สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 25 เมษายน 2563

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บริเวณภาคเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมทั้งฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่และมีลมกระโชกแรง ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป จะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 25 ? 26 เม.ย. 63 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่า และลูกเห็บตกบางพื้นที่ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนคลายความร้อนลง

ส่วนช่วงในวันที่ 27 - 30 เม.ย. 63 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 25 - 28 เม.ย. 63 ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 25 ? 26 เม.ย. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงลูกเห็บตก โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 25 - 28 เม.ย. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและลมกระโชกแรงไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบถึงวันที่ 26 เมษายน 2563)" ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 25 เมษายน 2563

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่าง และทะเลจีนใต้ ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อน ทำให้เกิดการปะทะกันของมวลอากาศเย็นและอากาศร้อน ส่งผลทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ และมีลมกระโชกแรง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้


ในช่วงวันที่ 25-26 เมษายน 2563

ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และนครราชสีมา

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี

ภาคตะวันออก: จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส


https://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Morning%20News%20Photos/63/63_04/630425_WaveampPressure_zpsplvqi9st.jpg (https://s1198.photobucket.com/user/saveoursea/media/Morning%20News%20Photos/63/63_04/630425_WaveampPressure_zpsplvqi9st.jpg.html)


https://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Morning%20News%20Photos/63/63_04/630425_Forecast1_zpsvp9upirp.jpg (https://s1198.photobucket.com/user/saveoursea/media/Morning%20News%20Photos/63/63_04/630425_Forecast1_zpsvp9upirp.jpg.html)


https://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Morning%20News%20Photos/63/63_04/630425_Warning_01_zpsejyjeruk.jpg (https://s1198.photobucket.com/user/saveoursea/media/Morning%20News%20Photos/63/63_04/630425_Warning_01_zpsejyjeruk.jpg.html)


https://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Morning%20News%20Photos/63/63_04/630425_Warning_02_zpskihko1yj.jpg (https://s1198.photobucket.com/user/saveoursea/media/Morning%20News%20Photos/63/63_04/630425_Warning_02_zpskihko1yj.jpg.html)

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ใช้ไมโครโฟนดักฟังธารน้ำแข็งอาร์กติก

https://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Morning%20News%20Photos/63/63_04/630425_Thairath_01_zpskkvula0l.jpg (https://s1198.photobucket.com/user/saveoursea/media/Morning%20News%20Photos/63/63_04/630425_Thairath_01_zpskkvula0l.jpg.html)
Credit : Scripps Institution of Oceanography

ขณะที่โลกอุ่นขึ้น แต่การประเมินความสูญเสียน้ำแข็งในมหาสมุทรน้ำแข็งนั้นยากที่จะทำได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากสถานที่ห่างไกลของธารน้ำแข็งหลายแห่งรวมถึงสภาวะอันตรายที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ไม่อาจทำการวัดโดยตรงที่หน้าผาน้ำแข็งที่ไร้ซึ่งความเสถียร

เมื่อเร็วๆนี้ นักวิจัยจากสถาบันสมุทรศาสตร์สคริปปส์ (Scripps Institution of Oceanography) เผยว่า กำลังดักฟังเสียงที่เกิดจากภูเขาน้ำแข็งตกลงสู่มหาสมุทรในแถบอาร์กติก โดยติดตั้งไมโครโฟนใต้น้ำ 2 ตัว หรือที่เรียกว่าไฮโดรโฟน (hydrophone) คืออุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แปลงพลังงานเสียงไปเป็นพลังงานไฟฟ้า ตรงพื้นมหาสมุทรลึกกว่า 900 เมตร ใกล้กับหน้าผาธารน้ำแข็ง Hansbreen ใน Hornsund Fjord ในดินแดนสฟาลบาร์ด (Svalbard) ซึ่งเป็นหมู่เกาะอาร์กติกทางตอนเหนือของ นอร์เวย์

วิธีนี้จะวัดการสูญเสียมวลของธารน้ำแข็งที่หลุดจากภูเขาน้ำแข็ง อันเป็นกระบวนการที่น้ำแข็งแตกตัวจากขอบธารน้ำแข็งและทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้น การบันทึกเสียงใต้น้ำทำให้นักวิจัยได้รับสูตรทางคณิตศาสตร์ที่คำนวณมวลของก้อนน้ำแข็ง จากเสียงที่เกิดขึ้น โดยจะสามารถใช้ในการวัด การสูญเสียน้ำแข็งเนื่องจากการหลุดออกมา.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1828683

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


สนามบินภูเก็ตเงียบ จน "เต่ามะเฟือง" ขึ้นมาวางไข่ บนชายหาดหัวรันเวย์

มหัศจรรย์ทางธรรมชาติในช่วงสนามบินภูเก็ตหยุดให้บริการ ช่วงสถานการณ์โควิด-19 พบเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่บนหาดไม้ขาว หัวทางวิ่ง 09 เป็นภาพที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก

https://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Morning%20News%20Photos/63/63_04/630425_Mgr_01_zpscjabo28s.jpg (https://s1198.photobucket.com/user/saveoursea/media/Morning%20News%20Photos/63/63_04/630425_Mgr_01_zpscjabo28s.jpg.html)

เมื่อวันที่ 24 เม.ย. เฟซบุ๊ก Nitinai Sirismatthakarn ของนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารท่าอากาศยานหลัก 6 แห่งของประเทศไทย ได้โพสต์วีดีโอคลิประบุว่าเกิดขึ้นที่ท่าอากาศยานภูเก็ต พร้อมข้อความว่า "เต่าทะเลวางไข่ที่หาด หัวสนามบินภูเก็ต คืนสมดุลสู่ธรรมชาติ"

จากภาพจะเห็นว่ามีเต่าทะเลตัวใหญ่ตัวหนึ่ง คาดว่าเป็นเต่ามะเฟือง กำลังใช้ครีบฟาดทรายเพื่อกลบไข่เต่าที่วางไว้ บริเวณหาดไม้ขาว ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งอยู่บริเวณหัวทางวิ่ง 09 (Runway 09) ทิศตะวันตกของท่าอากาศยานภูเก็ต โดยปกติแล้วจะมีเครื่องบินขึ้น-ลงอยู่ตลอดเวลา และนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป จนต้องมีการควบคุมห้ามใช้แฟลช

แต่หลังจากที่ท่าอากาศยานภูเก็ตหยุดให้บริการ ตามคำสั่งของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 10-30 เม.ย. 2563 เนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ทำให้ไม่มีเครื่องบินขึ้น-ลงจนถึงขณะนี้ เมื่อบรรยากาศบนชายหาดไม้ขาวสงบลง เต่าทะเลจึงขึ้นมาวางไข่ดังกล่าว

ข้อมูลจากส่วนสารสนเทศและอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระบุว่า เต่ามะเฟืองเป็นเต่าทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีกระดองคล้ายผลมะเฟือง ครีบคู่หน้าไม่มีเล็บตั้งแต่ออกจากไข่ วางไข่ครั้งละ ประมาณ 66-104 ฟอง ไข่มีสีขาวออกแดงเรืองๆ ขนาดความยาวรอบ 2.5 นิ้ว ใช้เวลาฟักเป็นตัวราว 60 วัน

เต่ามะเฟืองจะใช้ชีวิตในทะเลลึกตลอดชีวิต ยกเว้นเพียงช่วงที่ต้องสืบพันธุ์จึงจะกลับเข้ามาตามชายฝั่ง ปัจจุบันเป็นสัตว์ป่าสงวนลำดับที่ 18 ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2558 พบได้ในอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-ท้ายเหมือง จังหวัดพังงา และอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จังหวัดภูเก็ต


https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000043252


*********************************************************************************************************************************************************


น่าชื่นใจพบในป่าแก่งกระจาน พบสัตว์ป่าหายากมากถึง 18 ชนิด

https://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Morning%20News%20Photos/63/63_04/630425_Mgr_02_zps9sujglxi.jpg (https://s1198.photobucket.com/user/saveoursea/media/Morning%20News%20Photos/63/63_04/630425_Mgr_02_zps9sujglxi.jpg.html)

เพชรบุรี - ฝ่ายวิชาการปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานศึกษาคันคว้าวิจัยชนิดพันธุ์พืช และสัตว์ป่า ติดตั้งกล้องถ่ายภาพสัตว์ป่า (Camera trap) ในผืนป่าแก่งกระจาน พบสัตว์ป่าหายาก 18 ชนิด บ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของผืนป่า

นายมานะ เพิ่มพูน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยภาพสัตว์ป่าหายากจากการติดตั้งกล้องถ่ายภาพสัตว์ป่า (Camera trap) หลังจากฝ่ายวิชาการปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานศึกษาคันคว้าวิจัยชนิดพันธุ์พืช และสัตว์ป่าที่มีอยู่ทั่วไปรวมถึงชนิดพันธุ์และสัตว์ป่าที่มีความสำคัญ หายาก และใกล้สูญพันธุ์ เพื่อจัดทำเป็นฐานข้อมูลทางด้านวิชาการ จึงได้ดำเนินการติดตั้งกล้องถ่ายภาพสัตว์ป่า (Camera trap) บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ 19 (เขาพะเนินทุ่ง) และบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ 20 (ห้วยคมกฤต) นั้น

https://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Morning%20News%20Photos/63/63_04/630425_Mgr_03_zpsaydb9zhq.jpg (https://s1198.photobucket.com/user/saveoursea/media/Morning%20News%20Photos/63/63_04/630425_Mgr_03_zpsaydb9zhq.jpg.html)

โดยหลังจากฝ่ายวิชาการติดตั้งกล้องถ่ายภาพสัตว์ป่า (Cameratrap) ประจำเดือนเมษายน 2563 พบสัตว์ป่าทั้งหมด จำนวน 18 ชนิด แบ่งได้เป็น พบบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ 19 (เขาพะเนินทุ่ง) จำนวน 11 ชนิด มีทั้งเสือดำ เสือดาว เสือไฟ แมวดาว หมีควาย เก้งหม้อ พังพอนกินปู หมีหมา เม่นใหญ่แผงคอยาว ชะมดแผงหางปล้อง หมูป่า ลิงเสน และพบบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ 20 (ห้วยคมกฤต) จำนวน 8 ชนิด มี ช้างป่า กระทิง กวางป่า เก้ง หมาจิ้งจอก อีเห็นเครือ เม่นใหญ่แผงคอยาว และไก่ป่า

https://i1198.photobucket.com/albums/aa455/saveoursea/Morning%20News%20Photos/63/63_04/630425_Mgr_04_zpsikiv0bqg.jpg (https://s1198.photobucket.com/user/saveoursea/media/Morning%20News%20Photos/63/63_04/630425_Mgr_04_zpsikiv0bqg.jpg.html)

ภาพสัตว์ป่าที่พบจำนวนมากหลากหลายชนิด นอกจากสะท้อนให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานแล้ว ยังจะถูกเก็บไว้เป็นข้อมูลเพื่อรวบรวมไว้สำหรับใช้เป็นงานวิจัยต่อไปอีกด้วย


https://mgronline.com/local/detail/9630000043178