สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 17 กรกฏาคม 2563

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคตะวันออกระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักที่เกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในวันที่ 17 และ ในช่วงวันที่ 20 - 22 ก.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 18 - 19 ก.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุม ประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 17 และ 20 - 22 ก.ค. 63 ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย


https://lh3.googleusercontent.com/rDD3j4RkThHT7__RyQIFzxsZcikAlt5HeAiG6bJGCIRZXgtrSswQ1cWpzrM7gHeFSEui06iwqs7C1Ug45iWhbgV7jlm4WXubjhRLFeOlJt0JlS4ecJ5Al9ZbRbiAqvnfUfS8qM5MUhGA-0XCbz5mAzCza_qV4oacTX6KcO7aY7dKj_M4rWNx1eJfa-51ikh-3xYcb45kOdmXUajaxP6IgPGTTS4XY1T0pgL-Hhh7HhKJPQJWksbhZgJaIcMYopmIwpu0Uo36L-chEay3cht3nNtiu325xsLG9QSSJeNxUO8fDPVTOsjUirYoCRh81lqNILinewZB4ar0m32j0maJUHuHchLXUdFPhXyYk3dvIr2ognV1erH-HpdzQMRCogR4npYRwbz0NB8B_n0Sy_ZQB2RhSYzu9SzGcHuCNibHxvtMedTTuiwIPwBCtoK40MRzYt8w7SyYZG_gcNtAebOK61hIEPeCPHUj2FXJ2aeh-4eU4WECVNhFA4W9HwHvRnmNnQjgs3Jiu21XAtCRudvkotuqsgTRLEMTEOBrSRJoaMw7ydYp_bq5lXlHoDxmYz-eLb_ccGKhQbCB1zcrusSOB5KY7QelsKa6yM9JAKEHU6ocWzeyqHF1IvyWNpAF_RcMQWR6GRFmkmXA6bmSq2_niFXzfHuyEmSvRXyCAOspuxfxlSd1zVzciMjIfq1w3aM=w950-h656-no?authuser=0


https://lh3.googleusercontent.com/URSilfiOwki8mWXSjqrbqoVjIkdTtev4XXPbEy39xOAbcFr2y6RrucjfpOJBjd6NrMgzOomH8dB0cZhOTXjENLi-JLISGQG6ZeoCCit40BQh7s3KhhhgtnmUw7VCOwdASCDZU7G8arEKfbHJm8QajY63aO20rafUjDdMczlI9y7PGX7BwEHg3azxpJdRZfIjvme4MytaEkQiacOMvXKRdYSwoTGGOgrFQsNL-JsejS3KbKPmxEPi_codrPpumrFZK9aSyeDDIwvwx7n7IEISnlLmHHYqowAiakoYdYRpdCFDyNO7A_jYs56bsYEcJdw1VTHmWi4QTdPm1vaK3alzLkJl5Im3coPS6xUM6IaIVewfO545s2TyZHv_FLugRZ-QVwEyCIECAMrPnzM5wUrKtmR6XcGFdFY2x-Ol0-a9KUDzMBsomrTBqfDPByd05jCcAK2slZfNtw2Uxbi8l6qKoJ1j1agLDsn_kTYY761nkvEYhUmoURUZHrhqcczEz4rYQnExsew_6cGefYfBxzj7ZEgj0saok76639HqrqMISli9uOW9EKTvsewfbxCpy6OdJJvE8Xo5tJrHRFRc1fHdxvTTIzh4hw6-Gqb79SxcnNNtkXUZx8OdMv87Ip3Llt32zhiI3fdxuvbrh0kShdkzH0oeFG77_f8TK1KqLvGp1YNgL4M5pJRiVeHPN0bmvqo=w800-h390-no?authuser=0


https://lh3.googleusercontent.com/haVSwo6OWS5eNMCWCCqPugTNE0XLtVpUbs5tWZcvHeanttTimBIukygrc3EV6Inh-eZidOrfghOrT_WiwLHo8sZ0hZyLF8nsxjGUGX7EME-ny9S4Pk_gTdvA1SxuS_rHl_N51ietKtvFEysGv4sMvzRu0KZ83zjOpjE3m3FdPVkz98tccQZDOYxC8-_XzoTXbwi7kOPb_geq4CaVvUrs7rTfKfT8X9MWI45T6OIA4_ytT_VCs5EzOTkeu827A7tAp5deZ_ZlDbqtVvYvX-kIY15I6esVq27LEa8yN330tzVDroHUDYd5cf838zeaqbkL8Q2i5wlFS9yr3k-xLolPy4KgE0i7l4yKGrfIp6ZOfXwopS2jSBkTuZXIou4S7igqY6BCpw0wrkBU8GrC-CcUhvVOLfuAgICm4X45lBcH8atN7H7KZDv6eXU9J6i4Xw5pM-esohtJnfLWwZDNrhRKCRnd73cYX31jhro0CM7UeYqxFigl9ojS7evn3WMqCi0fHqbvYMz8ZvwccdNEfAXJc76zFQsqBlqOupBxbYkV7RGHWMFAIiNFMzC3DSaw9nQGHfJLuISi58N0Lj0I8rUsfTIbH3G7gsw7DARLkCTi0TA2CDSMfYH6n3VbdGn2lpi7YFXJjgy2xyTG8i1tDQCsznIodWaeFDcEWYV4YesnhpFMgnoqhKIsKZ8SDOs0fb4=w800-h510-no?authuser=0


https://lh3.googleusercontent.com/1dIovYzDqWNKj-tPFyeStGj6pOapZsQRxWdKwWj-DD3fLkAIXt8Xyx_4xmDrhzFc2aNYsyiGyPtt81Q6_mXU8wE0Uc03s76Xnk1gjgtxYun2SR204F7OOHo_JySLNhDvK7XfZys3mlJFPHbsg3jCB-NqZLWtoGoAF-FvLqS9n-Q_RrR4mC5mIdpIC--RrL15h20xRc3MB1sKxn-dRp1p07D1KOWXMpv-aS51bQ3Vjgxu6DEWLwstXBU1z85nUKt3qbGCeEA9IhM8Kw5BxBWP44RyZ8UVQvgEva5dnyH5jfeOIhEP7dSgIAnkObsET80p3IrhkHAWdz2aqOQ0m0Ta9wXY4QwIxr3FEPACv9qWglQSd2MhECcCU8jeIkmoSNbDwFhzB_zj3yST_20pRsgGCsrzqnuAD7EUAl7yjIRE9T5K9RtZLDfvUV--ZlyoW-z4Ys6YB9Q261PZ1SaWWqC1t1Cz23ViJQxmbpd9Yf4ck5fn6nGC5G1pMOnSqZe08LpUQN06AyzOL005qpEnQB7sC4ZmnglcIU9HGmduSO8UJZ3dtbwtP_FEQi9U8T5Exgynum_JskXd_Fh85Z7OEI-r8fDHpHVjbNGYblucdOpkMchN1imQ0mL6S45gl9jnY5ol0cYeYrYnxwuFqA7JByEFCTgtvpAYZ1ht-lCQBkBS36OT9LKL_2LhIXQ4XQy_Z4E=w800-h450-no?authuser=0

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ชาวบ้านระทม น้ำทะเลขังทำหอยนางรมไม่โต วอนรัฐช่วยตักทรายเปิดปากคลอง

ประจวบคีรีขันธ์ - ทรายปิดปากคลองบางนางรมนับปี กระทบการเลี้ยงหอยนางรมหยุดเจริญเติบโต น้ำทะเลขังไม่หมุนเวียน แต่ศัตรูทางธรรมชาติหอยแพร่พันธุ์เร็ว วอนหน่วยงานรัฐช่วยขุดทรายเปิดทาง ให้น้ำถ่ายเทตามธรรมชาติ

https://lh3.googleusercontent.com/qbUdyb5KFYnS1CSAhJn9ph6VbcbdTPhGkGFu__fB_b2VkkD8VxbkLABtLmiI5k5s8hYef9pbx2wqmFguat-JMN13wuKiJ1BFBLjmbG4peP3yKMIU-PITCXiCbXbN0e6V5PeZyfcIrefmCQYVdYC3msXpSUe6X7ylm3fC14DIjty5yeko_9rQFsiV1p5-OOYZWYKYVRfeeTUhVIQRzqNjN-hqQQRJI8zeoYkiGhh1IOq8NXxsJOJtIS64p550n5HoEWlxipPEYefGCoy_qwuh2eUU9C0I7IF5rseyb8qsS6gSSbm2Ngx5kRTuyFL-E4SCw1PujB0oWaYeLE60pz7gDSFzhUkxpcQ3dchLUlbzCPLrCw8-f5J6VtzkaoslkFud9rMM8GZh4sg1sPoOVzqnAoHGuDV8tnaSBYgPMT51MzVWmBGL3jvC6p7RxdCJ5wwqtNTtvpr5qOp920gYC1qkSLcvWwQTkhP-G8_M0ZwWTpR-cbyM7nSpV9cT-2gwpFlZN_V6PTYagfZ5B_hIbQ4a59L9wbqY3SUqjEwLjw1MHyBwyK49rWc44kukQk1dX2Dn6O9Rl9tILhNSb4K6P3TvEMEX3XUKIdAi3-l5pzvy1fvexzGc8smaVwW-70MD7ZFp-FDdjOjAczmedaBrFmXr75IQ6Jxr9-GBNcQvp_gskFVdq4sT5KqdEETl8cdzGxI=w600-h450-no?authuser=0

วันนี้ (16 ก.ค.) ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพเลี้ยงหอยที่คลองบางนางรม ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ทุกข์หนักมาหลายปี เหตุทรายทับถมปิดปากคลองบางนางรม น้ำทะเลไหลเข้าแต่ไม่ออก มีน้ำจืดขังปริมาณมาก ไม่มีการถ่ายเทตามธรรมชาติ กระทบต่อวงจรชีวิตสัตว์น้ำทะเล ประกอบด้วย หอยนางรม ปูดำ ปูม้า ปลาเก๋า ปลากะพง ซึ่งคลองแห่งนี้เป็นแหล่งเลี้ยงหอยนางรมที่สำคัญเพียงแห่งเดียวในอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้หอยนางรมหยุดโต ขณะที่ศัตรูทางธรรมชาติแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็ว

นางวันดี สุขเจริญ อายุ 56 ปี เกษตรกรเลี้ยงหอยนางรม ในคลองบางนางรม ชุมชนปากคลองในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ กว่า 30 ปี โดยประกอบอาชีพมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ เปิดเผยว่า ชาวบ้านกว่า 60 ครัวเรือนประสบปัญหาสัตว์น้ำที่เลี้ยงไว้ในคลองบางนางรม ซึ่งมีพื้นที่เพาะเลี้ยงกว่า 100 ไร่ ประกอบด้วย หอยนางรม ปูดำ ปูม้า ปลากะพง ปลาเก๋า เจริญเติบโตช้า บางชนิดก็หยุดโต

เนื่องจากน้ำในคลองเป็นน้ำกร่อย คือในช่วงเย็นน้ำทะเลเข้าคลองและถูกน้ำจืดจากฝ่ายน้ำล้นเหนือคลองไหลมาผสม ส่วนช่วงเช้ากระแสน้ำจะผลักดันให้น้ำเค็มไหลคืนสู่ทะเล ซึ่งเป็นวิถีธรรมชาติที่มีการไหลเวียนของกระแสน้ำ และสัตว์น้ำจะเจริญเติบโตได้ดี แต่ปัจจุบันทรายปิดปากคลองทำให้น้ำนิ่ง มีตะกอนขี้เลนหนาตัว และร่องน้ำตื้นเขิน ซึ่งทรายได้พัดมาสู่คลองในปริมาณมาก จากบริเวณปากคลองที่เคยยืนน้ำสูงระดับเอว หรือบางฤดูกาลสูงถึงหน้าอก ปัจจุบันมีความสูงเพียงตาตุ่ม

https://lh3.googleusercontent.com/WMbfJi1VziVg5RLb5yYr_-h7118lC3dIe8BVoDMjXw1-hkXq5FuqA7pJLiIbCtlFHwZn5AalTsIycCZhpMuR2cc_5FmNkYOlgdcQRtzIeIadquv0vi74V2MmFrOmAEp_fJl55lbBh4dU_-qf7VY8xP0R5wF1yLPTqtx0gMZ_h4SgLEjscSwSAUs_0Upu11o6YwmWMQ9cBZlDMy--LmB5yW5MnHBP-Ij5005hxIgdqKf41gJbJiEqH-sP791AgMzAZMfihf78idLn7TvAnNBTdnBMPUAYrTJFZg9MSa7m8gJMk9rpbcMFx7JDp-DzpC_4KTehnJ30IFYTGQws8JTlEnDMCl0y50lCDg8ule7I1AiFM1F1UeGi7sUphnzWIC91l_3zn_Ou1HPpTOJinTibhzvPcXPDqUqB6uXXH79zREp5F6pZ8NRY4XQQSBVx2wxNZRHRFaaD5QXbifEa5I3e79y4-zCiWETLmdTVVM8LwqJkoRRIRrQ-vlLgwBk4KiDUR6E7UZr2nOGcacZf3ivPS78PFBwh8W-bInDrR85Zpsm_Dvj6ppmP0b6LNQ6guMC08qSTvdf2Xaa2Yz9Kfwiq1KxSR9kzp7xhPU1s6fIstHCqLnVWUeMieqX9VAcXcx_kL1Zhy2TglZI6iloNAo1o20Jiouy_1NGdomZ5S3GcvJGt9kf5Fc5uZY0O-HDUw8Y=w600-h450-no?authuser=0

นอกจากนี้ ยังมีอุปสรรค หอยกะพงซึ่งเป็นหอยขนาดเล็ก เกาะที่ฝาหอยนางรม และแย่งอาหาร ส่งผลให้หอยหยุดโตหรือโตช้ามาก ซึ่งระยะเวลาในการเลี้ยงหอยจากวัยอ่อนจนถึงขนาดใหญ่ คือ 6-7 เดือน และในช่วง 2 ปีนี้ มีเส้นสีส้มเกาะที่ฝาหอยอย่างหนาตาลักษณะน่าเกลียด ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า หมี่กรอบ ซึ่งปัญหาเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะรุ่นพ่อรุ่นแม่ที่ประกอบอาชีพนี้ เลี้ยงแบบธรรมชาติและไม่มีอุปสรรคใดๆ

จากสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หอยนางรมไม่สามารถขายได้ เนื่องจากลูกค้าหลักเป็นร้านอาหารและโรงแรม เมื่อร้านถูกปิดไม่มีนักท่องเที่ยว ชาวบ้านจึงขาดรายได้นานกว่า 4 เดือน ขณะที่เดือนกรกฎาคมนี้ เริ่มขายได้วันละประมาณ 10 กิโลกรัม สำหรับหอยตัวเล็กที่แกะแล้วขายพ่อค้าคนกลางกิโลกรัมละ 120 บาท ส่วนหอยขนาดใหญ่สำหรับรับประทานสดขายตัวละ 4 -5 บาท

จึงขอวิงวอนหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือชาวบ้านชุมชนปากคลองบางนางรม ที่ประกอบอาชีพเลี้ยงหายนางรม ช่วยขุดลอกทราย เพื่อเปิดทางให้น้ำทะเลและน้ำจืด ไหลเข้าออกได้ตามธรรมชาติดังเดิม


https://mgronline.com/local/detail/9630000072879

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย


ดำน้ำชมความสวยงามปะการังเกาะยา

ตรัง 16 ก.ค. - พาไปชมความสวยงามของแนวปะการังรอบเกาะยา อ.สิเกา จ.ตรัง แหล่งดำน้ำที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะขณะนี้พบว่า แหล่งปะการังเหล่านี้มีการฟื้นตัวแตกกอสีสันสวยงาม พร้อมรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง

https://lh3.googleusercontent.com/_rT6trSkK_Ut-15zwhgE_JEiyohjY_K-Lrq2XHXxPM1yfDQ7KoSZZeATE3dNMAHmjLEFGZLO0W57JOsKhxsB-zVycfEwkNVn80rRXsLQqdBU4vDsDHdbEJG4d4gjy7VXU7TLxoYrkCkQIE8eS_fM0cDxCdeg7hQsptpjWYCatNwZqx6d5A3fydGTbr1R8HiOIF_hkbPfWbDN_5VelCLkfgVRclKpuYULmfaqb3jy6_8aeJpDD0USzwkWc9-VAOUn8Je0cw4EtthMXHjTrqxo4hTgaoJL2_elLiczg_OjyZnhE5NECIhd_Dr6ctp_1YhQCgimXG6iBmJjvocd6m21h4r065jkDJSTqMD5FZqzleFGrzUyE1RXXu8eQU3SVyj_8bN69BZC9Xu8Jv267TuX02csUnzx8IgL6K3GzreE5Fjvf0CeM-UZDr8uj4OdldhBWoXhF-89Njznfda8G-PrwAdY-tnk0JtC_M_o9VkHRrTfwo7amZ5Z1MjlPOYIIXLdo50sydC3571FDNjV7Xz8zqRSsEb713Rqi0m37U6hO2gh2cin4YvMEmL4PbISYi8pXPlDAn8iFa3DuD5Cff25ITYu0wrAx0CgPlc1SIMdwAGD4wi2lKrQrekJWa_US-xNvTS1jjZtsbKhwdZpbwA-eGgEQoRJskCI1djPUP-009wQp7UfsRqTj9GhewjMQCk=w700-h353-no?authuser=0

นี่คือความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของเหล่าปะการังใต้ท้องทะเล รอบๆ เกาะยา อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งจุดนี้ได้รับความนิยมจากนักดำน้ำทั้งไทยและต่างชาติ มาดำน้ำชมความสวยงามของโลกใต้ทะเลที่นี่เป็นจำนวนมากในแต่ละปี

นักดำน้ำกลุ่มนี้เป็นกลุ่มแรกๆ ที่มีโอกาสมาดำน้ำที่เกาะยาแห่งนี้ หลังจากปิดการท่องเที่ยวนานกว่า 3 เดือน ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และต่างตื่นตาตื่นใจกับภาพแนวปะการังที่พบว่ามีการฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ปะการังหลายชนิดมีการแตกกอขึ้นมาใหม่ และมีสีสันที่สวยงามเด่นชัดขึ้น ทั้งสีชมพู สีแดง สีเหลือง สีเขียว น้ำเงิน และสีม่วง เป็นบริเวณกว้าง นอกจากนี้ยังพบว่า ปะการังที่เคยมีปัญหาฟอกขาว กลับฟื้นคืนมาอย่างสวยงามด้วยเช่นกัน

ขณะเดียวกัน บรรดาสัตว์ทะเลที่อาศัยในแนวปะการัง จำพวกปลาสวยงาม ก็พบว่ามีจำนวนมากขึ้นและหลากหลายชนิดขึ้นเช่นกัน ทั้งปลาการ์ตูน ปลาสิงโต ปลาสลิดลายเสือ ปลานกแก้ว และสัตว์ทะเลชนิดอื่นๆ ว่ายวนเวียนในหมู่ปะการังอย่างสวยงาม แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศที่เริ่มดีขึ้น เป็นผลมาจากการปิดแหล่งท่องเที่ยวในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงทำให้ทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

https://lh3.googleusercontent.com/VAOzcMVRAT-lM0X5486JIdv6yhTsl-MExd1DArVmys9Tf7fG6DSYxACphZjpvH_LXWrNIeBq7ecNh00uV4pCXKJ-cVtORnVWIrFqqiUPL9QLbZloXhTjwuVmiZz_CYscTYgAlF2r2bYbwUQkFTp9fDI69CPzLyjoXA7NrJHen4b7upiglcwCRyfh1FZflTNuJLQz5vOGKpjz06vDWRiYDxJ5i089zb2StdkTO7msYISw6QojNCvtO0rbo1ANe03QIe_cfFaPp7hW3axvkzBQaGhc0YVSosZ_TLSo7PiWav56KpW2RHZmDYVafR4nlEB7KkcIXcHsjqM6AmHIlr8NEh3a6mRTFZNkdAvPpLqVPITrfR5rGNyb9mdUl3ET3xVM3A7hWoO_CUJCVoSrWUhKSustLsVy4RaILNypmPMyM5v7Ih_z2dJVSlikTciJwlqCm2EQR3WpkBz6n3pb4V0xpAHwE9v9OkQmCFOCv9i5HAznGAGfWZzHkrt15bzkiGK9aUjaOz1XUlHvoPU9yfsvpVcHtIAvW-q9zDLM1N6qpg9JqnzAUCmxdJ6uEbqxn65f8zuA3cCGd4z-ivVrtvOJyPimNvHnF46RKqrUgY6IAVAmYvxckebOUdGm6UJUo2wvTZmZRrNj_DwC4ZoAPcBiiGcg1bcr93bE4pgmVzqiYIUTEKlYyYnyRY1dHQKtE6k=w700-h353-no?authuser=0

สำหรับการมาชมความสวยงามของปะการังที่เกาะยา นักท่องเที่ยวที่สามารถดำน้ำลึกได้ ก็ใช้อุปกรณ์ดำน้ำดำลงไปดื่มด่ำกับโลกใต้น้ำได้อย่างอิสระ ส่วนนักท่องเที่ยวที่ไม่สามารถดำน้ำลึกได้ เพียงใส่สน็อกเกิล ก็สามารถมองเห็นปะการังหลากสีสันได้อย่างชัดเจนในระดับน้ำที่ลึกประมาณ 2-3 เมตร

ผู้ประกอบการท่องเที่ยวคาดว่า ในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของฝั่งอันดามัน และมีการเปิดแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมทั้งหมด จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเกาะยาเพิ่มมากขึ้น เพราะถือว่าที่นี่เป็นโลกใต้ทะเลที่สวยงาม หรือเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำแห่งใหม่ที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างแน่นอน.


https://www.mcot.net/viewtna/5f106996e3f8e40af846887c

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


"กรมเจ้าท่า" รับดินเลนขุดลอกร่องน้ำถมปะการังเกาะหนู-เกาะแมว

"กรมเจ้าท่า" ยืนยันไม่ได้นำดินเลนจากการขุดลอกร่องน้ำไปทิ้งบริเวณที่มีปะการังเกาะหนู เกาะแมว ชี้อาจแจะถูกพัดพาไปโดยธรรมชาติ จนทำให้ปะการังเสื่อมโทรม แต่เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา ด้านนักวิชาการ ระบุสภาพพื้นที่มีตะกอนจากฝั่งลงทะเล ต้องขุดลอกทิ้งทุกปี

กรณีปัญหาร้องเรียนเรื่องปัญหาการขุดลอกทะเลสาบสงขลา จ.สงขลา ซึ่งอาจมีการนำดินที่ขุดลอกไปทิ้งจนทำให้ปะการัง รวมทั้งแหล่งหญ้าทะเล ในพื้นที่เกาะหนู เกาะแมว เกิดปัญหาเสื่อมโทรม

https://lh3.googleusercontent.com/pMsNCVKVKkhZvJsflY9a3ri5YaCR1kIe1DpwlSum5_wll-6Xwad7Tq10x94x6z7Dk91Y5cnkwg68HFnLF7O4JzIL6FfzDR937YbWN5RbL2UpcCCNWDfFJ1Wqlr4uYQfAxt7jRl15xfFlgZxViNKOf2yRlon2-4UVYL_vVjKA7yexaD2gWdpnDYhPDV4AgysxQ_BsSTRVFpMotpA_WxGQx488F8WEMV4Jgnu5Nwdqzd26StGQytixAFqSRrMLNAjmdx65dvPxBJWKIiuJUFD35WXOQvNQP7Gzz3hobKiFMKbIjhxhehj4NqRCYh1xuraAEwGQMI5IE9wgVhCIxf8yzcYW00A-nUr41zA8hf3U7mR157HX2LbX6gBT_lvCnNx_Zy_QSEbF8S9FfyjDf14abdCDBSKNym3lV1KoKFJ-kIKO2u-4ABqOYmCUTIt6t24YvpXOu-dJNSkwgp1kWL2bzJ36xnOSZCtHIXHgxkrFv_lQ-4HcGBGFGyTCgbGblnfexwuPij9kplJJj6tFCmYZ71fA0h4J8yQ-j_2v9OJoIjOifXvnAvq5oGCYTAzn0UZWPYDEKp3L2YB-YSJTWUDr3dAMXZRl2eOWYRgqTxmefew1eYp0Zlr8wLnVOzdjqufgqP5rliL5ft2FQuZern9NlHKU_-5Gt1Xb2N1UrmA5pa6KVF980Pl8EjPR2yNURiE=w700-h394-no?authuser=0

วันนี้ (16 ก.ค.2563) นายอนันต์ แก้ววิเชียร ผอ.สำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 4 กรมเจ้าท่า ชี้แจงว่า ตะกอนดิน อาจจะถูกพัดพามาโดยธรรมชาติ ระหว่างการขุดลอกทะเลสาบสงขลา ไม่ได้เป็นการตั้งใจนำดินเลนไปทิ้งบริเวณดังกล่าว เพราะกำชับให้ผู้รับจ้าง นำดินเลนไปทิ้ง ห่างจากฝั่ง 12 กิโลเมตร แต่จะตรวจสอบอย่างใกล้ชิด

"ส่วนหนึ่งยอมรับว่ามาจากระหว่างการปฏิบัติงาน ช่วงที่นักประดาน้ำลงไปเป็นช่วงที่การช่วงที่ขุดร่องน้ำบริเวณเกาะแมวพอดี และในการขุดลอกจะมีตะกอนได้แน่ๆ และกระแสน้ำพัดจากเกาะหนู เกาะแมวได้ จะมีตะกอนลงไปถึงแนวปะการัง"

ทั้งนี้เครือข่ายภาคประชาชนในจ.สงขลา ยืนยันจะติดตามการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะแหล่งปะการังและหญ้าทะเลในจ.สงขลา มีน้อยมาก จึงเรียกร้องให้ร่วมกันรักษาคงระบบนิเวศทางทะเลไว้เพาะการขุดลอกทะเลสาบสงขลา 2 โครงการ คือการขุดทะเลสาบตอนล่าง และบริเวณท่าเรือน้ำลึกสงขลา เพื่อรองรับการขนถ่ายสินค้าทางทะเล ที่คาดว่าเป็นสาเหตุ ทำให้เกิดตะกอนดินจำนวนมาก ทับถมแหล่งหญ้าทะเล และแหล่งกัลปังหา บริเวนเกาะหนู เกาะแมว จนเกิดความเสียหายเสื่อมโทรม โดยเฉพาะหญ้าทะเล ที่เคยมีอยู่กว่า 6 ไร่ ขณะนี้เหลือเพียง 1 ไร่เศษ


ตะกอนจากชายฝั่ง-ขุดลอกปัจจัยร่วม

ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์นายศักดิ์อนันต์ ปลาทอง อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบทางกรมเจ้าท่า พยายามเร่งแก้ปัญหานี้ทันที หลังจากถูกร้องเรียนว่ามีการนำเอาดินจากการขุดลอกไปทิ้ง โดยมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปบนเรือทุกครั้ง กำหนดจุดทิ้งตะกอนดินทางด้านเหนือห่างจากชายฝั่งประมาณ 12 กิโลเมตรและตรวจวัดโดยใช้จีพีเอส

"ตะกอนที่ทับถมแนวปะการังส่วนหนึ่ง มาจากปากทะเลสาบสงขลา ซึ่งพัดพาจากชายฝั่งออกไปเกาะหนู เกาะแมว ทางด้านทิศตะวันออกและทิศใต้ ทำให้มีปะการังเสื่อมโทรม รวมทั้งหญ้าทะเลบางชนิดเช่น หญ้าชะเงาใบกลม หายไปหลายปี "

นายศักดิ์อนันต์ กล่าวว่า ส่วนปะการังบางชนิดมีแนวโน้มเสื่อมโทรมมาก เหลือบางกลุ่ม เช่น ปะการังจาน จะทนตะกอนสูง แต่ก็มีปะการังครอบคลุมพื้นที่แค่ 5-10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทั้งนี้พื้นที่แถวนี้เป็นร่องน้ำที่ใช้เดินเรือขนาดใหญ่ และเนื่องจากมีตะกอนที่พัดเข้ามาทุกปี ทำให้ต้องมีการขุดลอกตะกอนออกจากพื้นที่ทุกปี


https://news.thaipbs.or.th/content/294647