PDA

View Full Version : Trip เกาะกูด กับพฤติกรรมที่ชวนหงุดหงิดอย่างแรง


zmax
03-05-2011, 22:39
เมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมาผมได้ซื้อทริปไปเที่ยวเกาะกูดครับพักบนเกาะกูด
ตามกิจกรรมที่ทางรีสอร์ทจัดให้นั้นในวันที่ 2 จะมีการพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำตื้นที่บริเวณด้านตะวันออกของเกาะรัง ซึ่งตามปกติทางรีสอร์ทเค้าก็จะแจกเสื้อชูชีพ Mask และ Snorkel ให้ แต่ผมเตรียมเอาไปเองรวมทั้ง Fin ด้วย
ณ จุดดำน้ำซึ่งก็มีนักท่องเที่ยวจากทั้งเกาะช้าง และเกาะกูดมารวมกันจากหลายๆรีสอร์ท นับร้อยๆคน ซึ่งจากที่ประเมินส่วนใหญ่ก็คงจะไม่ค่อยรู้เรื่องการดำน้ำและการอนุรักษ์ซักเท่าไหร่ (สงสารปะการังอ่ะ) ปกติแล้วนักท่องเที่ยวจะนั่ง Speed boat มาพร้อมกับคนขับเรือแล้วก็ Staff อีก 2-3 คน ลงน้ำคอยดูแลนักท่องเที่ยวของรีสอร์ทตนเอง อันนี้ผมก็เข้าใจนะว่าเค้าก็พยายามเอาใจนักท่องเที่ยวในกลุ่มของตนเอง ถึงมีพวกที่พยายามจะดำลงไปหยิบตัวนั้น ตัวนี้ขึ้นมาให้นักท่องเที่ยวในกลุ่มของตนดู

และแล้วก็มีอยู่ช่วงนึงครับ มีนักท่องเที่ยวชาย-หญิงคู่นึงใส่ชูชีพก้มดูประการังอยู่ (มาจากคนละรีสอร์ทกับผมครับเพราะใส่เสื้อชูชีพคนละสีกันแต่ผมไม่รู้ว่ามาจากเกาะช้างหรือเกาะกูด) โดยเค้าอยู่ทางด้านหน้าผมห่างจากผมและภรรยาซักประมาณ 7-10 เมตรได้ เค้าเห็นหอยมือเสือตัวนึงซึ่งผมประเมินว่าน่าจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติครับ ทั้งสองคนก็ชี้ให้อีกคนนึงดู บังเอิญตรงนั้นที่เค้าทั้งสองคนอยู่มี Staff คนนึงซึ่งผมคิดว่าน่าจะมากับกลุ่มของเค้านั่นแหละ อยู่ตรงนั้นแหละเห็นสองคนนั้นชี้พอดี ทันใดนั้นเค้าก็มุดน้ำลงไปพยายามถอนหอยมือเสือขึ้นมาจากหินครับ คำว่าถอนนี่ให้ลองนึกภาพนะครับว่าหอยมันติดอยู่บนก้อนหิน เค้าเอาเท้าทั้งสองข้างเหยียบคร่อมระหว่างตัวหอยแล้วก้มลงเอามือจับออกแรงถอนขึ้นเหมือนเราถอนรากไม้จากพื้นดินยังไงอย่างงั้นเลย ผมกับภรรยาเห็นดังนั้นก็พยายามส่งเสียง โบกไม้โบกมือห้าม พร้อมทั้งรีบตีฟินไปให้ถึงจุดนั้น

ผู้ชาย Staff คนนั้นหมดลมแล้วขึ้นมาหายใจแล้วมุดลงไปใหม่อยู่ 3 ครั้ง ขณะนั้นผมเองก็ได้สติจากอาการช้อกที่เห็นภาพนั้นหยิบกล้องออกมากะว่าจะถ่าย VDO เก็บไว้เป็นหลักฐานซะหน่อย แต่ไม่ทันซะแล้วครับ เจ้าหอยที่น่าสงสารรากขาดหลุดจากหินเป็นที่เรียบร้อยซะแล้ว ผมเลยได้แต่ภาพที่เจ้าหอยหลุดออกมาแล้ว

http://i256.photobucket.com/albums/hh186/jarthuron/IMG_0210_resize.jpg


ซึ่งตรงที่รากของหอยมือเสือตัวนั้นเคยเกาะอยู่มีปลา 3-4 ตัวพยายามเข้ามาตอดกินรากของเค้าด้วยครับ และหลังจากที่เค้าเอาขึ้นมาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับเจ้าหอยโชคร้ายตัวนั้นแล้ว เค้าก็เอามันกลับลงไปวางที่เดิม (หอยมือเสือไม่ใช่ปลิงทะเลนะจะได้เอากลับลงไปวางเฉยๆได้)

http://i256.photobucket.com/albums/hh186/jarthuron/IMG_0211_resize.jpg

ภาพต่อมาที่ผมพบก็คือเจ้าปลา 3 ตัวนั้น พยายามตอดบริเวณด้านล่างที่ส่วนรากของหอยมือเสือครับ

http://i256.photobucket.com/albums/hh186/jarthuron/IMG_0212_resize.jpg

ซึ่งผมรู้ว่าไม่ดีแน่ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ เพราะถ้าหอยล้มลงมาละก็ จุดอ่อนของเค้าก็จะถูกปลาพวกนั้นตอดกินจนตายแน่ ผมก็เลยย้ายเค้าไปไว้ในที่ซึ่งค่อนข้างเป็นซอกหิน ที่ปลาเข้าถึงได้ยากหน่อย แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไรได้ดีไปกว่านี้แล้วล่ะครับ

จากที่ผมประเมินคือ Staff คนนั้นก็ยังอายุน้อยอยู่เลย น่าจะไม่มีความรู้ในเรื่องการดำน้ำดีด้วยซ้ำ รวมไปถึงน่าจะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสัตว์น้ำและการอนุรักษ์ รวมถึงการอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยว ผมคิดว่าทางรัฐและเจ้าของรีสอร์ททั้งหลายน่าจะมีการอบรมในเรื่องของการ ดูและนักท่องเที่ยวในการดำน้ำตื่นที่ถูกต้อง รวมไปถึงความรู้ในการอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยว ข้อปฏิบัติ ข้อห้ามต่างๆ แล้วออกเป็นใบอนุญาตให้มาปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้ ไม่งั้นถ้าเป็นอย่างงี้ต่อไป แหล่งท่องเที่ยวเราก็คงไม่เหลือล่ะครับ แค่โลกร้อนก็ทำให้ปะการังตายเยอะพอแล้ว แล้วหอยมือเสือก็กว่าจะโตได้ขนาดนั้นต้องใช้เวลามากเท่าไหร่

zmax
03-05-2011, 22:41
ภาพต่อๆไปเป็นสภาพนิเวศโดยรอบที่พบเห็นของเกาะรังครับ จะพบว่ามีปะการังตายเป็นจำนวนมากและวงกว้าง มีSoft coral เหลืออยู่บ้างเล็กน้อยเป็นหย่อมๆครับ สภาพโดยรวมประเมินจากตัวผมเองคิดว่าน่าเศร้าพอดูเลย

http://i256.photobucket.com/albums/hh186/jarthuron/IMG_0206_resize.jpg

http://i256.photobucket.com/albums/hh186/jarthuron/IMG_0205_resize.jpg

http://i256.photobucket.com/albums/hh186/jarthuron/IMG_0204_resize.jpg

zmax
03-05-2011, 22:45
ภาพต่อไปเป็นหอยมือเสืออีกตัวที่พบบริเวณไม่ไกลกันเท่าไหร่ครับ สภาพการเกิดน่าจะคล้ายๆกับตัวที่ถูกถอนเลยครับ

http://i256.photobucket.com/albums/hh186/jarthuron/IMG_0220_resize.jpg

http://i256.photobucket.com/albums/hh186/jarthuron/IMG_0221_resize.jpg

zmax
03-05-2011, 22:53
สรุปโดยรวมผมก็ถือว่าผมได้ไปพักผ่อนและก็พอใจกับบริการของรีสอร์ทที่ผมพักนะครับ แต่อยากให้ทางรัฐและทุกๆรีสอร์ทมีการปรับปรุงเรื่องการ Qualify Staff ก่อนที่จะมาทำงานและก่อนที่จะพานักท่องเที่ยวออกเรือควรจะมีการบรรยายเรื่องการปฏิบัติตัว ข้อห้าม และการอนุรักษ์ให้นักท่องเที่ยวทราบเสียก่อน ซึ่งตรงนี้ผมได้ไปเที่ยวมาหลายรีสอร์ทแล้ว ยังไม่เคยเห็นมีที่ไหนทำเลยซักที่เดียว (แต่ที่ต่างประเทศเค้าทำกันอ่ะ T-T )
สุดท้ายนี้หวังว่าข้อความนี้คงจะมีส่วนผลักดันจิตสำนึกในการท่องเที่ยวของคนไทยทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ให้บริการให้ไปในทางที่ดีขึ้นได้บ้างซักเล็กน้อยก็ยังดีนะครับ


ป.ลิง โพสข้อความกับรูปนี่เล่นเอามึนไม่ใช่เล่นเลยครับ กว่าจะทำได้ เหอๆ ขอบคุณ คุณภรรยาที่นั่งหลับรอผมจนทำข้อความชุดนี้เสร็จครับ

zmax
03-05-2011, 23:12
ป.ลิง2 เอารูปพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่เกาะกูดมาฝากครับ ถ่ายโดย G12 (ถอยหมาดๆยังปรับไม่ค่อยเป็นเลยกว่าจะปรับได้พระอาทิตย์จะตกอยู่แล้ว หุๆ)

http://i256.photobucket.com/albums/hh186/jarthuron/IMG_0086_resize.jpg

http://i256.photobucket.com/albums/hh186/jarthuron/IMG_0132_resize.jpg

http://i256.photobucket.com/albums/hh186/jarthuron/IMG_0067_resize.jpg

-Oo-
03-05-2011, 23:17
โหยจา เห็นรูปหอยมือเสือแล้วใจร้าวเลย

ได้เข้าไปบอกเขาไหมอ่ะ ว่าทำแบบนี้มันไม่ดี

สายน้ำ
04-05-2011, 07:15
พฤติกรรมทำร้ายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแบบนี้ ยังมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ แสดงให้เห็นถึงการขาดจิตสำนึกและสามัญสำนึกของทั้งนักท่องเที่ยวและไกด์ด้วย

การท่องเที่ยวเป็นดาบ 2 คม ได้นักท่องเที่ยวจำนวนมาก หมายถึงมีเม็ดเงินเข้าไปหมุนเวียนในพื้นที่ท่องเที่ยวมาก แต่ไม่ได้หมายความว่า เม็ดเงินเหล่านั้น จะสามารถเยียวยาความเสียหายของระบบนิเวศและสภาพแวดล้อมของแหล่งท่องเที่ยวแต่ละแห่งที่ถูกนักท่องเที่ยวทำลายได้

เรื่องนี้มีการพูดถึงกันมากในหลายวงสัมนาที่สองสายเคยเข้าร่วม หน่วยงานราชการรวมถึง ททท.รับทราบถึงปัญหานี้กันหมดแล้ว แต่ยังไม่เคยเห็นมาตรการแก้ไขหรือป้องกันการกระทำแบบนี้อย่างเป็นรูปธรรมออกมาเสียที

ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า เมืองสารขัณฑ์นี้ คงจะเลือกที่จะปกป้องรายได้จากการท่องเที่ยวที่ถือเป็นรายได้หลักอย่างหนึ่งของประเทศ มากกว่าที่จะมาปกป้องสภาพแวดล้อมของแหล่งทำมาหากินไว้ให้กับลูกหลานในอนาคตครับ

koy
04-05-2011, 09:24
ถ้าเป็นไปได้ อยากเสนอให้จาไปโพสต์ในพันธ์ทิพย์ด้วยก็ดีนะครับ จะได้ส่งแรงกระเพื่อมออกไปในวงกว้าง เผื่อจะสร้างแรงกดดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งราชการ เอกชน บริษัทท่องเที่ยว และรีสอร์ทได้หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ไม่ใช่เน้นแต่จะเอาประโยชน์ทางการค้าที่จะได้มาในระยะสั้น แต่สร้างความเสียหายกับทะเลในระยะยาว

สายชล
04-05-2011, 09:53
ขอบคุณน้องจาที่มาเล่าเรื่องน่าหงุดหงิดให้พลอยหงุดหงิดใจไปด้วยจ้ะ...


ที่เห็นในภาพ...นายไกด์คนนี้ ไม่ได้เพียงแค่ดึงหอยมือเสือขึ้นมา แต่เขายังใช้ปะการังเป็นที่ยึดเกาะอีกด้วย สภาพปะการังที่นั่น คงจะทรุดโทรมไปมาก เพราะเกิดจากกิจกรรมท่องเที่ยว มากกว่าภัยธรรมชาติ น่าเสียดาย และน่าเสียใจจริงๆค่ะ


กำลังจะบอกเหมือนน้องก้อย...คือให้น้องจานำเรื่องนี้ ไปโพสในห้องท่องเที่ยวไทยค่ะ จะได้ให้คนทั่วไปได้รู้ว่าสิ่งนี้ไม่ควรทำ ถ้าใครทำ....ก็ต้องประนามกันให้รู้ ถ้าได้ภาพ ได้ชื่อไกด์หรือรีสอร์ตที่ไกด์ประจำอยู่ก็น่าจะดี จะได้จี้ให้ถูกตัวและถึงตัวนะคะ


หน้าตาหอยที่เห็นในภาพ มันไม่เหมือนหอยตามธรรมชาติเลยนะคะ ไม่แน่ใจว่ามีใครนำหอยไปปล่อยแถวเกาะกูด เกาะรังบ้างไหม ต้องลองไปถามน้องแม่หอยดูค่ะ

zmax
04-05-2011, 10:20
@พี่โอ ปิ๋มกับเพื่อนปิ๋มก็เข้าไปพูดเหมือนกันแต่เค้าก็ทำมึนๆงงๆ เราก็ทำอะไรไม่ได้มากอ่ะ ดูเหมือนจะไม่ใช่คนไทยด้วยซ้ำมั้ง

@พี่น้อย,พี่ก้อย เดี๋ยวจะเอาไปลงใน1000tipครับ แต่ว่าไม่ทราบถึงชื่อรีสอร์ทจริงๆครับเพราะมัวแต่อึ้งๆ(พึ่งเคยเจอแบบจะๆแบบนี้ครั้งแรกครับ) แล้วก็มุดน้ำลงไปหาที่วางให้เจ้าหอยใหม่ให้พ้นพวกปลาอ่ะ Free dive ลงไปลึกเหมือนกันเล่นเอาเหนื่อยเลย ขึ้นเรือมาแล้วก็ถึงนึกได้เหมือนกันว่ามันมีชื่อรีสอร์ทเขียนที่เสื้อชูชีพแต่ตอนนั้นลืมดู จำได้แต่ชูชีพสีส้มครับ

สายชล
04-05-2011, 10:53
ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะน้องจา..แค่ได้สีชูชีพก็ทำให้เขาสะดุ้งได้แล้วค่ะ

zmax
04-05-2011, 18:14
พี่น้อยครับ จากในรูปนี่พี่น้อยประเมินว่าหอยเกิดตามธรรมชาติหรือถูกปล่อยครับ
ผมคิดว่าเปิดตามธรรมชาติเพราะมันมาเกาะบนยอดหินที่มีมุมบัง ไม่รู้ถูกต้องหรือเปล่าครับ

ดอกปีบ
06-05-2011, 09:23
พฤติกรรมทำร้ายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแบบนี้ ยังมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ แสดงให้เห็นถึงการขาดจิตสำนึกและสามัญสำนึกของทั้งนักท่องเที่ยวและไกด์ด้วย

การท่องเที่ยวเป็นดาบ 2 คม ได้นักท่องเที่ยวจำนวนมาก หมายถึงมีเม็ดเงินเข้าไปหมุนเวียนในพื้นที่ท่องเที่ยวมาก แต่ไม่ได้หมายความว่า เม็ดเงินเหล่านั้น จะสามารถเยียวยาความเสียหายของระบบนิเวศและสภาพแวดล้อมของแหล่งท่องเที่ยวแต่ละแห่งที่ถูกนักท่องเที่ยวทำลายได้

เรื่องนี้มีการพูดถึงกันมากในหลายวงสัมนาที่สองสายเคยเข้าร่วม หน่วยงานราชการรวมถึง ททท.รับทราบถึงปัญหานี้กันหมดแล้ว แต่ยังไม่เคยเห็นมาตรการแก้ไขหรือป้องกันการกระทำแบบนี้อย่างเป็นรูปธรรมออกมาเสียที

ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า เมืองสารขัณฑ์นี้ คงจะเลือกที่จะปกป้องรายได้จากการท่องเที่ยวที่ถือเป็นรายได้หลักอย่างหนึ่งของประเทศ มากกว่าที่จะมาปกป้องสภาพแวดล้อมของแหล่งทำมาหากินไว้ให้กับลูกหลานในอนาคตครับ



เห็นด้วยกับที่พี่สายน้ำว่าเลยครับ ปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการท่องเที่ยวในประเทศสารขัณฑ์ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเหตุผลเหล่านี้แหละครับ

การปลูกจิตสำนึกให้ความรู้ความเข้าใจดูจะเป็นการดำเนินการที่ทำได้ยากเหลือเกินจริงๆครับ

ดอกปีบ
06-05-2011, 11:30
พยายามคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะสื่อสารกับสาธารณะและรณรงค์เรื่องเหล่านี้กับนักท่องเที่ยวทั่วๆไปได้

การตั้งกลุ่มหรือทำ campaign page ขึ้นมาใน FB อาจเป็นช่องทางหนึ่งที่เราอาจจะสื่อสารและรณรงค์เรื่องเหล่านี้ได้ครับ อย่างกลุ่มต่อต้านการเอาหมีขั้วโลกมาขังที่สวนสัตว์เชียงใหม่ กลุ่มคัดค้านการกินหูฉลาม เราอาจมีกลุ่มหรือ campaign page ท่องเที่ยวอย่างอนุรักษ์เกิดขึ้นแล้วก็คอยอัพเดทข้อมูลที่เป็นประโยชน์เข้าไป อาจช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ .. ด้วยความหวังเล็กๆจากพลังของ social network ที่สุดจะร้อนแรงในเวลานี้

admin
06-05-2011, 21:08
ตามมาจาก facebook ครับ
เคยไปเกาะกูดตั้งแต่สมัยยังไม่มีรีสอร์ทเลย
ไปดำน้ำที่กองหินห่างจากเกาะกูดไม่มาก จำไม่ได้แล้วว่าตรงไหน
ส่วนชายฝั่งเกาะกูด แค่ snorkel เล่นก็เห็นฝูงปลามากมายเช่น นกแก้ว กระพงขาว ตัวใหญ่ขนาดครึ่งกิโลเป็นฝูงเลย

ผมเอากระทู้นี้ไปโพสต์ใน fb ของผมด้วยแล้ว ครับ http://www.facebook.com/PoAran
ว่าง ๆ จะให้เจ้าของ server ช่วยทำปุ่ม fb ในกระทู้เราเลย พอกดปุ่ม กระทู้ก็จะไปอยู่ใน fb ของเราโดย Auto ครับ

Super_Srinuanray
07-05-2011, 01:10
ดีคร้าบบบพี่โป๋ ขอบพระคุณล่วงหน้าเลยนะคะ

admin
07-05-2011, 07:15
ดีคร้าบบบพี่โป๋ ขอบพระคุณล่วงหน้าเลยนะคะ

จัดปายยยยยยยยยย

https://lh6.googleusercontent.com/_VfT03CawxMo/TcPQoGt-dWI/AAAAAAAAAlo/yrQv5b3OVnI/s640/2011-05-06_16-35-09_558_KPT.jpg

สายชล
07-05-2011, 11:34
ถ้า link กับ FB ได้เลยก็ดีนะคะ...ขอบคุณค่ะน้องโป๋



หมายเหตุ....ชอบภาพนี้ของน้องโป๋จริงๆเลย...ดูมีความสุขมากนะคะ...เห็นแล้วอยากนอนอย่างนี้บ้าง...

สายชล
07-05-2011, 21:30
พีน้อยก็นอนที่สนามหญ้าในบ้านไงครับ
แต่ท่านี้สำหรับสุภาพบุรุษ
ส่วนสุภาพสตรี คงต้องนอนตะแคงครับ
แต่อากาศที่หายใจคงไม่เหมือนบ้านผมนะครับ

face book ใช้งานได้แล้วนะครับ
จะอยู่ในกระทู้ที่เปิดอ่านด้านบน คลิกที่ share




นอนที่สนามบ้านของพี่น้อยก็ได้ค่ะ...แต่อย่างที่น้องโป๋บอก....อากาศมันไม่หอมและบริสุทธิ์เหมือนที่เขาเขียว แถมฝุ่นลอยมาตามลมอีกเพรียบ ร้อนอีกต่างหาก...


ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับการ Link ไป FB และ Tweeter เป็นประโยชน์มากๆค่ะ..

admin
07-05-2011, 21:49
บอร์ดใหม่ของ www.thaitritonclub.com เพิ่งเปลี่ยนรุ่นใหม่ ราคา 7600 บาท มีลูกเล่นเพิ่มเติมมากมายครับ เหมือน fb เลย มี add เพื่อนได้ด้วย ลองเข้าไปดูเผื่อสนใจจะเสียเงินซื้อครับ

Super_Srinuanray
07-05-2011, 22:37
หากมีโอกาสอยากไปเยือนบ้านพี่โป๋ ที่วังน้ำเขียวนะคะ เพราะครั้งที่แล้ว ยังไม่เสร็จเลยค่ะพี่

พี่น้อยขา จัดทริปอากาศบริสุทธิ์ พร้อมอาหารอร่อยๆๆ สักทริปดีไหมค่ะ....

สายชล
07-05-2011, 23:58
ขอบคุณมากๆค่ะที่น้องโป๋มาช่วยแนะนำบอร์ดแบบใหม่ให้...

บอร์ดใหม่น่าสนใจดีค่ะ...แต่ขอเวลาพี่น้อยนำไปปรึกษาหารือกับน้องๆตอนไปโลซินก่อนนะคะว่าจะอยากเปลี่ยนบอร์ดใหม่ไหม แล้วจะมาแจ้งให้ทราบนะคะ


กรุงเทพฯ วันนี้ช่วงเช้า ฝนก็ตกหนัก แต่บ่ายแดดเปรี้ยง ร้อนตับแลบ อยากไปเยี่ยมน้องโป๋ที่วังน้ำเขียวขึ้นมาจับใจ


................................................


น้องติ่งจ๋า....ช่วงเดือนกรกฎาคม เราไม่มีกิจกรรมอะไรทำ...น่าไปสูดอากาศโอโซนสูงและหม่ำอาหารอร่อยๆที่วังน้ำเขียวอย่างน้องว่าจริงๆ เดี๋ยวนัดกันอีกทีจ้ะ

Super_Srinuanray
08-05-2011, 19:41
ยกมือขึ้นมาเห็นด้วยคร้าบบบบ

ดอกปีบ
09-05-2011, 12:19
ขอบคุณมากๆครับพี่โป๋ การลิงค์กับเฟซบุ๊คทำให้สะดวกในการติดต่อกับ social network ได้สะดวกมากๆเลยครับ

ป.ล. เห็นด้วยเหมือนท่านอื่นๆ .. นอนแผ่สบายสุดๆเลยนะครับพี่ ท่านอนนี้แนบอิงสัมผัสกับธรรมชาติแบบจริงๆจังๆเลยนะครับ