View Full Version : สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป
ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนเริ่มมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันงดออกจากฝั่งในระยะนี้
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
คาดหมาย
ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ตลอดช่วง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยจะมีฝนฟ้าคะนองกระจาย กับมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น บริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร และ บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 11 ? 14 มิ.ย. 64 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย อย่างต่อเนื่อง
ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนงดออกจากฝั่งในระยะนี้
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640609_Forecast1.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/6f61357c-8782-4ba0-ac57-e125bbf9ea06/p/66a4da4f-726f-48ad-9e73-43d82a4bf7c8)
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640609_Wave_Sat.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/6f61357c-8782-4ba0-ac57-e125bbf9ea06/p/2ca62520-c2b1-49ab-8b48-63c634d25cfb)
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640609_Warning02.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/6f61357c-8782-4ba0-ac57-e125bbf9ea06/p/e1d5584b-391d-4040-a67b-66aa194b1993)
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
เปิดตัวโครงการเพื่อฟื้นฟูแนวปะการังที่ตายแล้ว ด้วยเทคโนโลยี
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640609_Thairath_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/6f61357c-8782-4ba0-ac57-e125bbf9ea06/p/b0c221c7-2c79-48eb-90b2-863c65af3439)
แนวปะการังมีความสำคัญคือสนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลมากกว่า 25% เปรียบเสมือนอาคารที่พักของสิ่งมีชีวิตหลายสายพันธุ์ โดยอาศัยอยู่ในแต่ละชั้นตั้งแต่ชั้นใต้ดินจนถึงชั้นบนสุด ทว่าภาวะโลกร้อนมีส่วนทำให้แนวปะการังทั่วโลกลดลง เมื่อเร็วๆนี้ เดบอราห์ บรอสแนน นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล เผยสิ่งน่าตื่นตระหนกเมื่อพบว่าแนวปะการังใกล้เกาะแซ็ง-บาร์เตเลมี ในทะเลแคริบเบียน ได้ตายลงและไม่มีสัตว์ทะเลหลงเหลือหลังจากเผชิญกับพายุเฮอริเคนเออร์มาในปี พ.ศ.2560
นักวิทยาศาสตร์พยายามหาหนทางแก้ปัญหา ซึ่งล่าสุดมีโครงการ "โอเชียน-ช็อต" (Ocean-Shot) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก จอห์น พอล เดอโจเรีย เจ้าพ่อผลิตภัณฑ์ด้านเส้นผมพอล มิทช์เชลล์ เปิดตัวเป็นโครงการที่จะฟื้นฟูแนวปะการังใหม่ ด้วยการใช้เทคโนโลยีเลียนแบบการสร้างและเลียนแบบรูปทรงของแนวปะการังตามธรรมชาติ เพื่อให้โอกาสในการตั้งอาณานิคมของปะการังและสัตว์ทะเลอื่นๆ ซึ่งแนวปะการังที่สร้างขึ้นนี้จะช่วยปกป้องชุมชนชายฝั่งใกล้เคียงจากคลื่น พายุ และการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล
ทั้งนี้ โครงการโอเชียน-ช็อต กำลังเริ่มดำเนินการในพื้นที่ที่มีแนวปะการังที่ตายแล้ว นอกชายฝั่งของประเทศในแถบทะเลแคริบเบียน อย่างแอนติกาและบาร์บูดา และจะทำในแบบเดียวกันกับพื้นที่อื่นๆ รวมถึงละตินอเมริกา ซึ่งถ้าประสบความสำเร็จก็จะมีการขยายขอบเขตไปยังภูมิภาคอื่นๆต่อไป.
https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2110300
ขอบคุณข่าวจาก มติชน
"SHEBA" เปิดตัว "Hope Reef" โครงการฟื้นฟูปะการังใหญ่สุดในโลก
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640609_Matichon_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/6f61357c-8782-4ba0-ac57-e125bbf9ea06/p/8c7cb028-ea08-4836-a8ab-844ed03c346e)
"SHEBA" เปิดตัว "Hope Reef" โครงการฟื้นฟูปะการังใหญ่สุดในโลก
นายรัชกร เจนพัฒนพงศ์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยและอินโดจีน มาร์สไทยแลนด์อิงค์ ผู้ดำเนินธุรกิจอาหารแมวและขนมแมวเกรดพรีเมี่ยมแบรนด์ SHEBA กล่าวว่า แนวปะการังนับว่ามีความสำคัญต่อระบบนิเวศในมหาสมุทร เนื่องจากเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลจำนวนมาก แต่ปัจจุบันแนวปะการังกำลังถูกคุกคามอย่างรุนแรงจากการแสวงหาผลประโยชน์ การทำประมงที่ไม่ถูกวิธี รวมไปถึงมลพิษและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยเหตุนี้ มารส์ อินคอร์ปอเรทเต็ดจึงได้ริเริ่มโครงการฟื้นฟูปะการัง Hope Reef ขึ้นในปี 2562 เพื่อฟื้นฟูแนวปะการังขนาดใหญ่ซึ่งมีผลกับระบบนิเวศที่เกี่ยวเนื่องกัน โดยอาศัยความร่วมมือระดับโลก ทั้งจากรัฐบาล มหาวิทยาลัย ภาคธุรกิจ และองค์กรพัฒนาเอกชน
ภายใต้โครงการ Hope Reef ได้ดำเนินการฟื้นฟูแนวปะการังบริเวณนอกชายฝั่งซูลาเวซี ประเทศอินโดนีเซีย บนแท่นแนวปะการังซาลิซี เบซาร์ ใกล้กับเกาะบอนโตซัว โดยใช้นวัตกรรม 'Reef Star' ซึ่งเป็นโครงสร้างเหล็กรูปดาวทำด้วยมือ ภายใต้ชื่อ Mars Assisted Reef Restoration System (MARRS) วัสดุของดาวแนวปะการังนั้นมาจากแหล่งในท้องถิ่นและทำด้วยมือของชุมชนท้องถิ่นบอนโตซัว โดย SHEBA?
นายรัชกรกล่าวว่า นอกจากนี้ แนวปะการังดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเป็นตัวสะกดคำว่า H-O-P-E ที่แปลว่า ความหวัง มีขนาด 45?15 เมตร เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้โลกได้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกสามารถเกิดขึ้นได้ภายในช่วงชีวิตของเรา และความหวังนั้นก็สามารถเติบโตได้ ซึ่งสามารถมองเห็นได้จาก Google Earth โดยบริษัทแม่อย่าง มาร์ส อินคอร์ปอเรทเต็ด ได้ตั้งเป้าหมายในการฟื้นฟูแนวปะการังตามจุดต่างๆ ทั่วโลกให้ได้มากกว่า 185,000 ตารางเมตร ซึ่งเท่ากับขนาดของสระว่ายน้ำโอลิมปิกประมาณ 148 สระ ภายในสิ้นปี 2572
"เรียกได้ว่า Hope Reef เป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศที่สำคัญ และเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังสำหรับอนาคตของมหาสมุทร โดยมารส์ หวังว่าโครงการ Hope Reef จะสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกภาคส่วน ได้เห็นความสำคัญของการดูแลระบบนิเวศ และร่วมกันกู้คืนที่อยู่อาศัยและความหลากหลายทางชีวภาพที่สูญเสียไป ซึ่งการเข้าร่วมโครงการดังกล่าว เป็นไปตามแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มุ่งสร้างความยั่งยืน ซึ่งมารส์ทราบดีว่าผู้บริโภคไม่เพียงคาดหวังอาหารคุณภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังต้องการแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อมด้วย โดยนับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการฟื้นฟูปะการัง Hope Reef จนถึงปัจจุบัน แนวปะการังรอบเกาะบอนโตซัว ได้เพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 55% ความอุดมสมบูรณ์ของปลาเพิ่มขึ้น 300% อีกทั้งยังได้เห็นสัตว์น้ำสายพันธุ์ต่างๆ เช่น ฉลาม และเต่า กลับมายังพื้นที่นี้ด้วย" นายรัชกร กล่าว
ขอเชิญชวนผู้รักสัตว์เลี้ยงทุกคน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูแนวปะการัง และร่วมสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์เพียงชมและแชร์วิดีโอ #hopegrows: The Film That Grows Coral ผ่านช่อง Youtube ของ SHEBA? โดยทุกยอดการรับชมจะเปลี่ยนเป็นเงินทุนเพื่อการฟื้นฟูแนวปะการัง ผ่านทางองค์กร The Nature Conservancy เนื่องในวันมหาสมุทรโลก SHEBA? ได้เปิดตัวแอพ iOS ตัวแรกที่ชื่อ SHEBA Hope Grows ซึ่งจะพาทุกคนไปสัมผัสประสบการณ์ 3 มิติ ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแนวปะการังได้จากทุกที่ทั่วโลก เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและฟื้นฟูแนวปะการังของคุณเอง ด้วยการติดตั้งนวัตกรรม Reef Stars เสมือนจริง หลังจากนั้น สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ในบริเวณนั้นจากเศษหินที่แห้งแล้งไปสู่สภาพแวดล้อมทางทะเลที่หลากหลายและอุดมสมบูรณ์
https://www.matichon.co.th/economy/news_2766138
*********************************************************************************************************************************************************
คอลัมน์ แกะรอยต่างแดน : เดนมาร์ก เตรียมสร้างเกาะเทียม "ไลเนตโฮล์ม"
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640609_Matichon_02.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/6f61357c-8782-4ba0-ac57-e125bbf9ea06/p/5bb2865f-adb4-404a-8414-1e5f9b2887c0)
รัฐสภาเดนมาร์ก ได้อนุมัติให้มีการสร้างเกาะเทียม "ไลเนตโฮล์ม" ขึ้น ในกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของเดนมาร์ก เพื่อทำหน้าที่ในการปกป้องท่าเรือโคเปนเฮนเกน จากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศโลก ที่ทำให้น้ำทะเลสูงขึ้น
โดยจะมีการสร้างถนนวงแหวน อุโมงค์และรถไฟฟ้า เพื่อเชื่อมต่อระหว่างเกาะเทียม กับเกาะใหญ่ของเดนมาร์ก
ซึ่งเนื้อที่ของเกาะเทียมแห่งนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 2.6 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่บริเวณตอนเหนือของกรุงโคเปนเฮเกน และรองรับประชากรอยู่อาศัยได้ราว 35,000 คน
รัฐบาลเดนมาร์กระบุว่า โครงการสร้างเกาะเทียมนี้ จะเริ่มต้นการสร้างในช่วงสิ้นปีนี้
โดยจากข้อมูลของนักพัฒนาโครงการนี้ ได้มีการเปิดเผยว่า จะมีการสร้างระบบเขื่อนขึ้นรอบๆบริเวณเกาะแห่งใหม่นี้ เพื่อปกป้องท่าเรือจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งจากสตอร์มเซิร์จ
ซึ่งรัฐบาลเดนมาร์ก ยืนยันว่า โครงสร้างพื้นฐานต่างๆของเกาะเทียมแห่งนี้จะพร้อมภายในปี ค.ศ.2035 ส่วนเกาะจะสร้างเสร็จภายในปี 2070
แม้ว่าเป้าหมายในการสร้างเกาะดูจะเป็นไปด้วยความหวังดี หากแต่ก็มีเสียงจากผู้ไม่เห็นด้วยออกมาต่อต้านการสร้างกันอย่างมาก พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนโครงการนี้เสียใหม่
โดยกลุ่มต่อต้านที่ไม่เห็นด้วยกับการสร้างเกาะเทียมนี้ มีความเป็นห่วงกังวลว่า กรุงโคเปนเฮเกน อาจจะต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างออกไป ในช่วงที่มีการก่อสร้างเกาะเทียมแห่งนี้ และอาจจะมีผลกระทบต่อมหาสมุทรได้
ขณะที่นักวิทยาศาสตร์เองก็ออกมาแสดงความห่วงกังวลเกี่ยวกับเกาะเทียมแห่งนี้ และมีความห่วงกังวลเกี่ยวกับระดับน้ำทะเลที่จะสูงขึ้น ขณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ในช่วงที่มีการก่อสร้างเกาะเทียม จะต้องมีรถบรรทุกขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก แล่นผ่านกรุงโคเปนเฮเกน และทำให้ผู้คนในเมืองจะต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษในช่วงเวลาของการก่อสร้าง
แต่กระนั้นก็ตาม ตอนนี้ โครงการนี้ก็ได้รับการอนุมัติแล้ว ผลกระทบที่เกิดจะเป็นไปตามที่ห่วงกังวลหรือไม่ ก็ต้องไปลุ้นกันต่อไป
https://www.matichon.co.th/foreign/indepth/news_2765205
ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย
ช่วยโลมาพันธุ์หายากเกยตื้นหาดเขาปิหลาย จ.พังงา
พังงา 8 มิ.ย. ? โลมาฟราเซอร์ ซึ่งเป็นโลมาพันธุ์หายาก ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบริเวณชายหาดเขาปิหลาย จ.พังงา เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640609_Thainews_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/6f61357c-8782-4ba0-ac57-e125bbf9ea06/p/763b1951-1f58-4c85-837a-e3c634cc41f1)
นายสุริยะ สอนเสริม ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 10 (ตะกั่วป่า พังงา) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ลงพื้นที่หาดเขาปิหลาย หมู่ 12 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา หลังได้รับแจ้งจากนายสุนัย ยะเด็น ผู้ใหญ่บ้าน ว่า ชาวบ้านพบโลมาขนาดใหญ่ 1 ตัว ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบริเวณชายหาด เจ้าหน้าที่จึงรีบให้การช่วยเหลือ พบว่าเป็นโลมาฟราเซอร์ เพศเมีย ขนาดโตเต็มวัย มีความยาว 2.2 เมตร ตามลำตัวไม่พบบาดแผล คาดว่าน่าจะหลงทิศ หรือป่วยจนถูกคลื่นลมแรงซัดขึ้นมาเกยตื้นดังกล่าว จึงส่งไปอนุบาลต่อที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน จ.ภูเก็ต
โลมาฟราเซอร์ หรือปลาโลมาซาราวัก (Lagenodelphis hosei) เป็นสัตว์จำพวกวาฬในครอบครัว Delphinidae ที่พบในน่านน้ำลึกลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิก และในระดับน้อยในมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นโลมาพันธุ์ที่ไม่ค่อยได้พบเห็น เนื่องจากอาศัยอยู่ในน้ำลึก ซึ่งที่ผ่านมาพบขึ้นมาเกยตื้นเพียงไม่กี่ครั้ง เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2535.
1S_QcwGH458
https://tna.mcot.net/region-713065
*********************************************************************************************************************************************************
รู้รักษ์มหาสมุทร เพื่อวิถีมนุษย์ที่ยั่งยืน
กรุงเทพฯ 8 มิ.ย. ? วันที่ 8 มิถุนายน ของทุกปี สหประชาชาติ กำหนดให้เป็น ?วันทะเลโลก? เพื่อปลุกจิตสำนึกให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของทะเลต่อการดำรงชีวิต ในปีนี้รณรงค์เรื่องการใช้ประโยชน์จากทะเลอย่างยั่งยืน โดยมีบทพิสูจน์จากการที่กิจกรรมต่างๆ ทางทะเลลดลงมาก ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 เป็นผลให้ระบบนิเวศฟื้นตัว และพบเห็นสัตว์ทะเลหายาก ทั้งเต่า วาฬ และโลมา ได้บ่อยขึ้น.
1nQ7_DVyzOo
https://tna.mcot.net/business-713081
ขอบคุณข่าวจาก อสมท.
ชีวิตที่แปรเปลี่ยน ชาวเลมอร์แกน
มีเสียงร่ำลือจากโพ้นทะเลว่า ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเป็นเจ้าแห่งมหาสมุทร จากที่เคยอาศัยใช้ชีวิตอยู่บนผืนน้ำอันกว้างไกล วันนี้พวกเขาชาวเล มอร์แกน ได้อพยพขึ้นมาอยู่บนแผ่นดินพ้นน้ำ สังคมคนบนน้ำอย่างพวกเขาต้องเผชิญกับความแปรเปลี่ยนที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่รู้จบ...
MzDHfyHxzXs
https://www.mcot.net/view/ObNvCeMz
vBulletin® v3.8.10, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions, Inc.