View Full Version : งานเสวนา "ระดมสมองกู้วิกฤติแนวปะการัง"
มูลนิธิเพื่อทะเลจัดเสวนา "ระดมสมองกู้วิกฤติแนวปะการัง" Brainstorming for Coral Reef Crisis" ตามรายละเอียดดังนี้
พี่สองสายหรือสมาชิก sos ท่านใดจะไปร่วมประชุมเสวนาด้วยหรือเปล่าครับ ..
ช่วงเวลาของการระดมสมองหนึ่งชั่วโมงอาจจะน้อยไปนิด แต่ก็น่าจะมีแนวความคิดดีๆมานำเสนอกันบ้างนะครับ ..
Udomlert
26-01-2011, 14:43
นับเป็นงานที่ทันกับเหตุการณ์ จัดโดยองค์กรที่ไม่ใช่ภาครัฐ
ขอแสดงความชื่นชมด้วยครับ แตติดไปต่างจังหวัด จะรอฟังผลครับ
สองสายไปร่วมประชุมด้วยค่ะ....โดยสายชลจะเป็นตัวแทนของนักดำน้ำขึ้นพูดบนเวทีสัมมนาด้วย
เราจะพยายามให้ผลการสัมมนาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด เพื่อนำเสนอต่อทางการเพื่อดำเนินการตามข้อเสนอแนะของผู้เข้าร่วมสัมมนาต่อไปค่ะ
สมาชิกท่านใดว่าง....ขอเชิญไปร่วมด้วยช่วยเสวนานะคะ
โดยติดต่อไปที่น้องลูกหยี....bluemarine49@yahoo.com เพื่อขอเข้าร่วมเสวนาค่ะ
conundrum
26-01-2011, 16:36
ขออนุญาตินำไปประชาสัมพันธ์ที่บอร์ด ssd นะครับ
ด้วยความยินดีจ้ะน้องหนึ่ง....
พี่ส่งชื่อน้องหนึ่งไปให้ทางทีมงามเชิญน้องเข้าเสวนาด้วย....ถ้าว่างและอยากไปร่วมด้วยช่วยกันแต่ยังไม่ได้รับหนังสือเชิญ ก็ส่งชื่อและ E-mail ไปที่น้องหยีได้เลยนะจ๊ะ
จะมีการนำเสนอผลการเสวนาต่อนายกรัฐมนตรี ในวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ ค่ะ
เสียดาย....สองสายต้องไปประชุมที่ชุมพร กลับมาไม่ทันไปพบนายกฯ
จึงเป็นการ "ปิดทองหลังพระ" อีกงานหนึ่ง ตามที่ได้ตั้งปณิธานไว้ค่ะ...;)
ภูิมิใจที่ได้ปิดทองหลังพระครับพี่สองสาย ..
มีชื่อพี่สายชลเป็นตัวแทนของนักดำน้ำบนเวทีเสวนาด้วยก็ไม่ต้องห่วงแล้วครับ รอดูผลการประชุมว่าจะออกมาว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผลักดันเป็นวาระแห่งชาติไปเลยยิ่งดีนะครับ ..
ค่ะน้องปี๊บ....ปิดทองหลังพระ....ปิดทองหลังพระ.....
.......................................................................
วันนี้มีโทรศัพท์เข้ามาหาสายชล จำนวน 2 สายด้วยกัน.....
สายแรก....จากกรมอุทยานแห่งชาติฯ มาเชิญสายชลไปเป็นกรรมการของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาปะการังฟอกขาวในเขตอุทยานแห่งชาติทางทะเล
สายที่สอง....จากจังหวัดชุมพร เชิญไปเป็นกรรมการฝ่ายอนุรักษ์ทะเล ในคณะกรรมการจัดงานเปิดโลกทะเลชุมพร ซึ่งมีวาระเร่งด่วนขอเชิญไปประชุมในวันจันทร์ที่ 31 มกราคม นี้
ทั้งสองงานนี้....ก็เป็นงานปิดทองหลังพระอีกเช่นกัน.....มีความสุขจังค่ะ...
conundrum
26-01-2011, 19:20
ขอบคุณครับพี่
Thoto_Dive
26-01-2011, 21:25
สมัครไปเรียบร้อยครับ
ดีใจกับทั้งสาย 2 เรียกเข้าด้วยครับ แสดงให้เห็นว่าหน่วยงานรัฐบาลเริ่มจริงจังกับมาแก้ปัญหามากขึ้น และขอเป็นกำลังใจให้ผู้ปิดทองหลังพระทั้ง 2 ท่านด้วยครับ
ขอบคุณค่ะ...คุณ Thoto_Dive
แล้วพบกันที่ห้องเสวนานะคะ
งานนี้ฟรี....ไม่ต้องเสียเงินนะคะ...
angel frog
27-01-2011, 09:58
ขอให้ ผล ของ การเสวนาครั้งนี้ มีผลเป็นรูปธรรม ต่อ การพัฒนาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล(เร่งด่วน) และ การจัดการกับธุรกิจการท่องเที่ยวทางทะเล อันเกี่ยวเนื่องกัน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
...ขอปรบมือให้ ความตั้งใจ อันดีงามต่อ บ้านเรา ของทุกๆคน ที่มีส่วนในงานนี้ และหวังว่า อยากให้ต่อเนื่อง ไม่เลือนหายไป จนกว่าจะ ลุถึงผล อันสูงสุด
ช่วยกัน นะค่ะ ให้ทั้งกำลังกาย และใจ เลยยยย......
ขอบคุณค่ะน้องกบ....
จะพยายามให้การเสวนาครั้งนี้มีการนำไปใช้ปฏิบัติได้ อย่างเป็นรูปธรรม เหมือนครั้งที่เราไปร่วมด้วยช่วยกันกู้ชีวิตปะการังและกัลปังหาช่วงเกิดสึนามิที่ผ่านมาค่ะ
พรุ่งนี้เช้าแล้วนะคะ....ที่จะมีการเสวนากัน....
เนื่องจากไม่ใช่วันหยุด...ดูรายชื่อผู้ที่จะเข้าร่วมเสวนาที่ได้รับมา จึงมีแต่ข้าราชการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนักข่าวทั้งไทยและเทศ...
Super_Srinuanray
27-01-2011, 21:08
ดีใจกับพี่ทั้งสองด้วยคะ ที่เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าและทำประโยชน์ให้กับบ้านเรา
ดีใจจังเลยค่ะ ที่บ้านนี้ มีแต่คนเก่งๆ ทั้งนั้นเลย
คิดว่าผลจาการประชุม คงจะทำให้เกิดการปฎิบัติที่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมานะคะ
ขอบคุณจ้ะน้องติ่ง....
เรื่องนี้พี่สองสายเพียงลำพัง คงทำอะไรให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากกลุ่มนักดำน้ำและนักวิชาการ ที่ได้เคยร่วมด้วยช่วยกันทำงานกู้ปะการังและกัลปังหา ตอนช่วงหลังเกิดเหตุการณ์สึนามิ ซึ่งประกอบด้วย ครูศรันต์...น้องเอ๋ (วิทเยนทร์)...Taishiro...อาจารย์บอย (ศักดิ์อนันต์)....น้องโด่ง (ดร.ปิ่นสักก์) เป็นอาทิ ที่ได้หันมาจับมือและระดมสมองกันอีกครั้ง เพื่อหาทางช่วยเยียวยาแนวปะการังของไทย ที่ได้รับความเสียหายมากยิ่งกว่าตอนเกิดสึนามิเสียอีกนะคะ...
การเสวนาจบลงแล้วด้วยความสำเร็จเรียบร้อย....ประทับใจ....
ผู้เข้าร่วมประชุมได้แสดงความคิดเห็นกันอย่างมีสาระ เป็นเหตุเป็นผล ได้สาระ และมีเนื้อหาที่กระจ่างแจ้ง ข้อเสนอแนะต่างๆครอบคลุมทุกด้านที่เกี่ยวข้อง สามารถนำไปเสนอต่อทางการ เพื่อใช้ในการดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม
ถ้าเป็น facebook ก็ต้องกด like ให้ค่ะ :)
ผมเป็นพนักงานของ ncc
ผมสนใจเรื่องการดำน้ำเชิงอนุรักษ์
ได้ฟังพี่สายชลพูดพอดีเลย
ก็เลยตามมาขอเป็นสมาชิกของที่นี่ด้วยคนครับ
ขอบคุณค่ะน้องท้อป เดี๋ยวรายงานการเสวนาเสร็จจะนำมาลงให้อ่านกันค่ะ
ยินดีต้อนรับค่ะ น้อง haiada....ดีใจที่การไปพูดวันนี้ ทำให้ SOS มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งท่านค่ะ (พี่สองสายสนิทกับน้องฟ้า NCC ...น้อง haiada รู้จักน้องฟ้าไหมคะ...:confused:)
เรามีกิจกรรมดำน้ำทำงานรับใช้ทะเลสม่ำเสมอค่ะ ติดตามอ่านโครงการ และ รายงานผลงานของเราได้ในห้อง "กิจกรรมและผลงาน" นะคะ หากสนใจกิจกรรมใด และมีคุณสมบัติตรงตามที่เราต้องการ ก็สมัครไปทำงานกับเราได้เลยค่ะ
อยากทราบความรู้สึกของคนฟังการเสวนาวันนี้มากๆค่ะ.....เล่าให้ฟังหน่อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
งานนี้ดีมากครับ แสดงความคิดเห็นกันได้กว้างขวาง ทั้งนักวิชาการที่เข้าร่วมสัมนา และผู้เข้าร่วมสัมนาอื่นๆ ฟังกันจนเพลิน เลยเก็บภาพไม่ได้ครบทุกบรรยากาศ
มาดูภาพบรรยากาศบางมุมก่อน ส่วนสรุปผลของการสัมนาที่จะนำเสนอนายกรัฐมนตรี จะนำมาโพสต์ให้ได้รับทราบในโอกาสต่อไปนะครับ
http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Coral%20Crisis%20Seminar/Seminar_01.jpg
ผู้จัดสัมนาครั้งนี้คือ มูลนิธิเพื่อทะเล และ น้องเอ๋ วิทเยนทร์ มุตตามระ เลขานุการมูลนิธิฯ จึงทำหน้าที่ผู้ดำเนินการและประธานในที่ประชุม
http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Coral%20Crisis%20Seminar/Seminar_02.jpg
ผู้ร่วมอภิปรายบนเวทีมี 5 ท่าน :
รศ.ดร.เผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์ จากสมาคมวิทยาศาสตร์ทางทะเลแห่งประเทศไทย
http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Coral%20Crisis%20Seminar/Seminar_03.jpg
อ.ศักดิ์อนันต์ ปลาทอง (อ.บอย) จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Coral%20Crisis%20Seminar/Seminar_04.jpg
ดร.ทรงธรรม สุขสว่าง จาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Coral%20Crisis%20Seminar/Seminar_05.jpg
คุณกุลปราโมทย์ วรรณะเลิศ จาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Coral%20Crisis%20Seminar/Seminar_06.jpg
คุณแน่งน้อย ยศสุนทร (สายชล) จาก www.saveoursea.net
http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Coral%20Crisis%20Seminar/Seminar_07.jpg
บนฟลอร์ มีการแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะกันอย่างเต็มที่
นักวิชาการ ...... อย่าง อ.ธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ รองคณะบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Coral%20Crisis%20Seminar/Seminar_08.jpg
ดร.นลินี ทองแถม จาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน ภูเก็ต
ในภาพมีน้อง Thotto_dive นั่งยิ้มอยู่ด้านหลัง
http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Coral%20Crisis%20Seminar/Seminar_13.jpg
อ.ธรรมศักดิ์ ยีมิน จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง
http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Coral%20Crisis%20Seminar/Seminar_14.jpg
คุณรณวัน บุญประกอบ จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก
http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Coral%20Crisis%20Seminar/Seminar_12.jpg
นอกจากนั้น ก็มีใครต่อใครอีกมากมาย ที่บางครั้งผมฟังจนเพลิน ลืมถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน รวมทั้งภาพของน้อง Thotto_dive ด้วย ที่มีข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่แสบๆคันๆหลายเรื่อง และมีข้อเสนอแนะที่ดีๆ น่่าสนใจหลายข้อเช่นกัน
น้องเก๋ รัฎดา ลาภหนุน จาก IUCN
http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Coral%20Crisis%20Seminar/Seminar_11.jpg
น้องมีน จาก Fins และ www.digitalay.com
ในภาพ น้อง marine_wi และน้องปลา จาก ชีวทางทะเล จุฬาฯ ลูกหลาน SOS นั่งฟังอยู่ด้านซ้ายของภาพ
http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Coral%20Crisis%20Seminar/Seminar_09.jpg
นายคล้าว หน้าฉงน น้องนักศึกษาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ปี 4
http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Coral%20Crisis%20Seminar/Seminar_10.jpg
ส่วนข้อสรุป .... อย่างที่เรียนไว้ หลังจากนำเสนอต่อท่านนายกรัฐมนตรีแล้ว ผมจะนำมาโพสต์ให้ได้รับทราบกันต่อไปครับ
Super_Srinuanray
29-01-2011, 22:16
ดีใจค่ะ ที่ผ่านไปอย่างเรียบร้อย อยากฟังแนวทางที่จะทำการแก้ไข ว่าจะเป็นรูปธรรมได้อย่างไรบ้าง และอยากเห็นการปฎิวัติใต้ทะเลครั้งใหญ่ของประเทศค่ะ
Thoto_Dive
29-01-2011, 22:32
ดีใจมากเลยครับที่ได้มีโอกาส เข้าร่วมสัมนาครั้งนี้และได้พบพี่ 2 สายเป็นครั้งแรก รู้สึกอบอุ่นดี
ได้มีโอกาสฟังความเห็นและพบอาจารย์ที่เชี่ยวชาญแต่ละท่านไม่ว่า ดร.เนลินี ดร.ศักดิ์อนันต์ และดร.ธรณ์ อุ่นใจมากครับที่มีท่านๆเหล่านี้รวมทั้งพี่ 2 สาย คอยดูแลทะเลไทยของเรา
ผมว่างานสัมนาน่าจะมีประโยชน์มากๆนะครับ เพราะผู้ที่ร่วมแชร์หลายๆท่านเป็นผู้มีประสบการณ์และทำงานด้านนี้มานาน ท่านนายกน่าจะรับฟังและหวังว่าท่านจะนำไปปฎิบัติเพื่ิทะเลไทยของเราอย่างจริงจัง
ปล.อาจไม่ได้พูดคุยกันนานกับพี่ทั้ง 2 สาย พอดีมีงานด่วนจริงๆ ยังไงยังรอกิจกรรมดีๆของ sos และหวังว่าจะได้เข้าร่วมสักครั้งครับ (แต่ผมได้แต่ดำน้ำตื้นนะครับ :)
รอชมผลสรุปด้่วยเช่นกันครับ
และผลการประชุมอย่างน่าประทับใจที่ผ่านมาน่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้เห็นพลังการทำงานของภาคเอกชน น่าจะมีการประชุมร่วมกันแบบนี้อย่างน้อยปีละครั้ง พูดคุยถึงประเด็นและสถานการณ์ในแ่ต่ละปีด้วยนะครับเนี่ย ..
bluemarine49
31-01-2011, 12:08
สวัสดีค่ะทั้งพี่สายน้ำและพี่ชายชล
การเสวนาเป็นงานที่ทุกคนได้เปิดใจถึงความรู้สึกความคิดที่มีต่อสถานภาพแนวปะการังในปัจจุบัน โดยเป็นงานที่ทั้งหน่วยงานภาครัฐ
นักวิชาการ นิสิต อาจารย์มหาวิทยาลัย กลุ่มนักดำน้ำ ครูสอนดำน้ำ ตัวแทนกลุ่มNGO เป็นการชี้แจงและรับฟัง+รับรู้ ขอให้เป็นนิมิตหมายอันดีนะคะ
รู้สึกอิ่มเอมที่ได้ทำงานร่วมในครั้งนี้ด้วยค่ะ (o^^o )
แต่ก็มีเรื่องเสียดายอยู่เกี่ยวกับการเชิญผู้ประกอบการธุรกิจดำน้ำทางอันดามันไม่ได้
เนื่องจากเสวนาครั้งกระทันหันมาก รู้สึกเสียใจอยากให้เค้ามาเข้าร่วมเหลือเกิน
เพราะตัวเองคิดว่าเค้าเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความสำคัญในการเสวนาครั้งนี้มากเหมือนกัน
ไม่แน่เราอาจได้มุมมอง หรือความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เพิ่มขึ้นก็ได้นะคะ ><!
มดงานตัวเล็กๆ(...อิอิ)
ขอบคุณน้อง Thoto_Dive....น้องดอกปีบ....น้องลูกหยี bluemarine49 ที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นค่ะ....
เวลาในการเตรียมงานเสวนาครั้งนี้ของเราน้อยมากค่ะ คือคณะทำงานประชุมกันวันจันทร์ แล้วก็กำหนดงานเสวนากันวันศุกร์เลย แต่งานก็ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม (ต้องปรบมือและขอบคุณมดงานตัวไม่น้อยอย่างน้องลูกหยี น้องๆจาก ทช. และคณะทำงานตัวยักษ์ๆทั้งหลายมากๆค่ะ) ซึ่งแม้จะได้ผู้ประกอบการจากภูเก็ตและจังหวัดไกลๆมาได้ไม่ครบอย่างน้องลูกหยีว่า แต่ก็มีหลายคนฝากสายชลมาพูดแทนแล้ว ซึ่งถือว่าได้มุมมองที่ดีๆมากมายมาเติมเต็ม การเสวนาครั้งนี้จึงออกมาดีมาก และนับเป็นนิมิตหมายที่ดีจริงๆที่เหล่าเครือข่าย (Net Work) ได้มาเชื่อมต่อกันอย่างเหนียวแน่น
หวังว่าจะมีงานเสวนาอย่างนี้อีกบ่อยๆนะคะ เพื่อทะเลไทยที่รักของเราค่ะ
วันนี้สองสายออกจากหัวหิน ไปประชุมที่ชุมพรแต่เช้า พอเย็นๆก็เดินทางกลับมานอนที่หัวหินใหม่ ระหว่างทาง น้องเอ๋ (วิทเยนทร์) โทรมาตามให้ไปพบนายกฯ อภิสิทธิ์ เพื่อยื่นผลการเสวนาในครั้งนี้ ในเวลา 13.30 น. ของวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ (พรุ่งนี้) แต่สองสายเหนื่อยมากๆ พรุ่งนี้เลยขอนอนตื่นสายๆ สยายๆที่หัวหินสักวัน จึงขอให้น้องเอ๋ยื่นรายงานฯ ให้นายกฯ พร้อมกับคณะ ซึ่งประกอบด้วยครูศรันต์....อาจารย์เผดิมศักดิ์....อาจารย์ธรณ์....อาจารย์ศักดิ์อนันต์ เป็นอาทิ ซึ่งทุกท่านล้วนระดับเซียนทั้งสิ้น ขาดสองสายไปอีกสองคน คงไม่ทำให้รายงานขาดความน่าเชื่อถือไปอย่างแน่นอนค่ะ...
bluemarine49
31-01-2011, 21:35
น่าเสียดายจังค่ะนึกว่าจะได้พี่ทั้งสองน้ำ><!!
อุ๊ยยยย...."สองน้ำ" เนี่ย.....ไม่ค่อยคุ้นเลยจ้ะน้องลูกหยี....คิกๆ...:p
พี่สองสายถือว่า....งานนี้ เราได้ทำหน้าที่เสร็จสิ้น และ สมบูรณ์แล้วจ้ะน้องลูกหยี.....ตอนนี้ เรากำลังเตรียมตัวลุยงานอื่นๆเพื่อทะเลไทยของเรา ที่กำลังตามมาเป็นหางว่าวต่อไปจ้า.....;)
หลังจากที่ได้นำเสนอ "ข้อเสนอแนะจากการประชุมระดมสมองกู้วิกฤตแนวปะการัง" ต่อท่านนายกรัฐมนตรี ไปแล้วเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554
ผมจึงขอนำข้อสรุปดังกล่าว มานำเสนอผ่าน SOS ดังต่อไปนี้
http://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Coral%20Bleaching%20Crisis_ForSea/Positionpaperbleachingforsea20110130_Page_01.jpg
http://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Coral%20Bleaching%20Crisis_ForSea/Positionpaperbleachingforsea20110130_Page_02.jpg
http://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Coral%20Bleaching%20Crisis_ForSea/Positionpaperbleachingforsea20110130_Page_03.jpg
http://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Coral%20Bleaching%20Crisis_ForSea/Positionpaperbleachingforsea20110130_Page_04.jpg
http://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Coral%20Bleaching%20Crisis_ForSea/Positionpaperbleachingforsea20110130_Page_05.jpg
http://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Coral%20Bleaching%20Crisis_ForSea/Positionpaperbleachingforsea20110130_Page_06.jpg
http://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Coral%20Bleaching%20Crisis_ForSea/Positionpaperbleachingforsea20110130_Page_07.jpg
http://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Coral%20Bleaching%20Crisis_ForSea/Positionpaperbleachingforsea20110130_Page_08.jpg
http://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Coral%20Bleaching%20Crisis_ForSea/Positionpaperbleachingforsea20110130_Page_09.jpg
http://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Coral%20Bleaching%20Crisis_ForSea/Positionpaperbleachingforsea20110130_Page_10.jpg
http://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Coral%20Bleaching%20Crisis_ForSea/Positionpaperbleachingforsea20110130_Page_11.jpg
http://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Coral%20Bleaching%20Crisis_ForSea/Positionpaperbleachingforsea20110130_Page_12.jpg
http://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Coral%20Bleaching%20Crisis_ForSea/Positionpaperbleachingforsea20110130_Page_13.jpg
http://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Coral%20Bleaching%20Crisis_ForSea/Positionpaperbleachingforsea20110130_Page_14.jpg
http://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Coral%20Bleaching%20Crisis_ForSea/Positionpaperbleachingforsea20110130_Page_15.jpg
http://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Coral%20Bleaching%20Crisis_ForSea/Positionpaperbleachingforsea20110130_Page_16.jpg
เห็นบทความของอาจารย์ศักดิ์อนันต์ในเฟซบุ๊ค เลยของอนุญาตนำมาลงไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ความเห็นของอาจารย์น่าสนใจเหมือนเดิมครับ ..
ที่มา ..http://www.facebook.com/home.php#!/note.php?note_id=10150095011452201&id=100000708994198
Top down policy เส้นทางที่ไม่เดินไปตามระบบ แต่จำเป็นในสถานการณ์เร่งด่วน
by Sakanan Plathong on Wednesday, February 2, 2011 at 8:07am
เรื่องปะการังฟอกขาวที่นักวิชาการเสนอสู่นายกรัฐมนตรี..
อย่าเพิ่งเชื่อว่ามันจะได้เป็นอย่างที่คาดหวัง สิ่งที่พวกเราทำเป็นเพียงกระบวนการหนึ่งของอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ
ที่ผ่านมาพวกเราก็อยากเห็นกระบวนการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินไปตามขั้นตอนของระบบต่างๆ ข้อมูลจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่รู้สถานการณ์ดี เสนอแนะการแก้ไขปัญหา ขึ้นไปสู่ผู้บริหารระดับต่างๆ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างทันสถานการณ์
แต่ที่ผ่านมา ..มันก็เห็นแล้วว่า มันไปได้ช้ามาก มีขั้นตอน และวัฒนธรรมองค์กร ค่อยฉุดรั้งไม่ให้มันเดินไปเร็วอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้น การทำงานในรูปแบบนี้ จึงเป็นเหมือนการข้ามขั้นตอนของระบบ นำเสนอขึ้นไปสู่ผู้บริหารระดับสูงสุดของประเทศโดยตรง เพื่อให้สั่งการมาจากด้านบน ซึ่งตามหลักการมันไม่ควรเป็นอย่างนี้ นายกรัฐมนตรี ไม่ควรต้องมาสั่งการงานที่หน่วยงานที่มีหน้าที่ปฏิบัติต้องทำอยู่แล้ว
ท่านนายกฯ บอกว่า "กฎหมายมันมีอยู่แล้ว หน่วยงานที่รับผิดชอบ มีหน้าที่ต้องทำอยู่แล้ว"
แต่การให้ผู้บริหารระดับสูงได้รับทราบปัญหาดีในด้านการผลักดันในระดับนโยบาย เร่งด่วน และการจัดการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างในระยะยาวของประเทศ ท่านนายก ก็เพิ่งทราบว่า เรามีแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการแนวปะการังของประเทศ ที่นักวิชาการช่วยกันคิดมานาน ที่ควรออกมาเป็นมติคณะรัฐมนตรี ท่านก็กำชับให้เลขาฯของท่าน ตามเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที
และเรื่องราวอีกหลายเรื่องที่ท่านได้รับทราบ แต่ที่สุดแล้วการทำงานระดับปฏิบัติ มันก็จะกลับไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ดี
เพราะ ไม่ใช่หน้าที่ของ นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ที่จะไปบอกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้จัดทำแนวเขตห้ามเข้าบริเวณที่น้ำตื้น จนเหยียบปะการัง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันเรือลักลอบทำการประมงในเขตอุทยานฯแห่งชาติ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการและระเบียบเรื่องการปล่อยน้ำทิ้งลงสู่ แนวปะการัง การป้องกันตะกอนที่ไหลลงแนวปะการัง และอื่นๆ อีกหลายข้อที่เป็นข้อจุกจิกในเชิงเทคนิค และแม้แต่เรื่องที่อุทยานแห่งชาติทางทะเลควรจะมีผู้เรื่องทะเลไปปฏิบัติงาน เรื่องเหล่านี้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องทำ
ดังนั้น.. ก็ยังคงต้องช่วยคิดอยู่ดีว่า สิ่งที่อยู่ในมือนายกรัฐมนตรี มันจะเดินทางไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยขั้นตอนอย่างไร
bluemarine49
02-02-2011, 18:44
ขอรายงานต่อจากของอาจารย์งบอยอีกนิดหน่อย.....
สิ่งหนึ่งที่เห็นผลทันทีที่ได้เข้าพบท่าน เมื่ออาจารย์ธรรมศักดิ์ได้พูดถึงแผนยุทธศาสตร์
และแผนปฎิบัติการ บริหารจัดการแนวปะการัง ที่ได้จัดทำขึ้นมาโดยนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ
(ดูตามลิงค์ http://61.19.55.253/omcrc/ebookdetail.php?book_id=00020)
ซึ่งทำไว้ตั้งแต่ 5 ปี ที่แล้วแล้ว แต่ไม่สามารถทำไปผ่านการพิจารณาเพื่อนำมาปฎิบัติใช้ได้
เมื่อท่านนายกฯ ได้ทราบ ท่านก็ได้ให้ฝ่ายเลขาฯโทรมาสอบถามหลังจากเข้าพบท่านแล้ว
เพื่อที่จะสอบถามรายละเอียดและจะได้สั่งการให้ไปตรวจสอบว่า และหวังว่าท่านคงจะช่วยผลักดันให้ได้ใช้แผนฯ เพิ่ออย่างน้อยให้เราได้มีแผนการจัดการที่รูปธรรมมากกว่าปัจจุบันนี้.....
ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ที่ทุกคนที่ได้ทั้งร่วมแรงและร่วมใจทำ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะมีผลอย่างไร
มันจะไม่มีวันสูญเปล่า....
ในวงการดำน้ำ....เราถือว่าการวางแผนการดำน้ำเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการวางแผนที่ดีจะทำให้การดำน้ำปลอดภัย มีความสุขสนุกสนาน ลดปัญหาข้อติดขัดต่างๆไปได้มากมาย จนเรามี Slogan ดีๆเดี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า "Plan Your Dive,then, Dive Your Plan"
หากทางราชการมี "แผนยุทธศาสตร์และแผนปฎิบัติการ บริหารจัดการแนวปะการัง" แต่มิได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งพวกเราชาวบ้านทั่วไป และผู้ประกอบการทั้งหลาย ก็มิได้ใส่ใจกับการดูแลรักษาแนวปะการัง และ ธรรมชาติเองพลอยมาช่วยซ้ำเติมให้แนวปะการังบอบช้้ำเข้าไปด้วยแล้ว เราก็คงพอจะมองอนาคตของแนวปะการังของไทยได้ว่า ในอีกไม่ช้าไม่นาน แนวปะการังบ้านเราคงไม่พ้นจากหายนะ หาความสวยงามและความสมบูรณ์ไม่ได้
จากการประมาณกันว่า แนวปะการังบ้านเราจะอยู่ได้ไปอีกสัก 50 ปี ก่อนจะถึงการณ์อวสาน เวลานั้นก็จะลดน้อยถอยลง และเราอาจจะได้เห็นว่า ทะเลไร้ปะการังโดยสิ้นเชิง ภายในช่วงชีวิตของเราก็อาจเป็นไปได้.....
และ ไม่ต้องไปนึกถึงรุ่นหลานเหลนของเราหรอกนะคะ....เพระาเขาและเธอคงได้เห็นแต่ภาพปะการังในหนังสือ VDO หรือ Internet เท่านั้น
คิดแล้วเศร้าจริงๆค่ะ.... :(
อ่านข่าวนี้แล้วอมยิ้มแก้มตุ้ยเลยค่ะ.....
ดีใจค่ะ ที่ผลจากการเสวนาเรื่อง ""ระดมสมองกู้วิกฤติแนวปะการัง"....น่าจะเริ่มส่งผลให้เห็นแล้ว อย่างน้อยๆ ก็ทำให้เรื่องที่เคยซุบซิบๆกันมานาน ได้ขึ้นมาอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์เสียที....
จี้อุทยานฯสอบธุรกิจร้านค้าสวัสดิการ
จี้อุทยานฯสอบธุรกิจร้านค้าสวัสดิการด้านผอ.รับไม่เคยตรวจสอบต้องดูระเบียบก่อน
วันนี้( 2 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทุจริตค่าธรรมเนียมดำน้ำในฝั่งทะเลอันดามัน และตรวจสอบเงินรายได้ของร้านอาหารสวัสดิการในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ และหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา เนื่องจากมีการอ้างว่าเป็นร้านอาหารสวัสดิการ และได้มีการแอบนำขยะไปฝังกองทิ้งไว้โดยไม่ได้มีการฝังกลบที่อ่าวสุเทพ อ่าวสัปปะรด ซึ่งเป็นแหล่งวางไข่เต่าทะเล และบริเวณหน้าหาดมีแนวปะการังอยู่ด้วย
ด้านนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า โดยหลักการอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ ต้องส่งเงินรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน ค่าธรรมเนียมดำน้ำ ค่าบ้านพัก และค่าเช่าเต็นท์ ให้กับกรมอุทยานฯ ส่วนเงินรายได้ที่ไม่ส่งให้ส่วนกลาง เช่น ร้านค้าอาหารสวัสดิการในอุทยาน ค่าเช่าอุปกรณ์ดำน้ำ ชูชีพ ซึ่งเท่าที่ทราบในหลายแห่งจะใช้วิธีบริหารแบบถือหุ้นทุกคน ตั้งแต่ระดับหัวหน้า และเจ้าหน้าที่อุทยาน โดยผลประโยชน์ที่ได้รับจะปันผลให้ตามจำนวนหุ้นที่ถือ ทั้งนี้ยอมรับว่าที่ผ่านมากรมอุทยานฯไม่ได้เข้าตรวจสอบบัญชีรายรับจากส่วนนี้ เพราะถือว่าเป็นการหารายได้เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แต่ถ้ามีการร้องเรียนเกิดขึ้นก็ต้องดูระเบียบก่อนว่าจะสามารถตรวจสอบได้หรือไม่ อีกทั้งจะหยิบกรณีนี้เป็นหัวข้อพูดคุยระดมความเห็นกันในวันที่ 14 ก.พ.นี้ ที่จ.ภูเก็ต
ขอบคุณข่าวจาก .... http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=420&contentID=119072
มีข่าวเรื่องการเสวนามาเพิ่มให้อ่านค่ะ....
http://www.suthichaiyoon.com/media/img/size1/2011/01/29/78d59ieffgdfa9fkbecbi.jpg
ชง'มาร์ค'ปิดท่องเที่ยวดำน้ำฟื้นปะการัง
นักวิชาการชงวาระเร่งด่วนแก้ปะการังให้ "อภิสิทธิ์" 1 ก.พ. เสนอปิดการท่องเที่ยว ปิดจุดดำน้ำ สร้างทางเลือกปะการังเทียมให้นักท่องเที่ยว เพื่อฟื้นฟูปะการังระยะยาว นักดำน้ำเปิดข้อมูลพบเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ขอแบ่งเค้กค่าธรรมเนียมดำน้ำ 60 ต่อ 40 เรียกร้องกรมอุทยานฯ จัดโซนนิ่งพื้นที่ดำน้ำให้ชัดเจน
มูลนิธิเพื่อทะเล ได้จัดเสวนาเรื่อง "ระดมสมองกู้วิกฤติแนวปะการัง" โดย มีตัวแทนจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ตัวแทนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเล กลุ่มนักดำน้ำ และประชาชนที่สนใจเข้าร่วมจำนวนมาก วานนี้ (28 ม.ค.)
นายศักดิ์อนันต์ ปลาทอง อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า ปะการังฟอกขาวในปัจจุบันอยู่ในช่วงการตายของปะการัง แต่แปลกที่หน่วยงานภาครัฐกลับบอกว่าปะการังที่มีสีเข้ม เพราะมีสาหร่ายขึ้นปกคลุมนั้นหายจากภาวะฟอกขาว โดยหารู้ไม่ว่าปะการังเหล่านั้นตายแล้ว ซึ่งแม้มีบางส่วนฟื้นคืนมาบ้างแต่ก็ไม่สมบูรณ์ และแตกต่างจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2534 และ 2538 ที่ปะการังฟอกขาวส่วนมากฟื้นกลับมาได้
นอกจากนี้ ที่น่าเป็นห่วง คือ พวกปะการังโขดที่คาดว่าอายุ 300-400 ปี ซึ่งแต่ละปีจะเติบโตได้เพียง 1 เซนติเมตร ก็เกิดการฟอกขาว จึงต้องมองไปถึงปะการังส่วนที่เหลือรอดอยู่ซึ่งมีจำนวนน้อย หรือส่วนที่ตายไปแล้วจะทำอย่างไรให้รอดอยู่ได้ เพื่อไม่ให้ระบบนิเวศน์เสียหาย โดยเฉพาะถ้าไม่สามารถป้องกันการปกคลุมของสาหร่ายได้ เราก็จะไม่ได้ปะการังกลับคืนมา
นายศักดิ์อนันต์ กล่าวว่า ในส่วนของอันดามันตอนใต้บริเวณช่องแคบมะละกาหรือบริเวณตั้งแต่ จ.ภูเก็ต-สตูล หลายแห่งพบปะการังฟอกขาว แต่ฟื้นคืนได้เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะที่หมู่เกาะอาดัง-ราวี ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล มีฟื้นกลับมาได้ ตายไปเพียง 10% ซึ่งกำลังติดตามศักยภาพในการฟื้นตัวของปะการังวัยอ่อนที่กำลังลงเกาะซาก ปะการัง ดังนั้น จึงไม่ใช่ว่าประเทศไทยหมดหวังกับเรื่องปะการังแล้ว เพราะยังมีโอกาสจากการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของปะการังอยู่ ซึ่งทางฝั่งอ่าวไทยช่วงนี้เป็นช่วงที่ปะการังผสมพันธุ์อยู่ จึงต้องขอความร่วมมือในการปกป้องและรบกวนให้น้อยที่สุด
"วาระเร่งด่วน คือ ต้องปิดการท่องเที่ยว ปิดจุดดำน้ำ และสร้างแหล่งปะการังเทียมขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีทางเลือก ส่งเสริมการท่องเที่ยวไปกลับบนเกาะแทนการนอนค้าง ลดการพัฒนาบนฝั่งที่ทำให้มีตะกอนลงทะเล โดยเฉพาะการก่อสร้างถนนของภาครัฐ และการเปิดหน้าดินเพื่อก่อสร้างรีสอร์ทของเอกชน ที่ทำให้มีตะกอนลงไปทับถมซากปะการัง แก้ปัญหาน้ำทิ้งจากเรือท่องเที่ยว"
ส่วนระยะยาวขอให้กรม อุทยานฯ ปฏิบัติตามกฎระเบียบและแผนแม่บทเพื่อควบคุมนักท่องเที่ยว และการปรับองค์กรของรัฐ โดยเฉพาะกรมอุทยานฯ ที่น่าจะมีนักวิชาการด้านทะเลมาทำหน้าที่ รวมทั้งการหาบุคลากรที่มีคุณภาพในการเข้ามาเป็นหัวหน้าอุทยานฯ ทางทะเล เป็นต้น
ด้านนายวิทเยนทร์ มุตตามระ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการมูลนิธิเพื่อทะเล กล่าวว่า จะนำข้อมูลทั้งหมดที่ได้ในการระดมสมอง จัดทำเป็นข้อสรุป เพื่อส่งถึงมือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในการประชุม ครม. 1 ก.พ.นี้ ยืนยันว่าจะใช้ทุกสถานะของตัวเอง เพื่อผลักดันในเรื่องนี้อย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการระดมสมองครั้งนี้มีนักดำน้ำอิสระ และครูสอนดำน้ำ และผู้ประกอบการธุรกิจทัวร์ ได้ร่วมประชุมและเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการเรียกรับผลประโยชน์ค่าธรรมเนียม เข้าอุทยานแห่งชาติทางทะเลในฝั่งอันดามัน โดยนักดำน้ำอิสระรายหนึ่ง กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เดินทางพาลูกทัวร์เข้าไปดำน้ำที่อุทยานฯ แห่งหนึ่ง พอไปถึงก็มีเจ้าหน้าที่กระโดดลงมาที่เรือทันที พร้อมกับยื่นข้อเสนอทางวาจาว่าจะแบ่งกันไหมเขาขอ 60 และให้เรา 40 จากเงินค่าธรรมเนียมจากจำนวนหัวของนักท่องเที่ยวที่มาในเรือลำนี้
"พอเจอแบบนี้ก็รู้สึกอึ้ง มาก และสอบถามกับเพื่อนๆ ที่ทำทัวร์ในพื้นที่นี้ ต่างยอมรับว่าการเก็บเงินค่าธรรมเนียมทางทะเล มีอิทธิพลท้องถิ่น และทำงานเป็นกระบวนการ"
นักดำน้ำอิสระรายนี้ กล่าวต่อไปว่า อยากเรียกร้องให้กรมอุทยานฯ ลงมาตรวจสอบสภาพปัญหาในพื้นที่ และให้กรมชี้แจงการเก็บเงินค่าธรรมเนียมดำน้ำจำนวน 400 บาทต่อคนด้วย ว่า เก็บเงินเข้ากระเป๋าส่วนตัวของใคร หรือได้นำเงินรายได้ส่วนนี้ไปใช้ประโยชน์ในการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลหรือไม่
ขณะที่นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ยอมรับว่า ความล้มเหลวในการจัดการทรัพยากรปะการัง มาจากการขาดนโยบายในระดับชาติที่ชัดเจน รวมทั้งมีปัญหาบุคลากรที่มาดูแลอุทยานทางทะเล ที่ส่วนใหญ่จะมาจากสายป่าไม้ ไม่ได้จบทางด้านทะเลโดยตรง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ กรมเคยมีส่วนอุทยานแห่งชาติทางทะเล และมีการเทรนด์หลักสูตรดำน้ำเสริมประสิทธิภาพให้กับหัวหน้าอุทยานทางทะเล แต่ปัจจุบันส่วนอุทยานทางทะเล ได้ถูกยุบไปแล้ว
"ในสัปดาห์หน้า จะมีการประชุมเรื่องปะการังฟอกขาวตาย โดยเตรียมผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งในส่วนของกรมมีข้อเสนอหลักที่จะให้นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานฯ พิจารณา ประกอบด้วย ข้อเสนอให้โซนนิ่งแหล่งดำน้ำ เพื่อกำหนดให้ชัดเจนว่าพื้นที่ไหนที่ต้องเก็บเพื่ออนุรักษ์ และไม่ให้มีกิจกรรมท่องเที่ยว"
นายทรงธรรม กล่าวต่อไปว่า ส่วนแนวปะการังที่ตายบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ สิมิลัน รวมทั้งที่หมู่เกาะอาดัง ราวี ของอุทยานฯ ตะรุเตา ถึงจะมีโอกาสฟื้นตัวได้ แต่ก็ขอให้คงนโยบายปิดไว้ก่อน เพื่อให้นักวิชาการเข้าศึกษาวิจัยอย่างละเอียด นอกจากนี้ จะให้พิจารณาขึ้นค่าธรรมเนียมดำน้ำ เพื่อช่วยคัดกรองนักท่องเที่ยว และจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว เพราะถ้าเทียบกับแหล่งดำน้ำอื่นๆ อาทิเช่น ที่หมู่เกาะมัลดีฟส์ และออสเตรเลีย แล้วของไทยถูกที่สุดแล้ว
ส่วนนางแน่งน้อย ยศสุนทร ตัวแทนจากกลุ่มครูสอนดำน้ำ องค์กร Saveoursea เสนอว่า อยากให้กรมอุทยานฯ กำหนดพื้นที่ดำน้ำลึก และดำน้ำตื้นในแหล่งท่องเที่ยวแต่ละจุด โดยอิงเรื่องประสบการณ์ดำน้ำของนักท่องเที่ยวที่ต้องมีระดับของการดำน้ำมา เป็นเกณฑ์ แต่ในเมืองไทยทุกคนเข้าถึงพื้นที่ได้ง่าย
นอกจากนี้ ขอให้ยกเลิกสอบดำน้ำตามอุทยานต่างๆ เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้ปะการังน้ำตื้นเสียหาย รวมทั้งขอให้ทบทวนพิจารณาประกาศปิดจุดดำน้ำ เพื่อลดผลกระทบในพื้นที่ที่ปะการังฟอกขาวตาย และยังเลือกปิดในจุดที่ไม่มีผลกระทบจากการฟอกขาว ซึ่งส่วนใหญ่เกิดในแนวปะการังน้ำตื้น มากกว่าจุดดำน้ำลึก
นางกุลปราโมทย์ วรรณะเลิศ ตัวแทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ข่าวปะการังฟอกขาวที่ออกไปนั้น ไม่พบว่ามีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวมากนัก จะกระทบเฉพาะในส่วนการดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก....http://www.suthichaiyoon.com/detail/8106
Thoto_Dive
04-02-2011, 00:12
ได้อ่านบทความของอาจารย์บอยแล้ว เหมือนเราคงต้องพยายามกันต่อไปนะครับพี่
ส่วนมาตรการเร่งด่วนข้อที่ 1 ถ้าอุทยานไม่ทำเราช่วยกันทำไหมครับ
vBulletin® v3.8.10, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions, Inc.