สายน้ำ
12-08-2009, 06:36
ไขเล่ห์งูทะเลเล่นกลหลอกศัตรู ทำเป็น 2 หัวในตัวเดียว
http://pics.manager.co.th/Images/552000009845701.JPEG
นักวิจัยจับงูสมิงทะเลปากเหลืองมาดูให้ชัดๆ ว่ามี 2 หัว จริงหรือเปล่า (บีบีซีนิวส์)
ทีมนักวิทย์เดนมาร์กสุดฉงน ดำน้ำใกล้เกาะในอินโดนีเซียเจองูทะเล 2 หัว แต่เมื่อพินิจดูดีๆ ที่แท้ข้างหนึ่งเป็นหาง อีกข้างเป็นหัว สันนิษฐานวิวัฒนาการให้หางคล้ายหัวไว้หลอกล่อศัตรูเพื่อให้อยู่รอด
ทีมนักวิจัยเดนมาร์กตีพิมพ์ผลการศึกษานี้ในวารสาร มารีน อีโคโลจี (Marine Ecology) ว่างูสมิงทะเลปากเหลืองคล้ายมีสองหัว โดยหัวที่ 2 แท้จริงคือส่วนหาง ที่เกิดจากการวิวัฒนาการเพื่อหลอกล่อศัตรูผู้จ้องโจมตีให้เข้าใจผิดคิดว่า หางคือหัว เพิ่มโอกาสให้พวกมันรอดชีวิตจากการถูกล่า
http://pics.manager.co.th/Images/552000009845702.JPEG
หน้าตาและส่วนหัวที่แท้จริงของงูสมิงทะเลปากเหลือง (yellow-lipped sea krait) (ภาพจาก bbc.co.uk)
ดร.อาร์เน แรสมัสเซิน (Dr. Arne Rasmussen) และทีมวิจัย วิทยาลัยการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (School of Conservation) สถาบันวิจิตรศิลป์แห่งเดนมาร์ก (Royal Danish Academy of Fine Arts) กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์กได้ดำน้ำลงไปศึกษาพฤติกรรมของงูสมิงทะเลปากเหลือง (yellow-lipped sea krait) บริเวณใกล้กับชายฝั่งของเกาะบูนาเคน (Bunaken Island) ประเทศอินโดนีเซีย โดยได้ติดตามดูพวกงูเหล่านี้ในขณะที่พวกมันว่ายน้ำหาอาหารอยู่ระหว่างแนว ปะการังและซอกหินใต้ทะเล
นักวิจัยสังเกตเห็นหัวงูลวงตาเมื่อเขาเห็นงูตัวหนึ่งโดยที่หัวของมัน ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา ขณะที่หางของมันแหย่เข้าไปในปะการัง และเมื่อหางหรือหัวที่สองของมันโผล่ออกมาจากปะการัง เขาเพิ่งตระหนักได้เดี๋ยวนั้นเองว่าหัวงูที่เขาเห็นในตอนแรก ที่จริงแล้วเป็นหางของงูต่างหาก แต่หัวที่แท้จริงคือส่วนที่มันแหย่เข้าไปในปะการังเมื่อครู่นี้
http://pics.manager.co.th/Images/552000009845703.JPEG
งูสมิงทะเลปากเหลือง หัวอยู่ไหน หางอยู่ไหน ผู้ล่าเห็นแล้วงง (ภาพจาก picasaweb.google.com)
ทั้งนี้ งูสมิงทะเลปากเหลือง เป็นงูสปีชีส์ ลาติคอดา โคลูบรินา (Laticauda colubrina) เป็นงูทะเลชนิดหนึ่งที่มีพิษร้ายแรง ตลอดลำตัวมีลายสีดำสลับขาว ที่บริเวณส่วนปลายหัวและปลายหางมีลายคล้ายรูปเกือกม้าสีเหลือง ดูผิวเผิน คล้ายมีหัวสองข้าง
นักวิจัยเชื่อว่างูมีวิวัฒนาการให้ส่วนหางคล้ายหัว ก็เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกจู่โจมในขณะที่มันใจจดจ่ออยู่กับการหาเหยื่อ ซึ่งแม้ว่างูชนิดนี้จะจัดเป็นงูที่มีพิษร้ายแรง แต่มันก็จัดเป็นผู้ด้อยกว่าในจำนวนนักล่าที่มีทั้งปลาขนาดใหญ่ ฉลาม และนก
จากนั้น ทีมวิจัยได้ศึกษาตัวอย่างงูสามเหลี่ยมกว่า 100 ตัว ที่เก็บสะสมอยู่ในพิพิธภัณฑ์ในกรุงปารีส, กรุงเบอร์ลิน และกรุงโคเปนเฮเกน พร้อมกับเฝ้าติดตามสังเกตพฤติกรรมของงูในธรรมชาติบนหมู่เกาะโซโลมอน (Solomon Islands) ซึ่งได้ข้อสรุปว่างูสมิงทะเลปากเหลืองมีหางคล้ายส่วนหัว ทำให้ดูคล้ายกับเป็นงูสองหัว และเนชันแนลจีโอกราฟฟิกยังระบุเพิ่มเติมว่า ที่หมู่เกาะโซโลมอน นักวิจัยยังพบงูทะเลชนิดอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายมีสองหัวเช่นเดียวกัน เช่น งูสปีชีส์ ไฮโดรฟิส พาไคเซอคอส (Hydrophis pachycercos)
http://pics.manager.co.th/Images/552000009845704.JPEG
งูทะเลอีกชนิดหนึ่งในสปีชีส์ Hydrophis pachycercos ที่ดูคล้ายกับว่าส่วนหางเป็นอีกหัวหนึ่งเช่นกัน ซึ่งนักวิจัยพบแถวหมู่เกาะโซโลมอน (ภาพจาก National Geographic)
"การมีลักษณะคล้ายเหมือนมีสองหัวแบบนี้อาจเพิ่มโอกาสให้พวกมันรอดชีวิตจากศัตรูผู้ล่า โดยการเผยให้เห็นในส่วนของร่างกายที่สำคัญต่อการอยู่รอดน้อยที่สุด แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น มันอาจช่วยป้องกันจากการถูกจู่โจมเป็นที่แรก หากผู้ล่าเห็นหางแบบนี้ของมันแล้วคิดว่าหัวของงูพิษ" นักวิจัยอธิบาย
จาก : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 11 สิงหาคม 2552
http://pics.manager.co.th/Images/552000009845701.JPEG
นักวิจัยจับงูสมิงทะเลปากเหลืองมาดูให้ชัดๆ ว่ามี 2 หัว จริงหรือเปล่า (บีบีซีนิวส์)
ทีมนักวิทย์เดนมาร์กสุดฉงน ดำน้ำใกล้เกาะในอินโดนีเซียเจองูทะเล 2 หัว แต่เมื่อพินิจดูดีๆ ที่แท้ข้างหนึ่งเป็นหาง อีกข้างเป็นหัว สันนิษฐานวิวัฒนาการให้หางคล้ายหัวไว้หลอกล่อศัตรูเพื่อให้อยู่รอด
ทีมนักวิจัยเดนมาร์กตีพิมพ์ผลการศึกษานี้ในวารสาร มารีน อีโคโลจี (Marine Ecology) ว่างูสมิงทะเลปากเหลืองคล้ายมีสองหัว โดยหัวที่ 2 แท้จริงคือส่วนหาง ที่เกิดจากการวิวัฒนาการเพื่อหลอกล่อศัตรูผู้จ้องโจมตีให้เข้าใจผิดคิดว่า หางคือหัว เพิ่มโอกาสให้พวกมันรอดชีวิตจากการถูกล่า
http://pics.manager.co.th/Images/552000009845702.JPEG
หน้าตาและส่วนหัวที่แท้จริงของงูสมิงทะเลปากเหลือง (yellow-lipped sea krait) (ภาพจาก bbc.co.uk)
ดร.อาร์เน แรสมัสเซิน (Dr. Arne Rasmussen) และทีมวิจัย วิทยาลัยการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (School of Conservation) สถาบันวิจิตรศิลป์แห่งเดนมาร์ก (Royal Danish Academy of Fine Arts) กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์กได้ดำน้ำลงไปศึกษาพฤติกรรมของงูสมิงทะเลปากเหลือง (yellow-lipped sea krait) บริเวณใกล้กับชายฝั่งของเกาะบูนาเคน (Bunaken Island) ประเทศอินโดนีเซีย โดยได้ติดตามดูพวกงูเหล่านี้ในขณะที่พวกมันว่ายน้ำหาอาหารอยู่ระหว่างแนว ปะการังและซอกหินใต้ทะเล
นักวิจัยสังเกตเห็นหัวงูลวงตาเมื่อเขาเห็นงูตัวหนึ่งโดยที่หัวของมัน ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา ขณะที่หางของมันแหย่เข้าไปในปะการัง และเมื่อหางหรือหัวที่สองของมันโผล่ออกมาจากปะการัง เขาเพิ่งตระหนักได้เดี๋ยวนั้นเองว่าหัวงูที่เขาเห็นในตอนแรก ที่จริงแล้วเป็นหางของงูต่างหาก แต่หัวที่แท้จริงคือส่วนที่มันแหย่เข้าไปในปะการังเมื่อครู่นี้
http://pics.manager.co.th/Images/552000009845703.JPEG
งูสมิงทะเลปากเหลือง หัวอยู่ไหน หางอยู่ไหน ผู้ล่าเห็นแล้วงง (ภาพจาก picasaweb.google.com)
ทั้งนี้ งูสมิงทะเลปากเหลือง เป็นงูสปีชีส์ ลาติคอดา โคลูบรินา (Laticauda colubrina) เป็นงูทะเลชนิดหนึ่งที่มีพิษร้ายแรง ตลอดลำตัวมีลายสีดำสลับขาว ที่บริเวณส่วนปลายหัวและปลายหางมีลายคล้ายรูปเกือกม้าสีเหลือง ดูผิวเผิน คล้ายมีหัวสองข้าง
นักวิจัยเชื่อว่างูมีวิวัฒนาการให้ส่วนหางคล้ายหัว ก็เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกจู่โจมในขณะที่มันใจจดจ่ออยู่กับการหาเหยื่อ ซึ่งแม้ว่างูชนิดนี้จะจัดเป็นงูที่มีพิษร้ายแรง แต่มันก็จัดเป็นผู้ด้อยกว่าในจำนวนนักล่าที่มีทั้งปลาขนาดใหญ่ ฉลาม และนก
จากนั้น ทีมวิจัยได้ศึกษาตัวอย่างงูสามเหลี่ยมกว่า 100 ตัว ที่เก็บสะสมอยู่ในพิพิธภัณฑ์ในกรุงปารีส, กรุงเบอร์ลิน และกรุงโคเปนเฮเกน พร้อมกับเฝ้าติดตามสังเกตพฤติกรรมของงูในธรรมชาติบนหมู่เกาะโซโลมอน (Solomon Islands) ซึ่งได้ข้อสรุปว่างูสมิงทะเลปากเหลืองมีหางคล้ายส่วนหัว ทำให้ดูคล้ายกับเป็นงูสองหัว และเนชันแนลจีโอกราฟฟิกยังระบุเพิ่มเติมว่า ที่หมู่เกาะโซโลมอน นักวิจัยยังพบงูทะเลชนิดอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายมีสองหัวเช่นเดียวกัน เช่น งูสปีชีส์ ไฮโดรฟิส พาไคเซอคอส (Hydrophis pachycercos)
http://pics.manager.co.th/Images/552000009845704.JPEG
งูทะเลอีกชนิดหนึ่งในสปีชีส์ Hydrophis pachycercos ที่ดูคล้ายกับว่าส่วนหางเป็นอีกหัวหนึ่งเช่นกัน ซึ่งนักวิจัยพบแถวหมู่เกาะโซโลมอน (ภาพจาก National Geographic)
"การมีลักษณะคล้ายเหมือนมีสองหัวแบบนี้อาจเพิ่มโอกาสให้พวกมันรอดชีวิตจากศัตรูผู้ล่า โดยการเผยให้เห็นในส่วนของร่างกายที่สำคัญต่อการอยู่รอดน้อยที่สุด แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น มันอาจช่วยป้องกันจากการถูกจู่โจมเป็นที่แรก หากผู้ล่าเห็นหางแบบนี้ของมันแล้วคิดว่าหัวของงูพิษ" นักวิจัยอธิบาย
จาก : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 11 สิงหาคม 2552