เข้าระบบ

View Full Version : สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม 2564


สายน้ำ
28-05-2021, 03:08
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่เกิดขึ้นในระยะนี้

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรงดการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 27 - 28 พ.ค. 64 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยบริเวณทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 - 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 29 พ.ค.- 2 มิ.ย. 64 ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนลดลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณทะเลอันดามันคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 27 - 28 พ.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทย ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640528_Forecast.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/9972ad40-8ea5-4cab-b699-3860d004c48c/p/24f40c67-83b2-498d-a526-8e2147fe8fe2)


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640528_Sat1.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/9972ad40-8ea5-4cab-b699-3860d004c48c/p/94f6b1c0-8f51-4d88-a277-cb2b5b4dd57c)


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640528_Warning.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/9972ad40-8ea5-4cab-b699-3860d004c48c/p/501a0b1c-0fe6-435b-b646-492813cb76b3)


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640528_Warning02.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/9972ad40-8ea5-4cab-b699-3860d004c48c/p/290ceeba-7350-4899-b655-971a9e1a775a)

สายน้ำ
28-05-2021, 03:41
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


ผ่านฉลุย!! ทดสอบขนรถบรรทุกบนเรือ'สัตหีบ-สงขลา'

"กรมเจ้าท่า"?นำรถเทรเลอร์-รถบรรทุกขึ้นทดสอบความพร้อมระบบการขนถ่ายรถบนเรือ?The Blue Dolphin?เส้นทางเดินเรือ "สัตหีบ-สงขลา" ผ่านฉลุย เสริมความเชื่อมั่นผู้ใช้บริการ เล็งขยายเส้นทางเพิ่มไป จ.ประจวบคีรีขันธ์ หนุนศักยภาพขนส่งทางน้ำ อีอีซีเชื่อมใต้?

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640528_Dailynews_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/9972ad40-8ea5-4cab-b699-3860d004c48c/p/0d1fb382-bd73-49cd-af7e-19b3e99f7a51)

นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า?(จท.)?เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ดำเนินการตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในการแก้ไขปัญหาการจราจรทางบกติดขัด ลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก?(PM?2.5)?และเพิ่มทางเลือกในการขนส่งสินค้า กรมฯ ร่วมมือกับบริษัท ซีฮอร์ส เฟอร์รี่ จำกัด ผลักดันให้เกิดโครงการเรือเฟอร์รี่ข้ามอ่าวระหว่าง จ.ชลบุรี กับ จ.สงขลา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการในด้านความปลอดภัย และเตรียมความพร้อมสำหรับให้บริการจริงแก่ประชาชน??

โดยจะนำเรือ?The Blue Dolphin?หมายเลขทะเบียนเรือ 640000020 ขนาดความยาว 136.6 เมตร กว้าง 21 เมตร ขนาด 7003 ตันกรอส สามารถบรรทุกรถ 10 ล้อ ได้ครั้งละ 80 คัน รถยนต์ส่วนบุคคลได้ 15-20 คัน คนประจำเรือ 30 คน บรรทุกคนโดยสารได้ 586 คน โดยสามารถทำความเร็วได้ประมาณ 18-20 น็อตมาให้บริการ โดยวันนี้ (27 พ.ค.64) กำหนดการทดสอบการเดินเรือออกจากท่าเทียบเรือบริษัท เซ้าท์เธิร์นโลจิสติกส์ จำกัด ปากร่องน้ำสงขลา เวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 26 พ.ค.64 เดินทางถึงท่าเรือจุกเสม็ด อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เวลาประมาณ 11.20 น. ใช้เวลาประมาณ 22 ชม. 20 นาที เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในการนี้ได้ทดลองนำรถเทรเลอร์ จำนวน 1 คัน และรถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 1 คัน เพื่อทดสอบความพร้อมของระบบการขนถ่ายรถฯ ให้เกิดความสะดวก ปลอดภัยอย่างสูงสุด??

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640528_Dailynews_02.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/9972ad40-8ea5-4cab-b699-3860d004c48c/p/ab2835dc-1581-4d28-84bd-a68c1198db08)

ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำแผนจัดการฉุกเฉินระหว่างการเดินทางจาก ท่าเรือสงขลามายังสัตหีบ โดยวางแผนการดำเนินการให้สามารถติดต่อสื่อสารกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สถานีนำร่อง ปตท. กลางทะเล ศรชล.?Port control Sriracha VTS?สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลา ได้ตลอดเส้นทางการเดินทาง และเมื่อแผนฯ แล้วเสร็จจะดำเนินการฝึกซ้อมการอพยพคนระหว่างการเดินทางอีกครั้ง??

นอกจากนี้เรือ?The Blue Dolphin?ยังมีแผนจะขยายเส้นทางเชื่อมโยงเข้ากับ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในระยะต่อไปด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) เข้ากับระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (Southern Economic Corridor : SEC) ช่วยเพิ่มศักยภาพของการขนส่ง ทางน้ำ ลดต้นทุนและอุบัติเหตุจากการขนส่งทางบก และลดปัญหามลพิษฝุ่นละออง (PM?2.5) ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม อันจะเป็นประโยชน์ทั้งในด้านการขนส่งและการท่องเที่ยวทางทะเลได้อย่างยั่งยืน


https://www.dailynews.co.th/economic/846142

สายน้ำ
28-05-2021, 03:43
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


โลกร้อนจ่อเส้นตาย นักวิทย์ชี้โอกาสทะลุร้อยละ40ภายใน5ปี

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640528_Khaosod_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/9972ad40-8ea5-4cab-b699-3860d004c48c/p/e2dd2b3f-958b-4229-8018-a74fec27db08)

โลกร้อนจ่อเส้นตาย ? วันที่ 27 พ.ค. เอพีรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์เตือนปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หรือโลกร้อน เข้าใกล้จุดที่ไม่สามารถแก้ไขได้หลังพบมีโอกาสร้อยละ 40 ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ที่อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกจะพุ่งทะลุ 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นเส้นตายที่ชาติทั่วโลกตกลงกันไว้ว่าจะดำเนินการช่วยกันหยุดยั้งไม่ให้เกินเส้นตายดังกล่าวในข้อตกลงปารีส

ข้อมูลดังกล่าวมาจาก World Meteorological Organization (WMO) หรือองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก พยากรณ์ว่ามีโอกาสถึงร้อยละ 90 ที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะสูงทำสถิติใหม่ภายในปี 2568 ขณะที่พายุในมหาสมุทรแอตแลนติกจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับการพยากรณ์สภาพภูมิอากาศของปี 2564 ทาง WMO ระบุว่า เขตอบอุ่นซีกเหนือของโลกจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยมากขึ้น 1.4 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับช่วงหลายสิบปีก่อนหน้านี้ และสถานการณ์ภัยแล้งทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาจะยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง

ที่น่ากังวลที่สุด คือ WMO พบโอกาสเป็นไปได้ถึงร้อยละ 40 ที่ปีใดปีหนึ่งในช่วง5ปีต่อจากนี้ โลกจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยเพิ่มเป็น 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นเส้นตายในข้อตกลงปารีสปี 2559 โดยในตอนนั้นอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นมาแล้วถึง 1.2 องศาเซลเซียส

รายงานระบุว่า เมื่อปี 2563 ทาง WMO พยากรณ์ไว้ในลักษณะคล้ายกัน แต่พบโอกาสเพียงร้อยละ 20 โดยการเพิ่มขึ้นของความเป็นไปได้เท่าตัวนั้นมาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ซึ่งนำไปสู่การค้นพบว่า สถานการณ์โลกร้อนนั้นเลวร้ายกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้มาก และมนุษย์จำเป็นจะต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด และรวดเร็ว หากต้องการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

นายไมเคิล แมนน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพภูมิอากาศ จากมหาวิทยาลัยรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ตนค่อนข้างมั่นใจว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะทะลุเส้นตายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าแน่นอน

อย่างไรก็ตาม นายแมนน์ ระบุว่า การที่อุณหภูมิเฉลี่ยทะลุเส้นตายแค่บางปีนั้นไม่น่ากังวลเท่ากับเมื่อแนวโน้มอุณหภูมิเฉลี่ยเริ่มคงตัวที่เส้นตาย หรือเหนือเส้นตายขึ้นไป ซึ่งคิดว่าน่าจะยังเหลือเวลาอีกอย่างน้อย 10 ปี ถือเป็นโอกาสสุดท้ายของมนุษยชาติ


https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6422134

สายน้ำ
28-05-2021, 03:46
ขอบคุณข่าวจาก คม ชัด ลึก


นักตกปลาเซอร์ไพรส์คิดว่ากระเบนติดเบ็ด ดึงขึ้นมาเป็นแอลลิเกเตอร์

ตกได้ตัวใหญ่แต่ไม่ใช่ปลากระเบนอย่างที่คิด กลายเป็นแอลลิเกเตอร์ยาวกว่า 2 เมตร

SD_AUvRR5Rc

รอเบิร์ต เบิร์ชเมียร์ ออกไปตกปลาที่เมอร์เรลส์ อินเล็ต ในรัฐเซาท์คาโรไลนา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมีอะไรบางอย่างมาติดเบ็ด ซึ่งจากพฤติกรรมเขาคิดว่าน่าจะเป็นปลากระเบน ซึ่งเป็นปลาที่พบทั่วไปในแถบนั้น ก่อนจะต้องอุทานด้วยความประหลาดใจสุดขีด เพราะเมื่อสาวเบ็ดขึ้นมายังผิวน้ำ กลับพบว่าเป็นแอลลิเกเตอร์ ความยาวประมาณ 2 เมตร ? 2 เมตรครึ่งที่โดนเบ็ดเกี่ยวที่ขาหลัง

เบิร์ชเมียร์ กำลังตกปลาจากเรือคายักในลุ่มน้ำเค็มใกล้มหาสมทุรแอตแลนติก ซึ่งเป็นจุดที่เขาออกไปตกปลาหลายร้อยครั้งแล้ว แต่ไม่เคยตกได้แอลลิเกเตอร์มาก่อน ในวันนั้น สีน้ำค่อนข้างขุ่น มองเห็นลึกได้ไม่ถึง 1 ฟุต จึงไม่รู้เลยเป็นอะไร กระทั่งดึงขึ้นมาบนผิวน้ำแล้ว สุดท้าย แอลลิเกเตอร์สลัดเบ็ดจนหลุด และว่ายน้ำออกไป

ไกด์พายเรือคายัก และเจ้าของ Pawley?s Island Beach to Creek กล่าวด้วยว่า ประสบการณ์ครั้งนี้ไม่มีผลทำให้เขาเลิกตกปลาจากเรือคายัก สิ่งที่เขาบอกใครต่อใครก็คือ ยังมีเรื่องน่ากังวลยิ่งกว่าแอลลิเกเตอร์ เช่น แดดเผา มดคันไฟและเปลือกหอยนางรม

แอลลิเกเตอร์ เป็นสัตว์น้ำจืด แต่สามารถอยู่ในน้ำเค็มได้หลายชม.หรือหลายวัน ก่อนกลับไปยังสภาพแวดล้อมเดิม มันมักออกไปว่ายในน้ำกร่อยเพื่อหาอาหาร เช่น ปู ปลากระเบน หรือแม้แต่ฉลาม


https://www.komchadluek.net/news/foreign/468244

สายน้ำ
28-05-2021, 03:58
ขอบคุณข่าวจาก GREENPEACE


เหมืองทะเลลึก : อุตสาหกรรมที่แขวนชีวิตสัตว์ทะเลไว้บนเส้นด้าย ...................... โดย Louisa Casson

มหาสมุทรทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมรอบด้าน ทั้งวิกฤตภูมิอากาศ มลภาวะพลาสติก ไปจนถึงประมงทำลายล้าง แต่แค่นี้ยังไม่พอ เพราะล่าสุดบริษัทอุตสาหกรรมเตรียมส่งเครื่องจักรลงสู่ก้นมหาสมุทรเพื่อทำเหมืองใต้ทะเลลึก

ใต้ทะเลลึกยังหลงเหลือสิ่งมหัศจรรย์ให้มนุษย์ศึกษาและเรียนรู้อีกมาก ทั้งระบบนิเวศขนาดมหึมา เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาชนิดที่เรายังไม่ทันได้รู้จัก แต่การส่งเครื่องจักรขนาดใหญ่ลงไปไม่เพียงกระทบต่อสัตว์เหล่านี้ เพราะนั่นรวมไปถึงระบบกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ของโลก ซึ่งอาจทำให้วิกฤตสิ่งแวดล้อมที่เรากำลังเผชิญอยู่แย่ลงไปอีก


มหัศจรรย์ใต้ทะเลลึก

ลึกลงไปหลายร้อยเมตรใต้ท้องทะเลมีปล่องภูเขาไฟที่ร้อนถึง 400 องศาเซลเซียส บริเวณนี้เป็นที่อยู่อาศัยของ ลิ่นทะเล (sea pangolin) สัตว์ทะเลน้ำลึกที่มีสมญานามว่า "ไอรอนแมนแห่งมหาสมุทร"

มันถูกเรียกแบบนั้นเพราะเปลือกอันแข็งเกร่งที่ห่อหุ้มตัวปกป้องมันจากอันตราย ด้านบนสุดของเปลืองประกอบด้วยไอรอนซัลไฟด์ และสิ่งมหัศจรรย์ของลิ่นทะเลอีกอย่างคือ มันไม่กินอาหารเลย ลิ่นทะเลอาศัยแบคทีเรียที่อาศัยในเปลือกผลิตพลังงานหล่อเลี้ยงชีวิตของมัน

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640528_Greenpeace_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/9972ad40-8ea5-4cab-b699-3860d004c48c/p/d4696110-f644-4578-86f8-346bc1f59fdc)
ลิ่นทะเล ?KNakamura/CC by 2.5

สิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ใต้น้ำลึกอีกอย่างคือปูเยติ (Yeti Crab) ปูเยติได้ชื่อมาจากมนุษย์หิมะในตำนานที่มีแขนยาวขนหนา ปูเยติดำรงชีวิตโดยการสร้างจุลินทรีย์ขึ้นมาบนขนแขนโดยโบกมือไปมาตามจังหวะใต้น้ำ และเพราะสภาพแวดล้อมที่สุดขั้ว สัตว์เหล่านี้แทบจะต้องปรับตัวรายวันเพื่อให้อยู่รอด

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640528_Greenpeace_02.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/9972ad40-8ea5-4cab-b699-3860d004c48c/p/12b276be-3d51-4f28-beec-f9f61f465b55)
ปูเยติ ?David Shale/naturepl.com

ปูเยติที่ยังเด็กต้องอาศัยน้ำที่เย็นถึงจะรอด แม่ของพวกมันเลยต้องออกจาก "พื้นที่ปลอดภัย" ของตัวเองเพื่อไปสืบพันธุ์ แต่ความหนาวเหน็บก็ค่อยๆกัดกินชีวิตของแม่ปูเยติ ด้วยเหตุนี้ทำให้การสืบพันธุ์ "เป็นครั้งแรกและครั้งเดียว" ของมัน

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640528_Greenpeace_03.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/9972ad40-8ea5-4cab-b699-3860d004c48c/p/85da403d-d1ac-441c-9f10-b077f32ae4da)
หมึกผี ?NOAA Public Domain

พูดเลยมาถึงเรื่องการสืบพันธุ์แล้ว เลยขอเล่าเรื่องสืบพันธุ์ที่น่าสนใจอีกหน่อย หมึกผี (Ghost Octopus) อีกสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึก มักวางไข่บนฟองน้ำที่ตายแล้ว หลังจากวางไข่แล้ว มันจะใช้ทั้งตัวทั้งตัวคลุมไข่เอาไว้ และต้องรออีกหลายปีกว่าลูกๆของมันจะฟักไข่ โดยระหว่างนั้นมันไม่ได้กินอาหารเลย ทำให้ระหว่างฟักไข่มันจึงค่อยๆอ่อนแอและตายไป


สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึกกำลังเผชิญกับอันตราย

ในขณะที่มนุษย์ควรสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนแทนการล้างผลาญแหล่งทรัพยากรใหม่ๆ แต่บริษัทอุตสาหกรรมจำนวนหนึ่งกลับเตรียมทำเหมืองใต้ทะเลลึก สิ่งที่พวกเขาต้องการคือก้อนโพลีเมทัลลิก (polymetaalic nodules) ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่นำใช้ผลิตโทรศัพท์ โน๊ตบุ๊ค หรือแบตเตอรี่ ทั้งที่ขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นหนึ่งในกลุ่มขยะที่กำลังเพิ่มจำนวนมากที่สุด

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640528_Greenpeace_04.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/9972ad40-8ea5-4cab-b699-3860d004c48c/p/243ecec9-f295-49ec-a5bd-a814ec259df5)
กรีนพีซจัดแสดงคุณค่าของขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยนำโทรศัพท์มือถือมาวางเรียงกันในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง จีน ? Greenpeace / Yan Tu

ตอนนี้บริษัทพวกนี้เตรียมส่งจักรกลลงสู่บ้านของสัตว์ใต้ทะเลลึก แน่นอนว่าจะกระทบต่อระบบนิเวศใต้ทะเลที่บอบบาง ระบบนิเวศที่ทุกวันนี้เรายังเข้าใจเพียงผิวเผินเท่านั้น เหมืองใต้ทะเลลึกจะเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศนี้ไปอย่างสิ้นเชิง คุกคามสายพันธุ์สัตว์น้ำนับไม่ถ้วนที่ยังไม่มีการค้นพบ นอกจากนั้นการทำเหมืองใต้ทะเลลึกยังมีโอกาสทำลายระบบกักเก็บคาร์บอนใต้ทะเล ส่งผลให้วิกฤติสภาวะอากาศในปัจจุบันแย่ลงไปอีก

ตอนนี้หลายๆรัฐบาลกำลังอยู่ในขั้นตอนตัดสินใจ ผลลัพธ์จากการตัดสินใจนี้จะชี้ชะตาทรัพยากรในอนาคต โชคดีของเราคือ ตอนนี้เหมืองใต้ทะเลลึก "ยัง" ไม่เกิด และเราปล่อยให้มันเกิด "ไม่ได้"

สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือร่วมผลักดันให้เกิด "เขตคุ้มครองระบบนิเวศทางทะเล" โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องมหาสมุทรโลกอย่างน้อย 1 ใน 3 ส่วนให้ได้ภายในปี พ.ศ.2573 เขตคุ้มครองระบบนิเวศนี้จะเกิดขึ้นได้ผ่าน สนธิสัญญาทะเลหลวง


https://www.greenpeace.org/thailand/story/19958/ocean-sanctuaries-secretive-industry-is-putting-sea-creatures-at-risk/