View Full Version : สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 13 มกราคม 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป
บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มอ่อนกำลังลง แต่ยังทำให้มีอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง ส่วนยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นนี้ไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังแรง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
คาดหมาย
ในช่วงวันที่ 12 - 13 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวและมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลงอีก 4 - 6 องศาเซลเซียส ในภาคเหนือตอนบน สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 16 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง และ
ในช่วงวันที่ 17 - 18 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวและมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 4 - 6 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 12 - 13 และ 17-18 ม.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันออกขอให้ประชาชนบริเวณที่อาศัยอยู่ตามบริเวณชายฝั่งระมัดระวังอัตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือบริเวณอ่าวไทยขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640113_Forecast.jpg?width=590&height=370&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/b284498a-e16e-4fe8-879d-2abcc4a61d82/p/1e87beba-c968-4cc7-afc8-1fffc91ac157)
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640113_Sat1.jpg?width=590&height=370&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/b284498a-e16e-4fe8-879d-2abcc4a61d82/p/0dca7eaa-5ae8-46bb-bfd7-298210be49a2)
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
คลื่นยักษ์โถมซัดชายหาดชะอำ เซาะฝั่งจนทำให้ต้นสนใหญ่ล้มลงทะเลกว่าสิบต้น
คลื่นยักษ์ซัดชายหาดชะอำ ทำให้ต้นสนอายุกว่า 10-20 ปี กว่า 10 ต้น ล้มลงทะเลเป็นแนวยาวหลายร้อยเมตร บางจุดชายฝั่งถูกน้ำทะเลกัดเซาะเข้ามากว่า 3 เมตร นายกเทศมนตรีฯ เผยช่วงหน้ามรสุมเกิดแบบนี้ทุกปี
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640113_Thairath_01.jpg?width=590&height=370&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/b284498a-e16e-4fe8-879d-2abcc4a61d82/p/42d7d0f3-32d6-4136-bff5-c3b7903d7f1e)
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ลมมรสุมเข้าพัดชายทะเลชายหาดชะอำ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ทำให้บริเวณชายทะเลชายหาดชะอำถูกคลื่นซัดเข้าคลื่นกัดเซาะชายฝั่งชายหาดชะอำเป็นแนวยาวกว่า 250 เมตร ทำให้ต้นสนขนาดใหญ่ล้มระเนระนาดกว่า 10 ต้น
นายกเทศมนตรีเมืองชะอำ ฝากเตือนประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวชายหาดชะอำในช่วงนี้ ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าลมมรสุม จะมีคลื่นลมทะเลซัดกัดเซาะชายฝั่งเป็นประจำทุกปี ขอให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชะอำควรงดลงเล่นน้ำชายหาดชะอำ อาจจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยวได้ สำหรับการกัดเซาะชายฝั่ง โดยในปีนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยกัดเซาะชายหาดลึกเข้ามากว่า 3 เมตร ทางด้านทิศใต้เป็นแนวยาวกว่า 200 เมตร ทำให้ต้นสนขนาดใหญ่ล้มลงเป็นจำนวนมาก
ทางเทศบาลชะอำได้มีการแก้ไขปัญหาในระยะยาว โดยการของบประมาณโดยการทำเขื่อนกัดเซาะชายหาดเป็นแนวขั้นบันได เพื่อให้ประชาชนสะดวกต่อการเดินลงไปเล่นน้ำทะเลได้อย่างปลอดภัย ทางเทศบาลชะอำ และกรมโยธาได้มีการศึกษากันมาเป็นอย่างดี เพื่อเป็นการช่วยลดความรุนแรงของกระแสคลื่นให้เบาลงได้ และไม่ให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาจจะเป็นประโยชน์ต่อชายหาดชะอำ และเป็นความสะดวกต่อนักท่องเที่ยวที่จะลงไปเล่นน้ำได้อย่างสะดวกในยามที่คลื่นลมสงบ
นายกเทศมนตรีเมืองชะอำ ก็ฝากเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงนี้ เรื่องของการดูแลตัวเองในช่วงโควิด-19 โดยขอให้หลีกเลี่ยงในจุดที่สุ่มเสี่ยงที่มีการชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก และการ์ดอย่าตก ให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้าน และควรใช้เจลล้างมืออยู่บ่อยๆ เป็นการป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อความปลอดภัยของทุกคน.
https://www.thairath.co.th/news/local/central/2011433
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
ประจวบฯ คลื่นสูง 2-4 เมตร ซัดชายหาดประจวบฯ ตลอดแนว ทำให้น้ำทะเลไหลทะลักเข้าท่วมผิวการจราจร
ประจวบคีรีขันธ์ - ผลพวงลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ คลื่นสูง 2-4 เมตร ซัดชายหาดประจวบฯ ตลอดแนว ทำให้น้ำทะเลไหลทะลักข้ามเขื่อนกันคลื่นเข้าท่วมผิวการจราจรบนถนนเลียบชายหาด ขณะที่เรือประมงชายฝั่งกว่า 100 ลำ เข้าจอดหลบคลื่นบริเวณเขาตาม่องล่าย
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640113_Mgr_01.jpg?width=590&height=370&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/b284498a-e16e-4fe8-879d-2abcc4a61d82/p/3bd40731-d347-4adf-8e51-183713c84015)
วันนี้ ( 12 ม.ค.) ที่บริเวณเขื่อนกันคลื่น ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย มีกำลังแรงอย่างต่อเนื่องตลอดแนวชายหาดยาว 8 กิโลเมตร ตั้งแต่วนอุทยานม่องล่าย ถึงด้านหน้ากองบิน 5 มีคลื่นสูง 2-4 เมตร พัดเข้าชายฝั่งทำให้น้ำทะเลไหลทะลักข้ามเขื่อนกันคลื่นเข้าท่วมผิวการจราจรบนถนนเลียบชายหาดบางช่วง ร้านค้า ร้านอาหารบริเวณแนวชายหาดต้องปิดให้บริการชั่วคราว นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนให้งดเล่นกีฬาทางน้ำทุกชนิด ขณะที่เรือประมงพาณิชย์ ประมงเรือเล็กชายฝั่งกว่า 100 ลำจอดหลบคลื่นบริเวณเขาตาม่องล่าย และบริเวณเชิงเขาล้อมหมวกภายในกองบิน 5
สำหรับชายหาดบ้านกรูด ต.ธงชัย อ.บางสะพาน แหล่งท่องเที่ยวตากอากาศชื่อดังบรรยากาศเงียบเหงา หลังจากเจ้าหน้าที่ปักธงแดงห้ามลงเล่นน้ำทะเล เพื่อป้องกันอันตรายตลอดแนวชายหาด ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดได้แจ้งไปทุกอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเลให้ระมัดระวังอันตรายที่เกิดจากลมแรงและคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง และให้สำรวจบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างบริเวณชายหาด หากได้รับความเสียหายจากคลื่นพัดถล่ม โดยเฉพาะบริเวณชายหาดบ้านทุ่งประดู่ หมู่ 2 ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก ที่มีปัญหาบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายต่อเนื่องหลายปี
https://mgronline.com/local/detail/9640000003080
*********************************************************************************************************************************************************
เต่ามะเฟือง วางไข่รังที่ 2 ของภูเก็ต! ทำสถิติใหม่ รังที่ 15 ของฤดูกาลนี้
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640113_Mgr_03.jpg?width=590&height=370&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/b284498a-e16e-4fe8-879d-2abcc4a61d82/p/ebfa1cec-a22a-452f-b441-2f918a523fd0)
เจ้าหน้าที่กำลังวัดขนาดจากร่องรอยแม่เต่ามะเฟือง
วันนี้ (12 มกราคม 2564) เมื่อเวลา 16.00 น. นายปราโมทย์ แก้วนาม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากนายวิชัย ตะการกิจ พบร่องรอยการขึ้นวางไข่ของเต่าทะเล บริเวณหาดไม้ขาว หมู่ที่ 4 ตำบลไม้ขาว ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ จึงเร่งเข้าตรวจสอบพื้นที่ ร่วมกับอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน และผู้นำชุมชน
โดยมีการขุดตรวจสอบ พบไข่เต่าทะเล ชนิดเต่ามะเฟือง ที่พิกัด 0422999E 0898093N ความลึกหลุม 55 เซนติเมตร เนื่องจากผ่านเวลาการวางไข่มาไม่น้อยกว่าสองวัน จึงไม่มีการขุดนับจำนวนหรือเคลื่อนย้าย และได้กลบหลุมเพื่อปล่อยให้ไข่มีการเพาะฟักตามธรรมชาติต่อไป
จากการวัดขนาดร่องรอย ความกว้างพายคู่หน้า 160 เซนติเมตร ความกว้างอก 100 เซนติเมตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้กั้นพื้นที่และเตรียมพัฒนาพื้นที่ เพื่อจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟือง ณ บริเวณหาดไม้ขาว อุทยานแห่งชาติสิรินาถ
ด้าน ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat อย่างยินดี ?ยืนยันแน่นอนแล้วว่า เป็นแม่เต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่ที่หาดไม้ขาว จังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่อุทยานพบไข่แล้วครับ แต่ไม่ย้าย เพราะวางไข่แล้วเกิน 24 ชม. เดี๋ยวเกิดผลกระทบ"
นับเป็นรังที่ 2 ของภูเก็ตในซีซั่นนี้ แถมยังเป็นรังแรกของหาดไม้ขาว เพลงที่พี่หงา คาราวานร้องไว้ตั้งแต่ปี 2535 ?ขอหาดไม้ขาวให้เต่ามะเฟือง? เกือบ 30 ปีให้หลัง เป็นจริงแล้วครับพี่
เมื่อดูช่วงเวลาแล้ว อาจเป็นแม่กะตะที่ตอนปีใหม่ขึ้นวางที่หาดกะตะ ซีซั่นนี้จึงกลายเป็นสถิติใหม่ 15 รังไปแล้วจ้ะ
ตอนนี้ลูกเต่าฟักมาแล้ว 3 รัง 217 ตัว เหลืออีก 12 รัง แทบการันตีได้เลยว่าชนะซีซั่นก่อนแน่นอน (351 ตัว)
มาลุ้นต่อไปเรื่อยๆ ว่าปีนี้จะถึง 20 รังมั้ย (แบบว่า...โลภมากฮะ)
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640113_Mgr_04.jpg?width=590&height=370&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/b284498a-e16e-4fe8-879d-2abcc4a61d82/p/38146877-6eb4-4a0f-b637-46925f87524b)
เอาใจช่วยแม่เต่ามะเฟือง ด้วยการลดขยะใช้แล้วทิ้ง/ขยะทะเล ฝากพี่ๆ ที่ภูเก็ตช่วยกันดูแลรังนี้และรังที่กะตะด้วยนะฮะ แล้วมาช่วยกันลุ้นว่า ซีซั่นนี้แม่เต่าจะทำสถิติใหม่ที่ภูเก็ตได้ไหม (ซีซั่นก่อน 3 รัง ซีซั่นนี้ 2 รังแล้วจ้ะ)
https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9640000003168
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
เร่งหาเบาะแส !!! สลักชื่อ "TRUMP" บนหลัง "พะยูน"
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640113_Mgr_05.jpg?width=590&height=370&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/b284498a-e16e-4fe8-879d-2abcc4a61d82/p/f9f2d3ac-9a0f-49a1-b6af-a77d227deb72)
หน่วยดูแลสัตว์น้ำและสัตว์ป่าแห่งสหรัฐอเมริกา (The U.S. Fish and Wildlife Service หรือ USFWS) กำลังตรวจสอบการคุกคามพะยูนตัวหนึ่ง เพราะเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหน่วยงานของรัฐบาลกลาง สหรัฐฯ ได้รับรายงานว่า มีการค้นพบคำว่า "TRUMP" (ทรัมป์) ที่ด้านหลังของพะยูนตัวหนึ่ง ซึ่งอยู่ใน Blue Hole ต้นน้ำของแม่น้ำโฮโมซาสซา จึงมีการประกาศให้ผู้ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แจ้งข้อมูลโดยโทรสายด่วน คณะกรรมการอนุรักษ์สัตว์น้ำและสัตว์ป่าฟลอริดา หรือ Florida Fish and Wildlife Conservation Commission ที่หมายเลข 888-404-FWCC (3922)
Craig Cavanna เจ้าหน้าที่สัตว์ป่าอาวุโสของรัฐบาลกลาง ในฐานะเจ้าหน้าที่สืบสวน กล่าวว่า การล่วงละเมิด "พะยูน" ซึ่งได้รับการคุ้มครองโดยพระราชบัญญัติสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เป็นความผิดทางอาญา มีโทษปรับ 50,000 ดอลลาร์และ/หรือ จำคุกสูงสุดเป็นเวลา 1 ปี
ที่มา - "Federal officials seek information on manatee harassment" https://www.chronicleonline.com
https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9640000002996
*********************************************************************************************************************************************************
"โลมาแม่น้ำคงคา" ถูกรุมตีอย่างโหดร้าย วิดีโอบันทึกภาพชัด
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640113_Mgr_06.jpg?width=590&height=370&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/b284498a-e16e-4fe8-879d-2abcc4a61d82/p/dee34d4a-5df6-4f75-a50b-3305ed03d6f6)
โลมาน้ำจืดแห่งแม่น้ำคงคา (Gangetic Dolphin) ถูกทุบตีทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่คลองชาร์ดา ( Sharda) ในรัฐอุตตรประเทศ ของอินเดีย เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563 และเมื่อวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ออกไปบนสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และประณามอย่างกว้างขวาง จนกระทั่ง เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตำรวจในรัฐอุตตรประเทศ ได้จับกุมชาย 3 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุทารุณกรรมดังกล่าวมาดำเนินคดี
โลมาน้ำจืดแม่น้ำคงคา มีถิ่นอาศัยในแม่น้ำคงคา ประเทศอินเดีย และแม่น้ำอินดัส ประเทศปากีสถาน เป็นสัตว์สงวนใกล้สูญพันธ์ ปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณ 5,000 ตัว เท่านั้น
https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9640000002922
vBulletin® v3.8.10, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions, Inc.