View Full Version : สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 20 กรกฏาคม 2563
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
คาดหมาย
ในช่วงวันที่ 20 - 23 ก.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ส่วนในช่วงวันที่ 24 - 25 ก.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่งในบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 20 - 22 ก.ค. 63 ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และในช่วงวันที่ 24 - 25 ก.ค. 63 ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย
https://lh3.googleusercontent.com/rMqHmdzqqObXyP713oE7amnfTlpFAuYVPeWIi0dCqI_r0FhuDfZVQQ_IFr6MLSZcfwGYKrMltU961B7z2iaA9RI8f9t3YtjCQ1sBg_7-jUO1Ej2Set7QHmkHHyLDK-4l1nrq-Ox9-tb4tW_FXz7jnFtPg5dEVk-8Lb_rcWXq4CU-aN0lEWMexE4u1VvSNzmYTF1mlTa8-KrmbRM3mYUFh-NjJmYhgBYlj-8YvvOX080t7eMW7yBThMPiPQqydLNqAOWWv0PCP6ulpE1uf6ufubTe7Np84sbQcTxEo-kKYcpsMEFUxXyW8geFGKx7oklO3yxcnXtl1Ml6d7Q9S-kzFIBngNrpxsfD-oemwpIYHtJxr6DvtMBCDEqTbz6BeLVhXqH65qiqGbT1k9y5FDLXMHsvdjf1Wifm7TNEHd-7NI-o2580nXKys3Ag3QnnkeqCYIctDd02b0K_gmOe8E645RDh9dyOqgJeyU5F698b7tpiuRV7BuCDKLnFJOG9VzkDFM41jhAZzlaq3JI_RUcN8N5rNd0n-itZT12GGqhrYD73Cp2lxm5bzZHGacXpwH-63osfsFuE82wrLy0pZys9sTDrm2gZWaQ-B8gtH1cVJwLHQs861glAKHVyYgI6rOOYzYvXqeVoQgSGuf2wKyGcL4Ki3HjiSuKLidtyGOuWrzV_rn_IuoCMYv1zYvgUSe8=w800-h552-no?authuser=0
https://lh3.googleusercontent.com/EzmQH4nkJt4m4x6TaBtcCyb8mukzjf8qyiU2_13Hwy2SqhzgK2rmpl0lwttTrmZ2zWwAqjXBj7DFws2F5180fsgNnw3JrxM3F-lDR3zoDQ4D9hILCRrwHxKtdrOKuq69P3e4LZlMFROlfju739ddOHvLNuSSbuhPBGQpodL4d1LH_006mKL3ZWBCvg2lcZIymeo2fKSJVLzfRairhumztaJc-ss7nNIgElGl8_MKwWmD-9jGmgFEZZ39BDfTK4twe2jn1gVbJjvw3WRIqPIx2LYLYvPwfyyJyM8OrTCaBY7IgIQRNcyXPOwNggsNin3EGv3lQ0i32nya9GdMwoFR3cN22AxUTN9UgM7T5w2HJIVhagiFNWpZORZU_0VU2LfJQn08bWD6JBLRzYrtW_Dl6V4oeWuRwoKpnKVEba7_1R_kvkzYBTK682mt3a-ZWxUkhLmWnbv8J8RwIctjDDZrckwSrnFkhIU51keudqAa9DmF3YeLYe4HsIp4EfnwPC695-3Urv8YMiumoQXHw__OKb_tT2_gzxYNEEcXaAm6BLyfaWhNEUnlxkd0bskY0_4j8DEdIsc7Wn8rky_BRrqVEvZoKGNvLlsBw_gk7N_DPAW2luAWd_Q1sH4D1m0OcGx4QPXn1vmUV_Ic8oTrZhAkBqb3UUlpk4Br8gp6Nweh0rrX1WAFd68m8POm6b85Le0=w800-h390-no?authuser=0
https://lh3.googleusercontent.com/pyecBR4qlSfyVmUAlQeLtWSPLHnfsazIUvis9TzUgsmtNRH_cTRuXDjO5yW2lON0DdAxYXOOLRgJTPKnsVTT7F8ZZKxtuSzTdxCvUFT0vL9tOVMItX8jezLVajBXLM9U6h7nKX3RRpkyHdr3ynLHgd8GksgQSL3_NOq9o1Nz62KWWiKsO4lxDA_xogbeoIGwGYdhcNoulVNpag9BeoY2JW7UkyDbcyPZRWHtyEmt2CEjgY7teu7Gm9OVVSKCzmWH34zohZfI5ghS1oLOhyAhdWce6mMQ96c4NSVfeF6yp3gLk_EVWzMYdqjejd9k0BjjUMKIUJQS4MJ0FBHkpqoiZmbtYS4ZBGqErdHiFBaYn7i79OlGwrIk-omL2Q1UxHT47-jORKrPx142psFuzoeO7F3WWsEv4LrbAIK3JAlPZTYJQgoDuj7roWfHuJFR-eWA1kiryrcGenkVfY3g7snxzE1eOPFSjHGZ91LcQGHp2MNr5v0IPx56MZCrlOG423yE6yJVXHhjQie5yMGhks5gLc9YBCmd7qtNSXr6OcEuYvX6x9BiQ5ZC7n_5ql7b2abGiZPHKS4BJ_u_xGlzr5T-K2BV6uh8LRziE1NOQH6lAMW-Mo45y_ug_IUwA7aLTmEFAjOmg0kNGNpMoe26GLm_VUWN7YZJIpK-7b_V4ZHMQGXsqN2_H_aVft8VRPrSZ2U=w800-h510-no?authuser=0
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
'วราวุธ' ดำน้ำฉลองวันเกิด เจอเอง "ลอบดักปลา" ผิดกฎหมาย
https://lh3.googleusercontent.com/nZ6Fe0LKeBE1Dj-5x2DvMGokFkIcD0atHtvZLH4VN-7_HLTEgBkob3n89gu3Jgw_yIrBvlyC8zppfAzKQN7q2VADr7nOis5jPBOV4sSY94HAnuyRN-z4_PyRbf9EBBvb3Zzckpi3HGXlLPHqJXoZM1mfaCVHdyEa25YUjfWqJ-8AGKkj_Eo3Yo7mZmpPqxZLY3KatS-w_qXzZIw93FPyJRPQMpHStKPtTQX9ZzJHCxyusTNpOAfBWo_qyDweVb6eGhA5YmvjVDiNYeEJqvg_gNt9yGKZv0f201X78-Ozgx-y9QtifM7LwKQEOFvoD11MWe9FD83I5Mjh6MSJAY-MuDvlJCgAxJP5wxrb4MpPRpklLJkBGRtj6KwNKaAXmEJPYOmWYL30sqmIugdr9xbtZ0VvAFyI5WZkA5qgVy-WmBf0Ra1WWA0jFurpJvQUtPjUy1d0d8DG-KIWfJku1t8gTGEKGYr7eMgAyPTRRBy8JB8bCorlfQnK51X1AvWiK2rU2NzYOACemIDONeqG_sCsCwT2nUtWgp_TfcatwYdbRzEQGQmZwwHRA3QwgBJoEWAgIwgQPlWgMPqM9vNdbY4KjHnBXWRGqUZ7AtahoqogLj4nzGYBPnZC8MTuVeRMWc4hpM6FEJWWvGv9Mne_eFUS4V9pe9AtuTYE__L81ziuP-zwVpPr3rupDTsWey0L4J8=w640-h427-no?authuser=0
เพจเฟซบุ๊ก TOP Varawut - ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา โพสต์ภาพ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ขณะกำลังดำน้ำกับครอบครัวที่เกาะเต่า ได้พบ "ลอบดักปลา" ผิดกฏหมาย จึงโพสต์เตือนชาวประมงว่ามีโทษหนักทั้งจำและปรับ
https://lh3.googleusercontent.com/_rcA6T6QXp-HWwtYfGhhgTZRqT9cK53GyDYDI5LrirWDNANVijV3mePbX_3afeTEZPwN6aSpurzDqrKK8HiCu44-a7nDFEEDF9iGcvyx5MPbg-EubfGdje_yY4qi-DJuhrq3auXdn6R7UbQ5limoHOxNdZCXno00b9KbpAHiaQr8FR5IsOOZrCsgd9SDDtG9B3nS3f1S4O1NIF9YWamQ3VeMr30wA2hpiIAivWvcuMEMxHdmTBMNOd2QQ1TbIZJHkOFseU4k8b5zVsoUpiZCDXlSl8sFfglbGT0t4EW9BplzUL8Uy45l4-T3la2k-5r7D2XiEFoUV_rePZe5QMMpIcVZEWvOXoXMytltu3n6_bdPnU5qFQ07LTIu-TtRo-FABmETNz0AdMHHzkJPoIlUj8c_iLnFaqc4Z72XW3HBuEz8X-GjQxEoaxBWwgLOmYRe4Q8Nb3bbuHgVzkw3I2gUB_CIi3cDF9H-fQfZ-tniMMUEmVNfxFHNGCk6fi4MFVSgO1-Ent0okVh6S9tHF0uKiB6CW5_kusz1JoVVapRPipab-ImkRWPg51dAMMwh4ndUth0JmhQGKy0QlMXv14IrZsF3RfT2RQU3P64n8kxmwe8tbln6ixF-uJiEPtYtLH7kILF15zoPP5OOP3m-4xtYvDj61_jSfftbNaq-ET1xjsxzsLcTGsCJYUHQaW1bI7g=w640-h427-no?authuser=0
สุดสัปดาห์นี้ ผมและครอบครัว มาดำน้ำที่เกาะเต่า เพื่อชมธรรมชาติใต้ทะเลเป็นของขวัญวันเกิดให้ตัวเองสักหน่อย แต่ก็มีเรื่องให้ต้องทำงานจนได้ครับ ระหว่างดำน้ำ ผมพบ"ลอบดักปลา"ซึ่งเป็นเครื่องมือจับปลาผิดกฏหมาย จึงได้ประสานงานกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มาเก็บกู้ เพื่อนำไปเป็นหลักฐานสืบหาเจ้าของต่อไป... ผมขอย้ำนะครับ การทำประมงด้วยเครื่องมือผิดกฏหมายเหล่านี้ ได้แก่ อวนรุนที่ใช้ประกอบกับเรือยนต์ โพงพาง อวนล้อมจับที่มีขนาดช่องตาเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร ลอบ อวนลากที่มีช่องตาอวนก้นถุงเล็กกว่า 5 เซนติเมตร มีโทษหนักจำคุก 5 ปี ปรับ 1-5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ครับ
https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9630000074071
ขอบคุณข่าวจาก Greennews
ขยะหาดบางแสนแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง นักวิชาการเตือนอ่าวไทยปนเปื้อนไมโครพลาสติกขั้นวิกฤต
นักวิชาการเผย ขยะเกยหาดบางแสนส่วนใหญ่ไหลมาจากพื้นที่อื่น กระทบภูมิทัศน์ ส่งผลลบการท่องเที่ยว ซ้ำร้ายขยะทะเลชิ้นใหญ่หากปล่อยทิ้งไว้จะกลายเป็นผงไมโครพลาสติกปนเปื้อนระบบนิเวศมหาสมุทร เข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร เป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ ด้านนายกเทศมนตรีฯ วอนส่วนกลางภาครัฐเข้ามาแก้ปัญหาขยะทะเลอย่างจริงจังกว่านี้
ภายหลังจากภาพหาดบางแสน ชายหาดตากอากาศยอดนิยมของชาวไทยใน จ.ชลบุรี ที่เต็มไปด้วยขยะได้ถูกแชร์ไปอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียลมีเดีย ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จนนำไปสู่กระแสความกังวลถึงผลกระทบขยะจากนักท่องเที่ยว และกระทบถึงภาพลักษณ์เมืองบางแสน
https://lh3.googleusercontent.com/2OsOgD0bjB_PD55R35INS5mQmjRFeQVF1qRu9X2_Hx8HQppv-uGIKHUs4hPMUpwdYcyiYGPY26Cwd3wx-2CbNIpZHQY63bE7f4m5-PF6lMLO0nBB1Flmkp5O8iZTFSxLY2R3u_AnTccH3SQ2dYCZpvSkplFKJG28RNe7Jlbi_2E9iGYcostCqph1AYLF3ug2xO2VjcL7_iPJWyHY5hiACqkClgJfLcJddYvILs-ruAq68d4SNayPK7A9eJqJsbo1XWbZgOD6hP5Q1kVB1Cg4bUBwc-7mdZdSY6BqmUr3Ts-uglApBiHPjNXQ33GKkdyABKEsw-nqbxTOwJY6x69eyhJJ40Ot6gr84lSmyhA4KAgWTfZ5NEkq0TJu6c2DrQaUBSKNd9K5_oLAylrodoCTWX-AXCxnfpY9Ymgo-2uFADaMPhGKQ-oTmcUUCwY41f3XFBnlwQyFZ273HntVnN3iwEqDbK0K4Hxg1_96h37ALsJT_-NZbCwvN-In04ZRr_toC2oYYWnxfKMK5OeH2l___AVGUr7TFjO5HCb34emxBHQbRNUP9hsh36tVDS9PHVJ7Hw2Pkt_4KSqWsonbN4xMGSbyDYstqmYKSf8GnxE4-dsBeikixkZ3JvTeo2JPn9KLgD3IDSYo4KLBcVd1ZXRL1WtUZ3sFVJ7qbZ5-nJlYQAXQF0mRYL-R2PYZmEZz99Q=w700-h525-no?authuser=0
ขยะทะเลภาพชายหาดบางแสนที่เกลื่อนกลาดไปด้วยขยะที่ถูกลมและกระแสน้ำพัุดมาเกยตื้น //ขอบคุณภาพจาก: ณรงค์ชัย (ตุ้ย) คุณปลื้ม
ผศ.ดร.ถนอมศักดิ์ บุญภักดี อาจารย์จากภาควิชาวาริชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า ขยะที่พบเกลื่อนกลาดหาดบางแสนเมื่อไม่นานมานี้ แท้จริงแล้วส่วนใหญ่เป็นขยะจากพื้นที่อื่นที่รั่วไหลมาตามแม่น้ำ และถูกกระแสน้ำและลมทะเลพัดมาเกยตื้นที่หาดบางแสน
"เวลาเห็นขยะ คนก็จะโทษว่ามาจากนักท่องเที่ยว คนทิ้งบนชายหาด มันก็อาจจะมีอย่างนั้นบ้าง แต่บอกเลยว่าน้อยมาก ขยะที่มากองบนชายหาดที่เห็นตามข่าว คือ ขยะที่มาจากทะเล คลื่นซัดพาขยะเข้ามาตอนน้ำขึ้น พอน้ำลงก็ไม่ได้พาขยะกลับไปด้วย ขยะเลยกองบนหาด" ผศ.ดร.ถนอมศักดิ์ กล่าว
"ต้นกำเนิดขยะทะเลเหล่านี้ยืนยันชัดเจนว่ามาจากบนบก ขยะที่ถูกทิ้งเกลื่อนกลาดตามถนนพอมีลมก็จะพัดขยะลงท่อระบายน้ำ ไหลสู่คลองธรรมชาติ สุดท้ายก็ลงสู่ทะเล นี่แหละแหล่งที่มาของขยะที่เกิดขึ้น" เขาระบุ
ผศ.ดร.ถนอมศักดิ์ ชี้ว่า ขยะเหล่านี้ยังนำไปสู่ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่กว่า โดยหลังจากล่องลอยอยู่ในทะเลระยะหนึ่ง ขยะพลาสติกจะถูกย่อยสลายโดยแสง UV กลายเป็นเศษพลาสติกขนาดจิ๋วจำนวนมาก หรือ "ไมโครพลาสติก" ซึ่งนอกจากจะเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศในทะเล ยังสามารถปนเปื้อนเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารถึงมนุษย์ผ่านการบริโภคอาหารทะเล และอาจสะสมในร่างกายจนก่อความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้
"ไมโครพลาสติกจะมีคุณสมบัติเป็น ไฮโดรโฟบิก (Hydrophobic) ที่จะไม่ละลายน้ำ และสามารถจับกับสารเคมีชนิดอื่นที่ก็เป็นไฮโดรโฟบิก เช่น อนุพันธ์ปิโตรเลียม ดังนั้น ไมโครพลาสติกอาจทำหน้าที่เป็นนิวเคลียสที่มีสารละลายอื่น ๆ มาเกาะ และหากไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายผ่านการบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยไมโครพลาสติก ก็อาจพาสารพิษอันตรายข้างต้นเข้าสู่ร่างกายได้" เขากล่าว
"ไมโครพลาสติกยังมักมาคู่กับสาร BPA หรือ Bisphenol A ซึ่งเป็นที่ใช้ในการผลิตขวดพลาสติก สารชนิดนี้ถือเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง มีฤทธิ์รุนแรงและสามารถยับยั้งการทำงานของต่อมไร้ท่อได้"
นอกจากไมโครพลาสติกที่เกิดจากการสลายตัวของขยะพลาสติกชิ้นใหญ่ เขายังเผยว่า ไมโครพลาสติกที่ปนเปื้อนในทะเลจำนวนมหาศาลยังมาจากน้ำทิ้งจากบนบก โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำทิ้งจากการซักผ้าตามบ้านเรือน ซึ่งปนเปื้อนเส้นใยไมโครพลาสติกจากเนื้อผ้า โดยจากการศึกษาไมโครพลาสติกในน้ำทิ้งที่ปล่อยลงทะเลในท้องที่ จ.ชลบุรี พบว่ามีไมโครพลาสติกรั่วไหลลงทะเลถึงกว่าล้านล้านชิ้นต่อวัน
"ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ของอ่าวไทยตอนบนที่เป็นทะเลกึ่งปิด ทำให้เกิดการหมักหมมขยะและมลพิษในทะเลได้ง่าย ดังนั้นอาหารทะเลแทบทุกชนิดจึงมีความเสี่ยงที่จะปนเปื้อนไมโครพลาสติก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สัตว์จำพวกหอย" เขากล่าว
"ผมไม่ได้อยากทำให้เกิดความตื่นตระหนกว่าหอยไหนห้ามกิน เพียงแต่อยากให้สังคมรับทราบ เพราะทุกคนมีส่วนร่วมทำให้ปัญหานี้เกิดขึ้น และควรหาทางว่าจะแก้ไขอย่างไรให้ทุกคนยอมรับได้ เช่น กำหนดโซนว่าตรงนี้ห้ามจับห้ามเลี้ยง แต่ทางแก้ที่ดีที่สุดคือการกำจัดตั้งแต่ต้นทาง อย่าให้ไมโครพลาสติกลงทะเล"
อย่างไรก็ดี ผศ.ดร.ถนอมศักดิ์ ชี้ว่า พลาสติกไม่ใช่ผู้ร้าย แต่การจัดการขยะพลาสติกอย่างไม่เหมาะสมต่างหากที่เป็นปัญหา เขาชี้ว่า แนวทางแก้ปัญหาไมโครพลาสติกที่ดีที่สุดคือต้องจัดการตั้งแต่ต้นทาง โดยกา่รแยกขยะพลาสติกที่รีไซเคิลได้นำกลับไปใช้อีกครั้ง และกำจัดขยะที่เหลืออย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดขยะไหลงทะเล เขายังเสนอให้มีระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนที่สามารถกรองไมโครพลาสติกได้
ด้าน ณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข ระบุว่า ขยะที่เกยอยู่บริเวณหาดบางแสน มักเป็นขยะที่ถูกพัดมาจากปากแม่น้ำอ่าวไทย ซึ่งก็ไหลมาจากลำคลองเขตชุมชน มีทั้งขยะจากการประมง ขยะการเกษตร และขยะในครัวเรือน บางแสนเป็นเพียงพื้นที่ปลายน้ำที่ได้รับผลกระทบ
"แม้เราเป็นเมืองท่องเที่ยวด้วย แต่เราก็มีขยะจากภาคท่องเที่ยวไม่เกิน 30% เพราะขยะส่วนใหญ่มาจากแม่น้ำที่ไหลลงสู่อ่าวไทย ซึ่งก็มาจากประชาชน และโรงงานอุตสาหกรรมพื้นที่เหนือน้ำ เราเป็นพื้นที่ปลายน้ำ เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการที่คนทิ้งขยะไม่ถูกที่ เราก็มีหน้าที่ตั้งรับปลายทางได้อย่างเดียว" ณรงค์ชัย กล่าว
ทั้งนี้ เขาระบุว่า ปัญหาขยะพลาสติกไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นแค่ในบางแสน เพราะพื้นที่ใกล้เคียงก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เพียงแต่ไม่มีใครทราบ และไม่ได้รับการถ่ายทอดมากนัก
https://lh3.googleusercontent.com/BGbVScPkAiYjErGBgZnIYGLcVND8IqQHAXB3zsLlcumW_TQsbROx8SfQREb-2caVYz8jllSySY4kxu00EZU7MWfpcpmPYbA18tt6lCjVCNbErQjE-YhcM2dYMhAFJ3pFpc7n01uEQbEl3jPfQ50f7vt_qn-8zz4zvSTjeSeDlNotKUx-H85xRN_zxzU4cY7g4TOUEXads8zIWlISJ280Oq7DuK_adQxkHS0WoingPV_SThTF0vKg_krsxHBCSwDcI4hf9Z314chCZxU0YVCKFa23T7hfinKqkaOxQ1GYzD1d2wTizD1w8tH62Bg3o85LJdT2_Cc78_JxXQHSXGIl7_AqLdOoEcj_QpFO-3BoHHpdObtUwrM-fOgwbXOPDPZY8UQJHmdMZTfhjzQ-fpWek4GQgLj5ZzLVi3o0snAwqAJPN3ct4uE1_uQ3FYpzNNmkWSwkH-ILK4gXEbEs7yzFFx-mGFS4_EMoz5a2KpZVb_FhH71Gaz6C-AyLw2UMAOtng101FeawrNrOJ_tyJooM6e7Sktlbq5WgaCEH-JqWzDQDY7EluKzU0v_FPL7VAUtFZmfQD8oH_nmtt0SvyWxJ_uIWKit04uPoIkLD2iO-8E_RqrLfgE7K4E_EkBPcAmy1CU-NELARzEk_lt_qf4e6B0LdTOqS-kIx7Zydrt8wMm-Ktq-agRepHthRZBLW2jA=w700-h525-no?authuser=0
บางแสนเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองแสนสุขกำลังทำความสะอาดหาดบางแสน //ขอบคุณภาพจาก: ณรงค์ชัย (ตุ้ย) คุณปลื้ม
ปัจจุบัน นายกเทศมนตรีฯ ใช้วิธีวางแผนจัดเก็บตามหน้างาน โดยใช้อุปกรณ์ใหม่ เช่น รถกวาดขยะ เป็นต้น เขาระบุว่าปัญหาขยะพลาสติกตามแนวชายฝั่งทะเลในภาคตะวันออกจะต้องแก้ไขที่ต้นเหตุ ซึ่งก็ไม่ได้มีต้นตอจากท้องถิ่นเท่านั้น หน่วยงานระดับเทศบาลจึงไม่มีอำนาจหน้าที่มากพอ หากต้องเป็นระดับชาติ เขาต้องการให้ภาครัฐส่วนกลาง จัดการเรื่องข้อบังคับกฎหมายให้ชัดเจนเข้มงวดขึ้น ให้ปฏิบัติและบังคับใช้จริงจังมากขึ้น และต้องเป็นหน้าที่ในระดับกระทรวง หรือเป็นนโยบายในระดับประเทศ
"ขยะทะเลไม่ได้กระทบแค่สิ่งแวดล้อมชายฝั่ง แต่กระทบสัตว์ด้วย ล่าสุดมีเต่าเกยตื้นเพราะกินพลาสติก กินเชือก ปีที่แล้วเกยตื้น 10 กว่าตัว เพราะกินวัสดุที่นึกว่าเป็นอาหาร กินเชือกเพราะนึกว่าเป็นไส้เดือน เศษปลา หรือโดนอวนรัดจนบาดเจ็ด ผมเลยมองว่าเทศบาลแก้ปัญหาได้แค่การรณรงค์ เพราะเป็นปลายน้ำ และอยากฝากไปสู่ระดับกระทรวง"
"ปัญหาขยะพลาสติกที่บางแสน ถ้าภาครัฐไม่ได้คิดจะแก้ ผมคิดว่า ยังไงบางแสนก็จะเป็นอย่างนี้ ต่อให้มีคนที่เก่งกว่าผมเป็นสิบเท่าร้อยเท่าก็แก้ไม่ได้ เพราะต้นตอไม่ได้เกิดจากเรา ขยะมันก็เกิดมาจากที่อื่น ถ้าไม่มีหน่วยงานภาครัฐเข้ามาดูแลควบคุม ปัญหาขยะทะเลในไทยก็จะไม่มีทางหายเลย" นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข กล่าว
https://greennews.agency/?p=21427
ขอบคุณข่าวจาก Greennews
UNODC เผยรายงานใหม่ ชี้การล่าค้าสัตว์พืชหายากยังหนัก ก่อโรคร้าย ปัญหาสิ่งแวดล้อม
สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เปิดเผย ขบวนการลักลอบล่า-ค้าสัตว์ป่าข้ามชาติยังคงเป็นภัยคุกคามใหญ่ต่อความอยู่รอดของสัตว์และพืชหายากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวลิ่น ชิ้นส่วนเสือ และไม้พะยูง ทั้งยังก่อปัญหาความรุนแรง และเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคระบาดใหม่ ย้ำทุกประเทศต้องยกระดับกระบวนการยุติธรรมให้เข้มแข็งขึ้น เพื่อร่วมกันปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ
เมื่อวันที่ 10 กรกฏาคม พ.ศ. 2563 UNODC เปิดตัวรายงานอาชญากรรมลักลอบค้าสัตว์ป่าทั่วโลก (The World Wildlife Crime Report 2020) ซึ่งได้เผยว่า นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 ? พ.ศ.2562 มีการตรวจยึดซากและชิ้นส่วนสัตว์และพืชหายากราว 6,000 ชนิดพันธุ์ รวมกว่า 180,000 รายการ ที่ถูกลักลอบล่าค้าโดยเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่โยงใยกว่า 150 ประเทศทั่วโลก
https://lh3.googleusercontent.com/XjD32Z68A1n0BKXxYl1EE3uDgzpDChqtATcW-P0ycqxW6T43LIK-JqpbPPEEbBWKg6wTldYJ6W8KHxQJYVY58UjmENUy3kzUGrh1RR5V8CQiHEd1DYlnMwOtUWCwOhoy42pTzAlsZEkD7Mhn_KxnQZO1au3yPp4_2j2u6Hu5V5-HeU2Au5nFX5quvvrBWMSzyigEP2W-c46tkxgU6n5pmln2qBVwMd4Dy1InuweUO9dXOQ2W624__rD6knssS29sf5l33We7kPLyY79Pubd1empxE8ekAKziDuj51cR3q8fLbnDWdjz5AZxFmLPWhlH-7dt1gDtp3u_a4i_ofv9mZvXSCn2wxRSSJnOab6BLjIPt4hnkt3NwamKTxBWtfRPwgnT_7MRLWr8D8bMgQGQ3hC8KhX3t4rVBd_i9GDzaKSxfLvH68uRqWVcF7-I6is5iqNOJ8cZFB62XhEiN2xFNABeeZgfl9JM-xOyawPn81bcuDE_q3fxvZ67y6w6WFwS_G_i1oz4z6bKv_U_3B6JlJpdaQr4gNNFYjZIzuU-rlbRrAG3eERwFqNO6JaMCWah-Qg2FapatpQsWr_hndUBMIQVmnHHj5T0kkfLUssYhBZhjin0gsxVoh1kPQcdA_bAvrVk0Q6jGCYpX71yQKwinelzA1KHDjz6mqbHDtvPe2JWmd54Kl0snkIqEm1PvW0o=w700-h467-no?authuser=0
นอแรดชิ้นส่วนนอแรดที่ถูกตรวจยึดได้ //ภาพจาก: wikimedia
UNODC ย้ำว่า ข้อมูลจากรายงานดังกล่าว นอกจากจะชี้ให้เห็นถึงความร้ายแรงของปัญหาการลักลอบล่าค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ที่ส่งผลกระทบต่อทุกๆ ประเทศ ทั้งทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ความมั่งคง และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ยังสร้างความเสี่ยงโรคระบาดอุบัติใหม่ที่เกิดจากการเกิดการกระโดดข้ามของโรคระบาดจากสัตว์ป่าสู่มนุษย์ ดังเช่นการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลกในปี้นี้
โดยรายงานฉบับนี้ได้ชี้ว่า การลักลอบค้าตัวลิ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในสัตว์ต้องสงสัยว่าเป็นพาหะของโคโรนาไวรัส ต้นตอการระบาด COVID-19 ทั่วโลก ได้เพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าระหว่างช่วงปี พ.ศ.2554 ? พ.ศ.2561 และขึ้นแท่นเป็นสัตว์ที่ถูกลักลอบล่าค้ามากที่สุดในโลก ดังนั้นการยุติการค้าสัตว์ป่าจึงเป็นก้าวสำคัญในการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ และป้องกันความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้คนทั่วโลก
"ในขณะที่เครือข่ายอาชญากรรมค้าสัตว์ป่าข้ามชาติกำลังกอบโกยผลกำไรมหาศาลจากการลักลอบล่าค้าสัตว์และพืชหายาก คนยากจนท้องถิ่นต้องทนทุกข์กับผลกระทบจากอาชญากรรมของคนเหล่านี้" Ghada Waly ผู้อำนวยการ UNODC กล่าว
"ดังนั้นเพื่อที่จะคุ้มครองผู้คนและโลกใบนี้ภายใต้วิถีการพัฒนาที่ยั่งยืน และสร้างอนาคตที่เข้มแข็งกว่าเดิมหลังวิกฤต COVID-19 เราจึงไม่อาจมองข้ามปัญหาอาชญากรรมลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายได้"
Waly กล่าวว่า เธอหวังว่ารายงานอาชญากรรมลักลอบค้าสัตว์ป่าทั่วโลกฉบับนี้ จะทำให้ประชาคมโลกตระหนักถึงความจำเป็นในการเร่งยกระดับมาตรการทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมในการยุติปัญหาการลักลอบล่าค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายข้ามชาติ
รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) Arnold Kreilhuber ระบุว่า การปราบปรามขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติมีความสำคัญอย่างยิ่งในการผดุงความสงบเรียบร้อย ปกป้องประชาชน และรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ เพราะว่าเครือข่ายเหล่านี้มักประกอบอาชญากรรมอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น การตั้งตัวเป็นแก๊งค์ผู้มีอิทธิพล ฟอกเงิน เลี่ยงภาษี และคอรัปชัน
Kreilhuber กล่าวว่า ปัญหาหลักในการปราบปรามเครือข่ายลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ คือการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องข้ามประเทศ เช่น ระหว่างสำนักงานศุลกากร หรือสำนักอัยการของแต่ละประเทศ ในขณะที่ความท้าทายอีกข้อหนึ่งก็คือกฎหมายและระบบตรวจสอบเฝ้าระวังการลักลอบค้าสัตว์ป่าของหลายๆ ประเทศยังคงอ่อนแอเกินกว่าที่จะป้องกันปราบปรามการล่าค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ รายงานของ UNODC เปิดเผยว่า เครือข่ายลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายได้อาศัยโลกออนไลน์เป็นช่องทางในการซื้อขายสัตว์ป่ามากขึ้น อีกทั้งยังใช้เทคโนโลยีเช่น การใช้แอปส่งข้อความเข้ารหัส ทำให้การตรวจสอบการกระทำผิดเป็นไปได้ยากลำบากขึ้น
https://lh3.googleusercontent.com/SNZjjkquV0-3FSz5XVVUgg5nx49FzG-EAwXUPAyUM_gK2eQ3ymKOycUDRndvZBabpLA75-KsbK1Cce757YOMn7IRuOimz2XCoSuM7y1nW9tjX79Hd7n7d4A-KwrM0yz_NEV-35pXh38eFr2X8N2UgwFXXJ_B9R3wCHHpdPIOtgJERWLbbt2Xhuu4gMCaszaBsXvn9JhDXuac6EaQdrjFO0GtqZPLpJCuS6dJ6as3NrIWxoRbNUnvrlxPFJZ6yu75nrUXqy5SDUXfSXXkDk9iv3LB9vdLHae86f4QXlWFvOIppwLfkY23gXmEO9eD-jj7YsfNRLCs9m-vXUy43JOZkPr7YYpt1pczMKkHqkyvUVNcF6581HOt8qFQKUScP3yfft67GKvr-Az09kc9Lxi0NKsIWTMS6zPCQZUR_R6UCMFHOqL5neCWuiKtYKvSZsNK_WsakRbY7NbcQD0pDPF9poqlXyR_x9FIsM0TAkWECd1nOyl0O4lcME-TygjIE9wyH78eKAMDH4OBdtecF_UgOojvJj3_Dflmj5fp-P1if4CuwkKm0n3qTA3KTU2fJrjU8zv82-ikh0zLKb6_Py3I0sxZZ_P8Bcnh-kVAfRu-IIEXfcWX8GYV_3928-q0LJTAIoRzoe3fsGTfpMnWj-YFodTM_NSNsJld_NhrHE-kGP7U1wecgI9QJ5J9hmUFsN8=w700-h525-no?authuser=0
งาช้างงาช้างที่ชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวดงตรวจยึดได้ //ขอบคุณภาพจาก: ชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวดง
รายงานฉบับดังกล่าว ยังได้เปิดเผยสถานการณ์ตลาดการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายล่าสุด โดยระบุว่า แนวโน้มการลักลอบล่าช้างและแรดเพื่อเอางาและนอแรดมีแนวโน้มดีขึ้น จากความต้องการงาช้างแอฟริกาและนอแรดที่ลดลง ทำให้ขณะนี้ตลาดค้างาช้างและนอแรดเถื่อนเล็กลงตามไปด้วย โดยพบว่ารายได้ที่มาจากการค้างาช้างและนอแรดที่ผิดกฏหมายลดลงจาก 2 ปีที่แล้ว กล่าวคือ ในปี พ.ศ. 2559 มีมูลค่า 12,000 ล้านบาท แต่ในปี พ.ศ. 2561 มีมูลค่าลดลงเหลือเพียง 7,200 ล้านบาท
ในขณะที่รายงานได้เผยว่า ความต้องการไม้พะยูงที่สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดขบวนการมอดไม้พะยูงแอฟริกาเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด เช่นเดียวกับการลักลอบค้าชิ้นส่วนเสือที่พบว่ามีการตรวจจับได้มากขึ้นในช่วงทีผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แสดงความเห็นเกี่ยวกับรายงานข้างต้นว่า การที่ UNODC รายงานว่า การค้างาช้างและนอแรดเถื่อนมี 'แนวโน้มลดลง' นั้นเป็น 'การด่วนสรุปและก่อให้เกิดความเข้าใจผิด'
Mary Rice กรรมการบริหารของ EIA กล่าวว่า ในขณะที่พวกเราดีใจกับก้าวสำคัญในเรื่องของการค้าผิดกฏหมาย แต่พวกเราก็เกิดข้อกังวลว่ารัฐบาลจะอ้างข้อสรุปนี้ในการลดระดับการปกป้องช้างและสัตว์ป่าอื่นๆ
"ด้วยเหตุนี้เราจึงขอส่งเสริมวิธีการป้องกัน ให้เกิดการจัดการกับปัญหาด้านธรรมาภิบาลและการคอรัปชั่นซึ่งอาจเป็นตัวกระตุ้นการลักลอบล่าและค้าช้าง" Rice กล่าว
EIA ได้อ้างอิงถึงรายงานจาก Scientific Reports ที่เผยแพร่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พบว่า อัตราการรุกล้ำช้างในแอฟริกาไม่ได้ลดลง ซ้ำยังสูงขึ้นในแอฟริกาตะวันตก กลาง และใต้ ในขณะที่รายงานของ UNODC ระบุว่า แนวโน้มจำนวนและตลาดของแรดแอฟริกาใต้ลดลง แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า แอฟริกาใต้เองไม่ได้เปิดเผยประชากรแรดประจำปีใน 2-3 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะตัดสินว่าอัตราการรุกล้ำของแรดประจำปีในประเทศนั้นลดลง
ยิ่งไปกว่านั้นในปี พ.ศ.2561 แรดอย่างน้อย 58 ตัวจากประมาณ 502 ตัวที่อาศัยอยู่ในบอตสวานาถูกล่า และหากการรุกล้ำยังคงดำเนินต่อไปในอัตราปัจจุบัน บอตสวานาอาจเสี่ยงต่อการสูญเสียประชากรแรดดำทั้งหมดภายในสิ้นปี
https://lh3.googleusercontent.com/hsTZbxlmw9ryjhdnsKE3MqsrGAZE9fKc1FbPStwfpvEbyYD3LDZFY3Jr3zRDHb2nYzcixOVNmvxNXwdOpMdX3wZEmtv7int0yNZsy1hqdG_l0_aCqiaSaad9pGNE-N9cIF6mR1MoiPig4iyY8hQl9-IJ0g1UYnkStxyStzauvYwynbXBL3zQnQPjrR2vzCoe7FoM4ayISNmEZ3dM_wxYZrbQWsm_YD1Z7sc9Lmo8DPkgjE8CAru4mxNWMFYYG_dmCxVKTaIf2q8mGBGPFXqOgJSWMjA76L0xe2NynqAbUn5jhB5b7yO9hSQ_DbcuF2d2WndZqiFAFKab6iYAHdnUc2pD6oIGWGO08JM32Qnf_4AYIBmBIpx4n7KZAJtL8Wkyv48xuyS6dOG0gZuZnjMNOMFiJnjey-PC63R7E5WCTFPP7LuMMQJpTql8xB4EbUhz5V2QzkMM3yKEMRj1zgbDz8d-9ISoJkGjawZvtxrhVtVKGxFn_vY2GcKUHlxTCNTN2dYSSC-enPtG-A7oSO7D1zyClLJckJSypZUix1IkqfiJLsLhsnL9JvZSry7st9zsFMpWj4jeTjJ35q0mO97fPvJ343YHLrNDqqotCbKTb6BCzL6sUsSpRKmeN_m2TcbTogbfhm_b5OUphEYO19Nwuin4vTAb1JfDbBBR8hKJ3VjY14XUrXuqdxjQSZGyPq4=w700-h368-no?authuser=0
เสือเสือโคร่งในฟาร์มเสือมีความเสี่ยงที่จะถูกเลี้ยงเพื่อเอาหนังและชิ้นส่วนไปขายในตลาดมืด //ขอบคุณภาพจาก: EIA
นอกจากนี้ Debbie Banks หัวหน้าฝ่ายรณรงค์อาชญากรรมสัตว์ป่าและเสือของ EIA ยังวิพากษ์รายงานของ UNODC ว่า ไม่กล้าที่จะเปิดเผยตัวผู้กระทำ ทั้งยังเปิดช่องให้รัฐบาลอนุญาตให้ประกอบกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการก่ออาชญากรรมต่อสัตว์ป่า เช่น การผสมในที่กักขัง (Captive breeding) ได้
"น่าเสียดายว่าข้อมูลสหประชาชาติในส่วนของ เสือในตระกูลแมวใหญ่ ถูกจำกัด มันจะถูกรายงานว่าเป็นกระดูกเสือเนื่องจากการให้ข้อมูลโดยรัฐบาล แต่ข้อมูลที่รวบรวมโดย NGO ต่าง ๆ พบว่าการค้าหนังเสือในตระกูลแมวใหญ่ นั้นแพร่ขยายมากกว่าที่รายงานระบุไว้" เขากล่าว
http://www.saveoursea.net/forums/newreply.php?do=newreply&noquote=1&p=60168
vBulletin® v3.8.10, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions, Inc.