PDA

View Full Version : ขับรถท่องเที่ยวเทียวไป ทั่วแคว้นแดนไกล...หนองคาย...ลาว...เลย...ภาคที่ 1


สายชล
30-04-2012, 14:28
ขับรถท่องเที่ยวเทียวไป ทั่วแคว้นแดนไกล
หนองคาย...ลาว...เลย



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/3600-km_E.jpg

สายชล
01-05-2012, 13:09
รถขับเคลื่อนสี่ล้อฟอร์จูนเนอร์ นาม "เจ้ากระต่ายขาว" วิ่งราบเรียบออกจากบ้านของสองสายในเมืองกรุง มุ่งหน้าสู่ถนนหลวงสายมิตรภาพ...

จุดหมายปลายทางสำหรับวันนี้คือ "หนองคาย"...จังหวัดชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขง ประตูสู่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่เรามีเป้าหมายจะร่วมกับกองคาราวานของ “ฟอร์จูนเนอร์คลับ” ขับรถลุยเข้าไปท่องเที่ยวกัน...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Laos/01_Chiang%20Kwang/01_Phu%20Phiang%20Fa/Phu-Phiang-Fa_15.jpg


เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯราวแปดโมงเช้า..มุ่งหน้าขึ้นเหนือ โดยใช้ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1) เมือถึงสระบุรี เราเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางมิตรภาพ (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2) ผ่านเมืองนครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย เมืองชายแดนไทยที่ติดกับประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่มีแม่น้ำโขงเป็นพรมแดนธรรมชาติ


เราจะแวะพักผ่อนท่องเที่ยวอยู่ที่หนองคายสักสองวันสามคืน จากนั้น จะลุยเข้าลาว โดยขับรถข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ผ่านเวียงจันทน์ มุ่งหน้าไปเมืองเชียงขวาง หลวงพระบาง วังเวียน และกลับเข้าไทยที่หนองคายโดยผ่านทางเวียงจันทน์......



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/Map-From-Bkk2.jpg

สายชล
01-05-2012, 13:26
ภาคที่ 1....หนองคาย



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/Nong-Khai_Title.jpg


ถนนมิตรภาพยุคใหม่ แบ่งเป็นช่องทางไปกลับ ข้างละสองเลนบ้าง สามเลนบ้าง การเดินทางจึงค่อนข้างจะคล่องตัว เมื่อผ่านเขื่อนลำตะคอง เขตเมืองโคราช เราถูกตำรวจเรียกปรับไป 200 บาท ข้อหาใช้ความเร็ว 123 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อถามว่าจะต้องวิ่งด้วยความเร็วเท่าไร จึงจะไม่ถูกจับ ตำรวจบอกว่าอะลุ่มอล่วยความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง....!!!


อืมมมม...ขับเกินไป 3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างที่บอก เท่านั้นเองนะคะ คุณตำรวจ...ที่ขับ 140-150 กลับไม่จับ

สายชล
01-05-2012, 13:29
ใช้ความเร็วไม่เกินที่ตำรวจบอกไว้...ใช้เวลาเพียง 5 ชั่วโมงเศษๆ รถก็เริ่มแล่นเข้าเขตเมืองหนองคาย เราโทรศัพท์หา น้องดื้อ Blue Day...เจ้าถิ่นเมืองหนองคาย เพื่อให้พาไปที่พัก ที่น้องดื้อกรุณาจองไว้ให้ล่วงหน้า โชคดี ที่เราจอดรถคอยอยู่ไม่ไกล จากที่ทำงานของน้องดื้อนัก คอยอยู่ครู่เดียว น้องดื้อก็ขับรถออกมาพบ


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/07_Phra%20That%20Klang%20Nam/07_NK_Phra-That-Klang-Nam_13.jpg


น้องดื้อพาเราเข้าที่พัก “หนองคายโฮเต็ลแอนด์ รีสอร์ท” ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว นัก


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/01_Resort/01_Resort_01.jpg


ที่นี่มีห้องพักแบบบังกาโลว์เล็กๆ ปลูกเรียงรายอยู่ข้างอาคารใหญ่ ที่เคยเป็นที่ทำการของเอเยนต์ขายรถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง ที่ขายกิจการให้นายทุน นำมาดัดแปลงเป็นรีสอร์ตเล็กๆ ซึ่งเงียบสงบ สะอาดสะอ้าน และสะดวกสบาย


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/01_Resort/01_Resort_02.jpg



เราจะพักอยู่ที่นี่สามคืน เพื่อท่องเที่ยวไปกับน้องดื้อแบบสบายๆ ก่อนที่จะต้องขับรถลุยเข้าลาว ซึ่งคงจะเหนื่อยไม่น้อยเลย....


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/01_Resort/01_Resort_03.jpg

สายชล
01-05-2012, 13:42
วันรุ่งขึ้น...น้องดื้อมาพบเราช่วงใกล้เที่ยง เพื่อพาเราไปทานอาหารเวียตนามเจ้าดัง ของเเมืองหนองคาย.... "ร้านแดงแหนมเนือง"

http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/09_Dining%20Place/02_Daeng%20Nam%20Nueng/09_NK_Daeng-Namnuang_01.jpg


บรรยกากาศสบายๆริมน้ำโขง และอร่อยสมคำร่ำลือ...โดยเฉพาะ แหนมเนือง กระดูกหมูทอด ยำหมูยอ หูหมูตั้ง....
.


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/09_Dining%20Place/02_Daeng%20Nam%20Nueng/09_NK_Daeng-Namnuang_02.jpg


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/09_Dining%20Place/02_Daeng%20Nam%20Nueng/09_NK_Daeng-Namnuang_03.jpg


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/09_Dining%20Place/02_Daeng%20Nam%20Nueng/09_NK_Daeng-Namnuang_04.jpg

สายชล
01-05-2012, 13:45
น้องดื้อ Blue Day...เจ้าถิ่น ยืนยันหนักแน่นว่า ของเขาอร่อยจริงๆนะ...จะบอกห้ายยยย...


เสียดายที่ไม่ได้ตบท้ายด้วย "เต้าส่วนใส่ปาท่องโป๋" ของหวานดังของร้านนี้ แต่น้องดื้อบอกว่าจะพาไปทานคืนนี้ อร่อยไม่แพ้กันค่ะ...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/09_Dining%20Place/02_Daeng%20Nam%20Nueng/09_NK_Daeng-Namnuang_06.jpg


ไปไม่ถูก...ดูที่แผนทีนี้ได้ค่ะ...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/09_Dining%20Place/02_Daeng%20Nam%20Nueng/Daeng_Map.jpg

Super_Srinuanray
01-05-2012, 13:47
ว้าวววววววววววววววววว


หิววววววววววววววววววววว

สายชล
01-05-2012, 13:55
ไหนๆร้านแดงก็อยู่ใกล้ "ท่าเสด็จ" ท่าเรือที่ข้ามไปฝั่งแม่น้ำโขง และแหล่งช๊อปปิ้ง "ตลาดอินโดจีน" นิดเดียว แวะไปเที่ยวกันก่อนนะคะ


ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันสักหน่อย...

http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/06_Tha%20Sadej/06_NK_Tha-Sadej_01.jpg


มีมุมน่ารักให้ถ่ายภาพด้วยค่ะ..


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/06_Tha%20Sadej/06_NK_Tha-Sadej_03.jpg

สายชล
01-05-2012, 14:05
ขอถ่ายภาพกับน้องรักของสองสายหน่อยนะคะ...



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/06_Tha%20Sadej/06_NK_Tha-Sadej_04.jpg

สายชล
01-05-2012, 14:21
ตึกที่ทำการศุลกากร ที่ตั้งอยู่ที่ท่าเสด็จ ดูเก่าแก่และคลาสสิคมาก หน้าตึกมีป้ายเขียนชื่อตัวอาคารไว้ แบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนค่ะ..


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/06_Tha%20Sadej/06_NK_Tha-Sadej_05.jpg


ตลาดท่าเสด็จ ที่นิยมเรียกกันว่า "ตลาดอินโดจีน" เพราะเป็นแหล่งรวมสินค้า ที่ได้มาจากประเทศแถบอินโดจีนเป็นส่วนมาก แถมมีสินค้าจากยุโรปตะวันออกมาเสริม ให้ดูน่าซื้อมากขึ้น


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/06_Tha%20Sadej/06_NK_Tha-Sadej_06.jpg


ที่นี่...มีทั้งผลิตภัณฑ์อาหารแห้ง อาหารแปรรูป และข้าวของเครื่องใช้ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า นาฬิกา เครื่องครัว ฯลฯ ให้เลือกหาซื้อ

ถ้าเป็นวันหยุดราชการที่นี่คงจะคึกคัก แต่ในวันที่เราไปเป็นวันธรรมดา จึงดูเงียบเหงามาก


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/06_Tha%20Sadej/06_NK_Tha-Sadej_08.jpg

สามล้อเครื่องที่จอดรอผู้โดยสารมาใช้บริการ...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/06_Tha%20Sadej/06_NK_Tha-Sadej_07.jpg

สายชล
01-05-2012, 15:14
จากท่าเสด็จ...เราจะเริ่มเที่ยวในตัวเมืองหนองคายกัน โดยมีน้องดื้อโดดงาน มาเป็นไกด์กิติมศักดิ์ให้เราค่ะ...


ที่เที่ยวในเมือง ไม่มีที่เที่ยวมากนัก นอกจากวัด...วัด...และวัด..ซึ่งน้องดื้อบอกว่า "ผมไม่ค่อยจะรู้จักวัด เพราะไม่ค่อยได้เที่ยววัดคร้าบบบ..!!!" สองสายมองหน้ากันแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ เพราะคราวนี้ น้องดื้อจะต้องได้เที่ยววัดกับเราแล้ว...


วัดแรกที่เราไปคือ "วัดโพธิ์ชัย" ซึ่งเป็นพระอารามหลวง...เดิมชื่อ วัดผีผิว วัดนี้ใช้เป็นที่เผาผีหรือเผาศพ และมีผีดุ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อใหม่ เป็นวัดโพธิ์ชัย ใน สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันเป็นสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใส



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/03_Wat%20Pho%20Chai/03_NK_Phra-Chao-Ong-Tue_01.jpg


หลวงพ่อพระใส เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบปางมารวิชัย สมัยเชียงแสน ชั้นหลัง หล่อด้วยทองสุก (ทองคำ ที่มีเนื้อทองคำบริสุทธิ์ ประมาณ 92 เปอร์เซนต์ สีทองคำจะมีสีเหลืองเข้ม เรียกว่า สีทองสุก) มีพระพุทธลักษณะงดงามมาก ขนาดหน้าตักกว้าง 2 คืบ 8 นิ้ว สูงจากเบื้องล่างพระชงฆ์ ถึงยอดพระเกศ 4 คืบ 1 นิ้ว มีห่วงกลมขนาด หัวแม่มือจำนวน 3 ห่วง ติดกับพระแท่นซึ่งหล่อติดกับองค์พระใส สำหรับผูกเชือกติดกับยานเวลาที่อัญเชิญลงมาแห่รอบเมืองให้ประชาชน ได้สรงน้ำในช่วงวันสงกรานต์



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/03_Wat%20Pho%20Chai/03_NK_Phra-Chao-Ong-Tue_03.jpg


หลวงพ่อพระใส จัดสร้างขึ้นโดย พระราชธิดาพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์แห่งล้านช้าง ทั้ง 3 พระองค์ คือ พระสุก พระเสริม และพระใส ซึ่งได้ทรงขอพรจากพระราชบิดา โดยให้ช่างหล่อ พระพุทธรูปประจำพระองค์ และตั้งชื่อตามพระนามของพระธิดาทั้ง 3 พระองค์ ตามลำดับ คือ พระสุก พระเสริม และพระใส ประดิษฐานไว้ที่ วัดโพนชัย แขวงเมือง เวียงจันทน์


พระรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระ บวรราชเจ้ามหาศักดิ์พลเสพย์ ยกกองทัพไปปราบกบฎ เจ้าอนุวงศ์ ณ นครเวียงจันทน์ จนสงบแล้วจึงได้อัญเชิญ พระสุก พระเสริม พระใส มาจากถ้ำที่ภูเขาควาย เนื่องจาก ชาวเมืองได้นำเอาไปซ่อนไว้ขณะที่เกิดเหตุการณ์ไม่สงบภายในเมืองหลวง โดยอัญเชิญ ลงในแพไม้ไผ่ผูกติดกันอย่างมั่งคง ทั้ง 3 ลำ ล่องลอยมาตามน้ำงึม แล้วมาขึ้นฝั่งแม่น้ำโขงที่ เมืองหนองคาย ที่ วัดหอก่อง หรือ วัดประดิษฐ์ธรรมคุณ จังหวัดหนองคาย


รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งจอมเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ขุนวรธานี และเจ้าเหม็น (ข้าหลวง)อัญเชิญพระใส ขึ้นเกวียนไปไว้ที่กรุงเทพ ฯ แต่เกวียนที่ใช้อัญเชิญพระใสมาถึงวัดโพธิ์ชัย เกวียนก็หักลง ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ จึงได้อัญเชิญหลวงพ่อพระใส ประดิษฐานไว้ที่วัดโพธิ์ชัยจนถึงบัดนี้

http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/03_Wat%20Pho%20Chai/03_NK_Phra-Chao-Ong-Tue_05.jpg



เมื่อปี พุทธศักราช 2481 พระเศียรของหลวงพ่อพระใส ถูกขโมยตัดเอาไปขาย จึงต้องประกอบพิธีหล่อพระเศียรขึ้นมาใหม่ และกล่าวกันว่าผู้ที่มาขโมยนั้น เกิดวิบัติฉิบหายทั้งครอบครัว


พระสุก นั้น ได้จมลงที่แม่น้ำโขงขณะอัญเชิญลงมายังกรุงเทพ บริเวณที่พระสุกจมลงชาวบ้านจึงเรียกว่า เวินพระสุก ยังปรากฏมาจนปัจจุบันนี้


พระเสริม นั้น ได้อัญเชิญลงมายังกรุงเทพฯ ปัจจุบัน ประดิษฐานอยู่ที่ วัดปทุมวนาราม


ขอบคุณข้อมูลจาก...http://th.wikipedia.org และ http://www.intaram.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=538788983&Ntype=777

admin
01-05-2012, 19:10
ไม่อยากจะพูดคำว่าอิจฉา เพราะมันบาป 555

koy
01-05-2012, 20:05
มาปูเสื่อดูภาพแจ่มๆและเก็บข้อมูล อยากไปมานานแล้วครับ

ดอกปีบ
01-05-2012, 20:17
เข้ามาชม แต่ภาพขึ้นเฉพาะความเห็นแรกครับ ..

ไม่ทราบพี่ๆเพื่อนๆมีอาการแบบเดียวกันหรือเปล่า อยากชมรูปงามๆของพี่สองสายมากๆเลยครับ

สายชล
01-05-2012, 20:51
น้องโป๋จ๋า...อย่าอิจฉาพี่เล้ย วันหน้าพี่จะพาไปด้วยกันนะจ๊ะ...:)


น้องก้อยจ๋า....ทริปนี้ยาววววว...นะจ๊ะ หาเบาะรองนั่งดีๆ เดี๋ยวเจ็บก้น...ฮี่ๆๆ...:p


น้องปี๊บจ๋า...คุณสายน้ำนำภาพไปเก็บที่ Photobucket จ้ะ จะได้จัดภาพหร้อมคำบรรยายได้ง่ายจ้ะ

เอ..คนอื่นมีปัญหาไหมจ๊ะ :confused:... ถ้าภาพมีปัญหา พี่จะได้ใส่ภาพให้ใหม่จ้ะ..

สายชล
01-05-2012, 21:47
ยังไม่ลงเรื่องต่อนะคะ..รอว่า นอกจากน้องปี๊บแล้ว มีใครดูภาพไม่ได้อีกบ้างค่ะ

ช่วยตอบกันด้วยนะคะ...ไม่อย่างนั้นจะเหนื่อยตอนแก้ไขภาพ และเนื้อเรื่องค่ะ..

Super_Srinuanray
01-05-2012, 22:24
ของน้องไม่มีปัญหาค่ะ ดูได้สบายค่ะ

ปูเสื่อ รอกินขนุน (ด้วยความตะกระ (ตะกละ) ดูด้วยค่ะ)

เด็กน้อย
02-05-2012, 09:10
แอบมาดู ก็เห็นภาพได้สวยงามชัดเจนครับ
:d

nalada
02-05-2012, 09:26
เกาะขอบโต๊ะ เฝ้าหน้าจอ เรื่องราวสนุก+สาระ ภาพสีสัน สวยงามค่ะ :d

ดอกปีบ
02-05-2012, 10:07
สวัสดีครับพี่สองสาย .. อาการนี้สงสัยจะเป็นผมคนเดียว
อาจจะเป็นคอมที่ออฟฟิศ ยังไงจะลองหาทางแก้ไขดูครับ ขอบคุณครับผม

สายน้ำ
02-05-2012, 10:09
เข้ามาชม แต่ภาพขึ้นเฉพาะความเห็นแรกครับ ..

ไม่ทราบพี่ๆเพื่อนๆมีอาการแบบเดียวกันหรือเปล่า อยากชมรูปงามๆของพี่สองสายมากๆเลยครับ

เข้าไปเช็คใน Photobucket ผมก็เปิดแชร์ให้ Public แล้ว ลองใช้ 3G ใน iphone และ Ipad ดู ก็เห็นภาพได้ครบ

และมีน้องๆหลายคนมายืนยันว่า เปิดภาพได้เป็นปกติ ก็แสดงว่า อาจจะเป็นที่เครื่องของน้องดอกปีบ หรือสัญญาณที่ใช้มันอาจจะอ่อนจนโหลดภาพไม่ขึ้นหรือเปล่าครับ

ช่วงหลังๆนี่ ภาพที่สองสายโพสต์ จะใช้ลิ๊งค์จาก Photobucket ตลอด เพราะไม่อยากโพสต์รูปตรงๆซึ่งจะไปทำให้พื้นที่ในโฮสต์มันเพิ่มมากขึ้นน่ะครับ อย่างตารางน้ำที่เพิ่งโพสต์เมื่อเช้า ก็ลิ๊งค์ไปจากที่เดียวกันครับ

Super_Srinuanray
02-05-2012, 10:30
เป็นเพราะ ทางบริษัท ควบคุมการใช้งานงาน
มาเปิดที่ทำงานก็ไม่เห็นภาพ หากต้องแชร์จากที่อื่น
ดังนั้น ต้องเปิดดูที่บ้าน ที่เค้าไม่ได้ควบคุม ขอรับ พี่น้องงงง

สายชล
02-05-2012, 12:36
ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบค่ะ...

ถ้าเป็นอย่างนี้...น้องดอกปีบลองแก้ไขคอมฯ ที่ที่ทำงานก่อนนะจ๊ะ พี่จะลงเรื่องและภาพไปพลางๆก่อนจ้ะ ถ้าไม่ได้จริงๆ ไปอ่านที่บ้านพี่สองสายก็ได้นะจ๊ะ.. ;)

สายชล
02-05-2012, 12:52
http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/03_Wat%20Pho%20Chai/03_NK_Phra-Chao-Ong-Tue_06.jpg


คงจะเป็นเพราะวัดโพธิ์ชัยเป็นพระอารามหลวง และเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนในเมืองหนองคาย จังหวัดใกล้เคียง และแม้แต่คนในเมืองลาว...เราจึงเห็นผู้คนมากมาย นั่งรถบัสใหญ่ๆ แล่นเข้ามาจอดในลานวัดแน่นขนัด ผู้คนโดยเฉพาะเด็กๆในเครื่องแบบนักเรียน เดินกันขวักไขว่วุ่นวาย จนยากที่จะหามุมถ่ายภาพ ทั้งภายนอกและภายในโบสถ์ได้...

เรื่องของศรัทธาที่มนุษย์มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้น...เป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้ และน่าทึ่งเสมอค่ะ แต่นักเรียนมากมายที่มาวัดโพธิ์ชัยในวันนี้ จะมาด้วยศรัทธา หรือโรงเรียนส่งมาทำกิจกรรมสัญจรกันแน่นะ...

สายชล
02-05-2012, 13:21
ออกจากวัดโพธิ์ชัย...น้องดื้อบอกว่า "ต้องไปศาลาแก้วกู่ครับ"....สองสายสงสัยว่า "ศาลาแก้วกู่" คืออะไร น้องดื้อก็บอกว่า "ที่นั่นไม่ใช่วัด แต่มีรูปปั้นพระและเทวรูปสูงใหญ่อยู่มากมาย แปลกดีครับ" อย่างนี้ต้องไปดูให้รู้ว่าแปลกอย่างไร แล้วล่ะค่ะ

เราขับรถออกจากตัวเมืองหนองคาย ไปทางอำเภอโพนพิสัยไม่ถึงสามกิโลเมตร ก็เห็นยอดแหลมๆ รูปทรงประหลาดๆ สูงชลูด โผล่สลอนขึ้นมาต่อหน้าต่อตา จนเราถึงกับอึ้ง..ทึ่ง...

จอดรถที่ลานจอด ซึ่งมีสแลนบังแดดไว้ให้อย่างดี ก่อนเข้าประตู ผ่านร้านค้าขายของพื้นเมือง ที่เน้นหนักหมวกและร่ม ก็รู้ว่าเราคิดถูก ที่เห็นแดดแผดจ้า ก็คว้าหมวกและร่มติดมือไปด้วย เสียเงินค่าผ่านประตูคนละ 20 บาท ก็เดินผ่านประตูปร๋อเข้าไปข้างในได้...



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/04_Sala%20Kaew%20Koo/04_NK_Sala-Kaew-Koo_01.jpg

สายชล
02-05-2012, 13:49
ผ่านประตูเข้าไป...อุแม่เจ้า...ช่างอลังการงานสร้างอะไรเช่นนี้...

http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/04_Sala%20Kaew%20Koo/04_NK_Sala-Kaew-Koo_06.jpg


งานปูนปั้นแต่ละชิ้นล้วนใหญ่โตมโหฬาร รูปทรงแปลกตา ล้วนเกี่ยวพันกับปรัชญา ศาสนา และความเชื่อ ที่ผู้สร้าง คือ “ปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์” หรือ “ปู่เหลือ” มีศรัทธา


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/04_Sala%20Kaew%20Koo/04_NK_Sala-Kaew-Koo_02.jpg

สายชล
02-05-2012, 13:51
“ปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์” หรือ “ปู่เหลือ” (พ.ศ. ๒๔๗๖ – ๒๕๓๙) มีประวัติชีวิตและผลงานอัศจรรย์ มีเรื่องที่เล่าขานกันว่า

“ นางคำปลิว สุรีรัตน์ ชาวหนองคาย เป็นบุตรสาวคนโตของครอบครัว เมื่อแต่งงานได้ระยะหนึ่งก็ฝันว่ามีชีปะขาวนำนาคมรกตมามอบให้ แต่บอกว่าอีก ๗ เดือนค่อยไปรับมาเป็นของตน

ต่อมาแม่ของนางคำปลิว ได้ตั้งท้องลูกคนที่เจ็ด ในวัยที่สูงอายุและหมดประจำเดือนแล้ว เมื่อคลอดบุตรชายออกมา เมื่ออายุครรภ์ได้เพียง ๗ เดือน ทุกคนจึงเชื่อว่าเป็นไปตามนิมิตในฝัน นางคำปลิวและสามีจึงได้รับน้องชาย คือ ดช.บุญเหลือ สุรีรัตน์ มาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมตั้งแต่แรกเกิด


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/04_Sala%20Kaew%20Koo/04_NK_Sala-Kaew-Koo_11.jpg


ด.ช.บุญเหลือชอบเข้าวัดมาแต่เด็ก พออายุได้หกขวบนางคำปลิวเสียชีวิตลง สามีนางคำปลิวมีภรรยาใหม่ ด.ช.บุญเหลือจึงกลับไปอยู่กับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด แต่มักขัดขวางห้ามปรามผู้ใหญ่ในทางบาปต่างๆ จึงไม่เป็นที่รักใคร่ของญาติพี่น้อง ครั้นอายุ ๑๒ ปี ทนความกดดันรอบข้างไม่ไหว จึงหนีออกจากบ้านรอนแรมไปจนพบ สำนักอาศรมแก้วกู่ ในเขตแดนลาว และได้ฝากตัวศึกษาเล่าเรียนปฏิบัติธรรม อยู่กับพระมุนีที่นั่น จนอายุครบ ๒๐ ปี พระมุนีจึงให้ออกจากสำนัก ไปจาริกแสวงบุญโปรดญาติโยมทั้งใกล้และไกล


เมื่ออายุ ๓๐ ปี จึงได้กลับมาปรนนิบัติตอบแทนคุณในวาระสุดท้ายของชีวิตพ่อแม่ ก่อนแม่สิ้นบุญในปี ๒๕๐๗ ได้มอบที่ดิน ๘ ไร่ ณ บ้านเชียงควาน เมืองท่าเดื่อ เวียงจันท์ ไว้เป็นมรดก


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/04_Sala%20Kaew%20Koo/04_NK_Sala-Kaew-Koo_12.jpg


ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ ปู่เหลือได้พัฒนาที่ดินดังกล่าวสร้างเป็น “ปูชนียสถานเทวาลัยอย่างมหึมา” พุทธศาสนิกชนทั้งในภาคพื้นยุโรปและเอเชียเลื่อมใสมาก แต่เมื่อเกิดเหตุวิกฤตในราชอาณาจักรลาวเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ หลวงปู่จึงพาลูกศิษย์ข้ามโขงมา และรวมกันจัดตั้งเป็น “พุทธมามกสมาคมจังหวัดหนองคาย” โดยกรมการศาสนารับรองให้ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๙


ปี พ.ศ. ๒๕๒๑ สานุศิษย์ได้จัดซื้อที่ดินราว ๔๑ ไร่ ในเขตบ้านสามัคคี ต.หาดคำ ถวายให้เป็นที่ตั้งสำนักจวบจนปัจจุบัน


ต้นปี พ.ศ.๒๕๒๗ ปู่เหลือถูกใส่ความและมีผู้ไปแจ้งตำรวจตั้งข้อหาฉกรรจ์ (ซึ่งทางสำนักขอสงวนไว้) ต้องอยู่ในเรือนจำจนถึงปลายปี ๒๕๒๙ เมื่อออกมาแล้ว ก็สร้างเทวรูปอีกมากมาย ทั้งเล็กและใหญ่ และทั้งขนาดที่สูงถึง ๓๓ เมตร เมื่อสร้างทั้งพุทธรูปและเทวรูปถึง ๒๐๙ ปางแล้ว ก็สร้างศาลาแก้วกู่หลังใหม่โดยรื้อหลังเก่า ( พ.ศ.๒๕๒๓ – ๒๕๓๘) ที่ทรุดโทรมลง ขณะก่อสร้างศาลาหลังใหม่ ปู่เหลือก็ล้มป่วย และต่อมาได้เสียชีวิตลง ในเดือนสิงหาคม ๒๕๓๙ สานุศิษย์ได้นำผอบแก้วใส่ร่างของท่านไว้ ตามความประสงค์ก่อนสิ้นชีวิต”


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/04_Sala%20Kaew%20Koo/04_NK_Sala-Kaew-Koo_19.jpg

ขอบคุณข้อมูลจาก...http://sala-saeoku.blogspot.com/ และ http://www.muangboranjournal.com

สายชล
02-05-2012, 14:11
บริเวณที่ตั้งของศาลาแก้วกู่ จัดเป็น “พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง” มีสิ่งที่เรียกว่า “ปูชนียวัตถุ และพุทธปูชนียสถานเทวาลัย” คือรูปปั้นพิสดารพิลึกพิลั่นมากมาย อาทิ รูปปั้นปางพระอิศวร – พระอุมาเสวยสุข ปางพระพุทธเจ้าเสด็จหนีออกบรรพชา ปางทรงศึกษาที่ธรรมะกับพระฤาษี ปางกามเทพ (คิวปิต) ปางฤาษีแก้วกู่อะธามา ปางพระขันทกุมาร ฯลฯ เมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อยก็จะทำพิธีอัญเชิญเทพเทวามาสถิต


มาชื่นชมผลงานของปู่บุญเหลือกันนะคะ...


เข้าไปก็พบกับเทวาลัยพระราหูครึ่งตัว นอนหนุนแขนจ้องมองอยู่ พระราหูเหลืออยู่ครึ่งตัว เพราะพระนารายณ์ทรงขว้างจักรตัด ถูกกลางตัวพระราหูขาด กลายเป็นสองท่อน แต่ด้วยน้ำอำมฤตที่พระราหูได้ขโมยดื่ม ตอนทำพิธีกวนเกษียรสมุทร ได้ไหลไปจนถึงกลางตัวพระราหูแล้วพอดี ครึ่งบนของพระราหูที่ถูกตัดออกจึงกลายเป็นอมตะ ส่วนครึ่งล่างนั้นได้กลายมาเป็นพระเคราะห์องค์ที่ 9 แห่งเหล่าเทวดานพเคราะห์ซึ่งก็คือ พระเกตุ



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/04_Sala%20Kaew%20Koo/04_NK_Sala-Kaew-Koo_03.jpg

ขอบคุณข้อมูลจาก...http://th.wikipedia.org

สายชล
02-05-2012, 14:23
พระพุทธรูป ในลักษณะต่างๆ...

http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/04_Sala%20Kaew%20Koo/04_NK_Sala-Kaew-Koo_04.jpg

http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/04_Sala%20Kaew%20Koo/04_NK_Sala-Kaew-Koo_07.jpg

สายชล
02-05-2012, 14:26
พระกัจจายนะ


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/04_Sala%20Kaew%20Koo/04_NK_Sala-Kaew-Koo_09.jpg



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/04_Sala%20Kaew%20Koo/04_NK_Sala-Kaew-Koo_08.jpg

สายชล
02-05-2012, 14:31
รวมมิตร..


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/04_Sala%20Kaew%20Koo/04_NK_Sala-Kaew-Koo_05.jpg


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/04_Sala%20Kaew%20Koo/04_NK_Sala-Kaew-Koo_17.jpg


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/04_Sala%20Kaew%20Koo/04_NK_Sala-Kaew-Koo_16.jpg

http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/04_Sala%20Kaew%20Koo/04_NK_Sala-Kaew-Koo_10.jpg

สายชล
02-05-2012, 14:32
“ปริศนาธรรม” มีข้อคิดดีๆค่ะ...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/04_Sala%20Kaew%20Koo/04_NK_Sala-Kaew-Koo_14.jpg


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/04_Sala%20Kaew%20Koo/04_NK_Sala-Kaew-Koo_15.jpg

สายชล
02-05-2012, 14:39
เราเดินออกจากศาลาแก้วกู่ ด้วยความรู้สึกที่ดีกว่าตอนก่อนเดินเข้าไปมาก เราได้ประจักษ์แก่ใจตัวเองว่า ความอลังการทั้งหลายที่เราได้เห็นนั้น เกิดจากความศรัทธาในศาสนาของคนๆหนึ่ง ที่หวังจะให้ศาสนาคงอยู่ และเป็นเครื่องเตือนจิตใจ สอนสั่งให้คนหมั่นสร้างสมความดีตลอดชั่วชีวิตแห่งตน...



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/04_Sala%20Kaew%20Koo/04_NK_Sala-Kaew-Koo_18.jpg

สายชล
02-05-2012, 15:06
บ่ายคล้อย...ถึงเวลาที่น้องดื้อจะต้องไปดำน้ำทำงาน ในถังน้ำใหญ่ท่ามกลางฝูงปลาของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหนองคาย

เราย้อนกลับไปส่งน้องดื้อขึ้นรถที่จอดไว้ที่รีสอร์ต และนัดหมายทานข้าวเย็นกันให้อร่อย ก่อนที่น้องดื้อจะขับรถไปทำงานที่แสนสนุก...ร้อนๆอย่างนี้น่าอิจฉาน้องดื้อจริงๆนะคะ...

ยังพอมีเวลาเหลือก่อนจะมืด...สองสายบึ่งรถ ออกไปทางเมืองอุดรธานี แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนสายเล็กๆ เพื่อมุ่งหน้าสู่ "วัดพระธาตุบังพวน"



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/05_Wat%20Phra%20That%20Bangpuan/05_NK_Phra-That-Bang-Puan_03.jpg

สายชล
02-05-2012, 15:18
พระธาตุบังพวน เป็นพระธาตุเจดีย์ที่เก่าแก่และสำคัญยิ่งของจังหวัดหนองคาย และเป็นพระธาตุที่สำคัญองค์หนึ่งของภาคอีสาน ประดิษฐานอยู่ ณ บ้านพระธาตุบังพวน ตำบลพระธาตุบังพวน อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/05_Wat%20Phra%20That%20Bangpuan/05_NK_Phra-That-Bang-Puan_01.jpg


ตามตำนานอุรังคธาตุกล่าวว่า พระยาสุวรรณภิงคาร เจ้าเมืองหนองหาน สกลนคร พระยาคำแดง เจ้าเมืองหนองหารน้อย อุดรธานี พระยาจุลณี พรหมทัต เจ้าเมืองจุลณี (ลาวเหนือ) พระยาอินทปัตนคร เจ้าเมืองอินทปัตนนนคร (เขมร) และ พระยานันทเสน เจ้าเมืองศรีโคตรบูรณ์หลวง (ตรงข้ามนครพนม) ได้ร่วมกันอุปถัมภ์ พระมหากัสสเถระ พร้อมด้วยพระอรหันต์ อีก 500 องค์ ทำการก่อสร้างพระธาตุพนม แล้วเสร็จ และได้บรรลุพระอรหันต์ด้วยกันทั้งหมด


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/05_Wat%20Phra%20That%20Bangpuan/05_NK_Phra-That-Bang-Puan_06.jpg


ต่อมาได้เดินทางไปสู่แดนพุทธภูมิ เพื่อไปอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า 45 พระองค์ นำมาประดิษฐานไว้ ณ สถานที่ 4 แห่งคือ บริเวณเมืองหนองคาย และเมืองเวียงจันทน์ หนึ่งในสี่แห่งนั้น คือพระธาตุบังพวน ซึ่งได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ มาพักที่ร่มไม้ปาแป้ง (ไม้โพธิ) ณ ภูเขาหลวง อันเป็นที่ตั้งพระเจดีย์ พระธาตุบังพวนปัจจุบัน


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/05_Wat%20Phra%20That%20Bangpuan/05_NK_Phra-That-Bang-Puan_07.jpg


จากการสำรวจทางโบราณคดีพบว่า พระธาตุบังพวนได้มีการก่อสร้างสืบเนื่องกันมาสามสมัย คือ ฐานเดิมสร้างด้วยศิลาแลง ชั้นที่สองสร้างด้วยอิฐครอบชั้นแรก และต่อมาได้มีการก่อสร้างให้มีขนาดสูงใหญ่ขึ้น จากจารึกที่ฐานพระพุทธรูปที่ขุดได้ 4 องค์ ในจำนวนทั้งหมด 6 องค์ ระบุศักราชที่สร้างไว้ ซึ่งตรงกับ พ.ศ. 2118 พ.ศ. 2150 พ.ศ. 2158 และ พ.ศ. 2167 และข้อความในจารึกเมื่อ พ.ศ. 2167 มีประวัติในการสร้าง โดยได้กล่าวถึงพระเจ้าโพธิสาลราช ซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้าง มีราชธานีอยู่ที่นครเชียงทอง ซึ่งก็ตรงกับรูปแบบการก่อสร้างโบราณสถาน ในบริเวณวัดพระธาตุบังพวน ที่แสดงถึงอิทธิพลของอาณาจักรล้านช้าง


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/05_Wat%20Phra%20That%20Bangpuan/05_NK_Phra-That-Bang-Puan_08.jpg


พระธาตุบังพวน ซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรล้านช้าง และ ได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ในสมัยต่อมา แต่ไม่ต่อเนื่องนัก ในระยะหลังจึงทรุดโทรมมาก และได้พังทะลายลงมา เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2513 กรมศิลปากรจึงได้ดำเนินการบูรณขึ้นใหม่ โดยก่อคอนกรีตเสริมฐานเดิม ซึ่งที่ฐานล่างเป็นศิลาแลง ต่อมาเป็นฐานทักษิณ 3 ชั้น บัวคว่ำ 2 ชั้น ต่อด้วยปรางค์สี่เหลี่ยมบัวปากระฆัง บัวสายรัด 3 ชั้น รับดวงปลีบัวตูม แล้วตั้งฉัตร 5 ชั้น ฐานล่างรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส กว้างด้านละประมาณสิบเจ็ดเมตร สูงถึงยอดฉัตรประมาณสามสิบสี่เมตร


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้ง สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธาน และร่วมยกฉัตรสู่ยอดพระธาตุบังพวน เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521


ขอบคุณข้อมูลจาก...http://www1.mod.go.th/heritage/religion/pratat/bung.htm

สายชล
02-05-2012, 15:42
ซากโบราณสถานที่อยู่ภายในบริเวณวัด ซึ่งกล่าวกันว่า เป็นซาก "สัตตสถาน" ที่ยังมีครบถ้วนทั้งเจ็ดองค์ และมีแผนที่ตั้งเหมือนกันกับที่พุทธคยา....


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/05_Wat%20Phra%20That%20Bangpuan/05_NK_Phra-That-Bang-Puan_19.jpg


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/05_Wat%20Phra%20That%20Bangpuan/05_NK_Phra-That-Bang-Puan_11.jpg


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/05_Wat%20Phra%20That%20Bangpuan/05_NK_Phra-That-Bang-Puan_20.jpg


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/05_Wat%20Phra%20That%20Bangpuan/05_NK_Phra-That-Bang-Puan_21.jpg

สายชล
02-05-2012, 15:53
http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/05_Wat%20Phra%20That%20Bangpuan/05_NK_Phra-That-Bang-Puan_15.jpg


โบสถ์ใหม่ยังสร้างไม่เสร็จ...พระพุทธรูป จึงอยู่บริเวณซากโบสถ์เดิม มีหลังคามุงกันแดดกันฝนไว้..มีศาสนิกชนครอบครัวหนึ่ง นั่งสนทนาธรรมกับพระสงฆ์อยู่นาน ไม่มีท่าทีจะลากลับ...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/05_Wat%20Phra%20That%20Bangpuan/05_NK_Phra-That-Bang-Puan_14.jpg





พระพุทธรูป..รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม และเทพเจ้าจีน ที่แตกหักเสียหาย ถูกนำมาวางไว้...



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/05_Wat%20Phra%20That%20Bangpuan/05_NK_Phra-That-Bang-Puan_18.jpg

สายชล
02-05-2012, 16:02
เราจากวัดพระธาตุบังพวนมา เมื่อใกล้ยามย่ำสนธยาเต็มทีแล้ว...วันนี้ นับเป็นวันที่สุขใจวันหนึ่งของเราค่ะ..



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/05_Wat%20Phra%20That%20Bangpuan/05_NK_Phra-That-Bang-Puan_09.jpg

สายชล
02-05-2012, 18:24
ออกจากวัดพระธาตุบังพวน..น้องดื้อก็โทรมาบอกว่า จองเรือล่องแม่น้ำโขงให้แล้ว แต่ไม่ทานข้าวเย็นบนเรือ เพราะอาหารไม่อร่อยเลย

เรารีบบึงรถไปที่ท่าเรือ แต่กว่าจะถึงก็ช้าไปเกือบครึ่งชั่วโมง..โชคดีที่เรือยังจอดคอยที่เรือนแพซึ่งเป็นร้านอาหาร อย่างไรก็ตาม พอลงเรือได้ พนักงานเรือก็พยายามคะยั้นคะยอ ให้เรารับประทานอาหารเย็นในเรือนแพ หลังจากเรือที่พาล่องแม่น้ำโขงเข้าเทียบท่า ซึ่งเราก็ยังไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ

พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน แต่เมฆฝนที่มืดครึ้มทะมึนเต็มท้องฟ้านั้น ทำให้สลัวมัวซัว เห็นเพียงแสงจางๆ ทางฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองเวียงจันทร์ หรือเวียนเทียน ของลาว...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/02_View/02_NK_View_01.jpg


เมฆท้องแก่ซะขนาดนี้ แถมยังมีลมพัดมาฉิวๆ....แล้วนี่ฝนจะตกไหมหนอ...:confused:

http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/02_View/02_NK_View_02.jpg

สายชล
02-05-2012, 18:58
ท้องฟ้าครึ้มๆ...ไม่ทำให้เราสะทกสะท้าน เรานั่งเรือชมวิวเมืองหนองคายและเมืองเวียงจันทน์กันต่อไป อย่างไม่สะทกสะท้าน..


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/02_View/02_NK_View_05.jpg


จู่ๆเมฆฝนก็ถูกลมพัดไปทางเหนือซะไกล เรือแล่นต้านน้ำล่องใต้ไปจนถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว...แล้วก็วนกลับมา ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็กลับมาถึงแพริมน้ำใหม่


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/02_View/02_NK_View_09.jpg

น้องดื้อบอกว่า จริงๆเรือควรจะวิ่งเลยไปถึงพระธาตุกลางน้ำ แล้วค่อยวนกลับมาที่แพ เข้าใจว่าเป็นเพราะเราทำให้เรือออกช้า ก็เลยทำให้กัปตันแก้เผ็ด ด้วยการไม่ยอมล่องเรือต่อ


เราก็เลยแก้เผ็ดบ้าง...โดยเดินลงจากเรือได้ ก็เดินดิ่งขึ้นฝั่ง ไปหาอาหารอร่อยๆบนฝั่งทานแทน เสียดายค่ะ อาหารอร่อยมาก และเราก็หิวมาก จึงทานอาหารเพลินซะจนลืมถ่ายภาพ... :p

สายชล
02-05-2012, 19:27
อิ่มหนำสำราญจากอาหารเย็นแล้ว...ที่นี้ก็ถึงราบการของหวาน ที่น้องดื้อติดไว้ตั้งแต่มื้อเที่ยง "เต้าส่วนใส่ปาท่องโก๋"


ร้านขนมเด็ดของน้องดื้อ อยู่หน้า โรงเรียนจีน ฮั่วเคียวกงฮัก ถนนประจักษ์ศิลปาคม ที่ทั้งถนนในยามค่ำคืนสว่างไสวด้วยไฟ จากร้านอาหารมากมายหลากหลายชนิด ที่วางขายยาวเหยียด..


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/09_Dining%20Place/03_Bua%20Loy%20-%20Tao%20Suan/09_NK_Bua-Loy--Tao-Suan_03.jpg


ขนมเด็ดไม่ใช่มีแต่เต้าส่วนใส่ปาท่องโก๋ แต่มี บัวลอยไข่หวาน รสเลิศด้วยค่ะ...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/09_Dining%20Place/03_Bua%20Loy%20-%20Tao%20Suan/09_NK_Bua-Loy--Tao-Suan_01.jpg



รักพี่เสียดายน้อง...ว่าแล้วก็สั่งทั้งสองอย่างเลยค่ะ


เต้าส่วนใส่ปาท่องโก๋


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/09_Dining%20Place/03_Bua%20Loy%20-%20Tao%20Suan/09_NK_Bua-Loy--Tao-Suan_05.jpg


บัวลอยไข่หวาน...จริงๆเขาขายบัวลอยไข่เค็มด้วย แต่ไม่กล้าลองค่ะ...

กว่าจะได้ถ่ายภาพ...บัวลอยเหลือติดก้นถ้วยซะแล้ว...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/09_Dining%20Place/03_Bua%20Loy%20-%20Tao%20Suan/09_NK_Bua-Loy--Tao-Suan_04.jpg

Super_Srinuanray
02-05-2012, 20:22
อยากไปถล่มน้องดื้อที่หนองคาย

:)

สายชล
02-05-2012, 20:45
ที่หนองคายในวันรุ่งขึ้น...น้องดื้อมารับแต่เช้า เพื่อพาไปทาน "ไข่กระทะ" อาหารเช้าของเวียตนาม ซึ่งเป็นที่นิยมของคนหนองคายมาก

ร้านไข่กระทะรสเด็ดของที่นี่ ต้องยกให้ร้าน "ทานตะวัน" ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนประจักษ์ศิลปาคม สายเดียวกับร้านขายเต้าส่วนใส่ปาท่องโก๋ และ บัวลอยไข่หวาน ที่เราไปทานมาเมื่อคืนนี้ แต่ขึ้นไปทางด้านเหนือ กลางย่านธุรกิจ..ร้านดูออกจะทันสมัยใหญ่โตทีเดียวค่ะ

http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/09_Dining%20Place/04_Than%20Tawan%20Kai%20Krata/09_NK_Kai-Kratha_01.jpg


ไข่กระทะร้อนๆ ยกมาแล้วค่ะ ขอบอก อย่าจับหูหรือตัวกะทะเชียว มือจะพอง ปวดแสบปวดร้อนเหมือนสายชล


...น่าทานมากๆ...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/09_Dining%20Place/04_Than%20Tawan%20Kai%20Krata/09_NK_Kai-Kratha_03.jpg



ยังค่ะ...ยังทานไม่ได้ เพราะร้านทานตะวัน ไม่ใช่มีดีแต่ไข่กระทะ แต่ขนมปังฝรั่งเศส ที่ผ่ากลางยัดไส้หมูยอและกุนเชียงชิ้นหนา เคี้ยวกรอบนอกนุ่มใน ที่เรียกกันว่า "แซนวิช เวียตนาม" ก็อร่อยล้ำเลิศ และควรทานควบคู่กับไข่กระทะ..


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/09_Dining%20Place/04_Than%20Tawan%20Kai%20Krata/09_NK_Kai-Kratha_04.jpg


เท่านั้นยังไม่พอ...ต้องล้างปากด้วยกาแฟโบราณ ที่หอมหวานกลมกล่อม อร่อยมาก จนอยากย้ายไปอยู่หนองคาย

ครบแล้ว...ลงมือทานได้เลยค่ะ...

http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/09_Dining%20Place/04_Than%20Tawan%20Kai%20Krata/09_NK_Kai-Kratha_05.jpg

สายชล
02-05-2012, 20:48
อิ่มหนำสำราญแล้ว...เพิ่งทราบว่าที่นี่ เขามีเฝอขายเป็นอาหารเช้าด้วย แถมช่วงเที่ยง ยังขายข้าวแกง โดยใช้ชื่อ "ข้าวสวยแกงไก่" ที่รสชาติอร่อยถูกปากชาวเมืองอีกด้วย


กลับจากลาว..ต้องหาโอกาสมาทานที่นี่อีกสักมื้อสองมื้อ...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/09_Dining%20Place/04_Than%20Tawan%20Kai%20Krata/09_NK_Kai-Kratha_02.jpg

สายชล
02-05-2012, 21:14
หลังอาหารเช้าแสนอร่อย..น้องดื้อพาเราไปที่ถนนริมน้ำโขง เพื่อชม "พระธาตุกลางน้ำ" หรือ "พระธาตุหล้าหนอง"

http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/07_Phra%20That%20Klang%20Nam/07_NK_Phra-That-Klang-Nam_10.jpg


ประวัติของพระธาตุ อ่านได้จากป้ายที่ติดไว้ตรงท่าเรือ มีใจความดังนี้...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/07_Phra%20That%20Klang%20Nam/07_NK_Phra-That-Klang-Nam_01.jpg


องค์พระธาตุจำลอง ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง และบรรจุชิ้นส่วนองค์พระธาตุจากองค์เดิมไว้ภายใน ขนาดพระธาตุ องค์จำลอง มีฐานกว้าง 10x10 เมตร ความสูงประมาณ 15 เมตร พร้อมทั้งการเสริมสร้างเสถียรภาพตลิ่งและป้องกัน การกัดเซาะตลิ่ง ตลอดความยาว 194 เมตร นอกจากนี้ยังมีการจัดสภาพภูมิทัศน์โดยรอบให้มีความสวยงามด้วย


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/07_Phra%20That%20Klang%20Nam/07_NK_Phra-That-Klang-Nam_02.jpg


มีเรือยนต์และเรืองหางยาว รับจ้างส่งผู้คนที่ศรัทธา ไปไหว้พระธาตุกลางน้ำ ในอัตราคนละ 20 บาท...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/07_Phra%20That%20Klang%20Nam/07_NK_Phra-That-Klang-Nam_07.jpg



ขอบคุณข้อมูลจาก...http://www.paiduaykan.com/province/Northeast/nongkhai/pratardnongkhai.html

สายชล
02-05-2012, 21:26
สิ่งที่น่าห่วงว่า พระธาตุกลางน้ำ หรือแม้แต่องค์พระธาตุจำลองจะล่มสลายไป มิใช่เกิดจากธรรมชาติ แต่น่าจะเกิดจากฝีมือมนุษย์เห็นแก่ได้ ที่ตั้งหน้าตั้งตาขุดทรายในแม่น้ำโขง ไม่ห่างจากองค์พระธาตุกลางน้ำ ด้วยเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อนำขึ้นมาขายให้กับทั้งคนลาวและคนไทย...เห็นแล้วสลดใจจริงๆค่ะ..



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/07_Phra%20That%20Klang%20Nam/07_NK_Phra-That-Klang-Nam_09.jpg



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/07_Phra%20That%20Klang%20Nam/07_NK_Phra-That-Klang-Nam_08.jpg



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/07_Phra%20That%20Klang%20Nam/07_NK_Phra-That-Klang-Nam_11.jpg


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/07_Phra%20That%20Klang%20Nam/07_NK_Phra-That-Klang-Nam_12.jpg


เราได้แต่ภาวนา ขอให้คุณพระคุณเจ้า ช่วยปกปักรักษาองค์พระธาตุทั้งสอง ให้อยู่รอดปลอดภัยจากอันตราย อันเกิดจากน้ำมือมนุษย์ด้วยเถิด...

สายชล
02-05-2012, 21:48
ริมตลิ่งแม่น้ำโขงฝั่งลาวดูตื้นเขิน หาดทรายยื่นยาวออกจากฝั่งเกือบถึงกลางแม่น้ำ และมีกิจการขุดทรายกันเป็นพืด


ส่วนฝั่งไทย มองหาหาดทรายไม่เห็น แถมตลิ่งยังลาดชัน ชาวบ้านได้อาศัยที่ชายน้ำริมตลิ่งที่ราบเรียบ และมีอยู่เพียงเล็กน้อย เป็นที่ปลูกผัก ประเภท ต้นหอม ผักชี คะน้า ผักกาด ฯ เพื่อยังชีพ...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/07_Phra%20That%20Klang%20Nam/07_NK_Phra-That-Klang-Nam_05.jpg


น่าดูกว่าการหาเลี้ยงชีพ ด้วยการดูดทรายมากมายนัก...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/07_Phra%20That%20Klang%20Nam/07_NK_Phra-That-Klang-Nam_06.jpg

สายชล
02-05-2012, 21:50
ขอถ่ายภาพกับองค์พระธาตุจำลอง ไว้เป็นที่ระลึกหน่อยนะคะ...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/07_Phra%20That%20Klang%20Nam/07_NK_Phra-That-Klang-Nam_03.jpg

สายชล
02-05-2012, 22:28
จากพระธาตุกลางน้ำ...เราจะเดินทางไกลไปถึง เมืองบึงกาฬ ซึ่งเพิ่งถูกแยกจากหนองคาย ไปตั้งเป็นจังหวัดใหม่ล่าสุดของประเทศไทย เพื่อไปเยี่ยมเยือน "ภูทอกน้อย" กัน


ภูทอก อยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองหนองคาย 163 กม.การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข212 ผ่านอำเภอโพธ์ชัย ปากคาด เข้าเมืองบึงกาฬ แล้วเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางหมายเลข 222 ถึงอำเภอศรีวิไล จะมีทางแยกซ้ายเพื่อไปภูทอก เราจะขับรถผ่านหมู่บ้านต่างๆ เช่น บ้านนาสิงห์ บ้านสันทรายงาม บ้านนาคำแคน ระยะทางราว 25 กิดลเมตร ก็ถึงภูทอกค่ะ


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_04.jpg


ภูทอก ในภาษาอีสานแปลว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว เป็นที่ตั้งของ วัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก) อยู่ในอาณาเขตบ้านคำแคน ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จ.บึงกาฬ


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_58.jpg


ภูทอกมี 2 ลูกคือ ภูทอกใหญ่ และ ภูทอกน้อย ส่วนที่นักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถชมได้คือภูทอกน้อย


ส่วนภูทอกใหญ่อยู่ห่างออกไป ยังไม่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวไปชมได้ตามปกติ


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_251.jpg


ในอดีตอาณาบริเวณนี้เคยเป็นป่าทึบ มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมาย ต่อมา พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ได้เริ่มเข้ามาจัดตั้งเป็นแหล่งบำเพ็ญเพียร เพื่อให้พุทธศาสนิกชนปฏิบัติธรรม เนื่องจากเป็นสถานที่เงียบสงบ เหมาะแก่การบำเพ็ญสมณะธรรมของภิกษุ-สามเณรและพุทธศาสนิกชนทั่วไป


แม้จะเป็นวันที่ท้องฟ้าใส แสงแดดแผดจ้า..แต่เมื่อรถแล่นเข้าบริเวณพุทธสถานแห่งนี้ เราสัมผัสได้ถึงความเย็นสบาย ร่มรื่นด้วยแมกไม้ และบึงน้ำใหญ่ที่อยู่โดยรอบ...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_50.jpg

mmb
02-05-2012, 22:32
ยอดเยี่ยมมากครับ พี่ เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลยครับ

สายชล
02-05-2012, 22:38
ก่อนที่พระอาจารย์จวนจะละสังขาร ได้เล็งเห็นการณ์ไกลที่จะช่วยเหลือชาวบ้านแถวนี้ให้มีรายได้อย่างยั่งยืนและถาวร เป็นการตอบแทนบุญคุณญาติโยมที่มีอุปการะ จึงได้ริเริ่มจัดสร้างสะพานไม้และบันไดขึ้นชมทัศนียภาพรอบ ๆ ภูทอก เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงพุทธรักษ์ คือการท่องเที่ยวในเชิงการแสวงบุญหรือธรรมจาริก นักท่องเที่ยวจะได้ประโยชน์จากการเที่ยวชมธรรมชาติคือขุนเขาลำเนาไพรและได้ศึกษาพุทธศาสนา ส่วนชาวบ้านจะได้ประโยชน์จากการจำหน่ายสินค้าและธุรกิจร้านอาหาร...

อย่างไรก็ตาม...ก่อนจะเข้าสู่ทางขึ้นภูทอกได้ มีประตูเหล็กบานใหญ่กั้นทางเดินเข้าไว้..


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_02.jpg


แม้ประตูจะเปิดกว้าง เหมือนรอต้อนรับผู้มาเยือน ข้อความที่อยู่เหนือประตู...ก็ทำให้เราต้องชะงัก สงบและสำรวมกายใจมากขึ้น..


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_03.jpg

สายชล
02-05-2012, 23:15
เมื่อผ่านประตูเข้าไป..ถือได้ว่า เราเข้ามาถึงชั้นที่ 1 ของภูทอกน้อย ในจำนวนชั้นทั้งหมด 7 ชั้นด้วยกัน


เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองภูทอกที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ด้วยความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 350 เมตร (ราวๆตึก 60 – 70 ชั้น) มีบันไดไม้สูงชัน ทอดสูงขึ้นไปเป็นชั้นๆ จากชั้นที่ 1 ที่เรายืนอยู่ ไปสู่ชั้นที่ 2..3..4..5...6 โดยมีระเบียงไม้ลัดเลาะตามหน้าผาไปรอบๆเขา ที่เรียกกันว่า " “สะพานนรก – สวรรค์” ตั้งแต่ชั้นที่ 4-6 ที่หากได้ไปเดินแล้ว คงจะน่าหวาดเสียวเป็นยิ่งนัก ส่วนชั้นที่ 7 นั้น เป็นยอดเขาที่ร่มครึ้มไปด้วยไม้ใหญ่นานาพันธุ์...

เห็นแล้วก็อึ้งทึ่ง...จะไว้ไหมเนี่ย...!!!

http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_51.jpg


บันไดทำไมถึงตั้งชันอย่างนี้ แถมยังสูงมากๆอีกด้วย...


อืมมมมม...จะขึ้นหรือไม่ขึ้นดีนะ...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_07.jpg


เอ้อออ...!!! ไหนๆก็หลงมาแล้ว ไม่ขึ้นก็ขายหน้าแย่สิคะ...


ว่าแล้ว...สายชลก็ก้าวขึ้นบันได จากชั้นที่ 1 สู่ชั้นที่ 2 ทันที ด้วยความอาจหาญ...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_06.jpg

ก้าว..ก้าว..ก้าว..

อูยยยยย...บันไดแต่ละขั้น ทำไมถึงได้ห่างกันอย่างนี้...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_08.jpg

สายชล
03-05-2012, 10:52
เห็นป้ายข้างทาง...ต้องคุมสติไว้ให้กล้า ปัญญาจะได้เกิด ก้าวไปจะได้ไม่พลาด...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_09.jpg


แฮ่กๆ...ขึ้นบันไดไป พักไป พอถึงชั้นที่สอง ค่อยยังชั่วหน่อย เพราะเป็นที่ราบ มีสถานีวิทยุชุมชนของวัดอยู่ด้านขวามือ พอจะขึ้นชั้น 3 ต้องปีนบันไดอีกแล้วค่ กัดฟันทนจนถึงชั้นที่ 3 จะเห็นทางแยกซ้ายขวา ถ้าไปทางซ้ายก็ลัดไปถึงชั้น 5 เลย ถ้าไปทางขวาก็จะไปสู่ชั้น 4 ซึ่งจะต้องเดินบนสะพานนรก-สวรรค์ เลาะไปตามเหว เราเลยใช้สติ เกิดปัญญา เลือกไปทางด้านซ้ายเพื่อขึ้นสู่ชั้นที่ 5 เพื่อขึ้นไปเดินบนสะพานชั้นที่ 6 ที่สวยงามและหวาดเสียวที่สุดแทน


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_11.jpg


ปีนขึ้นไปชั้น 5 ที่แสนชัน เล่นเอาเหนื่อยแฮ่ก...ไม่เชื่อ ถามคุณสายน้ำดูสิคะ...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_12.jpg


ทางเดินเล็กๆ ลัดเลาะไปตามขอบเหวด้านหนึ่ง และผาสูงอีกข้างหนึ่ง ดีจริง...ได้เห็นต้นไม่สูงลิบลิ่วพุ่งยอดจากหุบเหหว ขึ้นสู่ท้องฟ้า..


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_13.jpg

สายชล
03-05-2012, 11:10
ปีนขึ้นไปได้ไม่นาน ก็มาถึงทางแยกอีกแล้วค่ะ ทางหนึ่ง เป็นทางเดินแคบๆลัดเลาะไปตามขอบผา สงบและสวยงาม นำไปสู่ชั้นที่ 5 ได้ แบบไม่ลำบากมากนัก แต่ค่อนข้างจะอ้อมม...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_14.jpg


กับอีกทางหนึ่ง เป็นทางลัดตัดตรงผ่านโพรงถ้ำ ขึ้นไปถึงชั้นที่ 5 ทางสั้นกว่า แต่มืดและบันไดชันเหลือเกิน..


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_15.jpg



สายชลเลือกไปทางเดินธรรมดา แม้จะอ้อม...ก็สามารถไปนั่งคอยคุณสายน้ำและน้องดื้อ ที่ปีนขึ้นทางลัด..


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_142.jpg



น้องดื้อโผล่ออกมาจากโพรงถ้ำแล้วค่ะ...อุ๊ยยย..หล่อจริง...แม้เหงื่อจะพร่างพราวทั่วหน้า


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_16.jpg

ploybabe
03-05-2012, 11:56
ศาลาแก้วกู่ สวย อลังการมากค่ะ สุดยอดมากก
แต่ดูสีฟ้าแล้ว ท่าทางจะร้อน ><

สายชล
03-05-2012, 17:29
น้องติ่ง SNR จ๋า..อย่าไปล้มทับน้องดื้อนะ เดี๋ยวน้องดื้อล้มทับน้องกลับ น้องจะแบนแต๋ดแต๋ นะจะบอกให้...:p


น้องโบ้ mmb คร้าบบบบ...ขอบคุณนะคร้าบบบ เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวลาวต่อ ติดตามไปเรื่อยๆนะคร้าบบบ...:)


น้องพลอย คนงาม...ศาลาแก้วกู่ น่ะ ทำเอาลุงกับป้าอึ้งทึ่ง ตะลึงลาน ในความใหญ่โต พิลึกพิลั่นมาก เข้าไปแล้วเหมือนเราเป็นคนแคระ เพราะรูปปั้นใหญ่โตมโหฬารมากจ้ะ แถมตอนไป แดดยังแผดเปรี้ยงรอดเมฆลงมา ร้อนมากๆจ้ะ..:p

สายชล
03-05-2012, 18:02
พอขึ้นถึงชั้นที่ 5...ร่มไม้ที่ชายเขาและที่ยอดเขาก็หนาแน่นขึ้น เราสัมผัสลมเย็นๆ ที่โชยพัดผ่านมาสัมผัสกาย ความร้อนที่มีอยู่ก็บรรเทาเบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด...

http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_18.jpg


มองรอดผ่านหมู่แมกไม้ มองเห็นหน้าผาของภูทอกใหญ่ได้กระจ่างตา..


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_19.jpg


มองไปทางด้านขวา...เห็นศาลาหลังคาสังกะสี ด้านหน้าเปิดโล่ง ด้านหลังพิงหน้าผา พื้นปูไม้กระดานขึ้นเงามันแผล่บ แสดงถึงการได้รับความดูแลทำความสะอาดอย่างดี..


สิ่งที่ทำให้คนกลัวผีสะดุ้งได้ เห็นจะเป็นโครงกระดูกคน ที่แขวนไว้ในตู้ที่ด้านทางเข้าศาลา เข้าใจว่า คงมีไว้ให้พระท่านปลงอาบัติ



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_201.jpg


มีพระพุทธรูป และรูปปั้นของพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ ตั้งเรียงรายอยู่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย


บริเวณหน้าผามีหลืบถ้ำ ที่เขียนไว้ว่า "ถ้ำพระวิหาร" จะห้ามเข้าหรือไม่ก็ไม่ทราบได้ แต่อย่างไร เราก็คงไม่เข้าไปแน่


สังเกตเห็นสีขาวๆเป็นคราบและหินที่เป็นคลื่นริ้วๆติดอยู่ที่บริเวณหน้าผา ไหมคะ ?.. เราไปอ่านพบที่หลัง จึงทราบว่า มีผู้คนเชื่อว่า นั่นคือรอยเลื้อยของพญานาคราชที่เคยอาศัยในบริเวณนี้..


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_202.jpg

สายชล
03-05-2012, 19:00
ไหว้พระและนั่งเล่นให้เย็นใจสักครู่ เราก็เริ่มเดินต่อไปทางด้านเหนือ มีประตูไม้กั้นทางเดินซึ่งปิดสนิท เหมือนห้ามผ่าน เราเลี้ยวขวา ก็ถึงบันไดที่จะพาขึ้นไปชั้นที่ 6 ซึ่งจะเป็นชั้นที่เราจะเริ่มต้นเดินบนสะพานนรก-สวรรค์ ชั้นที่สูงที่สุด และน่าหวาดเสียวที่สุด


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_221.jpg




เราเดินตามสะพานไม้ ที่ทอดยาวเลาะหน้าผา และข้ามเหวกว้างไปทางด้านเหนือ โดยด้านขวาของเราชิดหน้าผา เหมือนเดินเวียนเทียน หรือทักษิณาวรรต เพื่อเป็นมงคลแห่งชีวิต...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_204.jpg


ปลายสะพานไม้ ใต้ชะโงกผา รูปร่างโค้งเหมือนใบเรือที่ต้านลม มีแคร่ตั้งพระพุทธรูปสามองค์ ซึ่งงดงาม และมีพุทธลักษณะแตกต่างกันไป...มีความเชื่อว่า ปากทางเข้าเมืองพญานาคอยู่หลังพระปางนาคปรก มีจุดให้สังเกตุคือมีรอยสีขาวขูดติดกับหินปูน ซึ่งชาวบ้านถือว่าเป็นรอยถลอกที่เกิดจากท้องพญานาคสัมผัสกับหิน.. !


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_20.jpg



จากชะโงกผาโค้งเหมือนภาพใบเรือต้านลม เราผ่านหน้าผาแห่งหนึ่ง ซึ่งเหมือนหินก้อนยาวใหญ่ยักษ์หักพับลงมา และมีรอยสะพานไม้ที่พาดผ่านหักพังพาดอยู่...

สงสัยจริงว่าเกิดอะไรขึ้น... ??


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_21.jpg

สายชล
03-05-2012, 19:25
เดินต่อไป ตามทางเดินที่เป็นหินแข็ง ริมหน้าผา..มีดอกไม้หรือผลไม้แห้งหน้าตาประหลาดชูช่อไสว อดใจไม่ไหว ขอถ่ายภาพเก็บไว้เชยชมหน่อยนะคะ..


ดอกหรือผลอะไรนะ...ใครรู้ชื่อบ้างคะ.. ?? ช่วยบอกที..มีรางวัลให้ค่ะ....


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_23.jpg

Super_Srinuanray
03-05-2012, 19:33
ดอกหญ้า ค่ะ คริ คริ

สายชล
03-05-2012, 20:18
มองออกไปด้านล่างซ้ายมือ มองเห็นบึงน้ำใหญ่ ล้อมรอบไปด้วยสวนยางพารา ถ้าไปอ่านบทความหรือสารคดีเก่าๆ มักจะบอกว่า ด้านนี้ของภูทอกน้อย จะเป็นป่าหนาทึบ มีสิงสาราสัตว์อาศัยอยู่มากมาย..แต่ขณะนี้..มองๆไป ไม่เห็นภาพเช่นนั้นอีกแล้วค่ะ...



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_24.jpg


ที่ยังพอจะมองเห็นได้ เห็นจะเป็นภูทอกใหญ่ ซึ่งตั้งตะหง่านอยู่ไม่ไกลนัก หน้าผาที่ทอดยาวออกไป ทำให้เห็นภูทอกใหญ่ได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น..

http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_25.jpg


หน้าผาด้านตะวันออกของภูทอกใหญ่ มีลักษณะคล้ายๆหน้าผาของภูทอกน้อย...แต่สูงชัน และใหญ่กว่ามาก ภูเขาที่เห็นเป็นฉากหลังอยู่ไกลๆ เห็นว่าเป็นภูเขาในเขตลาว...

เท็จจริงเป็นประการใด ไม่ยืนยันนะคะ..


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_251.jpg

สายชล
03-05-2012, 21:17
พ้นจากหน้าผาที่ยื่นยาวออกไป เป็นทางเดินที่ราบเรียบ พอเลี้ยวผ่านมุมหินไป ก็มองเห็นสะพานไม้ขนาดกว้างราว 2 เมตร ยื่นยาวออกมาจากริมผา ลัดเลาะยาวเหยียดออกไป จนสุดเหลี่ยมผา...

เบื้องล่าง..เป็นหุบเหวที่ลึกลงไปกว่าสามร้อยเมตร...อู้ววววว.....หวาดเสียว...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_39.jpg



ด้วยน้ำหนักตัวขนาดน้องๆช้างของสองสายและน้องดื้อ เราก้าวเดินขึ้นสะพานห่างๆกัน ด้วยเกรงว่าสะพานจะถล่ม หากเราสามคนจะเดินไปพร้อมหน้าพร้อมตากัน...

http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_33.jpg


เราเดินกันไปช้าๆ..เบาๆ...พยายามชิดหน้าผา..และไม่จับหรือพิงรั้วริมระเบียง ที่ดูแบบบาง

เมื่อมองย้อนกลับไปทางที่เดินผ่านมา ก็เห็นภาพภูทอกใหญ่ดูสวยงาม และดูเหมือนจะอยู่ใกล้ชิด ติดกับภูทอกน้อยมากกว่าที่ควรจะเป็น....



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_31.jpg

สายชล
04-05-2012, 05:28
เดินต่อไปอีกหน่อย และมองลงไปอีกนิด...เราได้เห็นภาพ "พุทธวิหาร" ซึ่งเป็นสถานที่เก็บพระบรมสารีริกธาตุ มีลักษณะที่แปลกและน่าอัศจรรย์ หินที่เทินซ้อนอยู่บนหน้าผา ดูคล้ายกับพระธาตุอินทร์แขวนที่ประเทศพม่า ความจริงหินก้อนนี้แยกตัวออกมาจากหินก้อนใหญ่แล้ว แต่ไม่ตกลงมา เพราะตั้งอยู่ได้ฉากกับพื้นโลกพอดี

พุทธวิหารนี้ ตั้งอยู่บนชั้นที่ 5 ที่เราเดินไปไม่ถึง แต่การมองจากชั้น 6 ลงไป จะให้มุมมองที่สวยงามกว่า...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_32.jpg



มีเรื่องเล่าว่า...ในอดีต ก่อนที่จะมีการสร้างสะพานไม้เชื่อมต่อ บุคคลธรรมดาไม่อาจข้ามมาที่พุทธวิหารได้ เพราะมีหุบเหวขวางกั้น แต่มีบุคคลอยู่ประเภทหนึ่ง ที่สามารถปรากฎตัวที่พุทธวิหารได้ คือพระอรหันต์และท่านผู้ทรงอภิญญา ท่านเหล่านี้จะมาพักผ่อนที่พุทธวิหารเอง โดยการเดินบนอากาศหรือเหาะข้ามมา เพราะต้องการปลีกวิเวกและไม่ให้ใครมารบกวนได้ ดังนั้น หินประหลาดก้อนนี้จึงถูกเรียกว่า พุทธวิหาร ซึ่งแปลว่า สถานที่พักผ่อนของท่านผู้บรรลุแล้ว


ในปัจจุบัน แม้ว่าจะมีสะพานไม้เชื่อมต่อระหว่างสะพานหินกับพุทธวิหารแล้วก็ตาม แต่นักแสวงบุญทั่วไปก็ไม่อาจเข้าไปสัมผัสพุทธวิหารใกล้ชิดกว่านี้ได้ เพราะทางวัดปิดประตูไว้ เนื่องจากเทวดาที่รักษาพระบรมสารีริกธาตุทนเหม็นกลิ่นสาบมนุษย์ไม่ไหว ทางวัดจึงอนุญาตให้นักแสวงบุญมาได้แค่ปากประตูเท่านั้น...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_57.jpg

ขอบคุณข้อมูลจาก...http://www.intaram.org/index.php?lay=show&ac=article&Ntype=22&Id=538979488[/COLOR]

สายชล
04-05-2012, 06:21
เขาบอกว่า..ถ้ามาเดินบนสะพานนรก-สวรรค์ ไม่ควรจะมองลงไปข้างล่าง...โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้กลัวความสูง เพราะจะทำให้ขาสั่น ใจสั่น เดินต่อไปไม่ได้

แหมมม...คนไม่กลัวความสูงอย่างเรา อดใจไม่ไหวหรอกค่ะ แม้จะหาป่าธรรมชาติไม่ได้แล้ว ความเขียวขจีของสวนยางพารา และบึงน้ำข้างล่าง ดึงดูดสายตาให้สายชลต้องก้มลงไปมอง ด้วยความสุขใจ...



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_39.jpg


บางช่วงของสะพาน...มีหลังคาสังกะสีกันแดดกันฝน และม้านั่งไม้ให้ผู้มาเยือนได้นั่งกินลมชมวิว หรือให้พระภิกษุสงฆ์ได้นั่งวิปัสนากรรมฐาน



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_40.jpg


ธรรมชาติที่เห็นอยู่เบื้องหน้า ช่างสวยงามเหลือเกินค่ะ...

จากการค้นข้อมูลเพิ่มเติม ภาพภูเขาเทือกยาวที่เห็นในภาพ คือ "ภูลังกา" ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ และ อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ภูลังกามีสภาพเป็นภูเขาเรียงซ้อนกันสามลูก ตามแนวเหนือใต้ ขนานกับแม่น้ำโขง สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าดิบเขา ป่าดงดิบ ป่าเบญจพรรณ และป่าแดงที่สมบูรณ์ มีสัตว์ป่ามากมายอาศัยอยู่ โดยเฉพาะมีฝูงกามาอาศัยอยู่มาก จึงเรียกกันว่า "ภูรังกา" แล้วเพี้ยนมาเป็น "ภูลังกา" ในที่สุด


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_38.jpg



ลมโชยพัดผ่านมา...น่านั่งเล่นนอนเล่นจริงๆนะคะ..ขอบอก



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_36.jpg

สายชล
04-05-2012, 06:25
เห็นข้อความ "แดนสวรรค์" ที่หน้าผาข้างหลังน้องดื้อไหมคะ ฝีมือใครนะ น่าตีมือจริงๆค่ะ..



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_37.jpg



เราพักชมวิวอยู่ที่นี่กันครู่ใหญ่ที่เดียวค่ะ..



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_34.jpg



ลมเย็นๆ....เงียบสงบ....อยากจะนั่งอยู่ที่นี่นานๆ..



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_42.jpg

สายชล
04-05-2012, 07:48
สะพานทางเดินด้านตะวันออกเฉียงใต้ของภูทอกน้อย ดูจะง่อนแง่นโงนเงน ไม่ค่อยน่าไว้วางใจเลยค่ะ..


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_43.jpg


เห็นแล้วต้องค่อยๆเดิน แล้วก็ไม่พยายามไปจับรั้วไม้ริมสะพาน...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_45.jpg


มองลงไปข้างล่าง...เห็นเจดีย์พิพิธภัณฑ์พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ เล็กนิดเดียว...

http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_47.jpg


โล่งใจค่ะ...สะพานหมดไป กลายเป็นทางเดินเลาะริมผาไปเรื่อยๆ..


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_46.jpg

สายชล
04-05-2012, 07:54
ถึงเวลาลงจากภูทอกแล้วค่ะ..


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_48.jpg


การจราจรติดขัดที่ทางลงหน้าปากถ้ำจากชั้น 5 ลงชั้น 4...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_49.jpg

สายชล
04-05-2012, 09:59
ลงมาถึงชั้นที่หนึ่ง และเดินผ่านประตูออกมาแล้ว เราแวะไปกราบคารวะพระพุทธรูป ที่ตั้งเป็นสง่าอยู่บนลานหน้าประตูทางเข้าภูทอก

http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_53.jpg


เมื่อจะออกจากบริเวณวัด..เราได้แวะชม เจดีย์พิพิธภัณฑ์พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2529 ด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กประดับด้วยหินอ่อนขนาดกว้าง 16 เมตร สูง 31 เมตร....สูงตระหง่าน และสวยงาม อยู่ท่ามกลางแมกไม้ที่ร่มรื่น


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_54.jpg

ใต้ฐานเจดีย์ ใช้เป็นที่แสดงประวัติ ที่บรรจุอัฐบริขารในสมัยบำเพ็ญสมณธรรม รวมทั้งอัฐิธาตุ และรูปปั้นขนาดเท่าองค์จริงของท่านผู้ก่อตั้งวัดแห่งนี้..



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_56.jpg



สำหรับประวัติของท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ มีโดยสังเขปดังนี้..

วัดเจติยาศีรีวิหาร (ภูทอก) สร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2483 โดยการนำพาของ พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ซึ่งได้มาบำเพ็ญเพียรสมณธรรมอยู่ที่ภูวัว อ.เซกา จ.หนองคาย คืนหนึ่งได้เกิดนิมิตขึ้นเห็นปราสาท 2 หลัง ลักษณะสวยงามมากอยู่ทางด้านภูทอกน้อย ดังนั้น พระอาจารย์จวน จึงได้เดินทางมาพิสูจน์ตามที่เกิดนิมิต และได้พบลักษณะภูมิประเทศที่สวยงานร่มรื่น เหมาะที่จะปฏิบัติธรรม จึงได้สำรวจและปักกรดอยู่ที่ถ้ำบนภูทอก กับ พระครูศริธรรมวัฒน์ ต่อมาศรัทธาญาติโยมชาวบ้านคำแคน เห็นว่าพระอาจารย์จวนธุดงค์มาอยู่ที่ภูทอก จึงพร้อมใจกันอาราธนาให้สร้างวัดขึ้นที่ภูทอกแห่งนี้

ในปีพุทธศักราช 2512 ชาวบ้านนาคำแคนได้มาช่วยกันสร้างบันไดขึ้นภูทอก จนถึงชั้นที่ 5-6 และได้ปลูกสร้างเสนาสนะสำหรับพระสงฆ์อยู่ถึง 2 เดือน 10 วัน จึงแล้วเสร็จ ภายในสองปีถัดมา ท่านได้ชักชวนชาวบ้านสร้างทำนบกั้นน้ำขึ้น 2 แห่ง เพื่อใช้เก็บกักน้ำและจัดระบบน้ำประปาขึ้นภายในวัดภูทอก


การก่อสร้างทางเดินรอบภูทอก เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเป็นการเจาะหินทำนั่งร้านด้วยไม้เนื้อแข็ง 2 ท่อน ผูกติดกับเสาที่ปักไม้เท้าแขนลงไปแล้วจึงพาดไม้กระดานเป็นสะพานที่ละช่วงๆ ละประมาณ 1 เมตรเศษ ระหว่างคานจะมีคานรองรับอีกชั้นหนึ่ง จึงทำให้สะพานแข็งแรงมาก นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นอย่างยิ่ง


และเมื่อวันที่ 27 เมษายน พุทธศักราช 2523 พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ได้รับนิมนต์ไปกรุงเทพฯ และได้ประสพอุบัติเหตุเครื่องบินตก ถึงแก่มรณภาพ สิริรวมอายุได้ 59 ปี 9 เดือน 18 วัน พรรษา 38



http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_55.jpg


ขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19892

สายชล
04-05-2012, 10:37
การท่องเที่ยวที่ภูทอกน้อย จบลงด้วยความสุขใจของพวกเราทั้งสามคน และเป็นการสิ้นสุดการท่องเที่ยวในหนองคายและบึงกาฬ ของสองสายในครั้งนี้ด้วย...


ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจในหนองคายและบึงกาฬ อีกมากมายหลายที่ สองสายจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะได้กลับมาเยือนดินแดนแถบถิ่นนี้อีกหลายๆครั้ง จนจุใจ



ขอขอบคุณน้องดื้อผู้น่ารัก ที่ยอมโดดงานมาพาสองสายเที่ยว และพาเราไปทานของอร่อยๆมากมายในครั้งนี้ และครั้งต่อๆไปในอนาคตนะคะ..


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_22.jpg

สายชล
04-05-2012, 18:25
เชิญอ่านเรื่องตะลุยเข้าเมืองลาวของสองสายต่อ ได้ที่.....

http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?p=31073#post31073

Equal1
07-05-2012, 11:27
ครบรสจริงๆ คะ ภาพสวยๆ ฟ้าใสๆ พร้อมกับศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นที่พี่สองสายช่วยนำมาลงประกอบภาพทำให้เหมือนได้ร่วมเดินทางไปด้วยจริงๆ ... ^^

koy
07-05-2012, 11:35
เมื่อผ่านประตูเข้าไป..ถือได้ว่า เราเข้ามาถึงชั้นที่ 1 ของภูทอกน้อย ในจำนวนชั้นทั้งหมด 7 ชั้นด้วยกัน


เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองภูทอกที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ด้วยความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 350 เมตร (ราวๆตึก 60 – 70 ชั้น) มีบันไดไม้สูงชัน ทอดสูงขึ้นไปเป็นชั้นๆ จากชั้นที่ 1 ที่เรายืนอยู่ ไปสู่ชั้นที่ 2..3..4..5...6 โดยมีระเบียงไม้ลัดเลาะตามหน้าผาไปรอบๆเขา ที่เรียกกันว่า " “สะพานนรก – สวรรค์” ตั้งแต่ชั้นที่ 4-6 ที่หากได้ไปเดินแล้ว คงจะน่าหวาดเสียวเป็นยิ่งนัก ส่วนชั้นที่ 7 นั้น เป็นยอดเขาที่ร่มครึ้มไปด้วยไม้ใหญ่นานาพันธุ์...

เห็นแล้วก็อึ้งทึ่ง...จะไว้ไหมเนี่ย...!!!

http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_51.jpg


บันไดทำไมถึงตั้งชันอย่างนี้ แถมยังสูงมากๆอีกด้วย...


อืมมมมม...จะขึ้นหรือไม่ขึ้นดีนะ...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_07.jpg


เอ้อออ...!!! ไหนๆก็หลงมาแล้ว ไม่ขึ้นก็ขายหน้าแย่สิคะ...


ว่าแล้ว...สายชลก็ก้าวขึ้นบันได จากชั้นที่ 1 สู่ชั้นที่ 2 ทันที ด้วยความอาจหาญ...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_06.jpg

ก้าว..ก้าว..ก้าว..

อูยยยยย...บันไดแต่ละขั้น ทำไมถึงได้ห่างกันอย่างนี้...


http://i835.photobucket.com/albums/zz275/Saaynam/Dec54_Nong%20Khai/08_Phu%20Thok%20Noi/08_NK_Phu-Thok-Noi_08.jpg



เทียบกับขึ้น Waynapicchu อันไหนโหดกว่ากันครับพี่น้อย

สายชล
07-05-2012, 12:21
ครบรสจริงๆ คะ ภาพสวยๆ ฟ้าใสๆ พร้อมกับศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นที่พี่สองสายช่วยนำม าลงประกอบภาพทำให้เหมือนได้ร่วมเดินทางไปด้วยจริงๆ ... ^^



ขอบคุณจ้ะน้องอั๊ง...วันหน้าจะไปทางอิสานใต้บ้าง รอให้อากาศเย็นๆก่อนจ้ะ

สายชล
07-05-2012, 12:25
เทียบกับขึ้น Waynapicchu อันไหนโหดกว่ากันครับพี่น้อย





Wayna Picchu โหดกว่าเยอะจ้ะ น้องก้อย...แต่ผลจากการไปขึ้นภูทอกน้อย ทำให้ได้ฝึกขา และฝึกจิต ทำให้มีกำลังและแรงใจ ที่จะปีนขึ้น Wayna Picchu ให้สำเร็จอย่างที่ฝันไว้จ้ะ...

blue day
08-05-2012, 09:44
ภาพสวยฟ้าใส เหมือนได้ไปด้วยเลยครับ ฮ่าาาาาาาาาาาาาา:d:D

สายชล
08-05-2012, 10:41
ฮ่าๆๆ...เนาะๆ น้องดื้อ เหมือนได้ไปด้วยกันเลย...:)

สายชล
09-07-2012, 11:04
ขอขยับที่ไปใกล้ๆภาค 2 หน่อยนะคะ...:p