สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 14 กรกฏาคม 2563

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทย ทำให้ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยของภาคเหนือและภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากได้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 14 - 17 ก.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 16-17 ก.ค. 63

ส่วนในช่วงวันที่ 18 - 19 ก.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบน มีฝนลดลง


https://lh3.googleusercontent.com/Uceypdje4OQrMtWAfLWFKgpV3yV0GmjXgAUUS2SUGOoZ7Be6zj5ci1eq8CWFb697onLEqHHcOeUBIB_phCRTU_pjTg8-evikcpgpuYznsJz76wbOl0iDVBGbv7VuYnZU2vaCCwJkQOy3omiy4Mk6KL8DYzFBlafo024khmlTXCuDD-togG674mvHZQLD7T-ssd95CNDN12c9LAtCCyECra7b6gOEp1SkKCwKpTpwWSEQ9EiF5r4iqUPRtwxXMHBfKZnXaI0-Kkj7fQyRw7rRQv-BFWlXNYwnbkWRRv8_0f3IZKbfNu9l-dUQykWdB6u7rItKimr8ywsJUhW113XDuMdfZ-qy1dwGsEs48ja0J-2FjBp19s1pJkLDyfx2xrQ2vJJed8dVNor-Gywrr2F5Qq0vorYhasR1fmddX5qoRk0Lg90J0FxuQ-KRHWXcC9e4a6sSysBR9uTXsSC8NiB1oj3VRtUlZMZrGjtTMIKDn4SVJwujVAkiHZvC0bOQIvzG01s1BaGeqbc0yqFZln40XcZMye-2E6EPaZeZXX-R1u_OrGPPIVwoBDhnstWuOtQhRTFx4fXbnAAX6wV_TTwrWlzHPcMxVsW4C90KICKb4Jr1EdLbR2ytptPboo0rbB3pB70qCRvPzAwGT7VeVztQsV57l0IO7Mbmdn27XO1VftXxis4qKV-dQ1EoAmPRyLk=w800-h552-no?authuser=0


https://lh3.googleusercontent.com/cBdLxTEAqxXKmJ4lsMXpZtFsjdYPLiLXRiN7hM9ppmSIpMmbuB2G5f766frsBveHFD_xFCUw6ypbcmwFyXXidB5JmhLGOOSefcxZ0bSpUsPZW3A9HgPBCy7jb-L_yAMKaHSz-Nmk7iObyrRZXsc1vTY38-uqMJn0ArBwYcv5QZ9Q9XnDY03pb4LHEUGniQD5W7YHGAqCO7CmSKY1jhkSPjjx7PTWLy7VdirkLkFOy3yLGuwvoHgj0EvdCt_qWjW8E2vK0_tNHQhdwaYAhqhUKyIasDcufRd3Ni_X7D5P4te9gyCTSAVrI1ayqYvA_nh9MdokNdodqiM-EqFrEEY466FziisYh8z4LepuqpFR6DC1IaSpA6izqPtRhnJ7S6TQzaB5ESD0oPEbZZps13PKpVfYM0dF2_gj7R5AcysMRNm0v5yq2yy4jFxDWsPSWxMOnmdeyxmApK8D6u-2iT3tqlRWxyK_k6b4mss3cat51lAheSFQLremDAbO-2Sj2ABR7h0gwtqSBVu4fXE-1SN9gqnzHy1ZvD4CaDeWDOWy88n5kj9_m9coYI-ofc14NgIBEZilpQvskBiOUZOHMdZHDErEkRBv7ye5qLpkR9uYlAa0jBaeBFFcAs4vUyqF9LbN3PVRRDCgexYbPjr731Uts8GdmKqJHOvBH_8nflH5UommmwJ7tR_i_z6U8r-bPn0=w800-h390-no?authuser=0


https://lh3.googleusercontent.com/H0Mc-lg1fdJzD49tkl6U1msI_8b5O_gH5suNSkmMDSVrk38hM3s7mvsGjLBQOoZISXATaEJF7MNXmFidyeGrU8i130LFakQNUl0MgkO0HF4HjnKiOL6EGWt4oPrsMhSBb-3oQlvluTEH-Rc-r35NZOJ-qZ-51yG-dwYpxMVWveeStijzJZpPkT3aRa0nPdjA9LIT-yGZgCMe0pvRQ9CuQPqi0SeNKTBwk9uZZbqWT_MLOwT41FiaXQLXPHcXZli73pC6FXdTtGlr9bsXm_sNUZEmv-s2lx8jioayXiFrwCYl9dKeJl9a-39SDdlBGdUkzqxEJibRfXyj6VaBo5r6kSIdGEw2f_kzqsvX7oyQVJ8D1dyd3anKkkgAtBWx6rsC1CgKTg-yTLot0QJp5My1a70WjNaZAOtC3sQe087yS06BXgaOm7xUlLHD-j8tbkD4cgH8rB_Qh_EDAI9IaBM3A_EZ_Fp017YUxZCW0uO6TpPJ6AJ2OT9Womyk69F8yD5-uhxlgng27ATztaY9LGH-WteNiQll-xDYSvUMUsWgCcJT_RH06hVunO_Bb80zCIS8HNO8iSJglP-xMh8I59B7Q-1gufYSvk1MRrMWYsFYy23DukqFf95FISQhgFqQestHpaCqe7rQWpdDXEnen8GcX9Zu6O1PQZvGwATSnNGxruqNsTXGnR3aZf3S_AdXdcE=w800-h510-no?authuser=0


https://lh3.googleusercontent.com/YG2O2IFENpVE-cxMZGOe1l40010WVa-wIzdgRMtgBtSeDGXt_7ci-1YQIlJWeIAKGBQPyCC3JYc5Ce8l-9hF-7nC5ZM0TFYCe8sLeamVCCpmiuQFjC7wFjESK_RZuJlcYvhMe3iGzQJ4cuMsmtev5LjsOHIsgsPfHF7sUO__pvFyJjYcTm2vL5bMy9q7si7rk16KRnqUZdfTyJTSoVRx-mee5JIO_rfuJy0-uyIkKCfHc_DKzsmdbA_9a4DjXIoSCJQ8qd_VOIKC4JzVWLcOCl_bWFBtSWxAdgVonlbfb6Tl67DBCK3tNGiQ0LwCqup9cN4NgopGEvnugofJX6pxctYXmhkSo9JmT2NnjzbYhfMfD1RL5qXB6aJIVug9tkIohn8r8Mr6_fkMqNfcKjdoyO3xsmH22bFIe2eSy0meaBbpZ2xYU02mxMJ0mHgftM4UjOvc7c3CRxoXRGlIVk3FdoGDpp21k8EdU7lgYhFlH0qvBMFV0VFxw4CPSuAG36EMkXzviWC9gp94gMVxvlvYE8hjrl8iWlRuUeg_CCXvLma23HV0-q_DP8LdNhTAbfLvOIwcsuEZ7fqlRlnQ__qkJfuU6PkrRqFUuj-6w2bi0x65iePgM1PpGf_-OUqC4XLfHoVPZbROAmeie-LN9QWUfIXGelS3t3j7_KVHuioPcu5WV_JoGiSvH9xRvCZUQuU=w800-h450-no?authuser=0

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


จวกยับไกด์-นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูปใกล้ชิดเรือปะการัง หวั่นทำให้เสียหาย

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กลุ่มอนุรักษ์รุมประณาม ไกด์พร้อมนักดำน้ำคนไทย เข้าไปถ่ายภาพใกล้ชิดกับซากเรือปะการัง บริเวณ เกาะราชา หวั่นสร้างความเสียหาย

https://lh3.googleusercontent.com/v4-UjcO3tMuAPObhOtl6ymN0JDESZoTmuaFOn0e4ZnFGq88UNfSB9fl6NhfF4CwtBkh7w8q7iAEYLUHyFterKYIUEHZEcF_hGZPDEqGeLOf3TBEQfAvIq6BcExXpeYA9JNqSrIXb-hw6nP0HX_BF3M_29uaGUg1xE1dYzAkD5uwOpvY7eyxVOCdCnATno9aDyGvwejfenOgWtx6tDFcWBgRyl3Pn2za-Ng0HFe-Ysg_C71CutoQiGDIa1oBN3AIIl9_HFBYR3Yly0nuESXl3zHWphiqyxFP6xdVPjxzgCy_p356ZgBjYoK2pzQmkVUB88TfzbNEwSfGfRmrnRKSh8_4XCGikj-Hp4F9kkmxFhDNL4tiWyMKuG1Lfz4caoMF7Hyrml_1XW3z8VYZoB1gXFu-71oxGEimk1h23aA4Om_kQB3MzV4kgh5FWlk3MNOPd5S6DC4s-woIOMj6XKWjo4tQPRrua11PLBL3aO3t34Q_e70MolcLdfMBBBm5_bEkXkWSwPe5mMLoqKJWGUSOzTnrVGek4Xbr6oWM3Un8TbrhD9zOqrGtdyR9GmKFMF6_4dPkaTAAp_bii2PBwduolGp8x1PEC9ZlREw2zjlkQdT02o3b2Pd56HmxwymqI2Cdz0-0d3YM31qlPbajfQ8zdSh_EHv1aCETHUuGtnlh2fIHmw-cALtZ-p7oNn3Tg5Tc=w600-h400-no?authuser=0

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Khanchit Klingklip" ได้โพสต์ภาพใต้น้ำที่มีนักดำน้ำหลายคนกำลังจับกลุ่มถ่ายภาพกับซากเรือปะการังเทียม พร้อมข้อความระบุว่า "ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเราหลายคนและหลายๆ ภาคส่วนร่วมกันอนุรักษ์ปะการัง ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างงานสร้างรายได้มหาศาลแก่ประเทศ แก่คนในท้องถิ่นได้มีงานทำกันจากการท่องเที่ยว และกว่าที่ปะการังจะเติบโตได้ใช้ระยะเวลานานหลายปี มีคนมากมายช่วยกันคอยดูแลและรักษาไว้ ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ปะการังได้พักฟื้นเป็นอย่างดี แต่เมื่อมีการเปิดให้ดำเนินการกิจกรรมได้ กลับมีการกระทำที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง

อย่างที่ภาพมันฟ้องออกมาเช่นนี้ มันสมควรแล้วหรือ คงไม่ใช่การท่องเที่ยว แต่กำลังเป็นการทำร้ายและทำลายสิ่งสวยงามของปะการัง ที่เป็นทรัพยากรทางธรรมชาติในทะเล หยุดกิจกรรมที่ส่งผลการทำร้ายและทำลายปะการังเสียเถอะ หยุด เข้าใกล้จนเกินไป ไม่ควรที่จะสัมผัส ไม่ควรจะนั่งทับ เหมือนเช่นในภาพ คุณกล้าโพสต์ เรากล้าแชร์ กล้าที่จะเผยแพร่ภาพที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้นกับปะการัง ปล.ลบไปก็เท่านั้น ก๊อบไว้หมดแล้ว แชร์ให้โลกรู้ว่ายังมีทริปแบบนี้อยู่อีกเหรอ"

ทั้งนี้ จากการสอบถามไปยังผู้โพสต์ คือ นายครรชิต คลิ้งขลิบ สมาชิกชมรม HEALTHY REEF'S และเป็นเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรฯ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่าเกิดขึ้นเมื่อประมาณวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการนำภาพโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งคาดว่าเป็นไกด์ดำน้ำของบริษัททัวร์ ในวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยโพสต์ลักษณะเชิญชวนให้ไปดำน้ำดูปะการังที่เกาะราชา ก่อนจะมีการลบโพสต์ดังกล่าวไปแต่บังเอิญตนเองสามารถบันทึกไว้ได้

นายครรชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า จากภาพพบว่าเป็นบริเวณด้านหน้าอ่าวทือ ของเกาะราชา ซึ่งจุดดังกล่าวในอดีต เมื่อประมาณปี 2552 ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ภูเก็ต กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเกาะราชาใหญ่ ได้มีการจมเรือ "สตาร์ลูบี้" ทำปะการังเทียม เพื่อให้เป็นจุดดำน้ำท่องเที่ยวทางทะเล

ซึ่งผ่านมากว่า 11 ปี สภาพปัจจุบันนับว่าเป็นจุดที่มีปะการังอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์น้ำนานาชนิดเข้าไปอาศัย และหลังจากที่หยุดการท่องเที่ยวทางทะเลในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ก็ยิ่งทำให้มีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

แต่กลุ่มคนดังกล่าว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มกรุ๊ปทัวร์พานักดำน้ำชาวไทยเข้าไปเหยียบย่ำ ทั้งที่มีระเบียบร่วมกันไว้ว่า สามารถเข้าใกล้ในระยะที่สมควร ไม่เข้าใกล้เกินไป และไม่ควรสัมผัส เพราะปะการังจะได้รับความเสียหาย จึงอยากให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบ รวมถึงฝากไปถึงผู้ประกอบการ นักดำน้ำ เคารพกฎกติกา และพึงระวังไม่ทำความเสียหายต่อทรัพยากร ซึ่งเป็นดั่งสมบัติของคนทั้งชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากกรณีดังกล่าว ทำให้ที่เฟซบุ๊กชื่อ "จิตอาสา Go Eco Phuket" ซึ่งเป็นเครือข่ายนักอนุรักษ์ทางทะเลได้ออกมาโพสต์ ประณามการกระทำดังกล่าวแล้วด้วยเช่นกัน

ล่าสุด ทางสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (พังงา) หรือ สทช.6 ได้รับทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ


https://mgronline.com/south/detail/9630000071818

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก โพสต์ทูเดย์


"ดร.ธรณ์"ขอบคุณแม่เต่ากระแห่งปีตัวเดียววางไข่บนเกาะสมุยถึง 7 รัง

"ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์"โพสต์ขอบคุณแม่เต่ากระตัวเดียววางไข่บนเกาะสมุยถึง 7 รังชี้สมควรได้รับรางวัลเต่าทะเลแห่งปี พร้อมชวนคนไทยลดขยะพลาสติกเพื่อไม่ให้ไปอยู่ในท้องเต่า

https://lh3.googleusercontent.com/AcyscAyPgg-gyzANhNw2KOAP4VPOgyFJzyOh6YcPJicRHaWcv6JGErc5L25humNIz5EqcBvbmWhx4sNRyqTuuS6FFg7z_hik6Xk168DhwENTA63kJIZCJngD1k8D92icEAU1JGN9V3AoI0EWK4tx9Stj3fCGV2Ms1q5TzFOsuo2mw_eXQAr3kNMa3Px7RJEPsSAhrxtzKmUGci3hPPd7I31jefcGRngwxk6-pepFwL4Z1SO9BV95OGu0QUjgJlTigfs7P7j-Mjs5ksdAS7RGF_14GuJytTux1OA5fsVOOUfryy-cJK3lzAkBa0l6yDBW17bptHl6d74kj4jQia8om-VDzIKEgSwT4XXKDAQtDgAFnBSl-GRzx1WG4JVcE9pt04VOAQ1-8j9-RdXYeex8xpChlx4BzpRP7DrJjQ6KQwc3q_YmjHkjka6ljjW-8IGjvtUU0ml37z2aoIi4V9LFJFz1Y3WOndc0y27KWzKrHkzqnr8F4tBaueGMmdCMh6ye0kc2poG_l1B9ODlz4I4rzpnhnhuBHQxwXwb-5YxgCuPlMFsItTfIQoCWXRjyJCDwn_PyIShxBUrClf95A2LXmGxKd6SQ30C1GJg8caOtdS5-DeIxW5lJBUcjRylyTchqfmceGX9KaLwhCfsLikXhqRG1pdTG2kthUvC4FNDRQ8u_2pbn9XQI73Y47vq63Zk=w700-h394-no?authuser=0

เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก"Thon Thamrongnawasawat " ถึงปรากฏการณ์เต่าทะเลขึ้นวางไข่บนชายหาดที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จำนวนมากในรอบหลายปี ว่า ปีนี้แม่เต่าวางไข่ที่เกาะสมุยเกือบ 20 รัง ลบทุกสถิติในรอบกว่า 10 ปี หนึ่งในแม่เต่าผู้ยิ่งใหญ่คือ คุณแม่เต่ากระตัวนี้ เธอวางไข่ถึง 7 รัง กรมทะเล ติดเครื่อง tracking ให้คุณแม่ จนกลายเป็น #เต่าติดดาว ตัวแรกของเกาะสมุย (ก่อนหน้านี้เคยทำ แต่ไม่ใช่ที่เกาะสมุย)

https://lh3.googleusercontent.com/k3humwVoTkXwKjYxc1BsH2PgiuOAo_Mypgn_MGTJzl4lvBPSyj3U9-fXqWVaqrdzDv8nesq59yXpWlWq7IRJcU9e9PTFhC-7I-GxNW6gvU0tGWDWLtWIK4MWahUhkRl6ISt3-NZZh7JgyExTvmdgW_g7IcEZgX4O6q9VhUqZuaA2SZ6U-jzy6AHAr7fBmxdQaQly3b-eza3NGQ6Y7RDexKG7o2FLmsiKluoGbQZ0Wdxfzo-AlqBCpCfBxsGKV2n-YE11rAxM4fYOTAaL3f_aQhFgrziTaLs69AA_76awJ1bfFP0VoJxMO3Mcj9f7TGyXsoGeWxUiiSNMU62nxT9EYCazuVuXG8rHFpKQR0wmrCTMiVl9oLmaoxVeCSptgf5TRpxan_HAyXGyj5zdNmmW68fAjDwJ-y8De8BjJJsZhkvm0rfAw00khfgMxA3qyVBPfrocEX3Kd_fqmKHMdFAfJUk4D6P0fatOm5MVT3v1l8pWpYsW4W1eX1o7HySy4gR7gXIVRuDxZ1y_H-nZssGaA4syQFiFLxYS5SIDbTfonFBpBd0Q4R4JfGeZmn_26ZzvtU8-JKfe9GyHso371xQR2QcH0ZMrEXDBU7DTe4whkcMHz69mGIkvXopudQcJa7Rx5J9IE5FAwTSpdU3iTeK0sRCXyao0OCXjXtGjZ2NKnC_4-IImWWPDb-f51-BnaPE=w700-h525-no?authuser=0

ดร.ธรณ์ ระบุว่า เครื่องส่งสัญญาณบอกว่า ตอนนี้เธอจบภารกิจแล้ว กำลังมุ่งหน้าขึ้นเหนือ จะผ่านเกาะเต่าทางทิศตะวันออก ตอนนี้เธอกำลังล่องลอยกลางอ่าวไทย ถิ่นหากินของเธออยู่ไหน เราคงตามดูต่อไปครับ

อย่างไรก็ตาม เราต้องขอบคุณแม่เต่ากระรายนี้ให้มากๆ เพราะลูกๆ ของเธอกว่าร้อยตัวเกิดแล้วลงเลเกาะสมุยแล้ว และกำลังจะตามมาอีกนับร้อย หวังว่าเธอคงอยู่รอดปลอดภัย และอีก 2-3 ปีจะได้กลับมาสู่เกาะสมุยอีกครั้ง

https://lh3.googleusercontent.com/STGIq7JXJCKCT-SOFqhTmw-eD3mWu3uOansenZvsLPInAbSkpEGahog0DpD2ofTOWkpKYBwo9o7gm8zRh61QZvJN_BjCAaZfqOIkoXLf2dekZJ_7W56ZmOLfNjJdb8LO002dZ0hVOGvWgfAdKWf_YfD-d6SPA-dTgftRoNFp3o3ug51pdoIY3Vjw07dEw-1zH44Cv71OLN8DdGvZVy95yj-F3Z3Ahr9EZBQ4CqAA8GYOd8eJgdBxZ2iFnWyk3M1r0EP57bh7En5_fF6mMuA6DjUT-ism_R3QVgLKdbkbo1J4IIeswAIkK2Gojjak3Ts6DDOv-YbedJIZ1zkgSLBN6cme93Ua5RfWkmAXfwFDg1sOw9ZeZoodjy_KpzQhi2hituV7OYxxDPJUQtPy75QUdYT8BpfF8E4VkPDcormDSLfzbG5n6SQOPT3OC6BM3o_c8sgmeRdY5gP-uDs-ZTqmK1cRn28ArdtELTLkFD9lhNCekFjNrozIHiTZes09YMIgskCsy0J1d-VWCPFp5qv1oxPgUiED6V8ZMibZyhFFLG8Pq15FlA18l3D0jV4Cvi9Pb7AFBgvyhV-Z5nN7rlCdhA5l4in8_jasK5HYxbADszXi8kRoirYogfuxxJdeM253ICTS2C9YqogMJvEOfxXkD-KK5SD-nEF9Bsgm4CJAV1BdkFR3AO3abGjD5fvtgfQ=w700-h528-no?authuser=0

"ส่งกำลังใจและร่วมปรบมือให้คุณแม่เต่าผู้สมควรได้รับรางวัลเต่าทะเลแห่งปี ด้วยการลดขยะพลาสติกทั้งหลายทั้งปวง เพราะมันจะเศร้ามาก หากเดือนหน้าเธอตาย และในท้องเธอมีพลาสติกที่เคยอยู่ในมือเราครับ" ดร.ธรณ์ ระบุ


https://www.posttoday.com/social/local/628280

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ


'กลุ่มอนุรักษ์' โวยนักดำน้ำเกาะราชา หวั่นเหยียบปะการังเละ!

"กลุ่มอนุรักษ์" โวยกลุ่มนักดำน้ำถ่ายภาพใกล้ชิดซากเรือปะการัง เกาะราชา หวั่นสร้างความเสียหาย

https://lh3.googleusercontent.com/lGCFc6k2NXtFRXmiwgw5YbnNEK8lPgRr1u93m5eVpzh6bqSyMeGzK41g2uzjvkmI8C5D-fuHTwYQFTkJj67y7GwovgzfpNoiw1SOxA8pojzWTSjmJlcUjbgSlx7NMdoJLmb8Xo0gw3YOwMciXzS5YEbn-Jj7KelvLyg9MLjLo5EY3RUbeafFeXTZ2mq2X4lYiB7P2NG9v5v1mYz-m0BA1Cuh6-hzIOvxTxOnxUAv6Xl2yO5Uyiyf1OvHBQu7gBzJ8sXSluT7d1mKqVWzb_wq9VAJAxgmfLSY1w61l4v64Z1IKxbLUqKlBk1MaQ5zMO1K9Z6K6QhgsOJT9iVuDEjiZXInDbhDgW0gKqQFj4qZX9a_IbX1e33pVFyWVpUIF8tXzVQ--FUbdngrJs2lfQHk5dhBjDeCGYnDiXlkAWZiJ2F1JxYnr10oi58WiS8x-QCdni5OptWGk9koEHLOA_soA58tRVJ9gtOxArMyjbrh3M15wHsY9bu1KYbxPOJjTllX7_q2R2HPKU1ukVtKyLurlnGNeTpRHM48Zuw71o1WAZKENUHkhEeazqtylJxYl5yHSACJXFq9SoJBvN558dFqO_JbxwmMpFIs8c_hYqp3JANfjPSbdFtk9ma9pcFS8lVKfyKiW5kyBHtBLfRvfsR58Lpai_wY7nDds62qjnwtMaTE3-09Ds1dkrmcOtu1U6c=w700-h525-no?authuser=0

เมื่อวันที่ 13 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Khanchit Klingklip" ได้โพสต์ภาพใต้น้ำ ที่มีนักดำน้ำหลายคนกำลังจับกลุ่มถ่ายภาพกับซากเรือปะการังเทียม พร้อมข้อความระบุว่า "ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเราหลายคนและหลายๆ ภาคส่วนร่วมกันอนุรักษ์ปะการัง ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างงานสร้างรายได้มหาศาลแก่ประเทศ แก่คนในท้องถิ่นได้มีงานทำกัน จากการท่องเที่ยว และกว่าที่ปะการังจะเติบโตได้ใช้ระยะเวลานานหลายปี มีคนมากมายช่วยกันคอยดูแลและรักษาไว้ ในช่วงวิกฤติโควิด ปะการังได้พักฟื้นเป็นอย่างดี แต่เมื่อมีการเปิดให้ดำเนินการกิจกรรมได้ กลับมีการกระทำที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง

อย่างที่ภาพมันฟ้องออกมาเช่นนี้ มันสมควรแล้วหรือ นี้คงไม่ใช่การท่องเที่ยว แต่กำลังเป็นการทำร้ายและทำลายสิ่งสวยงามของปะการัง ที่เป็นทรัพยากรทางธรรมชาติในทะเล หยุดกิจกรรมที่ส่งผลการทำร้ายและทำลายปะการังเสียเถอะ หยุด เข้าใกล้จนเกินไป ไม่ควรที่จะสัมผัส ไม่ควรจะนั่งทับเหมือนเช่นในภาพ คุณกล้าโพสต์ เรากล้าแชร์ กล้าที่จะเผยแพร่ภาพที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้นกับปะการัง ปล.ลบไปก็เท่านั้น ก๊อปไว้หมดแล้ว แชร์ให้โลกรู้ว่ายังมีทริปแบบนี้อยู่อีกเหรอ"

ทั้งนี้ จากการสอบถามไปยัง ผู้โพสต์ คือ นายครรชิต คลิ้งขลิบ สมาชิกชมรม HEALTHY REEF'S และเป็น เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรฯ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่าเกิดขึ้นเมื่อประมาณ วันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก่อนที่มีการนำมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งคาดว่าเป็นไกด์ดำน้ำของบริษัททัวร์ ในวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยโพสต์ลักษณะเชิญชวนให้ไปดำน้ำดูปะการังที่เกาะราชา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ก่อนจะมีการลบโพสต์ดังกล่าวไปแล้ว แต่บังเอิญตนได้บันทึกโพสต์ดังกล่าวไว้ได้

"จากในภาพพบว่า เป็นบริเวณด้านหน้าอ่าวทือ ของเกาะราชา ซึ่งจุดดังกล่าวในอดีตเมื่อประมาณปี 2552 ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ภูเก็ต (ชื่อเดิม) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเกาะราชาใหญ่ ได้มีการจมเรือ "สตาร์ลูบี้" เพื่อทำปะการังเทียม และให้เป็นจุดดำน้ำท่องเที่ยวทางทะเล ผ่านมากว่า 11 ปี สภาพปัจจุบันนับว่าเป็นจุดที่ปะการังกลับมาอุดมสมบูรณ์จุดหนึ่ง มีสัตว์น้ำนานาชนิดเข้าไปอาศัย และหลังจากหยุดการท่องเที่ยวทางทะเลในช่วงสถานการณ์โควิดยิ่งทำให้มีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น แต่กลุ่มคนดังกล่าว คาดว่าน่าจะเป็นกรุ๊ปทัวร์พากลุ่มนักดำน้ำชาวไทยเข้าไปเหยียบย่ำ ทั้งที่มีระเบียบร่วมกันไว้ว่า สามรถเข้าใกล้ในระยะที่สมควร ไม่เข้าใกล้เกินไป และไม่ควรสัมผัส เพราะปะการังจะได้รับความเสียหาย จึงอยากให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบ รวมถึงฝากไปถึงผู้ประกอบการ นักดำน้ำ เคารพกฎกติกา และพึงระวังไม่ทำความเสียหายต่อทรัพยากร ซึ่งเป็นดั่งสมบัติของคนทั้งชาติ" นายครรชิตกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากกรณีดังกล่าว ทำให้เฟซบุ๊ก ชื่อ "จิตอาสา Go Eco Phuket" ซึ่งเป็นเครือข่ายนักอนุรักษ์ทางทะเลฯ ได้ออกมาโพสต์ ประณามการกระทำดังกล่าวแล้วด้วยเช่นกัน และล่าสุดทาง สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (พังงา) หรือ สทช.6 ซึ่งดูแลรับผิดชอบพื้นที่ จ.ภูเก็ต ด้วยได้รับทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง


https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/889100?utm_source=homepage&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=bangkok