สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 18 กรกฏาคม 2563

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังอ่อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนลดลง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 18 - 19 ก.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง

ส่วนในช่วงวันที่ 20 - 23 ก.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 20 - 23 ก.ค. 63 ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย


https://lh3.googleusercontent.com/6N8nDC8azSB3_qn-X27QvOBDBQzuDA80KvBKncT-uP8cZ0gfjc0_cBGMoCYj5AYNDm4wWjvsAsqBfqpxtsE7DHrsdjwQAnzgTgfdA58gXRM3aUGCY0ASR-KUHDuJNYiE3VhJAEJlgWDnr3AjJYvaT6EjMPlSnYD3o90jP260kxajHyXariNpFXXQWJs0Vid1pJENLJQ9hnJbbMNFVCzVVfCpA8h1pBo5Exn887GLlK3nTiBRoG2dz8RPDRSA7_CKmw7J2WhTHappB2GKKl4N0NS4JeZuFG3kz_yGIVGOYZZ2kLfUFqZ67CcZHfsQRNEis4QEMUewt-Ss_4Dj8b2o0BPwzWgnqHiY7ZDmuYSUZpuGtrOAQl8OuFVZ3YS29CShIWJtgftVJ4mrYAk-cmiKD3gnUmBPGJpZwjKDjSXlr555Pl_4S0hlMsvcHrih8KPDNB4MokTbTdYW0ADHklcrA2BEy50Y6P6AiAbrZglq40bc-jqAoW0gzIbwaN0JlyPnyd8iSrisXIuIGyS1Qph8qmpUWANMppFyVwc8waMFmeEOtKe2p65hVBkph0NnLVGrWEkJ1RjGkF2wqj5H2YHyqOw2mLJkDWB4YcfNYyVJhcryMrfXFIyoPrcEmNYydyO6L-9vs3zIn_EYJdTFh5QeGRMaIhKD8-Pb84g1TvXFdr7Xdlz5tXOYY6wjbX3vwno=w678-h903-no?authuser=0


https://lh3.googleusercontent.com/mIViCgZ32Ey5Ajy0-MaMrwdrxUoTFAQ_7uQB6nQ6IMfh6dzigeMdXD96HRr1qO7otl2AX1r3Ycrbh4Y1cMcvSZq9Eo-qjmAoEicres-ElG-_ssd25VezhgRJFKwscddjZb1D8Kx9y3b0IlHUw6LybkVRHMfuIoj__7dZUYjtwdiXCyroBzRs9wvVSUjDG8FlLdxQMEJGQvAwWMh-7likcmX82Rc_OFua0JkUZOw3cAHMg1RmP0Af7E1bVQnVtuBZCAk5-LW44VVGR1pU05O-g4DrHe6txQfoFn6SmRmLgPtsd5nx5Wc9Dr3zoG3HQ0CL7rRZZhqcE9o6gYFZyW7aG8voTc8Mm-8AWQrGhVk7dtVOpaL7B_XrZTBELnCKtaYBNHYqmnhwT5qZgkN1KTfpti3ZG_LH9xCXwmW_3du4mOr-h5PuCnS2BHLy77OGrArryqask36r14FeRcD34rZqSOxULqbiC4kg5KkOS6Ujc_64hfixtNeZD9CfC0YMMwD4upEq5iIyRZrWlNAQSpumth2YEJmrd9x-OwB_OP9HF8InrOOLXlPqHa8ll5nrjebZx_P4Cu_mfHtrbbf43AtyYt3xBgOy4o_1EHMrZe-NltSkqAY9C9k-VwYPFqrLDLthkT613sJpsDe0D43ih2_WM811cvxUQHu31Pr26_8gHMk-Oz6h0r4dCR3K0xMvna4=w800-h390-no?authuser=0


https://lh3.googleusercontent.com/oqNAxLqxn9w5X_8VnLn_svNICZrVw_YPEkIUDL9Xf1KurSfrV-_I9QjMOttuILRxo5ufYa9keCOmIkFuSDEWxAUKonkY9pFjV2ih3nkjavl7HhQX46pset6vl9itiKK3HEY3Z9fHKmTiL2mb25Ow9ymHAv9W4Kp8tnfpIEe2Bo4RKNtgm_rCWHUKKhQ_yp-NCOwlsEdKSZ8NqEYH66HGU2COymPRrugM4awj4iey12OYv-VO4ZX-_YRCx19rqGPjTtdylVijblvYnTvWEkQcZqGcrR0iw2QBvINGwCUOUJoO0v0nuL0mXtOfH0zy5DC_Utezh9DHYbjUl6qnbGKQuMAs08uJ3hBORITQtikF87Pv7Gu-kqvbX7Y6wRg3iSi96ZAi2_TVg0ReXSTEZqSxhQRAJMC8i9Ml7lRs7MXtArWRgcFOfZiBU5kfaGfXxUWQTaazEc0xJhO_q0nI7m_OXkBgnx_wzTKfUYhB6xcS2s6HwlCSw5ACEHExYhfBDHFgsVgLZXs9UyRknJ8OsLXw53zROddz0aT0moe8d3dNpieOf2_vEW14Gv0AMWe206Ml8cU9ozjrQYpvJx9GYiIX36i7hXPlmsrQxXwRPep6aHo2PMaFPwGqtq5Xj_Y0LwGZl5L2BLgUiqjydeHqR4KpyfxJA78hKdBSU66ym1kq5ZT17M_JCS9oFarlmHBQOtU=w800-h450-no?authuser=0


https://lh3.googleusercontent.com/mAJEd9_-7bhwpED5oAUVg59CU3mW1VtVSi1IXD1TutELezpKi67RgbDm7o4H7SuXlkbEbusJ68RReb-P6BFZDNpg58FUTiT_wt_kCt7hPEXcWNlWkKOY6_icU_oQE9Eki9RmOBrLeoezE_I5bA_o5XJmYTUy3Sv7Qkwe6WcBINmZxi9m2wHlYQfMhVIV0bwbUdZwAEnJ4cxN-GhEfhr6M-7bqjnY4vzO9hDHwzrZPD8xC37KkDQQxsVjKxMT4eNOhL-zFB0lZBOmBdmRFm3o339zqSTWzkI4fL159Lgefi-k4CdETSDk_ueuPxdTBpclTsEkb7uPj__8U_NY2t-lmEiYZUBx1BVv0PATwkraj2ZE1s2b9Cae4eSQ8yFchtoQ2Nu-fmqMAHVLiHrESyaYHARXxWKvFbJCg_pilRFyEsYOB90xPmThNZ4mYA_BsBPLXKPY9RuZNFNW1JA6b41YR2OP0CP9qDWWXHQXpIryp1oasxOHRITZhsXByBNFen3Ob02a2jG23OhEsFq-Tborzt48Jd92Rcmm4RrIIibdpt-q2nWYXe2x2wp_8DrI28LvagF6zNu1tpQDSNQbCSlUh6GwZxVEVAaqsFBMeOYOnPnmvxPp7YzqjWpMkhp39aK4lvXfeERyMWea5dgpvsn1Lrrislmj9W-eBAhZ0YdMMyRr_Ur3U1pGUS_aUVXl9l0=w800-h450-no?authuser=0

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


สลดตายอีกตัว! ชาวบ้านพบซากลูกพะยูน

กระบี่ - สลดตายอีกตัว! ชาวบ้านพบซากลูกพะยูน ยาว 1.3 เมตร หนักกว่า 20 กก. ถูกคลื่นซัดเกยตื้นที่บริเวณชายหาดอ่าวน้ำเมา ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ สภาพเริ่มเน่าเปื่อย คาดตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 วัน ระบุเป็นตัวที่ 3 ในรอบปีนี้


https://lh3.googleusercontent.com/nGFYp1mqTRn5Ps3cn6kbauzmosVncaa0qyOl_P5WpFse39aFU0WkH4yGSKTfIbdXCYyA7gkCIf590iUh5-66UDgaNrRmOpfuKozXU2kqEX4p0EEKeRWyhyxqr47OJcDm3NKhqWFP8LEdj0H0odC5xDudvxZLXqrnfJbuWaeUBty2Ou_-q0GBxR3wH6lcz4-UUZTNupUUA9R3LVsBHdwFxJBu2GXZjXyxP56QR5oQRpatkA5wEbH-fbFrHtlgLKw5C9_h64ZD5G924sUsSUkVgHcECTgm10Vr2e2h-Dy-2llEYfkFUcoud9BJjSODzuMPPi_R065M2t4NT-BRTPN9HRkLR02murgOjoV9I7GQAMEGV5Z5GN5uddrt9J9ox4GvMVkkC9Zh8eaexRKE9A6STvAkeaj1jpfs6de0DQnemCIvMNwwF4JNRR_29HCOOXDHfhXpinhLTSVx1_8un2DPYBNl8_uNgj6W9Z804E4HPklkBkDNrpd-1ChW0m-LStPNDwiyZWYcsPO5MQVWm-Q52pl6Fh5LahcFr2lV3CCFsEOPWGUXCmfpI7sJIw5JII_w1ji__8BFLT8Sma2m4339FHMdXc-Ks9OV08XVhJejVUrs-J-5dtXR0n6BJ1x_4CwAa_KFRpDIA8V6mdNd3z_K0yKc9ZA0Gpi4XX49-kImI-O1oG_UvkEbkshS0nJJqN4=w600-h400-no?authuser=0

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (17 ก.ค.) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ตำรวจสายตรวจบ้านแหลมโพธิ์ และชมรมธุรกิจท่องเที่ยวอ่าวไร่เล เข้าตรวจสอบซากลูกพะยูน ไม่ทราบเพศ ความ ยาว 1.3 เมตร หลังชาวบ้านพบที่บริเวณชายหาดอ่าวน้ำเมา ม.6 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนนำซากไปฝัง ห่างจากท่าเรืออ่าวน้ำเมาประมาณ 20 เมตร เบื้องต้น มีบาดแผลถลอกตามลำตัว สภาพผิวหนังเริ่มเน่าเปื่อย และส่งกลิ่นเหม็น คาดว่าตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 วัน

สอบถามนายสุนันท์ ตูบา อายุ 48 ปี ชาวบ้านที่พบซากพะยูน ทราบว่า เมื่อตอนเย็นเห็นซากพะยูนลอยติดชายหาดหน้า ท่าเทียบเรืออ่าวน้ำเมา จึงได้ลากไปฝังห่างจุดเกิดเหตุ 20 เมตร เพื่อป้องกันกลิ่น และไม่ให้ชาวบ้าวมาเอาไปทำอย่างอื่น ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาทำการตรวจสอบในเช้าวันนี้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ประสาน จนท.ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งอันดามัน นำซากไปตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตายต่อไป

สำหรับสถานการณ์ในจังหวัดกระบี่ ในปี 2563 พบซากพะยูนตายเกยตื้น รวม 3 ตัว คือที่ เกาะปู อ.เหนือคลอง 1 ตัว เมื่อเดือนม.ค. และที่หาดทุ่งทะเล อ.เกาะลันตา 1 ตัว และล่าสุดคือตัวนี้เป็นตัวที่ 3 บริเวณอ่าวน้ำเมา


https://mgronline.com/south/detail/9630000073410

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


ช็อกออสเตรเลีย ฉลามลากเด็ก 10 ขวบ จากเรือลงทะเล พ่อกระโดดช่วยทัน

https://lh3.googleusercontent.com/rzMLdN4bRomHMCkX0KuFjtIucMZs_CoVr-UJ4088VEUxnGAhfFNBrAdG-6JCq8bvCARHLu7rkZrvEMdwsacDxksUB28aJY1CiGWPhxiEHtlPGdreYw16ZfMRrU5RJbHQ7zOB8l3kgiNX4T7LM1PpcRrNm-4a_EY3kpcPr8h1p5Aqnt4dXGUvGX7jFMvj4BjIvYiEf6uiZe8ch5YEXy2LYDyZHiKScgQlmcaoNhF40P-B4hZKD3X5XqjIMTGs7kbyYP9nUt1Lx0ssaqKLLJ1Xg9ougQMXqWqZ_Az13VyOffU57_5q9KgCb5vvv99CUDVtNO0sXY38_wE_G6OQmU_Z4ZlCzAB0r4bcS0oAV-Bqhq0aQb2WCU98NqUikidmAA6Zy22ECP92L00AWZhR6bilu9qOYlNHdsnLqj8Z9SUiYYCueMCp96Db1y9SKiAjWDxdS1Odjhi_qiZuo9AVehrucK_3URW_pY_S8yhyGfA4L4xSnaKpJzqBZRQbRdZqN1KaPIk6WbcfGo12NzyIq8Spyo5JgGpy_Ly-wcv7hAt7BWZhrV1V61d-Kq5Lf2myKB3HEaescRTh6e75QIqbkAA7geiu0O7S0wWJw4q5ZUR0dLRVynaR1FFRibazk6E6gCPMRFxEQWGeQ8dR1e4jWbp77fFjyE7n2WDE25rZCZsv7JI9pgr-Ic0bvWLzITzLnJ4=w700-h394-no?authuser=0

ช็อกออสเตรเลีย - วันที่ 17 ก.ค. ไนน์นิวส์ รายงานเหตุการณ์ที่ฉลามทำร้ายคนที่ออสเตรเลีย รายล่าสุดเป็นเด็กชาย 10 ขวบ ถูกกระชากลงทะเลขณะนั่งเรือยาว 6 เมตร กับพ่อซึ่งกำลังตกปลา และคนอื่นอีก 2 คน นอกชายฝั่ง 5 กิโลเมตร ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐแทสมาเนีย เกาะทางตะวันออกเฉียงใต้สุดของประเทศ

จากนั้น พ่อกระโดดลงน้ำไปช่วยลูกชายจนฉลามว่ายน้ำออกไป เด็กชายสวมเสื้อชูชีพมีแผลฉีกขาดที่แขนกับแผลที่หน้าอกและศีรษะ ถูกส่งรักษาที่โรงพยาบาล ด้วยอาการทรงตัว ถือเป็นครั้งที่ห้าแล้วที่คนออสเตรเลียถูกฉลามทำร้ายในรอบสองเดือนที่ผ่านมา

เริ่มจากต้นเดือนมิถุนายน นายร็อบ เปเดรตตี นักโต้คลื่นที่อยู่อาศัยริมชายฝั่งโกลด์ (Gold Coast) ถูกฉลามขาวยักษ์สังหารนอกชายหาดคิงส์คลิฟฟ์

ต่อมา วันที่ 4 ก.ค. นายแมทธิล แทรตต์ ผู้อยู่อาศัยริมชายฝั่งซันไชน์ (Sunshine Coast) ถูกฉลามฆ่าขณะตกปลานอกเกาะเฟรเซอร์

สัปดาห์ถัดมา วันที่ 11 ก.ค. นายมานี ฮาร์ต-เดลวิลล์ อายุ 15 ปี ถูกฉลามขย้ำตาย ขณะโต้คลื่นที่ชายหาดวูลี นอกชายฝั่งเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์

และวันที่ 14 ก.ค. อนิกา เครนีย์ หญิงวัย 29 ปี ถูกฉลามทำร้ายขณะว่ายน้ำออกไปนอกเกาะฟิตซ์รอย ใกล้เมืองแคนส์ เพื่อถ่ายทำสารคดีฉลาม ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ขา กำลังพักฟื้นที่โรงพยาบาล


https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_4523968

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย


เที่ยวสะพานหิน จุดเช็กอินใหม่เกาะลิบง

https://lh3.googleusercontent.com/jPCWxyR_zKNfDoKJYc-XAlzpPajYwMVnlObmDpYRO-UyDtN50XR_9lqhItjJ2tUxth1w0wkhNoXraz_BQBC2VCiGktClBJ4MXqez1WLrjPa4Blb2XPneo1xnj8gQYzjMv_kOUW6KitQcrDuJXUWP9wks92ny_05Lylis3xWko2C12hc9S1WcK9iXixaREF8k_Rxth83x6CO3asg3evs-oOqcNGfMogmBo-2aiHuG2PxKN8uDcN9p8pBrCTuVTCEVnC_YPjIhH--GJzd-IUBxQ7ixt1qlLLSUgoJdnx5g9Wtg95YvU4Eu-aBd7sRkA9P4C9ElXvgzb2YxZ6S7BEjS2Mh_cBqVPSf_ScXDM6L3hmo_3ZXK0ycAJjDWM-tAGzQPMubuZbZWGZKDkc4dDdsnWZcJI66d1esgP_O1lSZoEhq-I9rgIWWj9oms6Y0Xkm1Dg8AvtGukMvguPUwNJoHBRu6QuuxAiAca0XJ734ksK-mev21fl86YQtQsJD7EIhMjMylTd16YtYZFhVXUUdpJ07pQgxmpDTh-TQXjJoy_fUPE_3W1CqydO7Vh_muDi-Llfv2X_9z4AhG5vtbLsOXgKJH0UKYT7hjYYvFllo1BawQF5PbkgXQP90AgKInXQDuTtXSNSy2jXbNMm1iJ3YTFWu0dX1WW-nOKnt2AhNYOd3QvT2tG8B89C82_8Y05xvE=w700-h394-no?authuser=0

ตรัง 17 ก.ค. - ที่เกาะลิบง จ.ตรัง ขณะนี้มีจุดเช็กอินใหม่ เป็นสะพานหินกลางทะเล ที่มีไฮไลท์ชมพระอาทิตย์ตกดินผ่านช่องกลางสะพาน ซึ่งมีให้ชมเพียงปีละ 2 เดือนเท่านั้น

เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาสัมผัสธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ท้องทะเลสวยงาม ชมวิถีชีวิตดั้งเดิมของความเป็นชาวเกาะ รวมทั้งชิมอาหารทะเลสดๆ และยิ่งโด่งดังมากจากการเป็นสถานที่ดูแลอนุบาลพะยูนน้อย "มาเรียม" ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การท่องเที่ยวบนเกาะลิบงคึกคักต่อเนื่อง

ล่าสุดเกาะลิบง มีจุดท่องเที่ยวใหม่ที่ชาวบ้านเรียกว่า สะพานหิน ซึ่งเกิดจากหินภูเขาขนาดใหญ่ยื่นลงไปในทะเล ถูกน้ำกัดเซาะจนทะลุเป็นช่องว่าง และมีรูปร่างคล้ายสะพาน ด้านบนสามารถเดินข้ามไปมาได้ ส่วนช่องว่างที่เป็นโพรงขนาดใหญ่ มองลงมาเห็นน้ำทะเลที่ซัดขึ้นฝั่งอย่างสวยงาม มีนักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และเป็นจุดขายของ อบต.เกาะลิบง ใช้ดึงดูดนักท่องเที่ยว ด้วยสโลแกน "หากไปเกาะลิบงแล้วไม่ได้ไปสะพานหิน ถือว่ายังไปไม่ถึงเกาะลิบง"

https://lh3.googleusercontent.com/J2MCDyJyq4kmbBD8-tQc9W2D62a2YoorhXkvej-oBkp3YNCXm5wZiOJhTBcBHqpw3DkvDF6iJfpwmnf2JeD9rWbXYEiHoPamZuIu0z3_SF-HEeO2v28Nw3yVSdk4KWjKA50hA_84PwE4mUMyWLgeGkmvrvFk5r5xh7aP_RAg2o2qR7HhfSL2e-MftSpUY0JiGijKKgM5-jmfocNfOC2ei9Nkeo4V3bFzTnT9P8pvIcAQdNa1kJQ2oLV7AmGePE8ljOVzbs5HQxL4TrOfJgeW_sb2EBaJvb1-ijfIZVdzRLQoDVhoo3qPYl4SBIXE_Av-wNvpFtDOH65IAMEUa7bJlBW4CH1YgKK3pGUXRCYNTJ9A_e94MHZyPNVKkwxXd7MDT_tkanTKimqqd9t6bcF2SexVqiSx8CKrF6YAZkCAEEZ6_Oil9PeAnwHcvlf9N5Q9SY88vJ-vuDVgaVcAAiw52TU2hfN-6pVl3tCGoIjuzV0Eigrcg-7CW-psNa-80Mp1pdpacIwiyXLsF5ik4QcRE43o1kYf5U9YXpdQoMFFW8nIg3c7VKqPdjPHLZy2TycomkgEg6DpjmTTbwF0BzFlI6-bRK3ldKfXY9GsbzNfq_ycQkEqNGtWDPJVuRKeuvBREMyCWa5MoWFfrYmzBwm_J8UMGCJzAg7078nosV5resNj0cKmX1YABuiTRoW4r8I=w700-h357-no?authuser=0

ไฮไลท์ของสะพานหินเกาะลิบง คือ เป็นจุดที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกน้ำตรงช่องอุโมงค์ของสะพานได้พอดิบพอดี ซึ่งปีหนึ่งจะได้เห็นแค่ช่วงเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น คือ ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ส่วนช่วงฤดูท่องเที่ยว หรือไฮซีซั่นของฝั่งอันดามัน ตั้งแต่เดือนตุลาคม-พฤษภาคม ก็สามารถท่องเที่ยวได้ทุกวัน แต่ต้องเลือกช่วงเวลาน้ำลงต่ำสุด เพราะช่วงเวลาน้ำขึ้น ระดับน้ำจะท่วมสูงจนเกือบมิดสะพานหิน โดยจะมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นเป็นคนนำเที่ยวตลอดเส้นทาง.


https://www.mcot.net/viewtna/5f11bcafe3f8e40aef461676

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก Nation TV


บ้านหรูรอถล่มลงทะเล คลืนซัดออสซี่

https://lh3.googleusercontent.com/QNQRE469bKLOQil2t-GoiuskO3jCC9NnhiV2HQWCDuQZ0oB_GeoQkLO859uIIHO22df1SVpfnNiU2V2zKB78g_zyHupxJRjaWr_CytkM8fexekpN52eNj8M_IE9LUpBnRxQsKB1JZmWKVsb49xuCtVwpEsiBfTVBludYnRnqbXxAJASfW8bDvMzqd9suyHJJHHPVlTRIFTl93oHLOQkLxP3EMGZD1mCOFmVEeDY5M2S_y8SNFxIN9CJlazqB881KloBxcgRS-y97sW93PW6OTKTt5zKjn8v7SNhZhmoNrBkfiQqhefQ8IS40pMYGfobmYDtMDu6EPkde4GSVyrl4EWWnnWslA7fwnF74XKXbFRdmd5ARJ4VgspAXc0bNnYIDcR03wY8IRS2Y2vrx1VuorSQgIDawhcDRQFz8-EBLr9JBkqareMTN_bMwKw9Orxuxf23SZ-zuZpopyDpmEob7l9hxta0vxtLcrzZaMmx3iNX7fSJRF-pksXqKjXHHKzD7uVdMHlERs3xeZktMoKT_eHWG3HU04ZNw8tGLiXvXDhT344DS7QAwycvyPhlhpNiWq782mIdDFskDviJn_N_ODQ_4NJzberqpWIjgPs6eGV00_BqJLsS4FQWiUZ4mYxGj8cDLIi4D8N6xbIHr2NETF6Q790acRCfDehCz3sGcTy3pgR87rwqnHEg8V5O1zYI=w700-h392-no?authuser=0

คลื่นใต้น้ำ และคลื่นทะเลขนาดใหญ่ พัดกระหน่ำเข้าใส่ตามแนวชายฝั่งทางเหนือของเมืองซิดนี่ย์ ในออสเตรเลีย ทำให้แนวชายหาดถูกน้ำกัดเซาะอย่างหนัก ประชาชนหลายคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนที่ปลูกสร้างอยู่ตามแนวชายหาดที่ได้รับความเสียหาย

บริเวณสวนหลังบ้านของบ้านหลายหลังที่ปลูกสร้างอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรที่เมืองแวมเบอรัล ของรัฐนิวเซ้าธ์เวลส์ ได้รับความเสียหาย ขณะที่ระเบียงหลังบ้านหลายหลัง ก็ถล่มลงไปสู่ชายหาด และอีกหลายหลัง พื้นที่หลังบ้านก็เกิดรอยแยกของแผ่นดิน

เจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมและการวางแผนสำหรับพื้่นที่แถบนี้ระบุว่าบ้านหลายหลังมีรายงานความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่ประชาชนบางคน ออกมาบ่นว่า ทางการท้องถิ่นไม่ได้ดำเนินการมากเพียงพอในการช่วยเหลือหรือป้องกันการกัดเซาะ พวกเขาบอกว่า ทั้งโกรธ กลัว วิตกกังวล และรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอที่ต้องมาเจอกับสถานการณ์แบบที่รู้ว่ามันจะต้องเกิดขึ้น เพราะว่าที่ผ่านมา ทางการไม่มีการสร้างเขื่อนเพื่อป้องกันคลื่น สภาพคลื่นแรงจัดแบบนี้ พัดเข้าถล่มพื้นที่ตามแนวชายฝั่งมานานหลายวันแล้ว


https://www.nationtv.tv/main/content/378785725/