สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2564

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันนี้ (17 ม.ค. 64) ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลงและมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 17-20 ม.ค. 64


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็น กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 17 - 19 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 4 - 6 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 20 - 22 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-6 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 20 ? 22 ม.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย ในช่วงวันที่ 17 - 19 ม.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันออกขอให้ประชาชนบริเวณที่อาศัยอยู่ตามบริเวณชายฝั่งระมัดระวังอัตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือบริเวณอ่าวไทยขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640117_Forecast.jpg?width=590&height=370&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/b284498a-e16e-4fe8-879d-2abcc4a61d82/p/4c05437e-449f-44c0-8ec4-f4ffd58d8d09)


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640117_Wave&Sat.jpg?width=590&height=370&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/b284498a-e16e-4fe8-879d-2abcc4a61d82/p/ec604a8a-fcc9-4ba4-bbbb-92232dbeed04)

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


เศร้า! พบซากพะยูนลอยอืดกลางทะเลกระบี่ เขี้ยวหายไปอีกแล้ว คาดมีคนลักตัดไปทำเครื่องรางของขลังตามความเชื่อ

กระบี่ - พบซากพะยูน อายุประมาณ 5 ปี กลางทะเล จ.กระบี่ สภาพเริ่มเน่าเปื่อย มีรอยคล้ายถูกเชือกอวนรัดตามลำตัว เขี้ยวหายไป คาดมีคนลักลอบถอดออกไปทำเครื่องรางของขลังตามความเชื่อ

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640117_Mgr_01.jpg?width=590&height=370&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/b284498a-e16e-4fe8-879d-2abcc4a61d82/p/da7869d7-647a-45f8-ac3c-6eab74cb402a)

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (16 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจังหวัดตรัง ได้รับแจ้งจากนายภูวดล เหล่ชาย เครือข่ายประมงพื้นบ้านไหนหนัง ม.3 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ ว่า ขณะที่ออกทำประมงในเขตพื้นที่ทะเล ต.เขาทอง อ.เมืองกระบี่ พบซากพะยูนลอยตายอยู่กลางทะเลบริเวณทางทิศใต้เกาะปาไลต์ จึงได้ประสานงานกับทีมงานเครือข่ายชาวประมงในพื้นที่ช่วยขนย้ายซากพะยูนตัวดังกล่าวมายังท่าเรือบ้านไหนหนัง

จากการเข้าตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า เป็นพะยูนเพศผู้ ขนาดยังไม่โตเต็มวัย อายุประมาณ 5 ปี วัดความยาวประมาณ 190 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม สภาพซากเริ่มเน่าเปื่อย ผิวหนังหลุดลอก มีรอยคล้ายถูกเชือกอวนรัดตามลำตัว คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 วัน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการตรวจสอบเขี้ยวของพะยูน แต่ไม่พบ คาดว่าน่าจะมีคนลักลอบถอดออกไปก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการขนย้ายซากพะยูนกลับไปยังศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจังหวัดตรัง ชันสูตรซากเพื่อวินิจฉัยสาเหตุการตายอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามเครือข่ายประมงพื้นบ้าน พบว่า พะยูนที่ตายเจอกลางทะเลส่วนใหญ่เขี้ยวจะหายไป ไม่ทราบว่ามีคนแอบลักลอบตัดเอาไปทำอะไร แต่เท่าที่รู้คาดว่าเอาไปทำของขลังตามความเชื่อที่มีการพูดต่อๆ กันมา


https://mgronline.com/south/detail/9640000004511


*********************************************************************************************************************************************************


ภาพสุดสะพรึง!ภูเขาไฟปะทุในอินโดฯ พ่นเถ้าถ่านดำทะมึนสูงเสียดฟ้า

TNiHU8nOS5c


ภูเขาไฟลูกหนึ่งในจังหวัดชวาตะวันออกของอินโดนีเซีย เกิดปะทุอย่างน่ากลัวเมื่อวันเสาร์(16ม.ค.) พ่นเถ้าถ่านและกลุ่มควันลอยสู่ท้องฟ้า สูงราวๆ 5.6 กิโลเมตร ตามข้อมูลจากสำนักงานธรณีวิทยา กระทรวงพลังงานของอินโดนีเซีย

อินโดนีเซียมีภูเขาไฟที่ยังมีพลังอยู่เกือบๆ 130 ลูก มากกว่าประเทศไหนๆในโลก และจำนวนมากมักพบเห็นความเคลื่อนไหวในระดับสูง หลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ก่อนเกิดการปะทุรุนแรง

ภูเขาไฟเซเมรู เกิดการปะทุรอบใหม่ตอนเวลาประมาณ 17.00น.ของวันเสาร์(16ม.ค.) และวิดีโอที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ในเวลาต่อมา พบเห็นกลุ่มควันเถ้าถ่านสีเทาเข้ม ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงราวๆ 5.6 กิโลเมตร ปกคลุมหมู่บ้านต่างๆที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง

อย่างไรก็ตามสำนักงานบรรเทาภัยบิพัติของอินโดนีเซียยังไม่ออกมาตอบคำถามของผู้สื่อข่าว ที่ถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการอพยพประชาชนพ้นจากพื้นที่เสี่ยงภัย

ภาพอันน่าหวาดหวั่นของภูเขาไฟเซเมรู มีขึ้นไม่นาน หลังจากภูเขาไฟอื่นๆ อย่างเช่นภูเขาไฟเมราปี บนเกาะชวาและภูเขาไฟซินาบุง เพิ่งส่งสัญญาณแห่งความเคลื่อนไหวเมื่อเร็วๆนี้

เซเมรู เหรือที่เรียกว่า "The Great Mountain" เป็นหนึ่งในภูเขาไฟสูงสุดในชวา และเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่มีพลังมากที่สุด นอกจากนี้แล้วมันยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของการไต่เขาเพื่อการท่องเที่ยวของอินโดนีเซียด้วย

ก่อนหน้านี้ เซเมรู เคยปะทุเมื่อเดือนธันวาคม โดยคราวนั้นส่งผลให้ต้องอพยพชาวบ้านราว 500 คน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสัปดาห์เดียว อินโดนีเซียต้องเจอทั้งดินถล่มหลายจุด แผ่นดินไหวคร่าชีวิตผู้คนบนเกาะสุลาเวสี และเครื่องบินโบอิ้ง 737 ของศรีวิจายาแอร์ ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือ 62 คน ประสบอุบัติเหตุตกลงสู่ทะเล


https://mgronline.com/around/detail/9640000004627