2010, 21:27

.....วันที่ 6 ของการตลุย คือ เก็บตกที่ Bern และ ชมทะเลสาบ Zurich หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาหลายวัน..วันนี้ต้องเดินทางจาก Lausanne ไปพักที่ Zurich อีก 2 คืน การเดินต้องผ่าน Bern เราเลยแวะชมเมือง Bern เนื่องจากว่ายังคาใจอยู่...ในความสวยงามสมเป็นมรดกโลก..

นาย

01-11-2010, 21:37

.......ชมทะเลสาบ Zurich

นาย

01-11-2010, 22:12

.....วันที่ 7 ของการตลุย คือ..เมือง Stein am Rhein และ น้ำตก Rhein....

นาย

01-11-2010, 22:34

.....เมือง Stein am Rhein เป็นเมืองเล็กๆ ที่น่ารักที่สุดเมืองหนึ่งของ Swiss เมือง Stein am Rhein ตั้งอยู่ริมแม่น้ำRhein ตรงจุดแม่นำ้Rheinไหลแยกออกจากทะเลสาบคอนสแตนซ์ เมือง Stein am Rhein มีรายได้หลักจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เหมือนกับเมืองชนบทส่วนใหญ่ใน Swiss เขตเมืองเก่าของ Stein am Rhein เป็นเขตอนุรักษ์ บ้านเรือนสมัยยุคกลางยังอยู่ในสภาพดีและสวยงาม บ้านแต่ละหลังตกแต่งภายนอกบ้านด้วยภาพสี ลงบนปูนเปียก เป็นเอกลักษณ์ของเมือง ....

นาย

01-11-2010, 22:59

...สถานที่ท่องเที่ยวในเมือง Stein am Rhein ที่น่าสนใจแห่งหนึ่งได้แก่ พิพิธภัณฑ์ Wohnmuseum Lindwurm มีการตกแต่งภายในที่สวยงามมาก แสดงสะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสมัยต้นศตวรรษที่ 19....

สายชล

02-11-2010, 11:17

นาย

02-11-2010, 17:04

ภาพการเที่ยวสวิสที่สวยงามและโรแมนติกของน้องนายและน้องจุ๋มในครั้งนี้ ทำให้สองสายตัดสินใจง่ายมากขึ้นที่จะดำน้ำเที่ยวให้น้อยลง และหันไปเที่ยวทางบกให้มากขึ้นค่ะ.....;)

ขอบคุณมากๆนะคะ....:)

...พี่น้อยครับไปกันเองแบบไม่ต้องพึ่งทัวร์..ก็สนุกดีนะครับ..เป็นครั้งแรกที่ไปกันเอง...ที่หมายก็เป็นไปตามที่วางแผน..ผิดพลาดนิดหน่อย..วางแผนว่าจะนั่งเรือชมแม่นำRhein จากStein am Rhein ไปยัง น้ำตกRhein เรือหยุดเดินเนื่องจากเข้าฤดูหนาว เรือหยุดเดิน วันที่ 18 ..ไปถึง วันที่ 19 ..เลยต้องนั่งรถไฟไปแทน..ก็ได้บรรยากาศอีกแบบ..ครับ

นาย

02-11-2010, 21:18

ภายในพิพิธภัณฑ์ Wohnmuseum Lindwurm

นาย

02-11-2010, 22:23

ภายในพิพิธภัณฑ์ Wohnmuseum Lindwurm มีการแสดงวิถีชีวิตของเกษตรกรชาว Swiss ซึ่งก็คล้ายๆเกษตรกรบ้านเราแต่จะต่างในเรื่องของฤดูหนาวที่ยาวนาน จึงต้องมีการเตรียมการ และจัดทำสิ่งต่างๆภายในโรงนา ...แต่เกษตรกรชาวSwiss ในปัจจุบันที่ต่างจากเกษตรกรไทยในปัจจุบันก็คือ แต่ละบ้านนอกจากจะมี รถแทรกเตอร์ แล้ว จะมีรถ ออดี้ , BW หรือ โฟล์ค 1-2 คัน ประจำบ้าน

นาย

02-11-2010, 22:33

สิ่งต่างๆภายในโรงนาชั้นที่ 2 เก็บอุปกรณ์เครื่องมือการเกษตรและอาหารสำหรับวัว

นาย

02-11-2010, 22:44

ชั้นบนสุดภายในโรงนาจะเก็บพืชผลทางการเกษตร ไว้ในการบริโภคตลอดฤดูหนาวหรือทั้งปี ซึ่งก็เหมือนกับ ยุ้งฉางบ้านเรา

นาย

04-11-2010, 08:00

...โรงบ่มไวน์และการเก็บรักษา...อุปกรณ์ทำขนมปังและการเก็บรักษา

นาย

04-11-2010, 08:17

...น้ำตกไรน์ (Rhine Falls) เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป อยู่ในเขตเมือง Neuhausen อยู่ห่างจากเมืองชาฟฟ์เฮาเซิน(Schaffhausen) ประมาณ 3 กม. เป็นเขตแดนธรรมชาติระหว่าง สวิสกับเยอรมันนี ความสูงประมาณ 30 ม. กว้างประมาณ 150 ม. เป็นน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก....

นาย

04-11-2010, 08:53

….ได้เวลาเดินทางกลับ กทม. การท่องเที่ยวครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ เอื้องหลวงทัวร์ที่จองที่พัก และ ตั๋ว swiss pass ชั้นหนึ่ง ในราคาพิเศษ ที่ทำให้เราท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย ตลอด 7 คืน 8 วัน และขอขอบคุณ พี่ๆน้องๆ ชาว SOS ที่ติดตามชมครับ…หวังว่าคงได้รับความรู้และความสนุกบ้าง.....ถ้าตอนใดที่ท่านไม่ชอบใจก็ขออภัยด้วยนะครับ…ขอจบการตลุย..swiss...ไว้เพียงเท่านี้ครับ....(และยินดีให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะสำหรับผู้ที่ต้องการไปสวิส..ด้วยตนเองครับ)