View Full Version : รายงานผลโครงการ เก็บขยะ / ตัดอวน ที่ โลซิน เดือนกันยายน 2553
รายงานผลโครงการ เก็บขยะ / ตัดอวน ที่ โลซิน เดือนกันยายน 2553
วันที่ดำเนินโครงการ 16 – 20 กันยายน 2553
ดองกันจนเค็มได้ที่แล้ว ก็ถึงเวลามาสรุปกันเสียทีนะครับ ....
ทริปนี้ จริงๆแล้ว ภารกิจหลักของเราจะมีอยู่ 2 อย่างคือ ...
อย่างแรก ..... เก็บขยะ / ตัดอวน และทำ Reef Watch
อย่างที่สอง ... นำกระดูก (บางส่วน) ของพี่ Milo15 หรือ ลุง Milo ของน้องๆหลานๆชาว SOS มาไว้ในที่ที่ท่านรักและประทับใจ
ใครจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่ .... แต่พวกเราที่ร่วมทริปกันทุกคนเชื่อว่า พี่ Milo15 หรือ ลุง Milo กรุณาบันดาลให้ดินฟ้าอากาศสดใส ไร้คลื่นลม ไม่เหมือนทุกครั้งที่เราเคยมากัน
บรรยากาศบนเรือของเช้าวันแรกก็คงเหมือนทุกๆครั้ง ที่เริ่มต้นด้วยการบรี๊ฟหลายๆเรื่อง
ก่อนการบรี๊ฟ ทีมงานศิลปกรรมได้ช่วยกันร่างแผนที่ Dive Site ของโลซินขึ้นมา เพื่อใช้ประกอบการบรี๊ฟ
เตรียมรับศึกหนัก ด้วยการพับถุงสำรองไว้ยกเศษอวน
ทริปนี้ ครู Tik ทำหน้าที่พิธีกรหลักตลอดรายการ ..... เริ่มจากการ กล่าวต้อนรับเพื่อนๆทุกคน
คุณเสรีกล่าวในส่วนของเรือและบริการของเรือ
ครูติ่ง Coffee .... กล่าวในส่วนของความปลอดภัยในการดำน้ำ
ครู Tik และน้องป้ากบ Angel Frog ..... ต่อในเรื่องของการแบ่งกลุ่มดำน้ำ และ Dive Sites
คุณสายชลเน้นในเรื่องภารกิจของ sos ในทริปนี้
ก่อนที่จะลงมือเก็บขยะ เราเลือกที่จะนำพี่ Milo15 ผู้ใหญ่ที่พวกเรารักและเคารพ ลงไปอยู่อย่างสุขสงบบนพื้นทะเล
ก่อนลงน้ำ ก็มีการสวดมนต์ อธิษฐาน ทำพิธีเล็กๆน้อยๆให้กับ พี่ Milo15
และเตรียมนำกระดูกของท่านลงสู่ทะเล .....
คุณสายชลเลือกที่จะใช้ลานทรายเล็กๆทางทิศเหนือของกองหินกองใหญ่ที่มีแต่ทรายและเศษปะการังแตกหัก เป็นที่เก็บกระดูกของพี่ Milo15
น้อง J ..... เป็นคนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับพี่ Milo15 ที่สุดในกลุ่มพวกเรา เป็นคนเชิญโกฐิบรรจุกระดูกลงไปใต้น้ำ
และนำกระดูกของพี่ Milo15 ออกโปรย .....
เดิม เราคิดว่า สิ่งที่อยู่ในโกฐินั้นคือ เถ้ากระดูกและกระดูกชิ้นเล็กๆ จึงตั้งใจจะให้น้อง J โปรยไปตามกระแสน้ำ แต่ อุแม่เจ้า !!!!! พี่ต่อง ภรรยาพี่ Milo15 เก๋บมาให้เป็นเศษกระดูกชิ้นเป้งๆทั้งนั้น
กลีบดอกไม้ก็ถูกโปรยตาม ........ ท่ามกลางพวกเราอีก 20 กว่าคนที่ลอยตัวดูอยู่ด้านบน
นอกจากที่เก็บอัฐิของทางครอบครัวของพี่ Milo15 ที่กรุงเทพฯแล้ว ที่นี่ก็เป็นที่เก็บอัฐิของท่านอีกที่หนึ่ง ที่จะทำให้ท่านได้อิงแอบแนบสนิทอยู่กับธรรมชาติตลอดไป
เนื่องจากเป็นช่วงที่จะมีนักดำน้ำที่มากับเรืออื่นอีกหลายลำหลายสิบคนที่จะมาดำน้ำกันที่โลซิน ..... กระดูกชิ้นใหญ่ๆที่มองเห็นได้ชัด อาจจะทำให้ไม่น่าดูนัก หากมีนักดำน้ำกลุ่มอื่นๆมาพบเห็นเข้า
สองสาย และ drsumeth จึงช่วยกันเกลี่ยเศษปะการังและทรายให้คลุกปะปนกับเศษกระดูกของพี่ Milo15 จนดูไม่ออก และจึงไปรวมกับคนอื่นๆ เพื่อหาเศษอวนและขยะเก็บกันต่อไป
ภารกิจหลักอย่างแรกจึงได้เสร็จเรียบร้อยด้วยดี .....
Kungkings
29-10-2010, 09:11
พี่จ๋อมค๊าบบบบบบบบบบบ นู๋คอยอยู่น้า...ทำไมหายไปนานนนนจัง อิอิ
chickykai
29-10-2010, 09:19
ดูแล้วคิดถึงลุงจัง ;(
ช่วงนี้สองสายยุ่งกันมากๆค่ะ....คอยกันสักพักนะคะ ว่างแล้วคุณสายน้ำจะมารายงานต่อค่ะ...
ดูภาพแล้วก็ยิ่งคิดถึงลุงไมโล
Kungkings
29-10-2010, 09:36
ช่วงนี้สองสายยุ่งกันมากๆค่ะ....คอยกันสักพักนะคะ ว่างแล้วคุณสายน้ำจะมารายงานต่อค่ะ...
ง้านมะเป็นไรคะ นู๋คอยได้คะ สำหรับภาพสวยยยย ๆ ไว้สะสางเรื่องยุ่งๆ เสร็จ แล้วค่อยมานะคะ สู้ๆ คะ :p
NAMPUENG
29-10-2010, 11:25
ดูภาพแล้วก็ยิ่งคิดถึงลุงไมโล
จริง.. >.<
DeepSeaDiva_1546
29-10-2010, 13:00
=) สุดยอดค่ะ
มีความจำเป็นที่จะต้องบอกเล่าถึงความเป็นมาและความสำคัญของโลซิน กองหิน หรือ เกาะกลางน้ำของไทยแห่งนี้ แบบพอสังเขป
โลซิน ถือเป็นเกาะสุดท้ายก่อนสุดเขตน่านน้ำของไทย ที่มีความสำคัญทางภูมิศาสตร์มากมาย ตั้งอยู่บนจุดตัดระหว่างเส้นรุ้งที่ 7 องศา 19 ลิปดาเหนือ และเส้นแวงที่ 101 องศา 59 ลิปดาตะวันออก อยู่ในทะเลอ่าวไทย ไม่ปรากฎว่าอยู่ในจังหวัดใด เหตุเพราะห่างจากหาดสุกรีในเขตอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ประมาณ 72 กิโลเมตร ห่างจากฝั่งจังหวัดนราธิวาส ไปทางตะวันออกราว 106 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากท่าเรือสงขลาประมาณ 180 กิโลเมตร
คุณวินิจ รังผึ้ง เคยเขียนถึงโลซินไว้ใน นสพ.ผู้จัดการ ว่า "โลซิน เป็นกองหินโผล่น้ำเล็กๆ กลางทะเลน่านน้ำจังหวัดปัตตานี ที่มีเพียงประภาคารตั้งอยู่โดดเดี่ยวอันเดียวเท่านั้น ซึ่งดูแล้วก็ไม่น่าจะมีความสำคัญอย่างใด และในทางการเดินเรือนั้น หินที่โผล่ขึ้นมากลางทะเลอันเวิ้งว้าง มักจะถูกเรียกว่าเป็นหินโสโครก เพราะเป็นอันตรายต่อการเดินเรือในสมัยก่อน ซึ่งในช่วงนั้นเรือเดินทะเลไม่ได้มีอุปกรณ์นำร่องอย่างจีพีเอส เรดาห์ โซนาร์ ซาวเดอร์ ที่ทันสมัยเหมือนเช่นปัจจุบัน เรือที่ไม่รู้พิกัด ก็อาจจะวิ่งมาชนหินกลางทะเลเหล่านี้อับปางลงได้ง่ายๆ และ อาจจะด้วยเหตุนี้ก็เป็นได้ ที่ทำให้ทางกองทัพเรือต้องมาสร้างประภาคาร เพื่อเป็นสัญญาณเตือนให้เรือที่วิ่งผ่านไปมาได้รู้ว่าตรงนี้มีหินโผล่น้ำอยู่ ทำให้ไทยเราได้ใช้ในการอ้างกรรมสิทธิ์เขตแดนทางทะเล ที่แทนจะวัดจากชายฝั่งสงขลา หรือชายฝั่งปัตตานีออกไป ไทยเราก็ยืดระยะออกมาวัดจากหินโลซิน หรือเกาะโลซินแห่งนี้ออกไปอีก 200 ไมล์ทะเล ทำให้เรามีสิทธิอันชอบธรรมในแหล่งก๊าซธรรมชาติมูลค่านับแสนล้านในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลร่วมกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งไทยและมาเลเซีย ก็ได้เจรจาตกลงกำหนดให้เป็นพื้นที่พัฒนาร่วมเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างเป็นธรรมในปัจจุบัน"
แล้วทำไมเราถึงต้องบากบั่นข้ามน้ำข้ามทะเลมาดำน้ำที่นี่กัน ....
ความที่โลซินอยู่ห่างไกลจากชายฝั่งและแม่น้ำลำคลอง น้ำที่นี่จึงใส สามารถมองเห็นได้ไกลอาจจะเกิน 100 ฟุตได้ นอกจากนี้ ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยหมู่ปะการังโครงสร้างแข็ง ปะการังอ่อน กัลปังหา ฟองน้ำ และสรรพชีวิตใต้ท้องทะเลมากมายหลายชนิด
ไม่อยากบรรยายมาก ชมภาพกันดีกว่าครับ ...
ปะการังเขากวางที่นี่ หนาแน่น เหมือนทุ่งหญ้ากว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
บางจุด อาจจะมีปะการังชนิดอื่น อย่างเช่น ปะการังผักกาด ขึ้นมาแทรกบ้าง
ปะการังโต๊ะ มีหลายขนาดให้เลือกชม ....
บางจุด .... มีปะการังหนังอยู่รวมกันเป็นทุ่งกว้าง
ดอกไม้ทะเล ก็มีมากมายเช่นกัน
ฟองน้ำ มีสารพัดรูปทรง .....
ในบางจุด สิ่งมีชีวิตหลากชนิดหลากพันธุ์ ก็มาอยู่ผสมกันได้อย่างน่าแปลกตาแปลกใจ
บ้างก็มีสีสันสดใสชวนมอง ...
ความสวยใสของน้ำ ทำให้การดำน้ำที่นี่ไม่น่าเบื่อหน่าย
สิ่งแปลกปลอมที่ครั้งหนึ่งมนุษย์เคยเอามาทิ้งไว้ อาจจะกระทบกระแทกทำลายปะการังแหลกไปจำนวนไม่น้อย
แต่เมื่อเจ้าของไม่มานำกลับไป นานวันเข้า...มันก็กลายเป็นที่ให้ปะการังเกิดใหม่ ได้เกาะติดสร้างสังคมใหม่ขึ้นมา
2 ภาพแรก เป็นภาพของปีที่แล้ว ที่เรามาพบลอบหลังนี้กองอยู่บนปะการัง และน้อง Octopus กำลังพยายามยกออกไปให้พ้นปะการัง และ 2 ภาพหลังเป็นภาพของปีนี้
http://www.saveoursea.net/forums/attachment.php?attachmentid=3809&stc=1&d=1253619751 http://www.saveoursea.net/forums/attachment.php?attachmentid=3810&stc=1&d=1253619751
แม้แต่โขดหินใหญ่ๆ ปะการังก็สามารถสร้างสังคมขึ้นมาได้ไม่ยาก
นอกจากการดำน้ำเพื่อความเพลิดเพลิน ชมอะไรสวยๆงามๆ ที่กล่าวถึงไปแล้ว พวกสมาชิก sos มาทำอะไรกันอีกหรือ ?
แรงจูงใจอันยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นใดคือ การมาเก็บเศษอวน / เศษขยะ เนื่องจากเมื่อปีที่ผ่านมา ตลอด 3 วันแห่งการดำน้ำ แทบจะไม่มีไดฟ์ไหนเลยที่ไม่ได้เก็บเศษอวน
ชมภาพการทำงานของปีที่แล้วได้ที่ http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=467
....บ้านลุงไมโลสวยจัง...ขออนุญาตกราบส่งลุง ณ ตรงนี้..
....ขอบคุณเรื่องราวและภาพสวยๆ ค่ะ...รอชมต่อค่ะ
เพื่อนพ้องน้องพี่ที่ไปด้วยกันเมื่อปีที่แล้ว คงจำเศษอวนยักษ์ผืนนี้ได้ จากน้ำหนักของอวน บวกกับตุ้มเหล็กที่ถ่วงอวนทำให้ทั้งพวกเราและคนเรือไม่สามารถนำเศษอวนขึ้นเรือได้ มันจึงหล่นกลับลงมาอยู่ใต้น้ำอีก
http://www.saveoursea.net/forums/attachment.php?attachmentid=3756&stc=1&d=1253607781 http://www.saveoursea.net/forums/attachment.php?attachmentid=3757&stc=1&d=1253607781
http://www.saveoursea.net/forums/attachment.php?attachmentid=3758&stc=1&d=1253608939 http://www.saveoursea.net/forums/attachment.php?attachmentid=3759&stc=1&d=1253608939
มาครั้งนี้ จึงตั้งใจกันแน่วแน่ที่จะเอากลับขึ้นไปให้ได้
เราไปพบมันกองอยู่บนพื้นทรายด้านใต้ของกองหินกองเล็ก มีฟองน้ำเกาะอยู่บ้าง แต่น้ำลึกพอดู
พอพบเข้า พี่ๆน้องๆไม่พูดพล่ามทำเพลง ตรงเข้าลุยทันที โดยเฉพาะน้อง Blue Day ที่กินอากาศไม่จุเหมือนเดิมแล้ว สามารถช่วยทำงานได้เต็มที่โดยไม่ต้องหนีขึ้นเรือก่อนอย่างที่เคยทำ
คนละไม้คนละมือ บ้างก็ผูกถุง เป่าลม บ้างก็ตัดๆๆๆ
เศษอวนผืนนี้ กว่าจะยกขึ้นได้ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร
บทหนักจะอยู่ที่ผิวน้ำ นายน้องที่อยู่บนดิงกี้ ต้องดึงเศษอวนที่ชุ่มน้ำและถุงก๊อบแก๊บที่เต็มไปด้วยน้ำขึ้นเรือ
นอกจากอวนผืนใหญ่แล้ว ก็ไม่มีงานหนักอะไรมากมายอีก
ที่พบเพิ่มเติม ก็มีพวกเศษเชือก แต่เพื่อไม่ให้เป็นภาระต้องหอบหิ้ว เราก็ยิงส่งขึ้นไปให้นายน้องเก็บหมด
......... และ เศษอวนเล็กๆ เชือกอวน และเอ็นเบ็ดตกปลา ที่เกี่ยวพันอยู่กับปะการังเท่านั้น
สายเอ็นขนาดใหญ่และยาวเส้นนี้ เกี่ยวพันปะการังเป็นแนวยาวพอดู .....
หลังจากสองสายพบและเก็บภาพไปชั่วครู่ มือขยันก็มารุมเก็บกันเพียงแป๊บเดียวก็หมดเกลี้ยง
จะไปแอบซุกอยู่มุมไหน ก็ยังหาเจอ และเก็บให้หมด
ทีมเวอร์คที่ดี ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่งครับ ....
เชือกปากอวนเส้นขนาดนี้ ถ้าปะการังยังไม่เกาะไม่ขึ้นคลุม เสร็จเราแน่ .... แต่ถ้าเป็นแบบนี้ ปล่อยไว้อย่างเดิมดีกว่าครับ
เรือดิงกี้ที่นายน้องดูแลอยู่ มีหน้าที่ทั้งรับขยะ รับอุปกรณ์ดำน้ำต่างๆ รวมทั้งกล้องด้วย
บางครั้ง เศษอวนที่เก็บขึ้นมาอยู่ในระดับความลึกที่ไม่เอื้ออำนวยให้เราทำงานได้ละเอียดนัก ....
เมื่อขึ้นมาอยู่บนเรือแล้ว เราจึงต้องมารวมพลังสามัคคีกัน ตัดเลาะเอาสิ่งมีชีวิตที่เกาะติดผืนอวนออก แล้วส่งกลับลงน้ำไปทั้งหมด เช่น ฟองน้ำ เศษปะการัง ปู ปลา ฯลฯ
ภารกิจอีกอย่างหนึ่ง นอกเหนือไปจากการเก็บขยะ / เศษอวน คือ การทำ Reef Watch
ไหนๆก็รับอาสา และรับการอบรมกันมาแล้ว และถ้ามีเศษขยะและเศษอวนให้เก็บกันไม่มากนัก เราก็พอจะทำ Reef Watch กันได้บ้าง
จริงๆแล้ว น้องลูกหยีมาด้วย แต่พอถึงวันที่จะทำ Reef Watch ... น้องลูกหยีเป็นป่วย skip ไดฟ์เช้า หมอเมธจึงต้องรับหน้าที่พิธีกร เอ๊ย ... วิทยากรแทน และน้องตุ๊กแกผาช่วยเสริมเรื่องวิธีเก็บข้อมูล
พอลงน้ำแล้ว ก็ว่ากันไปตามหน้าที่ที่หัวหน้ากลุ่มได้มอบหมายให้
พอตกเย็น ก็ต้องมาสุมหัวทำสรุปออกมาเป็นรายงาน ....
และทุกกลุ่มต้องออกมานำเสนอข้อมูลที่สังเกตมาได้ ต่อเพื่อนๆทุกคน โดยมีน้องลูกหยี เป็นผู้ comment
การมาดำน้ำที่โลซินในครั้งนี้ สองสายมีความรู้สึกเฉาๆ เพราะรู้สึกได้ว่า "โลซินไม่เหมือนเดิม" เมื่อเปรียบเทียบกับที่ได้มาดำน้ำเมื่อปี 2552
อาจจะเป็นเพราะ .....
- ปลาที่เคยคึกคักหนาแน่นได้หายไป
- ปะการังแข็งที่เคยหนาแน่น มีร่องรอยยับเยิน
- ปะการังอ่อนสีส้มแสบตา หายไปหมด
- ปลานกแก้วหัวโหนกกลุ่มเล็กๆ 4 - 5 ตัว ที่คอยมาต้อนรับเมื่อเราลงน้ำ หายไป
มันน่าจะเป็นเพราะพิษภัยจากธรรมชาติ ผสมกับพิษภัยจากน้ำมือมนุษย์ แต่สองสายไม่สามารถให้น้ำหนักได้ว่า อย่างใดจะเป็นตัวทำลายมากกว่ากัน
แต่จากการสังเกตด้วยตา ก็พอจะมีหลักฐานให้สันนิษฐานถึงสาเหตุได้ว่า เป็นเพราะ ....
1. น้ำทะเลอุ่น ทำให้ปะการังฟอกขาว (Coral Bleaching) และตายไป
2. การระบาดของดาวมงกุฎหนาม ที่กินตัวปะการังจนตายเป็นแถบๆ
3. การทำประมงแบบล้างผลาญคือ อวนลาก และการระเบิดปลา
มาดูภาพของปะการังฟอกขาวกันก่อนนะครับ ...
ทั้งๆที่อยู่ในระดับความลึกเกิน 10 เมตร แต่ก็หนีไม่พ้นภัยนี้
ปะการังเขากวาง ดูเหมือนคนผมหงอกแถมยังแตกปลายอีกด้วย
ปะการังอ่อน อย่างปะการังหนัง ที่อยู่ในความลึกประมาณ 20 เมตรขึ้นไป ก็ยังซีดขาวกันเป็นทุ่ง
อย่างนี้ เรียกว่า กำลังเริ่มฟอกขาวหรือจากฟอกขาวกำลังจะฟื้นตัวคืนชีพกันแน่....
ไม่แน่ใจครับ
แบบนี้ ก้ำกึ่ง .... ยิ่งไม่แน่ใจใหญ่ว่า กำลังฟอกขาว หรือ ถูกดาวมงกุฏหนามเจี๊ยะกันแน่
เมื่อถูกดาวมงกุฏหนามกินไปแล้ว ปะการังส่วนที่ถูกกินจะกลายเป็นสีขาวเป็นหย่อมๆแบบนี้ครับ
ปะการัง เมื่อตายแล้ว จะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ก็จะผุพังไป
แต่สภาพอย่างที่เห็นในภาพเหล่านี้ มันน่าจะเป็นการตายตามธรรมชาติของปะการังหรือไม่ หรือ จะเป็นการตายเพราะฟอกขาว หรือถูกดาวมงกุฏหนามกิน
หรือจะเป็นเพราะโดนอวนลาก .... ก็ไม่น่าจะใช่
ให้ดูอีกกี่ที สองสายก็ยังคิดว่า มันเป็นผลมาจากการระเบิดปลา (Fish Bomb) มากกว่า ถึงได้แหลกราญขนาดนี้ นอกจากเศษปะการังที่เห็นแหลกเละเหล่านี้ ก้อนหินในบริเวณดังกล่าวยังมีร่องรอยแตกหักอีกด้วย
จะด้วยสาเหตุอันใดก็ตาม ที่โลซินไม่มีภาพงามๆแบบนี้ให้เห็นอีกต่อไปแล้ว
http://www.saveoursea.net/forums/attachment.php?attachmentid=3773&stc=1&d=1253611877 http://www.saveoursea.net/forums/attachment.php?attachmentid=3775&stc=1&d=1253611877
http://www.saveoursea.net/forums/attachment.php?attachmentid=3856&stc=1&d=1253657452 http://www.saveoursea.net/forums/attachment.php?attachmentid=3857&stc=1&d=1253657452
ก่อนจะปิดท้าย ขอแนะนำสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลของโลซินให้ได้รู้จักกันบ้างนะครับ
..... ฝูงปลากะมง (Jackfish)
คงเป็นเพราะปลากะมงฝูงนี้นี่เอง ที่ดึงดูดเรือประมงหลายลำให้ส่งคนมานั่งตกปลากันทั้งวันทั้งคืน และเป็นผลให้เราได้เห็นสายเบ็ดมากมายใต้ทะเล...
ดาวร้ายแห่งแนวปะการัง จะเป็นใครไปได้ .....
ดาวมงกุฏหนาม (Crown-of-Thorn Starfish) ไงครับ
ส่วนน้องก้อยจะช้อนเอาไปทำอะไร คงต้องถามกันเอง
ปลาเจ้าถิ่นฝูงหนึ่งที่เคยออกมาว่ายน้ำคอยต้อนรับนักดำน้ำที่หินกองใหญ่คือ ปลานกแก้วหัวโหนก (Bumphead Parrot Fish) .... จะว่ายน้ำรักษาระยะห่างอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่แตกตื่นว่ายหนีหายไปไหน
เที่ยวนี้พบเพียงตัวเดียวโดดๆ แถมยังว่ายตาลีตาเหลือกหนีไปเสียอีก
ปลาโนรีครีบยาว (Bannerfish) เป็นปลาที่ค่อนข้างจะเชื่อง จะว่ายอยู่ใกล้ๆตัวเรา ตามเราไปเรื่อยๆ .... พบง่ายตามแนวโขดหินของกองหินกองใหญ่แทบทุกด้าน
ตัวค่อนข้างใหญ่ จึงพบเห็นได้ง่าย ...
ปลาสินสมุทรลายสีน้ำเงิน (Bluering Angelfish)
ในหนังสือ เรียกว่า ปลานกแก้วสีเพลิง (Bluebarred Parrotfish) ..... ดูแล้วก็ไม่เห็นจะเป็นสีเพลิงตรงไหนเลยครับ
ปลานกแก้วปากส้ม (Swarthy Parrotfish) ...... เจ้าพวกนี้แทะปะการังแข็งดังกร้วมๆ แตกกระจายเลยครับ
ปลากะมงจุดเหลือง (Orange-spotted Trevally)
ปลาเก๋า Chocolate Grouper ตัวจิ๋ว ผลุบๆโผล่ๆอยู่ในกอปะการัง
ปลาค้างคาว หรือ ปลาหูช้าง (Batfish) ฝูงใหญ่ ที่ค่อนข้างเชื่อง กล้าที่จะเข้ามาใกล้นักดำน้ำ
บางตัวก็เข้า Cleaning Station อยู่อย่างเพลิดเพลิน
พวกเรากับปลาค้างคาว .... ในอิริยาบทที่แตกต่างกัน
ปลาบู่แส้ทะเล .... ตัวเล็กจิ๋ว พบได้ง่ายตามแส้ทะเล ..... แต่จะเก็บภาพนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเธอไม่เคยอยู่นิ่ง
ปะการังถ้วยส้มตามโขดหินใหญ่ๆจะสวยงามมากเมื่อยื่นโพลิพส์ออกมากินแพลงค์ตอน
แต่เมื่อยามที่ยังไม่ถึงเวลากินอาหาร ถ้าไม่สังเกต เราแทบจะไม่รู้เลยว่าปะการังถ้วยส้มนั้น ยังมีชีวิตอยู่ดีหรือไม่
ตัวทำลายปะการังชนิดนี้คือ หอยเกลียวชั้นปะการังถ้วยส้ม (Wentaltrap) ที่จะยื่นงวงเข้าไปในปะการัง แล้วใช้เคมีละลายเนื้อเยื่อโพลิพส์ของปะการังและดูดไปกิน หลังจากนั้นก็อึรด เอ๊ย ไม่ใช่ .... วางไข่ทับบนซากชองปะการังที่ไร้ชีวิตแล้ว
สังเกตได้ง่ายๆคือ ถ้าปะการังยังมีอะไรหุ้มๆอยู่ นั่นหมายถึงยังมีชีวิตดี แต่ถ้าเหลือแต่หินปูนแข็งๆ ข้างในกลวงโบ๋ นั่นคือ เรียบร้อยโรงเรียนหอยไปแล้วครับ
liammukda
31-10-2010, 19:58
โลซิน เราไปมาแย้ว เจอฉลามวาฬเกือบทุกไดฟ์เลย แถมมาว่ายรอบ ๆ เรืออีก ตอนนั้นเรากำลังเล่นไพ่เลย พอเด็กเรือบอกว่าฉลามวาฬว่ายอยู่รอบเรือเท่านั้นวงไพ่แตกยิ่งกว่าหนีตำรวจซะอีก แถมที่ serprise คือ night dive ก็ยังเจอฉลามวาฬ ดำตรงไหนก็ฉลามวาฬ บทจะเจอก็เจอมันทุก dive บทไม่เจอหาไปเถอะไม่มีแม้กระทั่งแมนต้า แต่ที่อยากเจอมากคือโลนัน กะ โลนิน เคยเคยแบบแว๊บ ๆ แต่ไวมากมันอยู่ตรงกองทราย เร็วมากต้องตาไวถึงจะได้เห็น แต่ที่ไม่อยากไปโลซินเพราะ มันไม่มีเกาะบังลม บังคลื่น ไปทีไรอ๊วกแตกอ๊วกแตน ข้าวก็กินไม่ลงเมาเรือสุด ๆ ถ้าใครจะไปก็เช็คข่าวว่าฉลามวาฬเข้ายัง ถ้าไม่แล้วไม่เจอแนะนำไปดูที่สงขลาอาควาเลี่ยมได้นะเป็นการปลอบใจ แต่ไม่รู้ว่าจะมีฉลามวาฬ หรือ ฉลามอื่น ๆ ป่าว 5555++ :D
โลซิน เราไปมาแย้ว เจอฉลามวาฬเกือบทุกไดฟ์เลย แถมมาว่ายรอบ ๆ เรืออีก ตอนนั้นเรากำลังเล่นไพ่เลย พอเด็กเรือบอกว่าฉลามวาฬว่ายอยู่รอบเรือเท่านั้นวงไพ่แตกยิ่งกว่าหนีตำรวจซะอีก แถมที่ serprise คือ night dive ก็ยังเจอฉลามวาฬ ดำตรงไหนก็ฉลามวาฬ บทจะเจอก็เจอมันทุก dive บทไม่เจอหาไปเถอะไม่มีแม้กระทั่งแมนต้า แต่ที่อยากเจอมากคือโลนัน กะ โลนิน เคยเคยแบบแว๊บ ๆ แต่ไวมากมันอยู่ตรงกองทราย เร็วมากต้องตาไวถึงจะได้เห็น แต่ที่ไม่อยากไปโลซินเพราะ มันไม่มีเกาะบังลม บังคลื่น ไปทีไรอ๊วกแตกอ๊วกแตน ข้าวก็กินไม่ลงเมาเรือสุด ๆ ถ้าใครจะไปก็เช็คข่าวว่าฉลามวาฬเข้ายัง ถ้าไม่แล้วไม่เจอแนะนำไปดูที่สงขลาอาควาเลี่ยมได้นะเป็นการปลอบใจ แต่ไม่รู้ว่าจะมีฉลามวาฬ หรือ ฉลามอื่น ๆ ป่าว 5555++ :D
วัตถุประสงค์หลักของ SOS คือดำน้ำตัดอวนเก็บขยะ และตอนนี้ที่เพิ่มขึ้นมาคือการทำ Reef Watch
แน่นอนค่ะ การไปดำน้ำย่อมมีความคาดหวังอยากเจอเจ้ายักษ์ใหญ่ใจดี แต่ประเด็นสำคัญที่พวกเรามักอิ่มเอมใจกว่าคือการได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำสิ่งดีๆ คืนกลับไปให้ท้องทะเล เราทำงานกันแบบเป็นทีม วางแผน และตั้งใจจริง เวลางานเสร็จทุกครั้ง เราถึงชื่นใจและอิ่มเอมใจกันมากๆ
Surprise จัง ที่คุณเหลี่ยมมุกดาบอกว่าเจอฉลามวาฬใน Night Dive เอารูปมาอวดกันบ้างนะคะ หรือ กลุ่มที่เจอฉลามวาฬใน Night Dive เอารูปมาแชร์กันบ้าง ตื่นเต้นและ Surprise จัง
ตอนนี้อยากเจอคุณเหลี่ยมมุกดา มากกว่าฉลามวาฬ โรนัน โรนิน อีก จะได้ฟังประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นอันนี้
ถ้าใครจะไปก็เช็คข่าวว่าฉลามวาฬเข้ายัง ถ้าไม่แล้วไม่เจอแนะนำไปดูที่สงขลาอาควาเลี่ยมได้นะเ ป็นการปลอบใจ
เราจะไปทำงานกันทุกครั้ง ไม่เคยเช็คเลยครับว่า ฉลามวาฬหรือ Manta Ray ขึ้นหรือเปล่า เพราะจุดมุ่งหมายของเราคือ ทำความสะอาดทะเล แต่ถ้าได้เจอสัตว์เหล่านั้น ถือเป็นรางวัลชีวิตครับ
และพี่ได้ตอบเรื่องนี้ไปทาง Private Message แล้ว น้อง liammukda กรุณาเปิดอ่านด้วยครับ
NAMPUENG
31-10-2010, 22:48
=^.^'=
( เอิ่ม.. ) หนู๋ไปต่อไม่ถูกเรย - -
ปล..น้องติดตามดูรูปกิจกรรม"ดีๆ"ของพวกเราต่อนะค้าพี่จ๋อม
BlackSea
31-10-2010, 22:55
ดูรูปแล้วคิดถึง ลุงไมโล ToT
เจ้าตัวนี้ โชคดีที่ไม่มีใครเฉียดไปโดนเข้า ไม่งั้นมีหวังได้วิ่งเข้าฝั่งแน่ๆ
แมงกะพรุนกล่อง Box Jellyfish .....
กลุ่มครู Tik ไปพบเข้า ..... น้อง kkg เก็บภาพมาได้
จะหาทากดูสักตัวช่างยากเสียเหลือเกิน
ที่พบบ่อยหน่อยก็เป็นพวกทากสามัญ ทากปุ่มยักษ์ Phyllidia varicosa แบบนี้
เป็นทากที่ไม่สามัญตัวเดียวที่พบที่นี่ และพบในไดฟ์สุดท้ายที่ลงดำ
ชื่อไทยไม่ทราบ แต่ชื่อฝรั่งคือ Marbled Chromodoris ครับ
ภาพของสัตว์น่าสนใจที่พบก็มีแค่นี้ครับ ...
ต่อไปเป็นภาพสมาชิก อาจจะไม่ครบทุกคน ต้องขออภัยด้วย ...
ตอนที่ไม่รู้ตัวว่าถูกถ่ายรูปจะเป็นอย่างนี้ ...
แต่พอรู้ตัว ก็จะกลายเป็นอย่างนี้ .....
ภาพเดี่ยว และ ภาพคู่ .....
กลุ่มดำน้ำ ..... กลุ่ม 1 (ปกติ)
กลุ่มดำน้ำ ..... กลุ่ม 2 (ปกติ)
กลุ่มดำน้ำ ..... กลุ่ม 3 (ไม่ปกติ)
ถึงจะพบเศษอวนไม่มากเหมือนปีที่แล้ว แต่ก็ได้มาไม่น้อยเหมือนกัน
225.8 กิโลกรัม โดยประมาณ
ก่อนจะจบ ต้องขอขอบคุณ ....
1. คุณเสรี ที่สนับสนุน โดยคิดค่าบริการในราคาพิเศษ และสต๊าฟเรือโชคศุลีที่ขยันขันแข็งและให้บริการที่ดีเยี่ยมทุกคน
2. น้องลูกหยี จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่มาแนะนำวิธีการบันทึกข้อมูลในการทำ Reef Watch และร่วมทำงานกับสมาชิก SOS ตลอดทั้งทริป
3. สมาชิก SOS ทั้ง 27 ท่าน ที่ร่วมแรงร่วมใจ เสียสละแรงงาน และทรัพย์สิน ไปร่วมกันปฏิบัติงานจนบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
สุดท้ายขอสรุปเรื่องเงินนิดนึงครับ ..... จากยอดเงินรวมที่เก็บจากสมาชิกผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน หลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น รวมเงินที่จ่ายคืนให้สมาชิกแล้ว จะมียอดคงเหลืออยู่ 3,400 บาท ซึ่งได้นำเข้าบัญชีเงินกองกลางของ SOS ไปแล้วครับ
ขอขอบคุณทุกๆท่านอีกครั้ง .... ไว้พบกันใหม่ในกิจกรรมครั้งต่อๆไปครับ
chickykai
01-11-2010, 08:39
กริ๊บกริ้ว กลุ่มไม่ปกตินี่น่าร๊ากกกกกันทู๊กคนเลยค่า อิ อิ
ขอบคุณพี่น้อย พี่จ๋อม และเพื่อนๆพี่ๆทุกคนในทริปนะค้า เป็นทริปที่สนุกสนานตลอดทริปจริงๆค่า ถึงแม้จะไม่เห็นแม้หางฉลามวาฬเหมือนพี่ป้ากบก็ตาม :d แต่ก็เป็นทริปเปิดบริสุทธิ์โลซินครั้งแรกที่ประทับใจจริงๆค่ะ คลื่นไม่มี ลมไม่แรง น้ำใส แถมโรนันด้วยอีกตัว xd
ขอบคุณครับพี่น้อยพี่จ๋อมสำหรับภาพและเรื่องราว เห็นพี่ๆต้องโพสต์ภาพและเรื่องถึงตีสามกว่า
แม้ไม่ได้เจอฉลามวาฬ (อยากเจอตัวเป็นๆในทะเล ไม่อยากเจอพวกเขาในสถานกักกัน ซึ่งก็แล้วแต่บุญพาวาสนาส่ง) แต่ก็อิ่มอกอิ่มใจทุกครั้งที่ได้ไปร่วมกิจกรรมกับ sos ได้ทำอะไรให้ทะเลไทยบ้าง แม้จะเป็นแค่เศษเสี้ยว ได้มีเวลาดีๆกับพี่ๆเพื่อนๆน้องๆที่น่ารัก
ขอบคุณรายงานกิจกรรมดีๆ จากพี่สองสาย
เพื่อนร่วมทริปดีๆ และบ้าน sos ที่จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้อย่างต่อเนื่อง
ดูไปก็คิดถึงลุงไมโล ป่านนี้ลุงคงดำน้ำสบายใจเฉิบอยู่แน่ๆ
Kungkings
01-11-2010, 09:37
สำหรับนู๋ การได้ออกทริปกับ sos.... ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการดำน้ำ นอกเหนือจากการดำน้ำถือเป็นความโชตดีและกำไรชีวิต อิอิ
แต่สิ่งที่ทำให้นู๋เบื่อที่สุดสำหรับทริปนี้ก็คือ... ไม่ค่อยมีอวนกับขยะให้เก็บ เซ็งชะมัดเลยคะ...
รักพี่ๆ น้องๆ ทุกๆคน สู้ๆ...
ตุ๊กแกผา
01-11-2010, 09:46
คิดถึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆใครไม่รู้บอกว่าลุงจะขี่หลามวาฬ ตามหลังด้วยmanta มาให้ดู
ไอ้เราก็รอชมอยู่....ป่านนี้ลุงคงสนุกสนานอยู่แน่ๆเลยอ๊ะ ปีหน้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆน๊ะลุงน๊ะ
สาธุๆๆๆๆๆๆๆ นี่แหล่ะมั๊งแบบที่เขาว่า.....ไปอยู่ที่ชอบๆ (ลุงโชคดีเน๊อะ ได้อยู่ที่ๆชอบจริงๆด้วย)......ปีหน้าไปเยี่ยมลุงกันดีกว่า เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โลซิน เราไปมาแย้ว เจอฉลามวาฬเกือบทุกไดฟ์เลย แถมมาว่ายรอบ ๆ เรืออีก ตอนนั้นเรากำลังเล่นไพ่เลย พอเด็กเรือบอกว่าฉลามวาฬว่ายอยู่รอบเรือเท่านั้นวงไพ่แตกยิ่งกว่าหนีตำรวจซะอีก แถมที่ serprise คือ night dive ก็ยังเจอฉลามวาฬ ดำตรงไหนก็ฉลามวาฬ บทจะเจอก็เจอมันทุก dive บทไม่เจอหาไปเถอะไม่มีแม้กระทั่งแมนต้า แต่ที่อยากเจอมากคือโลนัน กะ โลนิน เคยเคยแบบแว๊บ ๆ แต่ไวมากมันอยู่ตรงกองทราย เร็วมากต้องตาไวถึงจะได้เห็น แต่ที่ไม่อยากไปโลซินเพราะ มันไม่มีเกาะบังลม บังคลื่น ไปทีไรอ๊วกแตกอ๊วกแตน ข้าวก็กินไม่ลงเมาเรือสุด ๆ ถ้าใครจะไปก็เช็คข่าวว่าฉลามวาฬเข้ายัง ถ้าไม่แล้วไม่เจอแนะนำไปดูที่สงขลาอาควาเลี่ยมได้นะเป็นการปลอบใจ แต่ไม่รู้ว่าจะมีฉลามวาฬ หรือ ฉลามอื่น ๆ ป่าว 5555++ :D
อ่านแล้วพูดไม่ออก....ได้แต่กรอกหน้า.....:cool:
คุณเหลี่ยมฯ ลองไปอ่านและดูกระทู้ข้างล่างนี้ดูนะคะ
http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=467
http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=443
http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=441
http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=454
angel frog
01-11-2010, 10:34
รูปสวยมากค่ะพี่ ขออนุญาติเก็บภาพบางภาพไว้นะค่ะ
Udomlert
01-11-2010, 11:12
เห็นบรรยากาศแล้ว คิดถึงพี่ๆน้องๆ หลายๆ เด้อ
blue day
01-11-2010, 11:43
ขอบพระคุณพี่น้อยพี่จ๋อม ที่จัดกิจกรรมดีๆให้เราได้ทำกัน คิดถึงพี่ๆทุกคนครับ
ปล.เด๋วปีหน้าเราผมจะไปเยี่ยมลุงนะครับ:cool:
ดูรูปไป ก็นั่งอมยิ้มไป :)
ปีหน้าคงยุ่งๆกับงานใหม่ เลยยังไม่กล้าลงชื่อในทริปต่อๆไป
ขอดูชะตาชีวิตซัก 3-4 เดือน แล้วจะพยายามหาโอกาสไปทริปด้วยอีกนะคะ
ด้วยความยินดีค่ะ....น้องๆที่รักทั้งหลาย....:)
ดูภาพแล้วก็คิดถึงพี่ไมโลและโลซินจริงๆค่ะ....:(
เตรียมตัวไว้นะคะ.....เราจะไปโลซินกันสองรอบในปีหน้า คือปลายเดือนพฤษภาคม และ กลางเดือนกันยายน ส่วนจะเปิดลงชื่อเมื่อไร ติดตามไปเรื่อยๆห้ามกระพริบตานะคะ...;)
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ และภาพสวยๆ จากพี่น้อย พี่จ๋อมนะคะ ยังมีความหวังที่จะเข้าร่วมกิจกรรมดีๆ แบบนี้ของ sos อยู่ในวันใดวันหนึ่งข้างหน้านะคะ คิดถึงทุกๆ คนค่ะ :)
คิดถึงน้อง muffin เช่นกันค่ะ....กลับไปเมืองไทยเมื่อไร หาเวลาไปดำน้ำทำงานกับพวกเราอีกนะคะ
ป่านนี้หนูคงเริ่มหนาวมากๆแล้ว....ส่วนที่กรุงเทพฯ แค่เย็นๆเท่านั้นเองค่ะ....
conundrum
04-11-2010, 11:58
เจ้าตัวนี้ โชคดีที่ไม่มีใครเฉียดไปโดนเข้า ไม่งั้นมีหวังได้วิ่งเข้าฝั่งแน่ๆ
แมงกะพรุนกล่อง Box Jellyfish .....
กลุ่มครู Tik ไปพบเข้า ..... น้อง kkg เก็บภาพมาได้
ขออนุญาต น้อง kkg + พี่สองสาย นำภาพนี้ไปประกอบการเรียนการสอนดำน้ำนะครับ ทั้ง course openwater + EFR & Rescue โดยจะคง credit และ ref. เอาไว้
เพื่อเตือนให้นักดำน้ำรุ่นใหม่ ๆ ได้รู้จักเจ้าแมงกระพรุนกล่องตัวนี้กัน
ต้องแล้วแต่น้องไก่ เจ้าของภาพค่ะ น้องหนึ่ง.....:)
ขออนุญาต น้อง kkg + พี่สองสาย นำภาพนี้ไปประกอบการเรียนการสอนดำน้ำนะครับ ทั้ง course openwater + EFR & Rescue โดยจะคง credit และ ref. เอาไว้
เพื่อเตือนให้นักดำน้ำรุ่นใหม่ ๆ ได้รู้จักเจ้าแมงกระพรุนกล่องตัวนี้กัน
ยินดีค่ะ :)
conundrum
04-11-2010, 12:13
ขอบคุณก๊าบบบ:)
jodtalingchan
07-11-2010, 21:10
ดูรูปเดี่ยวแล้วไม่รู้ว่าควรภูมิใจหรือว่าเสียใจดีนะครับพี่น้อยพี่จ๋อม เพราะเป็นคนเดียวที่มีรูปเดี่ยวที่ไม่ใช่รูปใต้น้ำ :rolleyes: ของดีดีมักอยู่ dive ท้ายๆจริงๆนะเนี่ย คราวหน้าต้องอยู่ให้ครบเทอมให้ได้ :mad:
ขอบคุณพี่น้อยพี่จ๋อม และ sos นะครับที่ให้ผมได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมดีดี ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยได้มีโอกาสซักเท่าไหร่ ดูรูปแล้วเพลินดีจัง สนุกกับการทำงานและพี่ๆเพื่อนๆทุกๆคนครับ ... คิดถึงโลซินในอดีต
ปล. หาดสมิหลาตอนนี้เป็นอดีตไปแล้วครับ ดีที่นางเงือกไม่โดนพัดไปด้วย .. คงใช้เวลาซักพักกว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เห็นแล้วเศร้า :(
ใจหายค่ะน้องอ๊อด ที่ทั้งสงขลา หาดใหญ่ และเมืองใต้อื่นๆได้รับความเสียหายยับเยินจากทั้งน้ำท่วมและลมพายุรุนแรงในครั้งนี้....:(
ขอให้ประชาชนคนใต้จงมีกำลังใจที่เข้มแข็ง ฝ่าฟันอุปสรรคและทุกข์ภัยไปได้และกู้บ้านเมืองให้คืนดีได้โดยเร็วนะคะ
blue day
08-11-2010, 13:02
ดูรูปเดี่ยวแล้วไม่รู้ว่าควรภูมิใจหรือว่าเสียใจดีนะครับพี่น้อยพี่จ๋อม เพราะเป็นคนเดียวที่มีรูปเดี่ยวที่ไม่ใช่รูปใต้น้ำ : ของดีดีมักอยู่ dive ท้ายๆจริงๆนะเนี่ย คราวหน้าต้องอยู่ให้ครบเทอมให้ได้ :mad::(
เพราะหนูเป็นเด็กดี หนูจึงได้สิทธ์นั้นเด่วนี้ จัดให้ครับหนูอ๊อด:D
http://image.ohozaa.com/i/bbe/img_7664.jpg (http://image.ohozaa.com/show.php?id=eeec69d227e9755ad14c136504fd8697)
jodtalingchan
08-11-2010, 15:04
มีแล้วเฟ้ยย จะเอากลัองเทพ:p
chickykai
08-11-2010, 15:06
ยืนเรียบร้อยมาก ขนาดใต้น้ำนะเนี่ย อิ อิ
ก๊ากกกก.....ขำน้องอ๊อดจังค่ะ....
พี่น้อยไม่ใช่มือถือกล้องเทพนะคะ แต่ก็พยายามจะถ่ายภาพน้องอ๊อดหลายครั้ง แต่น้องมักก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่เรื่อย ไม่เคยมองกล้องพี่สักครั้ง...
มีอยู่สองภาพที่แม้จะไม่ใช่ภาพเดี่ยวของน้องอ๊อด....แต่ก็ถือได้ว่าพี่ตั้งใจถ่ายน้องอ๊อดเป็นตัวเอกนะคะ
ครั้งหน้า...ช่วยเงยหน้ามองกล้องบ้างนะคะ น้องอ๊อด...
http://www.saveoursea.net/forums/attachment.php?attachmentid=9407&stc=1&thumb=1&d=1288496663
http://www.saveoursea.net/forums/attachment.php?attachmentid=9397&stc=1&thumb=1&d=1288491622
http://www.saveoursea.net/forums/attachment.php?attachmentid=9421&stc=1&thumb=1&d=1288497742
ขอบคุณกิจกรรมดีๆ แบบนี้นะคะ หวังว่าปีหน้า คงมีโอกาสอิก เพราะว่า ลางานได้แว้วววว เย่
ชาวสงขลา หาดใหญ่ กับพี่น้องอิกหลายพื้นที่ อดทน อดทนนะคะ สู้ สู้ เราเป็นกำลังใจ
พึ่งจะมาได้ดูกะเค้า t-t
เราอยู่กลุ่มไม่ปกติจริงๆด้วย
vBulletin® v3.8.10, Copyright ©2000-2024, vBulletin Solutions, Inc.